ตอนที่ 460 : สหายที่เป็นศัตรู!
ตอนที่ 460 : สหายที่เป็นศัตรู!
เมื่อเห็นการแสดงออกที่สับสนของหลันเฟิงฉู่หลิงเหยาก็ยิ้มออกมา
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์โทร
“ฮัลโหล พี่เมิ่ง? ฉันหลิงเหยาเอง ฉันมาหาน่ะ”
ฉู่หลิงเหยายิ้มออกมาเล็กน้อย
"อะไรนะ?"
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงที่ไพเราะมากพูดด้วยความประหลาดใจ "หลิงเหยา ในที่สุดเธอก็มาแล้วงั้นหรอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันจะรีบไปรับเธอทันที"
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่ประตูร้านอาหารของเธอแล้ว”
ฉู่หลิงเหยายิ้มและพูดว่า "แต่ติดตรงที่วันนี้ฉันมาช้าเกินไปเลยได้คิวที่ดูแล้วน่าจะต้องรออีกนาน"
“รอเดี๋ยวก่อนนะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้!”
เมิ่งเสี่ยวซวงวางสาย
คราวนี้หลันเฟิงที่มีเจตนาไม่ดีกับฉู่หลิงเหยาก็ถึงกับตกตะลึง!
พระเจ้า~~
เดิมทีเขามาเพื่อไล่ตามเมิ่งเสี่ยวซวง
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับฉู่หลิงเหยาที่หน้าประตูและไม่คิดเลยด้วยว่าฉู่หลิงเหหาและเมิ่งเสี่ยวซวงจะเป็นเพื่อนกัน
ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองเธอก่อนที่จะถูกเจียงเฉินและฉู่หลิงเหยาต่อว่า
เขาคิดมาตลอดว่ามันยอดเยี่ยมมากที่เขาเป็นคนรวย ดังนั้นเขาจึงต้องการทำให้เจียงเฉินอับอายแต่ใครจะไปคิดว่าเมื่อฉู่หลิงเหยาโทรมาเมิ่งเสี่ยวซวง เมิ่งเสี่ยวซวงก็จะออกมาต้อนรับพวกเขาทันที?
พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกันงั้นหรอ?
ตอนนี้มันน่าอายมาก!
ไอออกมา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉู่หลิงเหยาบอกกับเมิ่งเสี่ยวซวงเกี่ยวกับการแสดงออกของเขาก่อนหน้านี้?
ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ
ในเวลานี้
สาวงามที่ดูเป็นผู้ใหญ่พร้อมกับหมวกเซฟก็เดินออกมา
เจียงเฉินรู้สึกทึ่ง
พระเจ้า~~
สาวสวยคนนี้มีคะแนน 95 ขึ้นไปแน่นอน
อันที่จริงเธออายุไม่มากนักประมาณอายุ 25 หรือ 26 ปี แต่อาจจะด้วยประสบการณ์ชีวิตต่างประเทศที่ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่และสวยมาก
ทันทีที่เธอเห็นฉู่หลิงเหยาเธอก็รู้สึกประหลาดใจ
ทั้งสองกอดกันแน่น
“หลิงเหยา!”
“พี่เมิ่ง!”
เมิ่งเสี่ยวซวงดูตื่นเต้น "ในที่สุดเธอก็มาที่นี่ได้สักที ฉันเชิญเธอมาตั้งหนึ่งเดือนแล้วนะ!"
ฉู่หลิงเหยาพูดอย่างเขินอาย “ขอโทษด้วยจริงๆพี่เมิ่ง ฉันไม่อยากจะรบกวนพี่น่ะ แต่วันนี้ฉันพาแฟนมาที่นี่ด้วยนะ”
เธอชี้ไปที่เจียงเฉิน
เมิ่งเสี่ยวซวงตกตะลึง
เธอมองเจียงเฉินขึ้นลง
“พระเจ้า เขาหล่อมาก”
เมิ่งเสี่ยวซวงอุทานออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเธอก่อนจะขยิบตาให้ฉู่หลิงเหยา “แฟนของเธอหล่อมากเลยนะดี ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมเธอถึงไม่มีเวลามาที่บ้านของฉันเพื่อเป็นกำลังใจให้ฉันสักทีที่แท้ก็กำลังมีเวลาหวานยามกลางคืนอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
ฉู่หลิงเหยาหน้าแดงเมื่อถูกล้อ "พี่เมิ่ง ถ้าพี่ยังทำแบบนี้อีก ฉันจะเมินพี่แล้วนะ"
เจียงเฉินยิ้ม "ยินดีที่ได้เจอครับ ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของโบคูเซ่พ่อครัวในตำนานและคุณยังเป็นแม่ครัวของร้านอาหารระดับมิชลินสามดาวแห่งที่สองอีก ผมชื่นชมคุณจริงๆ”
เมิ่งเสี่ยวซวงจับมือเจียงเฉิน "หลิงเหยากับฉันรู้จักกันมานานแล้ว หลิงเหยาเธออะไรที่มันเป็นสไตล์จีนและดนตรีส่วนฉันชอบเรียนอาหารต่อมาฉันก็เลยไปที่ประเทศฝรั่งเศาเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังติดต่อกับหลิงเหยาอยู่ตลอด แต่ฉันกลับยังไม่รู้เลยว่าหลิงเหยาเธอจะมีแฟนที่หล่อเหลาแบบคุณแล้ว”
“ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะเก็บความลับเก่งจริงๆ”
เมิ่งเสี่ยซวงแหย่หลิงเหยาอีกครั้ง
ฉู่หลิงเหยาหน้าแดงอีกครั้ง
เมื่อเห็นเมิ่งเสี่ยวซวงและฉู่หลิงเหยา สองสาวงามหัวเราะและเล่นกันคนที่อยู่ตรงนั้นก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงกันทุกคน
ยอดเยี่ยม!
สวยมาก!
สวยงาม!
เจียงเฉินยิ้มออกมา “น่าเสียดายที่พวกเราได้คิวที่อยู่หลังเกินไปเลยเข้าไปข้างในไม่ได้”
“นี่มันอะไรกัน?”
เมิ่งเสี่ยวซวงสั่งผู้จัดการ "สองคนนี้เป็นแขกวีไอพีของฉัน! ในอนาคตพวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อคิวอีกต่อไปและพวกเขามารถเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษระดับเดียวกับลูกค้าวีไอพีระดับแพลตตินั่มได้!"
ผู้จัดการพยักหน้า: “ครับ คุณเมิ่ง!”
พรูด~
หลันเฟิงกระอักเลือดออกมาเต็มปาก!
น่าสงสาร~
เมื่อกี้เขาเพิ่งจะโม้ไปว่าตัวเองรวยแค่ไหน เขาเติมเงินไป 3 ล้านเพื่อที่จะได้กลายเป็นลูกค้าวีไอพีระดับแพลตตินั่ม แต่ใครจะรู้ว่าในวินาทีต่อมาเขาจะถูกตบหน้าต่อหน้าสาธารณะชน!
เมิ่งเสี่ยวซวงประกาศออกมาว่าเจียงเฉินและฉู่หลิงเหยานั้นเป็นแขกวีไอพีของเธอโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินสักหยวนเดียวและยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการบริการระดับเดียวกันกับลูกค้าวีไอพีระดับแพลตตินั่มเช่นเดียวกับเขา!
3 ล้านของเขา!
ไร้ประโยชน์ไปแล้ว!
เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของหลันเฟิงเจียงเฉินก็อดยิ้มไม่ได้
นี่มันตลกมาก
หลันเฟิงได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้และเขาก็ยังได้แต่ยิ้มออกมาโดยที่ไม่กล้าแสดงความไม่พอใจออกมาแม้แต่น้อย
เขาถือช่อกุหลาบสีทอง 99 ดอกและเขาฉวยโอกาสเดินเข้าไปหาเมิ่งเสี่ยวซวง “เสี่ยวซวง นี่เป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณ ผมหวังว่าคุณจะมีการงานที่ดี!”
ไม่จำเป็นต้องพูด ทุกคนรู้ความตั้งใจของหลันเฟิง
เขากำลังไล่ตามเมิ่งเสี่ยวซวง
กุหลาบสีทองแสนโรแมนติก 99 ดอกนั้นสามารถปลุกเร้าสาวๆหลายคนในร้านอาหารได้ทันทีที่มันปรากฏขึ้น
“พระเจ้า ดอกกุหลาบสีทองนี่มันแพงมากเลยนะ!”
"ผู้ชายคนนี้รวยมากแถมยังโรแมนติกมากด้วย!"
“ถ้าฉันเป็นคนได้ดอกกุหลาบสีทอง 99 ดอก ฉันคงยอมเขาทุกอย่างแล้ว!”
หลันเฟิงรู้สึกภาคภูมิใจ
ฮ่า
ฉันเป็นถึงหนึ่งในสี่นักรักที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง!
ไม่มีทางที่งามที่ฉันต้องการจะครอบครองจะสามารถหนีไปจากความรักของฉันได้
หล่อ!
แต่ใครจะรู้~
เมิ่งเสี่ยวซวงขมวดคิ้ว เหลือบมองดอกกุหลาบสีทอง 99 ดอกก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า "ฉันต้องขอโทษ ฉันไม่สามารถรับดอกไม้พวกนี้ได้!"
"ทำไมกัน?"
หลันเฟิงตกตะลึงในทันที
เมิ่งเสี่ยวซวงพูดอย่างเย็นชา: "นั่นก็เพราะ~~ ฉันคิดว่าอารมณ์สุนทรีของคุณมีปัญหามากเกินไป! ดอกกุหลาบทอง 99 ดอกนี้สวยงามมากแต่ไร้รสนิยม! ฉันไม่ต้องการมัน~~"
พรูด!
หลันเฟิงรู้สึกอับอายมากจนล้มลงกับพื้น
เจียงเฉินเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ
มันก็จริง
ถ้าฉันเจียงเฉินจะไล่ตามเมิ่งเสี่ยวซวงคนนี้ฉันจะไม่ให้ดอกกุหลาบสีทอง 99 ดอกเป็นของขวัญที่ไร้รสนิยมแบบนี้เด็ดขาด
ท้ายที่สุดแล้วเมิ่งเสี่ยวซวงก็เป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์อาหารโบคูเซ่และเธอยังเคยได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันรายการอาหารระดับนานาชาติ!
และเซฟชาวต่างชาตินั้นจะมีความสุนทรีที่สูงกว่าคนทั่วไปมาก
พวกเขาชอบสิ่งที่ละเอียดอ่อนและสร้างสรรค์
ดังนั้นถ้าฉันจะมอบของขวัญให้เธอฉันก็จะพิจารณารสนิยมและงานอดิเรกของเมิ่งเสี่ยวซวงอย่างรอบคอบและมอบสิ่งที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ให้กับเธอ แม้ว่าราคาจะไม่แพงแต่ผลที่ได้จะดีกว่าการถือกุหลาบทองคำ 99 ดอกมามอบให้เธอแน่นอน!
หลันเฟิงอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา
กุหลาบทองคำ 99 ดอกของเขาถูกเมิ่งเสี่ยวซวงดูถูกเหยียดหยามอย่างนั้นหรอ?
เมิ่งเสี่ยวซวงพูดอย่างเย็นชา “ฉันจะกลับไปเตรียมอาหารสำหรับของเย็นนี้แล้ว ตอนนี้ฉันยุ่งมากถ้าคุณต้องการกิน คุณก็สามารถสั่งอาหารได้! และคืนนี้น้องสาวของฉันหลิงเหยาและแฟนของเธอมาถึงที่นี่เพื่อสร้างความบันเทิงให้พวกเขาฉันจะทำอาหารจานดังที่อาจารย์โบคูเซ่เป็นสอนให้ฉัน!”
"อะไรนะ!"
ทันทีที่เขาได้ยินว่าอาหารจานดังหลันเฟิงก็ร่าเริงขึ้นมาทันที!
ตาทั้งคู่สว่างขึ้นมา!
เขาไม่อยากกินอะไรเลยจริงๆ และเขาก็ไม่ได้รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับอาหาร
เขาแค่คิดว่า
โอกาสในการโอ้อวดต่อหน้าเมิ่งเสี่ยวซวงมาอีกแล้ว!
ถูกตัอง!
หลันเฟิงนั้นต้องการที่จะเข้าหาเธอให้ได้
ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่ทุกวันเพื่อคอยประจบเธอ
“เสี่ยวชวง คืนนี้คุณจะทำเมนูพิเศษอะไรหรอ”
หลันเฟิงยิ้ม "ผมต้องโชคดีแค่ไหนกันนะ ในที่สุดวันนี้ผมก็จะได้ลิ้มรสอาหารที่คุณเป็นคนปรุงด้วยตัวเอง!"
เขาเอามือถูกันพร้อมกับน้ำลายไหลออกมา
ผู้คนทั้งหมดที่ได้ยินมัน~
คืนนี้เป็นเชฟเมิ่งเสี่ยวซวงจะทำอาหารด้วยตัวเอง!
มีการพูดคุยกันเกิดขึ้นมากมาย
“ว้าว! คืนนี้จะโชคดีเกินไปไหม?”
“ฉันบอกแล้วว่าคืนนี้ฉันมีลางสังหรณ์แปลกๆ ปรากฏว่าเซฟเมิ่งเสี่ยวซวงจะลงมือทำอาหารเอง!”
"ฉันก็อยากสั่งเหมือนกัน! ถ้าจะสั่งต้องใช้เงินเท่าไหร่!"
"คืนนี้พวกเราโชคดีมาก!"
เมื่อเจียงเฉินเห็นว่าเหล่านักทานอาหารพากันคลั่งขึ้นมา เขาก็ตกตะลึง
เขาเอนตัวเข้าไปที่หูของหลิงเหยาและกระซิบ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ฉู่หลิงเหยายิ้มและพูดว่า "นายไม่รู้หรอก แม้ว่าจะมีคนบอกว่าร้านนี้ถูกเปิดโดยเมิ่งเสี่ยวซวง พี่สาวของฉันและเธอก็เป็นหัวหน้าเซฟ แต่จริงๆแล้วเธอไม่ค่อยได้ลงมือทำอาหารให้แขกเองสักเท่าไหร่หรอกนะ"
นี่ไม่น่าแปลกใจเลย
ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับร้านอาหารต่างประเทศก็จะรู้ว่าเชฟมีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการบริหารครัวเป็นหลักและมีโอกาสน้อยที่จะปรุงอาหารด้วยตนเอง
เมื่อพวกเขาทำอาหารด้วยตัวเองบรรดานักทานก็จะมีความสุขมาก
หลันเฟิงในตอนนี้ก็ยิ่งคุกเข่าและพยายามเลียประจบด้วยทุกวิธีที่เขาคิดได้
“เสี่ยวชวง ผมโชคดีจริงๆ ที่วันนี้ผมจะได้กินอาหารที่คุณเป็นคนทำ คุณจะทำเมนูอะไรหรอ”
เมิ่งเสี่ยวซวงไม่สนใจเขาเธอมองไปที่ฉู่หลิงเหยาและเจียงเฉินก่อนจะพูดออกมาว่า "คืนนี้ฉันจะทำอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของอาจารย์โบคูเซ่ที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน - ฟัวกราส์ทอด!"
เมื่อเจียงเฉินได้ยินสิ่งนี้ เขาก็มุ่ย
มันเป็นอาหารที่มีชื่อเสียง?
ฟัวกราส์ทอดมันอร่อยหรอ?
ฉันกินสิ่งนี้ไปตั้งหลายครั้งแล้ว
ฉู่หลิงเหยาตกใจ
“พระเจ้า นี่คุณอาหารของคุณโบคูเซ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก...”
ผู้ชมต่างตกอยู่ในความเงียบเมื่อได้ยินเมิ่งเสี่ยวซวงประกาศว่าเธอจะทำอาหารด้วยตัวเองในวันนี้ซึ่งนั่นก็คือทำฟัวกราส์ทอด
แล้ว~~
เสียงของทุกคนก็ดังออกมาแทบจะบ้า
“ว้าว! ฉันรอเวลานี้มาหลายเดือนแล้ว!”
“ฉันอยากกินจานนี้!”
“ฉันอิ่มแล้ว แต่ฉันไม่ยอมเด็ดขาด! ในที่สุดฉันรอก็มาถึงแล้ว! โชคดีที่ฉันยังไม่ได้ไป!”
“พนักงานอย่าเพิ่งเก็บโต๊ะของฉัน! ฉันยังไม่เช็คเอาท์ ฉันต้องรอจานนี้ก่อน~”
“แต่คุณลูกค้าได้ชำเงินไปเรียบร้อยแล้วนะครับ!”
“ยังไงฉันก็ไม่ไป ปล่อยให้พวกเขารอไปฉันต้องกินอาหารจานนี้ให้เสร็จก่อนแล้วฉันถึงจะจากไป!”
ทันใดนั้นก็มีคนโพสต์ลงแวดวงเพื่อนและเริ่มถ่ายทอดสด
“ทุกคน ฉันรอคิวของร้านกั๋วเฟิงเหม่ยถังมาเป็นเวลา 3 เดือนและในที่สุดฉันก็วันนี้ลูกศิษย์ที่ของโบคูเซ่ก็จะปรุงฟัวกราส์ทอดด้วยตัวเอง!”
“ลูกศิษย์ของคุณโบคูเซ่ ในที่สุดก็จะแสดงฝีมือการทำอาหารแล้ว!”
ในระยะเวลาไม่นานร้านอาหารกั๋วเฟิงเหม่ยถังก็เต็มไปด้วยความสุข
เจียงเฉินมองดูความกระตือรือร้นของคนเหล่านี้และมุ่ยปาก
แปลกใจเล็กน้อย
กินข้าวจนคลั่งไคล้?
ฉู่หลิงเหยาพูดกับเมิ่งเสี่ยวซวงด้วยใบหน้าขอบคุณ “พี่เมิ่ง ขอบคุณสำหรับการต้อนรับพวกเราอย่างดีนะ แต่อย่างไรก็ตามแฟนของฉันก็เป็นเซฟเหมือนกัน!”
เธอชี้ไปที่เจียงเฉินและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เขามักจะทำอาหารให้ฉันกินแล้วมันก็อร่อยเป็นพิเศษด้วย"
“หืม?”
เมิ่งเสี่ยวซวงตกตะลึงและมองไปที่เจียงเฉิน
ในตอนแรกเมิ่งเสี่ยวซวงไม่ได้สนใจเจียงเฉินมากนักแม้ว่าเจียงเฉินจะหล่อมากก็ตาม
จุดสนใจหลักของเธอคือเพื่อนสนิทของเธอคือหลิงเหยามากกว่า
แต่
แต่เมื่อฉู่หลิงเหยาพูดว่าเจียงเฉินทำอาหารเก่งมาก เมิ่งเสี่ยวซวงก็ยิ้มออกมา
นี่เป็นเหมือน - สหายที่เป็นศัตรู
ในสาขาทักษะที่เธอภาคภูมิใจที่สุด ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่สามารถทนต่อปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆที่ท้าทายตัวเองได้!
และเมิ่งเสี่ยวซวงก็เป็นคนแบบนั้น!
เธอทุ่มเทความรักให้กับอาหาร!
เธอตั้งใจจะเป็นเซฟที่ดีที่สุดในโลกให้ได้! และคว้ารางวัลระดับนานาชาติมาครองให้หมด!
เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าครูของเธอโบซูพูดกับเธออย่างจริงจังว่า "สิ่งสำคัญที่สุดในการทำอาหารไม่ใช่รสชาติ แต่มันคือความใส่ใจที่มีอยู่ในอาหาร! ฉันเคยไปร้านอาหารสามดาวในปารีสที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความสร้างสรรค์อาหาร ฉันคิดว่าถึงรสชาติจะดี แต่ฉันไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในปากบ้างมันน่าเสียดาย...”
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิงเหยายกย่องทักษะการทำอาหารของเจียงเฉินเมิ่งเสี่ยวซวงก้รู้สึกอยากเปรียบเทียบเล็กน้อย
สูดอากาศ!
ฉันเป็นเซฟอันดับหนึ่งในโลกของอาหาร
หลิงเหยาแม้ว่าแฟนของเธอจะทำอาหารเก่ง แต่เขาก็เป็นเชฟในระดับครอบครัวที่ดีได้เท่านั้น!
แต่เทียบกับฉันแล้ว...ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่!