ตอนที่แล้วEp.117 - คำสาปวิญญาณโลหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.119 - ดีกว่าฆ่ามอนสเตอร์

Ep.118 - บดขยี้อย่างสิ้นเชิง


4/4

Ep.118 - บดขยี้อย่างสิ้นเชิง

“แม่งเอ๊ย!”

“ทุกคนระวังตัวด้วย!”

“ฝ่ายมันมีไอ้ลูกหมาตัวหนึ่งฝีมือพอตัว มันฆ่าพวกพ้องพวกเราไปคนหนึ่งแล้ว พวกเราต้องฆ่ามันเป็นการล้างแค้น วันนี้ต้องตามหาตัวไอ้เด็กเวรนั่นให้ได้!” ลูกพี่หัวเถิกโกรธมาก แต่ยังไม่สูญเสียสตินึกคิดไปอย่างสิ้นเชิง หันไปออกคำสั่งกับเลเวล 3 เพียงคนเดียวที่อยู่ภายใต้อาณัติเขา

“เหล่าหู บอกให้ทุกคนเกาะกลุ่มกันไว้ แล้วส่งเจ้ามีดน้อยไปสำรวจดู พวกมันน่าจะยังไปได้ไม่ไกล เราต้องตามตัวมันให้เจอ!”

นักรบที่เรียกว่าเหล่าหูคืออันดับสองของกลุ่มรองจากลูกพี่หัวเถิก เขาเป็นชายกำยำหน้าอ้วน มองแวบแรกก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี

เหล่าหูอุปกรณ์สวมใส่ครบครัน เกือบทั้งหมดอยู่ในเลเวล 2  มีกระทั่งอุปกรณ์สีขาวถึงสองชิ้น

ทั้งร่างของเหล่าหูรายล้อมไปด้วยไอหมอกโลหิต น่าจะเก็บเกี่ยวชีวิตผู้คนมาแล้วกว่า 8-9 ศพ

สมาชิกในกลุ่มนี้ไม่มีคนดีเลยซักคนเดียว หลังจากที่พบว่าการฆ่าคนกันก็เองสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ พวกเขาก็เลิกล่ามอนสเตอร์ แล้วมาซุ่มอยู่ในป่าเพียงอย่างเดียว รอโอกาสลอบโจมตีมนุษย์

ปัจจุบันทุกคนในทีม ไม่มีใครเลยที่ฆ่าคนต่ำกว่าสองครั้ง

ลูกพี่หัวเถิกกับเหล่าหูมีไอวิญญาณโลหิตหนาแน่น ทั้งคู่จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในโลกวิญญาณเพื่อดูดซับมันอย่างช้าๆ

หากสามารถดูดซับไอวิญญาณพวกนี้ได้หมด พวกเขาน่าจะได้รับแต้มวิญญาณอย่างน้อย 60 - 70 แต้ม

ในเมื่อเยอะถึงขนาดนี้ แล้วทำไมต้องไปล่ามอนสเตอร์อีก?

เลือกฆ่าคนเยอะๆดีกว่าเห็นๆ!

การฆ่าคนกันเองไม่ใช่แค่ง่ายกว่า แต่ยังดรอปอุปกรณ์ ยิ่งมีอุปกรณ์และไอเท็มที่คู่ต่อสู้สวมใส่มากเท่าไหร่ จำนวนการดรอปก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น ผลกำไรสูงกว่าการล่ามอนสเตอร์ทั่วไปมาก และความเสี่ยงยังน้อยกว่าการรับมือกับมอนสเตอร์ชั้นยอด

ชายร่างผอมแยกออกจากกลุ่มเพียงลำพังตามคำสั่งของลูกพี่หัวเถิก

ที่เลือกส่งเจ้ามีดน้อยออกไปนั้นมีสองเหตุผล หนึ่งเพราะสกิลพรสวรรค์ของเขามาพร้อมกับเอฟเฟกต์พรางตัว แม้พลังรบโดยรวมจะอยู่ในระดับกลางๆ แต่เป็นบทบาทที่ขาดไม่ได้ในทีม

ชายผู้นี้จึงมักได้รับหน้าที่รับผิดชอบในการลอบโจมตีหรือสอดแนมเสียทุกครั้ง

เจ้ามีดน้อยเชี่ยวชาญในการค้นหาร่องรอยคนมาก!

กรอบแกรบ!

มีการเคลื่อนไหว! มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในพงหญ้า!

เจ้ามีดน้อยตื่นตัวขึ้นมาทันที เขาไม่แน่ใจว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นกลุ่มคนที่หลบหนีไป หรือมอนสเตอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ ในมือกุมกริชแน่น ค่อยๆย่องเข้าไปอย่างระมัดระวัง แหวกหญ้าที่บดบังสายตาออกอย่างช้าๆ

แต่เมื่อเห็นถึงว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังพงหญ้า ทันใดนั้นสีหน้าของเจ้ามีดน้อยกลายเป็นนิ่งงัน แววตาทอประกายไม่อยากจะเชื่อ

นั่นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือสุนัขขนสีดำขาวเป็นมันวาว!

หมาหวังเอ๋อนั่งหมอบขาหลัง ขาหน้าตั้งตรงอยู่ต่อหน้าต่อตาเจ้ามีดน้อย หางของมันส่ายไปมาราวกับใบพัด เอียงหัวแลบลิ้น นัยน์ตาสีฟ้าม่านตาสีดำกำลังจ้องมองสวนกลับมา ราวกับว่ามันสามารถมองเห็นเขาในสถานะพรางตัว

เจ้ามีดน้อยสับสนไปหมด

เฮ้ ทำไมหน้าตาแกดูคุ้นจัง ... ไอ้เชี่ยเอ๊ยนี่มันฮัสกี้ไม่ใช่หรอ!?

บ้าอะไรกันวะ? หรือว่าจะมีสายพันธุ์ฮัสกี้อยู่ในโลกวิญญาณด้วย?

และสิ่งที่คาดไม่ถึงได้เกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง

เห็นแค่เพียงฮัสกี้ค่อยยกอุ้งเท้าหน้าข้างหนึ่งขึ้น เอ่ยปากออกมา “วอชซับแหมน!”

ดั่งอัสนีบาตฟาดผ่าลงในหัวของเจ้ามีดน้อย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยรับรู้เคยเห็นมาพลิกตลบ

ทำไมไอ้หมานี่ถึงมองเห็นเขา?

ทำไมไอ้หมานี่ถึงพูดได้?

และทำไมมันถึงพูดพูดภาษาต่างประเทศ!

เจ้ามีดน้อยตะลึงงัน เผลอลดการป้องกันลง จังหวะนั้นถูกทวนกระดูกจ้วงแทงเข้ามาจากเบื้องหลัง เจาะทะลุหลังคอ แทรกผ่านลำคอ ถูกลอบโจมตีสร้างดาเมจร้ายแรง

ด้วยพลังโจมตีอันร้ายกาจ บวกกับโจมตีเข้าจุดตาย ทำให้เจ้ามีดน้อยสูยเสียค่าพลังชีวิต 20 หน่วยในลมหายใจเดียว ไม่เหลือโอกาสให้ต่อสู้อีก

เจ้ามีดน้อยล้มลง ดรอปไอเท็ม 4-5 ชิ้นในพริบตา ในบรรดาของพวกนี้ มีอุปกรณ์สวมใส่อย่างน้อยสามชิ้น

ไอวิญญาณโลหิตระเหยหายไปพร้อมกับการตาย ระหว่างกระบวนการระเหย มีบางส่วนถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นบริสุทธิ์ ซึมซับเข้าสู่ร่างฮังอวี่โดยตรง มอบแต้มวิญญาณแก่เขาประมาณ 4 แต้ม

แม้ว่าจะไม่มาก

แต่ก็ไม่ได้แย่!

มีโจรโลกวิญญาณให้ล่ามากกว่า 10 คนในที่แห่งนี้ หากเก็บกวาดพวกมันทั้งหมด ไม่เพียงแต่สามารถเก็บเกี่ยวอุปกรณ์ระดับต่ำได้มากมาย แต่ยังได้รับแต้มวิญญาณอีกปริมาณหนึ่ง อย่างน้อยก็มากกว่าการล่ามอนสเตอร์ระดับสามัญ

“หวังเอ๋อ นายวิ่งไปดักรอรอบๆ ล้อมคนพวกนั้นไว้ อย่าปล่อยให้มีใครเล็ดลอดไปแม้แต่คนเดียว เข้าใจไหม?”

“ฮ่ง! เจ้านายไว้ใจได้ เชื่อมีอเปิ่นหวังเถอะ”

หวังเอ๋อน้อมรับคำสั่ง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของมันสั่นระริก ข้างในมิติสัตว์วิญญาณน่าเบื่อเกินไป ทันทีที่ถูกปล่อยออกมาก็มีเรื่องให้มันทำ เจ้าหมากระตือรือร้นมาก มันกระทืบเท้าทั้งสี่ กระโจนหายเข้าไปในพุ่มไม้

ฮังอวี่เปิดใช้งานเทคนิคล่องหน ค่อยๆขยับเข้าใกล้กลุ่มของพวกหัวเถิก

ลูกพี่หัวเถิกใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาที ก็ตระหนักได้ว่าเจ้ามีดน้อยถูกฆ่าตาย สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไป

“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเจ้ามีดน้อย รีบมาเกาะกลุ่มกันเร็ว!”

ไม่นึกเลยว่าจะยุ่งยากขนาดนี้ แม้แต่เจ้ามีดน้อยที่มีความสามารถพรางตัวก็ยังถูกจับได้

คนที่พวกเรามีปัญหาด้วยครั้งนี้ ดูท่าจะรับมือยาก!

แต่ช่างเถอะ ลูกพี่หัวเถิกยังไม่ถึงขั้นกังวล นับแต่โลกวิญญาณถูกเปิดออก เขาผ่านประสบการณ์ต่อสู้มาแล้วนับร้อยครั้ง แม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่ง แต่ก็มีแค่ไม่กี่คน ขณะที่ฝั่งเขามีเป็นสิบ ตราบใดที่อยู่รวมกัน อีกฝ่ายย่อมไม่กล้าโจมตี

ผู้คนนับสิบเกาะกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นกันและกันได้

ฮังอวี่ล่องหน วนไปรอบๆเพื่อสังเกตสถานการณ์ เขาพบว่าทีมนี้พลังรบไม่ค่อยแข็งแกร่ง ในบรรดาพวกมัน มีนักเวทย์หัวเถิกกับนักรบที่เรียกว่าเหล่าหูเท่านั้นที่ทรงพลังกว่าคนอื่นๆ

และทั้งสองไม่ได้อยู่ใกล้กัน ดังนั้น ฮังอวี่สามารถไล่กำจัดทีละคนได้

ฮังอวี่สวมใส่อุปกรณ์ชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์บนตัว ดาเมจจากชายหัวเถิกน่าจะเป็นภัยเล็กน้อยแก่ตนเอง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเพ่งเล็งไปทางนักรบก่อน ค่อยๆย่องเข้าหาอย่างระมัดระวัง

สิบเมตร

ห้าเมตร

สี่เมตร

สามเมตร ...

ฮังอวี่เข้าใกล้เหล่าหูเรื่อยๆ แต่ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวเพื่อโจมตี ชายหัวเถิกกลับหันมองมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “หึ ฉันรออยู่นานแล้ว ดูซิว่าครั้งนี้แกจะหนียังไง?”

หือ? เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าชายหัวเถิกนั่นจะมีสกิลพรสวรรค์สายตรวจจับ??

ฮังอวี่พึ่งเข้ามา อีกฝ่ายก็สัมผัสได้ทันที

เขาคาดไม่ถึงเลย ว่าในกลุ่มโจรโลกวิญญาณจะมีบางคนที่ครอบครองสกิลตรวจจับอยู่ พวกมันเจ้าเล่ห์จริงๆ จงใจตื่นตระหนกและทำเป็นมองไม่เห็น รอจนฮังอวี่เข้าใกล้จึงลงมือตอบโต้

ลูกพี่หัวเถิกปลดปล่อยใบมีดสายลมออกมา มันยาวกว่าสี่ฟุต สายลมเกาะตัวกันหนาจนเหมือนสสารที่จับต้องได้ รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เล็งเป้าตรงเข้าลำคอ ด้วยระยะประชิดเช่นนี้ ในความคิดเขาแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบเลี่ยง

ชายหัวเถิกอุปกรณ์ครบชุด ดังนั้นดาเมจจากเวทมนตร์ของเขาย่อมเยอะตาม

อีกฝ่ายมั่นใจว่าถึงฆ่าฮังอวี่ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มากพอที่จะทำให้ฮังอวี่สูยเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างสมบูรณ์

ด้านฮังอวี่ ค่าคุณสมบัติร่างกายเขาน่ะสูงมาก มีความทนทานอย่างสุดโต่ง แม้ใบมีดสายลมไม่อาจตัดคอเขาได้ แต่หากถูกเฉือนลำคอตรงๆคงได้รับดาเมจไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักรบเลเวล 4 และได้รับมรดกนักสอดแนมมา ส่งผลให้ความเร็วในการตอบสนอง ความว่องไว และความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

หากคิดหลบ เขาสามารถหลบเลี่ยงใบมีดสายลมนี้ได้อย่างสมบูรณ์

ทว่าเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการโจมตี ฮังอวี่ไม่เลือกหลบเลี่ยง เขายกโล่ขึ้นป้องกันแทน

ปัง!

ใบมีดสายลมเฉือนลงบนโล่สีเทาใสเลเวล 3 ทิ้งร่องลึกเอาไว้

แขนซ้ายฮังอวี่ด้านชา แต่ทั้งหมดก็มีเท่านี้ ดาเมจที่ได้รับ แค่ 2 หน่วย ไม่นับเป็นสิ่งใดสำหรับเขาเลย!

ดาเมจนี้มันด้อยกว่าจางเสี่ยวเฉียงซะด้วยซ้ำ!

คิดสังหารฮังอวี่ซึ่งเป็นดาวข่มของเวทมนตร์หรือ? ฝันไปเถอะ!

ฮังอวี่ยกโล่ซ้ายในมือขึ้นเพื่อต่อต้าน ขณะเดียวกันมือขวาของเขาไม่ล่าช้าแม้ครึ่งวินาที

ทวนกระดูกเปล่งแสงเรืองรอง แทงเข้าใส่หัวของเหล่าหูอย่างแม่นยำ

ปะทะเดือด!

การโจมตีนี้ฉับไวเกินไป เหล่าหูไม่มีทางหลบพ้น!

ปะทะเดือดเป็นสกิลโจมตีในระยะประชิดที่ทรงพลังมาก! มันช่วยเพิ่มพละกำลัง 100% ขณะเปิดใช้งาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีและดาเมจจากอาวุธอีกด้วย สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าการโจมตีปกติถึง 2 เท่า!

ขณะเดียวกันก็มีเอฟเฟกต์กระเด็นถอยหลังหรือแม้กระทั่งทำให้มึนงงได้!

-29!

เหล่าหูถูกหอกแทงอย่างแรง ตัวลอยขึ้นไปในอากาศ

อุปกรณ์สวมใส่ทั้งห้าชิ้นและไอเท็มทุกอย่างในมิติเก็บของ ทั้งหมดดรอปออกมาในพริบตาเดียว พรั่งพราวดั่งดอกไม้ไฟอันงดงาม

บอลแสงนับไม่ถ้วนลอยล่อง เสมือนนางฟ้าโปรยกลีบดอกไม้ ฟุ้งกระจายไปทั่วทุกที่ ดูน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก!

ชายหัวเถิกตะลึงงัน!

ในฐานะนักเวทย์เลเวล 3 เขาปลดปล่อยสกิลร้ายแรงถึงตาย ส่งใบมีดสายลมออกไป แต่มันกลับแตกสลาย ถูกปัดป้องไว้ได้อย่างง่ายดาย

และพริบตาต่อจากนั้น นักรบเลเวล 3 ที่มีอุปกรณ์ครบครัน ได้รับการป้องกันอย่างดี .. กลับถูกอีกฝ่ายโจมตีสังหารเพียงกระบวนท่าเดียว!