ตอนที่แล้ว597 - โอกาสล้ำค่าที่จะก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้สูงสุด 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป599 - สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจากอาณาจักรด้านล่าง

598 - ดินแดนแห่งการฝึกฝนที่สมบูรณ์แบบ 


1908 - ดินแดนแห่งการฝึกฝนที่สมบูรณ์แบบ

“ระดับบ่มเพาะของเจ้ามาถึงขั้นเทพแล้วยังไม่รู้แม้กระทั่งวิธีเดินที่ถูกต้อง?” สือฮ่าวดุ

สำหรับศิษย์คนนี้เขาไม่เคยใช้น้ำเสียงอ่อนโยนกับมันมาก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะวิจารณ์ออกไปตรงๆ แน่นอนว่าคำวิจารณ์ของเขานั้นก็เพื่อทำให้มันกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งขึ้น

“สถานที่แห่งนี้จำกัดระดับบ่มเพาะของข้า ข้าไม่สามารถใช้ญาณวิเศษใดๆได้เป็นเหตุให้เท้าของข้าจมลงไปด้านล่าง” มังกรแดงรู้สึกผิด

อย่างไรก็ตามเมื่อมันหันกลับไปมันก็มึนงงทันที ร่างกายของสือฮ่าวเบาและเป็นอิสระ

เมื่อเขาเหยียบโคลนร่างกายของเขาก็ไม่ได้รับการปนเปื้อนแม้แต่คราบสกปรก ชุดสีขาวสะอาดของเขายังคงรักษาความบริสุทธิ์ไว้เช่นเดิม

“เขาทำสิ่งนี้ได้อย่างไร”

สือฮ่าวทำทุกอย่างได้โดยไม่กินแรงแม้แต่น้อย ข้อจำกัดเต๋าเชิงพื้นที่ไม่สามารถทำอะไรขั้นบ่มเพาะของเขาได้

มังกรน้อยได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก แต่อาจารย์ของมันกลับสบายดีโดยไม่ให้ความช่วยเหลือกับมันเลย

“อาจารย์ท่านทำอย่างนี้ได้อย่างไร”

มังกรแดงคิดไม่ออก อย่างไรก็ตามแม้สือฮ่าวจะแข็งแกร่งแต่เขาก็ไม่สามารถเหาะเหินอยู่บนผิวน้ำนี้ได้เหมือนเช่นปกติ

จิ!

ด้านล่างของเท้าของสือฮ่าวเปล่งประกายด้วยรัศมีแห่งสวรรค์สามเส้น มันทำให้ร่างกายของเขาอยู่เหนือพื้นสามนิ้วจึงไม่มีอะไรสามารถสัมผัสกับร่างกายของเขาได้สิ่งนี้ทำให้มังกรแดงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

“ นี่เป็นสถานที่ที่หาได้ยากในการพัฒนาตนเอง แต่เจ้าก็ไม่ได้ทะนุถนอมมัน

หากเจ้าสามารถยืนอยู่เหนือพื้นได้หนึ่งนิ้วเจ้าก็จะกลายเป็นหายนะสำหรับผู้แข็งแกร่งรุ่นเดียวกันทุกคน” สือฮ่าวกล่าว

เขาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะเขาเห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ การฝึกฝนที่นี่จะทำให้มังกรแดงพัฒนาตัวเองขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในสถานที่แห่งนี้กำแพงที่ไร้รูปแบบบดขยี้ลงมาจากทุกทิศทางราวกับว่ามีขุนเขาขนาดใหญ่กดลงบนร่างกายของสือฮ่าว เขาสามารถใช้สถานที่แห่งนี้ในการขัดเกลาร่างกายและวิญญาณดั้งเดิมได้

ไค!

เก๋อกู่เห็นรัศมีของดาบพุ่งออกมาจากผิวกายของสือฮ่าว นี่เป็นรัศมีดาบที่ฟันมาจากด้านนอกแต่มันไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเขา

“ นี่คือดินแดนที่สิ่งมีชีวิตสูงสุดเคยต่อสู้กัน มองไปรอบๆตัวสิ กระดูกทั้งหมดที่เจ้ามองเห็นล้วนแล้วแต่เป็นของสิ่งมีชีวิตสูงสุดที่ร่วงหล่นลง

นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาใช้วิญญาณดั้งเดิมต่อสู้กัน สถานที่แห่งนี้จะทำให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว” สือฮ่าวแนะนำศิษย์ของเขา

แม้ว่ามังกรแดงจะต้องการสวนกลับ แต่มันก็ตระหนักได้ว่านี่คือความจริงมันจึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในร่างกายทั้งหมดออกมาเพื่อขัดเกลาตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นานเท้าของมันก็ลอยขึ้นเหนือพื้นครึ่งนิ้ว เมื่อมังกรแดงสามารถลอยขึ้นเหนือพื้นหนึ่งนิ้วใบหน้าของมันก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

“เจ้าเห็นความแตกต่างหรือยัง? เจ้าและข้าอยู่ห่างกันสองระดับ” สือฮ่าวไม่ได้บิดเบือนความจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้าของเขายังแสดงออกถึงความหลงตัวเองแบบสุดๆ

ท่าทางแบบนี้ไม่เหมือนกับอาจารย์ผู้แสนดีแม้แต่น้อย ไม่ว่ามังกรแดงจะมองยังไงมันก็รู้สึกขัดนัยน์ตาอย่างยิ่ง มันต้องเคารพคนแบบนี้เป็นอาจารย์จริงๆ?

มังกรแดงโกรธมากตอนนี้ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวอย่างสิ้นเชิง

ในความเป็นจริงสือฮ่าวนั้นบอบบางน่ารักและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าปีแต่ใบหน้าของเขายังคงอ่อนเยาว์คล้ายกับเด็กอายุสิบห้าสิบหกปีเท่านั้น

เมื่อรวมกับความอวดดีที่ถูกแสดงออกมาในตอนนี้ไม่ว่าใครจะมองเขาอย่างไรเขาก็เหมือนเด็กหนุ่มที่มีความคึกคะนองขาดวุฒิภาวะในการเป็นผู้ใหญ่

“อาจารย์ข้าเคยได้ยินมาว่าท่านคือผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เรื่องราวที่ท่านแสดงออกในชายแดนรกร้างนั้นทำให้ข้ารู้สึกนับถือเป็นอย่างมาก แต่ทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้าข้าท่านถึงได้ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้” มังกรแดงอดไม่ได้มันจึงเริ่มถากถางด้วยคำพูด

เปง!

สือฮ่าวเตะมันไปด้านข้างโดยตรง

“จงบ่มเพาะอย่างเชื่อฟัง ดินแดนแห่งนี้จะเผยให้เห็นถึงระดับของผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง ยิ่งเจ้าอยู่สูงเหนือพื้นเท่าไรยิ่งแสดงออกให้เห็นว่าเจ้าเหนือล้ำกว่าคนรุ่นเดียวกันมากขึ้นเท่านั้น”

ตามที่สือฮ่าวกล่าวเมื่อเท้าอยู่สูงจากดินแดนที่เน่าเปื่อยโดยไม่ได้รับการปนเปื้อนจากโคลนคนผู้นั้นจะถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่แปรปรวนสวรรค์แล้ว

“ท่านกำลังชมเชยข้าหรือยกย่องตัวเอง?” มังกรแดงกลอกตามองบน

เป็นเพราะมันสามารถลอยสูงจากพื้นได้เพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้นในขณะที่สือฮ่าวสามารถลอยสูงจากพื้นได้ถึงสามนิ้ว

นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาสูงกว่าขีดจำกัดอย่างน้อยสองระดับหรือ?

ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้าไปในบ่อโคลนมากขึ้นเรื่อยๆแรงกดดันก็ถาโถมลงมาหนักขึ้น

ในเวลานี้ศีรษะของมังกรแดงเต็มไปด้วยเหงื่อร่างกายของมันเปียกโชก แต่มันยังไม่เต็มใจที่จะยอมรับผลลัพธ์นี้มันยังพยายามกดดันพลังศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองออกมาเพื่อต่อต้าน

อย่างไรก็ตามมันเหนื่อยเกินไปจริงๆ มันไม่สามารถทนได้กว่านี้อีกแล้ว

“ดีอย่าฝืนตัวเอง” สือฮ่าวตบไหล่ของมังกรแดง

ปู!

เมื่อมังกรแดงถูกตบเท้าของมันก็จมลงไปในโคลนทันทีดวงตาทั้งคู่ของมันแทบจะมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับอาจารย์ราคาถูกคนนี้มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้

หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็แสดงสีหน้าแปลกๆ เขาเห็นสหายเก่าสองสามคนในหมอกข้างหน้า พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วพยายามค้นหาทางออกเหมือนคนตาบอด

“พวกเขากำลังมองหาเส้นทาง ผู้เฒ่าทั้งสองบอกว่าพวกเขาจะหลงทางเมื่อเข้าไปข้างใน อาจารย์กล้าเข้าไหม” มังกรแดงกระตุ้นด้วยเจตนาร้ายและมีความรู้สึกยั่วยุเล็กน้อย

ซุป!

หลังจากนั้นมันก็ได้รู้ว่าอาจารย์ของมันใจร้ายมากแค่ไหน สือฮ่าวดึงมันขึ้นมาจากโคลนพร้อมกับโยนเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นโดยที่มันไม่อาจทำอะไรได้

ปูตง!

อ๊ายยย!

ร่างของมังกรแดงเข้มกระแทกเข้ากับร่างของใครบางคนทั้งคู่กรีดร้องออกมา

“เจ้าหนูเจ้ามาจากไหน? ครอบครัวของเจ้าไม่ได้สอนวิธีเดินอย่างถูกต้องหรือ!”

นี่คือชายวัยกลางคนที่มีอารมณ์ร้อนแรง ฝ่ามือของเขายกขึ้นกำลังจะฟาดเข้าใส่เก๋อกู่

ในตอนนี้มังกรแดงเก๋อกู่ยังโกรธเกรี้ยวมากกว่าชายชราคนนี้เสียอีก มันคำรามเสียงดังกึกก้องก่อนจะบดขยี้แขนข้างนั้นของชายชรา

มันถูกอาจารย์ราคาถูกคนนั้นโยนเข้ามาข้างในเหมือนกระสอบทำให้โคลนเลือดกระเด็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ในตอนนี้มังกรแดงโกรธแค้นอย่างแท้จริงมันพร้อมที่จะอาละวาดได้ตลอดเวลา

ต๋อง!

ในตอนท้ายหลังจากตบชายชราคนนั้นจมลงไปในโคลนมันก็กระทืบซ้ำอีกสองสามครั้งเพื่อระบายความแค้น

ไม่ไกลออกไปนอกทะเลหมอก สือฮ่าวเฝ้าดูด้วยความสนใจ ดวงตาของเขาลุกโชนเพราะเขาเห็นว่าคนเหล่านั้นเป็น 'สหายเก่า' ทั้งหมด

คนที่มังกรแดงทุบตีเป็นผู้ยิ่งใหญ่จากหนึ่งในมหาอำนาจของสามพันแคว้น สภาพของเขาน่าสังเวชอย่างยิ่ง

“คนของตำหนักเซียนก็มาด้วยหรือ? สวดมนต์เถอะหวังว่าข้าคงไม่พบพวกเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าจะเอามาเคี่ยวเป็นซุปทุกคน!” สือฮ่าวกล่าวเบาๆด้วยความเกลียดชัง

จากนั้นเขาก็เริ่มออกตามหาผู้คนของตำหนักเซียนอย่างกระตือรือร้น

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นใครบางคนที่คุ้นเคย เขาควรเรียกเธอว่าเยว่ฉานหรือชิงยี่ดี? เสื้อผ้าสีขาวของนางโบกสะบัดอย่างวุ่นวาย ตอนนี้นางกำลังค้นหาทางออกด้วยความสับสน

ทุกคนที่เข้ามาจะหลงทางไม่สามารถกลับออกไปได้

“สาวน้อยเจ้าถูกปล้นแล้ว!” สือฮ่าวมีความสุขอย่างมาก เขายืนอยู่ที่ขอบของพื้นที่หมอกและตะโกนต่อร่างที่งดงามนั้น

"ใคร?"

การจะเรียกนางว่าชิงยี่นั้นถือเป็นเรื่องปกติแม้กระทั่งการเรียกว่าเยว่ฉานก็สามารถทำได้เช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองประสานเข้ากันอย่างสมบูรณ์และกำลังออกค้นหาศัตรูที่อยู่ในหมอก

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่มีสิ่งของมีค่าอะไรพกติดตัวมา? ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ข้าสามารถแย่งชิงได้ก็มีเพียงร่างกายอันงดงามของเจ้าเท่านั้น”

สือฮ่าวหัวเราะอย่างชั่วร้ายก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอวที่คอดกิ่วของนาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด