SWO ตอนที่ 13 ภารกิจพิเศษ

โถงภารกิจตั้งอยู่ที่ชั้นห้าของห้างสรรพสินค้า

โจวเฮาที่มาถึงชั้นห้าและกำลังจะเข้าไป แต่ทันใดนั้นเองชายร่างกำยำสองคนในชุดสูทสีดำก็เหยียดแขนออกมาเพื่อหยุดเขาไว้ก่อน

“นี่คือโถงภารกิจของห้างพันธมิตรใต้ดิน เฉพาะผู้ฝึกยุทธเท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้ โปรดแสดงใบรับรองของเจ้าด้วย” ชายทางซ้ายกล่าวอย่างเย็นชา

โจวเฮาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตระหนักได้

มันสมเหตุสมผล

แม้จะไม่มีข้อจำกัด หรือข้อกำหนดใด ๆ ว่าต้องระบุตัวตน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ตรวจสอบความแข็งแกร่ง

ท้ายที่สุด แม้แต่ภารกิจระดับต่ำสุดก็ยังต้องออกไปทำนอกเมือง การออกไปโดยปราศจากความแข็งแกร่งระดับผู้ฝึกยุทธนั้น เพียงเอาตัวให้รอดก็ยากเต็มกลืนแล้ว

อย่างไรก็ตามโจวเฮาไม่มีใบรับรองของผู้ฝึกยุทธที่ว่านั่น

ท้ายที่สุดแล้ว เขาที่ความแข็งแกร่งเพิ่งเพิ่มได้ไม่กี่วันจะเอาเวลาไหนไปสหพันธ์ศิลปะป้องกันตัวเพื่อลงทะเบียน และรับการทดสอบ

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เหวี่ยงหมัดไปในอากาศ

ปัง!

เสียงอากาศระเบิดราวกับธนูที่ถูกปล่อยสายดังขึ้น

ชายสองคนในชุดสูทสีดำเบิกตากว้างทันที ชะ… ชายผู้นี้สามารถระเบิดอากาศได้ด้วยการเหวี่ยงหมัดแบบสุ่ม ๆ เขาต้องเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสูงอย่างไม่ได้สงสัย!

“ตอนนี้ข้าเข้าไปได้รึยัง?” โจวเฮาถามอย่างใจเย็น

"ครับ ครับ!"

“เชิญทางนี้เลยครับท่าน” ชายสองคนในชุดสูทสีดำกล่าวด้วยความเคารพทันที พวกเขานอบน้อมมาก กระทั่งคำนับให้ขณะที่เขาเดินผ่านไป

โจวเฮาค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องโถงที่ทั้งงดงาม และกว้างขวาง

ตรงกลางห้องมีหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ซึ่งทำการรีเฟรชภารกิจจำนวนมากอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามผู้ฝึกยุทธส่วนใหญ่นั้นไม่ได้รวมตัวกันอยู่ตรงนั่น แต่เป็นที่เคาน์เตอร์ภารกิจในบริเวณใกล้เคียง

โจวเฮาไม่รีบร้อน ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของเขา ดังนั้นจึงไม่เหมาะเท่าไหร่หากรีบร้อนรับภารกิจมาโดยไม่คิดให้ดีก่อน

หลังจากดูไปซักพัก เขาจึงเดินไปถามกับพนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์

ในท้ายที่สุด เขาตัดสินใจทำภารกิจคุ้มกัน

แม้ว่ารางวัลสำหรับภารกิจดังกล่าวจะไม่สูงมากนัก แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเหมาะมากสำหรับโจวเฮาที่ตั้งใจจะทดสอบความแข็งแกร่งตัวเอง

ภารกิจคุ้มกันต้องการผู้ฝึกยุทธเจ็ดคน

บางทีอาจเป็นเพราะรางวัลที่ต่ำ โจวเฮาจึงต้องรออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ผู้ฝึกยุทธที่เหลือจะมารวมตัวกัน

“งานดี ๆ ถูกแย่งไปหมด เราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับภารกิจคุ้มกันระดับต่ำเท่านั้น”

“ช่วยไม่ได้นี่ ผู้ฝึกยุทธที่อ่อนแอหนำซ้ำยังไม่มีองค์กร หรือฝ่ายใดที่สนับสนุนอย่างพวกเราย่อมไม่มีทางรับภารกิจดี ๆ ได้อยู่แล้ว”

"เห็นด้วย ข้าว่าหลังจากนี้ข้าจะลองเสี่ยงเลื่อนขั้นเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลางดู เผื่อฟลุกได้เข้าร่วมทีมดี ๆ กับเขาบ้าง”

ชายหญิงหลายคนกระซิบด้วยเสียงต่ำ

พวกเขาไม่สนใจงานคุ้มกันระดับต่ำเช่นนี้มากนัก

โจวเฮายืนตรงขอบโดยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าคนรอบ ๆ ตัวเขาล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธที่ต้องการความเคารพ

ท้ายที่สุดผู้ฝึกยุทธอย่างพวกเขาก็สามารถหาเงินได้หลายหมื่นหยวนเพียงออกไปเดินเล่นในพื้นที่รกร้างสักครั้ง

ดังนั้นรางวัลสำหรับภารกิจคุ้มกันระดับต่ำที่มีได้ค่าจ้างเพียงหมื่นหยวน สำหรับพวกเขาแล้วมันต่ำมากจริง ๆ

"ไปกันเถอะ ตำแหน่งภารกิจอยู่ที่สถานีทางใต้ของเมือง เราไปที่นั่นกันก่อน” ชายร่างสูงกล่าว

คนอื่น ๆ รวมทั้งโจวเฮาพยักหน้า

หลังออกจากห้างพันธมิตรใต้ดิน ผู้ฝึกยุทธคนอื่น ๆ ก็ขึ้นรถของตัวเอง มีเพียงโจวเฮาเท่านั้นที่ไม่มี

“ขึ้นมาเลยน้องชาย” ชายร่างสูงยิ้มออกมาก่อนตบเบาะที่นั่งข้างคนขับ ในสายตาของเขา โจวเฮาเป็นผู้ฝึกยุทธคนหนึ่ง เนื่องจากมีเพียงผู้ฝึกยุทธเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในโถงภารกิจ แม้ว่าโจวเฮาจะดูผอมบางและอ่อนแอ แต่เขาไม่คิดดูถูกเพียงเพราะรูปร่างภายนอก

โจวเฮาไม่ได้ปฏิเสธ และขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับทันที

บูม

รถคันนี้คือรถโฮเวอร์ซีรีส์ฟอลคอนที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วมาก นับเป็นครั้งแรกสำหรับโจวเฮาที่ได้นั่งในรถที่หรูหราเช่นนี้ ว่ากันว่าเพียงราคารถยนต์คันเดียวก็เกิน 200,000 หยวนเข้าไปแล้ว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา กลุ่มของเขาก็มาถึงสถานีทางใต้ของเมือง

กลุ่มทหารติดอาวุธหนักยืนตัวตรงอยู่ที่ทางเข้าสถานี ทั้งสองข้างขนาบด้วยปืนใหญ่ซุ่มโจมตีที่มีลำกล้องขนาดใหญ่ ปืนใหญ่ประเภทนี้เลียนแบบมาจากเผ่าพันธุ์จักรกล เพียงนัดเดียวก็สามารถฉีกผู้เชี่ยวชาญระดับทั่วไปของเผ่าปีศาจ และเผ่าแมลงออกจากกันได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแนวป้องกันที่สามเท่านั้น

มันยังมีแนวป้องกันอีกสองแนวข้างหน้าที่ติดตั้งด้วยอาวุธที่ทรงพลังกว่า

“พวกเจ้าคือทีมผู้ฝึกยุทธชั่วคราวที่รับภารกิจคุ้มกันครั้งนี้ใช่ไหม?” เมื่อโจวเฮา และคนอื่น ๆ มาถึง ชายสวมแว่นก็เดินเข้ามา

ชายร่างสูงพยักหน้า

ชายสวมแว่นกวาดสายตาไปยังชายร่างสูง โจวเฮา และคนอื่น ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย  “พวกเจ้าไปเปลี่ยนเป็นชุดเกราะมาตรฐาน ไปที่ห้องอาวุธข้าง ๆ จะมีบุคลากรเฉพาะทางทำหน้าที่แจกจ่ายให้กับพวกเจ้า”

“มีเกราะมาตรฐานด้วยเหรอ?”

“ภารกิจคุ้มกันนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว!”

ผู้ฝึกยุทธคนอื่น ๆ ตกตะลึงขณะเดินไปที่ห้องอาวุธพิเศษข้างประตูสถานี

แม้ว่าเกราะป้องกันมาตรฐานจะมีการป้องกันที่อ่อนแอ และสามารถป้องกันได้เพียงนักรบระดับต่ำของเผ่าปีศาจและเผ่าแมลงเท่านั้น แต่ชุดเกราะแต่ละชุดกลับมีราคากว่า 500,000 หยวน

ผู้ฝึกยุทธขั้นต่ำอย่างชายร่างสูงเองก็มีเกราะเป็นของตัวเองเช่นกัน เนื่องจากมันจำเป็นสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามเว้นแต่จะเป็นภารกิจที่ค่อนข้างอันตราย พวกเขามักจะไม่นำมันออกมาสวม อันเนื่องมาจากค่าซ่อมแซมที่แพงหูฉี่ และหากเกราะเสียหายจนใช้การไม่ได้ พวกเขาก็ต้องซื้อชุดใหม่

ไม่นานทั้งเจ็ดคนก็เปลี่ยนเป็นชุดเกราะมาตรฐาน เกราะนี้สามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อม

นี่เป็นครั้งแรกที่โจวเฮาได้สวมชุดเกราะ เขาพบว่ามันไม่หนักอย่างที่คิด แต่กลับเบามากราวกับสวมเสื้อโค้ทที่ไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเขา

“ภารกิจนี้สำคัญมาก แม้ว่าพวกเจ้าจะเป็นทีมผู้ฝึกยุทธชั่วคราว แต่พวกเจ้าต้องใส่ใจ สำหรับภารกิจนี้ พวกเจ้าจะต้องปกป้องนักเรียนดีเด่นที่ได้รับการคัดเลือกจากโรงเรียนต่าง ๆ แต่ละคนเป็นอัจฉริยะระดับแก่นโลหิตขั้นสาม ศักยภาพของพวกเขานั้นไม่ธรรมดา และเราไม่สามารถสูญเสียพวกเขาไปได้” ชายสวมแว่นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

ชายร่างสูงและผู้ฝึกยุทธคนอื่น ๆ พยักหน้า ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนจะได้รับชุดเกราะมาตรฐาน ปรากฏว่าที่แท้ภารกิจของพวกเขาคือการปกป้องเหล่าอัจฉริยะ

สิบนาทีต่อมา รถบัสก็มาถึง

ประตูรถบัสเปิดออก ขณะที่มีนักเรียนแปดคนพร้อมด้วยบอดี้การ์ดแปดคนค่อย ๆ ทยอยเดินออกมา

นัยน์ตาของโจวเฮาหดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นนักเรียนที่ลงมา

เพราะซูหลิงก็เป็นหนึ่งในนั้น!