ตอนที่แล้วย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 18 ตารางฝึกยอดมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 20 จงรู้สถานะของตัวเองซะ!!!

ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 19  สองชั่วโมงก่อนถึงวันโลกาวินาศ


ตอนที่ 19  สองชั่วโมงก่อนถึงวันโลกาวินาศ

หลังจากหลินฟานเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็เริ่มเก็บตัวอยู่เงียบๆ ตระกูลหลินและตระกูลข้ารับใช้อีก 4 ตระกูล ต่างก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษ เหล่าตระกูลข้ารับใช้ต่างก็ทำสิ่งที่คล้ายๆ กับตระกูลหลินทำ พวกเขาต่างก็ขายของมีค่าทั้งหมดแล้วเปลี่ยนให้เป็นอาหารเก็บเอาไว้

ในช่วงเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตระกูลหลินทำเพียงรับของต่างๆ จากตระกูลทั่วทั้งประเทศจีนเท่านั้น

บางตระกูลก็ส่งเนื้อสัตว์

บางตระกูลก็ส่งข้าว

บางตระกูลก็อาวุธ

แต่ละตระกูลในจีนต่างก็ส่งของให้ตระกูลหลินอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกก็มีเพียงตระกูลที่ต้องการผลประโยชน์หลังจากตระกูลหลินชนะสงคราม แต่พอมีคนสนับสนุนมากเข้า ตระกูลใหญ่ๆ หลายตระกูลจึงรู้สึกหวาดกลัวแล้วส่งของให้โดยพูดว่า พวกเราสามารถสนับสนุนท่านได้หากท่านชนะสงคราม!

คำพูดของตระกูลใหญ่เหล่านั้นหมายความว่า อย่าทำลายพวกเราหากท่านชนะสงคราม! หากแปลตรงๆ ก็จะออกมาประมาณนี้ และด้วยความระแวงที่เกิดขึ้นกับตระกูลใหญ่ทั่วประเทศจีน ตระกูลหลินจึงได้รับทรัพยากรจำนวนมหาศาล

ส่วนข้อเรียกร้องของพวกตระกูลใหญ่ที่ส่งอาวุธและอาหารมาให้นะหรือ แน่นอนอยู่แล้วว่า ไม่ว่าพวกนั้นจะเรียกร้องอะไรหลินฟานก็บอกให้คนของเขาตกลงไปทั้งหมด เรียกร้องปกครองมณฑล ตกลงสิ! เรียกร้องปกครองภูมิภาค ตกลงสิ! เรียกร้องผูกขาดธุรกิจบางธุรกิจ ตกลงสิ!

พวกตระกูลที่มีความโลภต่างก็พากันเสนอข้อเรียกร้องออกมา และทางตระกูลหลินก็ตอบรับทั้งหมด เพียงแต่ว่า พวกที่เรียกร้องมากก็ต้องสนับสนุนตระกูลหลินมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับรัฐบาลกลาง แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี เหล่าตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 6 ได้รวมตัวกันแล้วเรียกร้องให้รัฐบาลกลางส่งกองกำลังเข้าปราบปรามตระกูลหลินให้สิ้นซาก แต่ทางรัฐบาลกลับปฏิเสธของเรียกร้องนี้

เหตุผลที่รัฐบาลกลางยังไม่ทำอะไรตระกูลหลินมีอยู่ด้วยกัน 2 เหตุผล เหตุผลแรกพวกเขาไม่มั่นใจว่าตระกูลหลินมีแผนอะไรกันแน่ หากคิดตามแนวคิดปกติต่อให้ตระกูลหลินจะมีกองทัพที่แข็งแกร่ง ต่อให้ตระกูลหลินจะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจำนวนมากในจีน แต่ตระกูลหลินก็ไม่มีทั้งขีปนาวุธและนิวเคลียร์

จริงอยู่ที่รัฐบาลกลางไม่กล้าใช้นิวเคลียร์ในประเทศของตน แต่ขีปนาวุธนั้นไม่ใช่ หากเกิดสงครามขึ้นรัฐบาลกลางจะใช้มันโจมตีแบบไม่ลังเล เรื่องแบบนี้ใครๆ ก็น่าจะรู้ รู้แบบนี้แล้ว ทำไมตระกูลหลินยังพยายามตั้งตัวต่อต้านอีก?

ส่วนเหตุผลที่ 2 ที่รัฐบาลกลางไม่เคลื่อนไหวก็เป็นเพราะต้องระวังตัวเอาไว้ ตอนนี้รัฐบาลกลางปกครองประเทศอยู่ก็จริง แต่ภายในประเทศจีนก็ยังมีตระกูลอีกมากมายที่พร้อมจะต่อต้านรัฐบาลกลาง พวกเขาจึงต้องระวังการเคลื่อนไหวทุกอย่าง หากพลาดเพียงนิดเดียวตระกูลที่หลบซ่อนอยู่ก็คงลุกฮือต่อต้านรัฐบาลกันแน่ เมื่อเวลานั้นมาถึง จีนก็จะเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง ซึ่งรัฐบาลกลางไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

ด้วยเหตุผลหลักๆ สองข้อ มันจึงทำให้รัฐบาลกลางไม่กล้าโจมตีตระกูลหลิน และเมื่อรัฐบาลกลางไม่เคลื่อนไหวหรือออกมาห้าม ตระกูลต่างๆ ก็คิดไปเองว่าตระกูลหลินมีไม้เด็ดหรืออาวุธลับอะไรบางอย่าง ด้วยความคิดแบบนี้ ทำให้หลายๆ ตระกูลที่ยังลังเลเริ่มส่งของให้ตระกูลหลินมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนทางตระกูลหลิน ใครให้อะไรมาก็รับเอาไว้หมด ใครต้องการอะไรก็สัญญาว่าจะให้หมด ด้วยความใจกว้างแบบนี้ทำให้หลายๆ ตระกูลต่างก็พอใจในตระกูลหลินเป็นอย่างมาก

ก่อนถึงวันโลกาวินาศ 2 ชั่วโมง

ณ ฐานทัพมณฑลหลินหนาน

วีด!!! วีด!!! วีด!!!!

ในช่วงเช้าที่อากาศแจ่มใสอยู่ๆ เสียงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้นภายในฐานทัพมณฑลหลินหนาน สิ่งนี้ทำให้เหล่าทหารจำนวนมากในฐานทัพต่างก็ตกอยู่ในสภาวะสับสนว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หากเป็นการซ้อมก็ต้องมีแจ้งเตือนก่อน และหากประเทศจีนโดนบุกข่าวก็ต้องมาถึงก่อนเช่นกันเพราะมณฑลหลินหนานมีมณฑลอื่นๆ ของจีนล้อมรอบเอาไว้อยู่ อีกอย่าง สัญญาการเตือนนี้ก็ยังเป็นสัญญาณเตือนภัยระดับสูงสุด

ซึ่งก็หมายความว่า ต้องเกิดเรื่องร้ายแรงอย่างมากขึ้นถึงได้มีสัญญาณเตือนภัยสูงสุดดังขึ้นแบบนี้ ทหารภายในฐานทัพตกอยู่ในสภาวะสับสนได้ไม่นานก็ตั้งสติได้ จากนั้นพวกเขาก็พากันวิ่งไปยังโรงเก็บอาวุธชนิดต่างๆ ทหารทุกคนได้รับการซ้อมในสถานการณ์แบบนี้มาเยอะ พวกเขาจึงสามารถสงบสติของตัวเองลงได้อย่างรวดเร็ว

ทหารราบก็วิ่งไปโรงเก็บปืน

ทหารหน่วยรถหุ้มเกราะก็วิ่งไปโรงเก็บรถ

ทหารทุกคนวิ่งอย่างเป็นระเบียบ แต่ระหว่างที่ทหารกำลังวิ่งไปยังโรงเก็บอาวุธหน่วยของตัวเอง ทหารหลายๆ คน ก็เกิดคำถามขึ้น

“ทำไมคนน้อยจัง???”

“ใช่!”

“เหมือนว่าทหารที่อยู่ในการบัญชาการตระกูลโอหยาง ตระกูลเจียง ตระกูลจาง และตระกูลหม่าจะไม่อยู่ที่นี่”

“มันเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นไม่ได้ยินสัญญาเตือนหรือไง???”

ทหารต่างพากันสงสัยระหว่างวิ่งไปโรงเก็บอาวุธ แต่ก่อนที่เหล่าทหารจะถึงโรงเก็บอาวุธ รถหุ้มเกราะจำนวนมากก็วิ่งมาดักทางเอาไว้ รถฮัมวี่ติดตั้งปืนขนาด 12.5 มม. จำนวน 20 คัน ได้มาดักทางเหล่าทหารเอาไว้ไม่ให้วิ่งไปยังโรงเก็บอาวุธ

และไม่ใช่เพียงแค่รถฮัมวี่เท่านั้น รถIFV ติดตั้งปืนขนาด 25 มม.  จำนวน 7 คัน ก็วิ่งมาดักหน้าเหล่าทหารเอาไว้ด้วยเช่นกัน ด้วยแรงกดดันจากรถหุ้มเกราะจำนวนมากเหล่านี้ ทหารที่วิ่งอยู่ต่างก็หยุดลงและมองไปยังรถหุ้มเกราะหน้าด้านด้วยความสงสัย

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังมองไปยังรถหุ้มเกราะจำนวนมากด้านหน้าด้วยความสงสัย เสียงประกาศจากเครื่องขยายเสียงก็ดังขึ้นว่า

“ฉันคือผู้นำของตระกูลเจียง เจียงเป่า!! ตอนนี้พวกเราได้ควบคุมคลังแสงภายในกองทัพทั้งหมดเอาไว้แล้ว หากยังอยากมีชีวิต หากยังเห็นหน้าครอบครัว พวกนายควรคุกเข่าแล้วยกมือขึ้น”

เจียงเป่าคือคนที่ได้รับหน้าที่ในการป้องกันในครั้งนี้ เพราะการขนอาวุธจำนวนมากในฐานทัพมณฑลหลินหนานต้องใช้เวลาพอสมควร เจียงเป่าเลยต้องนำทหารบางส่วนมาคุ้มกันเส้นทางการขนย้ายเอาไว้

เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็พากันทำตามอย่างรวดเร็ว เพราะยังไงซะ ทุกคนก็คุ้นหน้าของเจียงเป่าเป็นอย่างดี เหล่าทหารธรรมดาต่างก็ไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ระหว่างตระกูลข้ารับใช้เท่าไหร่นัก เมื่อเห็นว่าหนึ่งหัวหน้าตระกูลแห่งตระกูลข้ารับใช้เป็นคนสั่ง พวกทหารต่างก็คุกเข่าลงและยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว

อีกอย่าง ต่อให้อยากต่อต้านมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว รถหุ้มเกราะด้านหน้าถูกติดตั้งอาวุธพร้อมรบ กลับกัน พวกเขามีเพียงแค่ตัวเปล่า หากพยายามสู้ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาไข่ไปตีกับหิน

เจียงเป่ามองทหารที่กำลังคุกเข่าอยู่ด้วยใบหน้าพึงพอใจ พูดตามตรง เขาเองไม่อยากทำร้ายทหารพวกนี้เช่นกัน หากมันไม่ใช่เพราะคำสั่งจากหลินฟานว่ายังไม่ควรรับทหารที่รับใช้ตระกูลทรยศเข้ากองทัพ เจียงเป่าก็คงยื่นข้อเสนอให้ทหารเหล่านี้ไปแล้ว

“นี่มันหมายความว่ายังไง!!!”

อยู่ๆ ชายสวมชุดทหารคนหนึ่งที่ร่างกายกำยำก็ตะโกนขึ้น เขาเดินฝ่าทหารที่คุกเข่าตรงไปหาเจียงเป่าอย่างรวดเร็วๆ ชายคนที่ตะโกนอยู่ตอนนี้ก็คือชายคนเดียวกันที่เคยก่อเรื่องเอาไว้ในคฤหาสน์ตระกูลหลิน โดยตอนนั้นเขาพูดกับหลินฟานว่า คุณจะเสียใจกับการกระทำในวันนี้!

ชายสวมชุดทหารตะโกนขึ้นอีกครั้งว่า

“นี่มันหมายความว่ายังไงผู้นำตระกูลเจียง!!!”

ปัง!!!

เจียงเป่าไม่รอช้าหรือพูดให้มากความ ชายที่ตะโกนด้านหน้าของเขาตอนนี้กำลังพยายามสร้างความวุ่นวาย แถมหลินฟานยังบอกมาแล้วว่า เมื่อถึงวันโลกาวินาศมาถึงชายคนนี้เป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่ต้องตาย

เจียงเป่ารู้สึกขอบคุณมากด้วยซ้ำที่เดินเข้ามาให้ฆ่าแบบนี้ เดินเข้ามาให้ฆ่าเองแบบนี้มันสามารถประหยัดเวลาตามหาไปได้เยอะ

เมื่ออยู่ๆ ก็โดนยิงเข้าที่กลางหัวใจ ชายสวมชุดทหารตระกูลเว่ยก็มองแผลของตัวเองด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คิดเลยว่าเจียงเป่าจะกล้ายิงตัวเองแบบนี้ เจียงเป่ามันบ้าไปแล้วหรือไง???

ตุ๊บ!

ร่างไร้ชีวิตของชายสวมชุดทหารตระกูลเว่ยล้มลงกับพื้น สิ่งนี้ทำให้ทหารหลายคนที่รับใช้ตระกูลเว่ยไม่พอใจและพากันลุกขึ้น เหตุผลที่พวกเขายอมคุกเข่ายกมือก็เพราะเห็นว่าคนสั่งเป็นเจียงเป่า แต่ตอนนี้เจียงเป่ากลับฆ่าผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพวกเขา พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องทำตามคำสั่งอีกแล้ว

ทหารหลายคนลุกขึ้นแล้วพยายามวิ่งไปยังจุดต่างๆ ที่สามารถใช้เป็นจุดกำบังได้ ถึงจะไม่พอใจแต่ทหารเหล่านี้ก็ไม่ได้โง่ พวกเขาไม่โง่วิ่งเข้าไปบวกกับรถหุ้มเกราะโดยไม่มีอาวุธแน่นอน

เมื่อทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตระกูลเว่ยเริ่มลุกขึ้น ทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาอีก 5 ตระกูลทรยศก็มองหน้ากันไปมาว่าจะเอายังไงดี

ถึงพวกเขาจะไม่รู้เรื่องสถานการณ์ภายในตระกูลข้ารับใช้มากนัก แต่พวกเขาก็พอรู้บางว่าตระกูลข้ารับใช้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ควรเคลื่อนไหวตอนนี้ดีไหม? ควรต่อต้านเจียงเป่าและเข้าไปเอาอาวุธในโรงเก็บดีไหม?

“ยิงให้หมด!!!”

ระหว่างเหล่าทหารที่คุกเข่ากำลังลังเล เจียงเป่าก็ออกคำสั่ง ปืนจำนวนมากบนรถหุ้มเกราะต่างก็หันไปทางเหล่าทหารที่ลุกขึ้น จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น

ปัง!!!

ปัง!!!

ปัง!!!

ทหารที่ลุกขึ้นต่างก็ล้มลงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ครั้งนี้พวกเขาต่างก็ล้มลงด้วยร่างไร้วิญญาณ กลิ่นเลือดลอยอยู่ในอากาศเต็มไปหมด ตอนนี้ทหารหลายๆ คน ต่างรู้สึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้ลุกขึ้นแบบทหารตระกูลเว่ย

เจียงเป่ากวาดตามองเหล่าทหาร แล้วพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“ ฉันบอกไปแล้วว่าหากยังอยากมีชีวิต หากยังอยากเห็นหน้าครอบครัว ให้พวกนายชูมือขึ้นแล้วคุกเข่า หวังว่าจะไม่มีใครที่ทำตัวเป็นผู้กล้าขึ้นมาอีก กล้าหาญเป็นเรื่องที่ดีแต่กล้าหาญก็ต้องกล้าให้มันถูกเวลาด้วย

“ พวกเราแค่ต้องการอาวุธไม่ได้ต้องการชีวิตของพวกนาย ของที่อยู่ในฐานทัพแห่งนี้มันเป็นของตระกูลหลิน ตระกูลหลินใช้เงินของตระกูลซื้อมาทั้งหมด พวกเราจะขนกลับไปยังตระกูลหลินมันมีอะไรผิดด้วยหรือไง

“หากพวกนายยอมอยู่เฉยๆ พวกนายก็รอด คำพูดง่ายๆ แบบนี้คงไม่ใช่เรื่องยากที่จำทำความเข้าใจหรอกใช่ไหม แต่! หากมีใครอยากลองฉันก็ไม่ว่า เพราะตอนนี้ฉันเหลือกระสุนอยู่อีกเยอะมาก ต่อให้ใช้ฆ่าพวกนายทั้งหมดเป็นร้อยๆ รอบ กระสุนก็ยังไม่หมด!!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด