ตอนที่แล้วย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 6 ระเบิดลูกใหญ่ที่เกิดขึ้นในจีน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 8 ไม่เห็นหัว

ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 7  เห็นกรจักรเป็นดอกบัว


ตอนที่ 7  เห็นกรจักรเป็นดอกบัว

ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิน

เมื่อคำสั่งเรียกประชุมโดนส่งออกไปได้ไม่นาน รถหรูสีดำจำนวนมากก็เริ่มวิ่งเข้าเขตคฤหาสน์ตระกูลหลินกันเรื่อยๆ ราวกับว่าเป็นสายน้ำกำลังไหลลงแม่น้ำ หากนับจำนวนรถที่วิ่งเข้าพื้นที่คฤหาสน์เป็นตัวเลยก็คงมีไม่น้อยไปกว่า 300 – 500 คัน แต่รถจำนวนขนาดนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อพื้นที่การจอดเลยแม้แต่น้อย เพราะพื้นที่คฤหาสน์ตระกูลหลินมีอาณาเขตกว้างถึง 5 ตารางกิโลเมตร

5 ตารางกิโลเมตรใจกลางเมืองหลวงของมณฑล! สิ่งนี้เป็นเครื่องแสดงอำนาจความยิ่งใหญ่อย่างเห็นได้ชัด การมีพื้นที่ 5 ตารางกิโลเมตรไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากเป็นคนรวยจากการทำธุรกิจหรือตระกูลระดับกลางก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่นั่นหมายถึงกรณีพื้นที่ 5 ตารางกิโลเมตร ธรรมดาๆ ไม่ใช่ 5 ตารางกิโลเมตรใจกลางเมืองหลวงของมณฑลแบบนี้

กลุ่มคนจากตระกูลข้ารับใช้ต่างๆ ต่างก็ทยอยเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลหลินเรื่อยๆ คนที่มาถึงต่างก็คุยกันอย่างสนิทสนม แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนของตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 จะสนิมสนามกัน คนจากตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 ต่างก็ทำความรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรียนที่เดียวกันบ้าง เพื่อนกลุ่มเดียวกันสมัยเด็กๆ บ้าง คนเหล่านี้จะรู้จักกันดีจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ภายในห้องโถงประชุมขนาดใหญ่

ภายในห้องโถงอัดแน่นไปด้วยผู้คนแต่งตัวดูดีมากมาย มีทั้งคนแต่งตัวด้วยชุดสูทและแต่งตัวด้วยชุดทหาร แต่ภายในห้องไม่มีคนแต่งตัวชุดตำรวจเลยสักคน เหตุผลที่ในห้องไม่มีคนที่เป็นตำรวจก็เป็นเพราะข้อตกลงระหว่างตระกูลหลินและรัฐบาลกลางของประเทศ

ตระกูลหลินสามารถคงกองทัพเอาไว้ได้ แต่ตำรวจต้องเป็นของรัฐบาลกลาง อำนาจบริหารเมืองส่วนใหญ่ต้องเป็นของรัฐบาลกลาง นี่เป็นสิ่งที่ผู้นำตระกูลหลินทำสัญญาเอาไว้กับรัฐบาลกลางในช่วงรวมประเทศ

“เป็นยังไงบางหยางเฉิน หายหน้าไปนานเลยนะ”

“ฮาฮาฮา พี่จางอย่าพูดแบบนั้นสิครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเรายังพึ่งไปงานเลี้ยงด้วยกันอยู่เลย ว่าแต่เรื่องที่คุยกันเป็นยังบ้างครับ”

“แน่นอนๆ พวกเราเป็นข้ารับใช้ตระกูลหลินเหมือนกัน โปรเจกต์สร้างหมู่บ้านฉันจะจ้างบริษัทของนายทำแน่นอน เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง”

ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำสองคน กำลังคุยกันในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“หนิงเย่เรื่องการฝึกทหารของนายเป็นยังไงบ้าง ทหารหน่วยของฉันไม่ค่อยได้เรื่องกันเลย พวกนั้นแค่วัน 20 กิโลก็แทบไม่ไหวกันแล้ว แย่จริงๆ”

“อย่ามาโอ้อวดแถวนี้หม่าหยาง แค่วิ่งได้ 20 กิโลมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ทหารของฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน”

“เหอะ! เอาพวกทหารในหน่วยของตัวเองมาแข่งกันดูไหม”

“ได้! ถ้านายอยากขายหน้าหนิงเย่คนนี้ก็จะไม่ปฏิเสธ”

ชายสวมชุดทหารสองคนคุยกันด้วยน้ำเสียงโอ้อวด

พวกที่อยู่ในห้องโถงตอนนี้คือพวก 10 ตระกูลข้ารับใช้ คนเหล่านี้ต่างก็พึ่งพาซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องการทหาร เมื่อมาเจอหน้ากันบางคนก็มาขอความช่วยเหลือ บางคนก็มาโอ้อวดความสามารถของตัวเอง  สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติของตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10

ภายในห้องมีเสียงคุยดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีคนเข้ามามากขึ้นเสียงก็เริ่มดังขึ้นมากกว่าเดิม ทว่า ในระหว่างที่ในห้องกำลังวุ่นวายกลับมีโต๊ะหนึ่งกำลังนั่งมองหน้ากันไปมา กลิ่นอายที่คนกลุ่มนั้นกำลังปล่อยออกมาเป็นกลิ่นอายที่ต่างจากคนอื่นๆ อย่างลิบลับอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่ขอความช่วยเหลือ พวกเข้าไม่โอ้อวดตัวเอง

กลุ่มคนที่นั่งเงียบต่างจากคนอื่นๆ ในห้องโถงตอนนี้ก็คือ กลุ่มของผู้นำตระกูลข้ารับใช้ ใช้แล้ว! พวกเขาคือผู้น้ำตระกูลข้ารับใช้ พวกเขาแต่ละคนต่างก็เป็นคนมีอายุกันทั้งหมดทุกคน เพียงแต่ว่า คนที่นั่งมองหน้ากันอยู่มีเพียงแค่ 4 คน แทนที่จะเป็น 10 คน

ผู้นำตระกูลโอหยาง โอหยางห่าว!

ผู้นำตระกูลเจียง เจียงเป่า!

ผู้นำตระกูลจาง จางหยาน!

ผู้นำตระกูลหม่า หม่าจือฉิน

ผู้นำทั้งสี่ต่างก็เป็นผู้ชายรูปร่างกำยำกัน แถมพวกเขาทั้งสี่คนยังสวมชุดทหารเหมือนกันทั้งหมดอีก ผู้นำทั้งสี่นั่งมองหน้ากันไปมาแต่ก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา บรรยากาศรอบโต๊ะของผู้นำตระกูลทั้งสี่น่ากลัวจนคนอื่นๆ ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้

“สรุปเหลือพวกเราแค่สี่คนสินะ ตระกูลที่สายธุรกิจกลายเป็นตระกูลทรยศกันไปหมดแล้วจริงๆ เหลือเพียงแค่พวกเราที่เป็นตระกูลสายทหาร”

โอหยางฮ่าวเป็นคนทำลายบรรยากาศเงียบสงบ

ปกติแล้วโต๊ะตรงนี้ต้องมีผู้นำตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 มานั่งหันหน้าเข้าหากัน แต่เมื่อผู้นำตระกูลอีก 6 คน ไม่ปรากฏตัวออกมา สิ่งนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าใครที่ทรยศใครที่ยังภักดีต่อตระกูลหลินอยู่

ส่วนเรื่องตระกูลสายทหารที่โอหยางห่าวพูดถึงก็เป็นเพราะตระกูลข้ารับใช้แบ่งออกด้วยกันสองสาย สายธุรกิจและสายทางการทหาร แต่ถึงจะบอกว่าแบ่งแยกก็ไม่ได้แบ่งแยกกันขนาดนั้นตระกูลสายทหารก็มีบางคนไปทำธุรกิจ ส่วนตระกูลสายธุรกิจก็มีบางคนไปเป็นทหารอยู่เช่นกัน

ทั้ง 10 ตระกูลข้ารับใช้ ต่างก็มีอำนาจกระจายตัวแทรกแซงกันไปยังฝ่ายต่างๆ เท่าๆ กัน แต่ถ้าหากนับสายแบบดังเดิมแบบที่ตระกูลหลินจัดเอาไว้ให้ ก็คือสายทหาร 4 สายธุรกิจ 6  การที่มีแค่ผู้นำตระกูลสายทหารปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ หากจะพูดว่าตระกูลข้ารับใช้สายธุรกิจทรยศไปหมดแล้ว พูดแบบนั้นมันก็ไม่เกินจริงอะไรเลย

งานประชุมครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นงานที่สำคัญมากๆ การที่ผู้นำตระกูลไม่ปรากฏตัวออกมาแต่ส่งเพียงคนในตระกูลเดินทางมาแทน สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าอีก 6 ตระกูลกำลังต้องการทำอะไร

ผู้นำตระกูลเจียง เจียงเป่าพูดเสริมขึ้นว่า

“ ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้ แต่แบบนี้ชักเป็นเรื่องยากแล้วสิ

“ถึงจะบอกว่าเป็นฝ่ายทหารแต่พวกตระกูลอีก 6 ตระกูล ก็มีตำแหน่งในกองทัพมณฑลหลินหนานเหมือนกับพวกเรา ตอนนี้ฝ่ายของพวกเรากำลังเสียเปรียบพวกมันแล้ว หากพวกเราไม่เริ่มทำอะไรบางอย่าง พวกตระกูลทรยศมันต้องรุมเล่นงานพวกเราแน่ พวกเราควรฆ่าพวกทรยศให้หมด!”

“คุณนี่มันเหมือนเดิมเลยนะผู้นำตระกูลเจียง เฮ้อ~”

ผู้นำตระกูลจาง จางหยานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ จากนั้นเขาก็พูดต่ออีกครั้งว่า

“ ตอนนี้พูดว่าเสียเปรียบไม่ได้แล้ว ก็จริงอยู่ที่พวกนั้นมีจำนวนมากกว่าพวกเรา แต่พวกมันก็โดนทำลายรากฐานที่มั่นคงที่สุดไปแล้ว เพราะตั้งแต่ที่คุณหลินเทขายหุ้นของหลินกรุ๊ป พวกตระกูลธุรกิจก็เหมือนกับคนที่สูญเสียบ้านไป เหมือนลูกนกที่ไร้ซึ่งรังค่อยปกป้อง

“ เหตุผลที่ธุรกิจของตระกูลทรยศ… ไม่สิ! รวมพวกเราไปด้วยก็ได้ เหตุผลที่ตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 สามารถดำเนินการจนเติบโตมาได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะพวกเรามีบ้านค่อยปกป้องจากพายุฝน บ้านที่ฉันกำลังพูดถึงก็คือหลินกรุ๊ป หากไม่มีหลินกรุ๊ปคอยหนุนหลังเอาไว้ มีหรือที่ธุรกิจของ 10 ตระกูลข้ารับใช้จะโตได้ขนาดนี้

“กลับกัน สถานการณ์เป็นแบบนี้พวกเราเหมือนกำลังจะได้เปรียบด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้ตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 จะแทรกแซงกันไปมั่วแต่ยังไงรากฐานของเราก็คือฝ่ายทหาร พวกเรามีอำนาจทางทหารมากกว่าพวกมัน แถมพวกเรายังไม่ค่อยเสียหายอะไรมากหากไม่มีหลินกรุ๊ป แต่พวกตระกูลธุรกิจนี่สิ พวกมันคงได้เจอกับปัญหาใหญ่กันแน่เมื่อตระกูลหลินไม่ได้ครอบครองหลินกรุ๊ป”

สิ่งที่จางหยานพูดออกมาถูกต้องแล้ว

หลินกรุ๊ปนั้นสนับสนุนธุรกิจตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 มาตลอด ยกตัวอย่างเช่น หากหลินกรุ๊ปต้องการสร้างตึกก็จะเอาบริษัทของตระกูลข้ารับใช้มาสร้าง หากหลินกรุ๊ปต้องการทำธุรกิจผลิตรถยนต์ หลินกรุ๊ปก็จะใช้อะไหล่ที่บริษัทตระกูลข้ารับใช้ผลิตขึ้นมา

สิ่งนี้มองผ่านๆ อาจเป็นการทำงานแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่หากมองลึกๆ จะเข้าใจได้ว่าหลินกรุ๊ปกำลังช่วยเหลือพวกตระกูลข้ารับใช้อยู่ อย่างเช่นเรื่องการสร้างตึก บริษัทอื่นๆ เสนอราคาค่าก่อสร้างมา 100 ล้าน  แต่บริษัทของพวกตระกูลข้ารับใช้เสนอราคา 150 ล้าน

หากคิดตามแนวคิดปกติหลินกรุ๊ปก็ต้องเลือกราคา 100 ล้าน เพราะราคาถูกกว่ากันตั้ง 50% แต่หลินกรุ๊ปจะไม่ทำเรื่องแบบนั้น ต่อให้แพงกว่าครึ่งหรือเท่าตัวยังไงหลินกรุ๊ปก็จะเลือกบริษัทของตระกูลข้ารับใช้อยู่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลที่จางหยามพูดออกมาว่าหากไม่มีหลินกรุ๊ปค่อยหนุนหลัง ธุรกิจของพวกตระกูลข้ารับใช้ก็คงไม่โตกันขนาดนี้

โอหยางห่าวพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า

“ผู้นำตระกูลจางพูดถูกแล้ว หากไม่มีหลินกรุ๊ปหนุนหลังพวกเราก็คงไม่โตมากันขนาดนี้  ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกตระกูลทั้ง 6 คิดอะไรอยู่ถึงได้ทรยศต่อตระกูลหลิน เฮ้อ~ ”

ผู้นำตระกูลหม่า หม่าจือฉินพูดขึ้นว่า

“ แน่นอนว่าพวกนั้นทรยศก็เพราะผลประโยชน์ที่รัฐบาลกลางมอบให้ ในเมื่อพวกเรามาอยู่ด้วยกันแล้วก็มาเปิดอกคุยกันดีกว่า พวกท่านทั้งหมดก็ได้คำเชิญเหมือนกันใช่ไหม คำเชิญที่อ้างถึงผลประโยชน์มากมายหลังจากตระกูลหลินล่มสลาย

“พูดตามตรง เมื่อได้เห็นผลประโยชน์ข้าเองหวั่นไหวเหมือนกัน และข้าก็เชื่อว่าพวกท่านเองก็คงไม่น่าจะต่างกัน  เมื่อตระกูลหลินล่มสลายรัฐบาลกลางจะแบ่งหลินหนานออกเป็นสิบเขตและให้พวกเราสิบตระกูลปกครอง  พวกท่านได้รับข้อความแบบนี้เหมือนกันใช่ไหม”

ทั้งสามคนพยักหน้า เรื่องที่หม่าจือฉินพูดออกมาเป็นเรื่องจริง

หลังจากเห็นทุกคนพยักหน้า หม่าจือฉินก็พูดต่ออีกว่า

“แต่เมื่อพวกเรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ ก็แปลว่าพวกเราเลือกยืนฝั่งตระกูลหลินและพร้อมล่มสลายไปด้วยกัน เพราะงั้นข้าเลยมีข้อเสนออะไรบางอย่าง ในเมื่อพวกเราต้องล่มสลายกันแล้วทำไมพวกเราไม่ก่อสงคะ-”

ปัง!!!

ก่อนที่หม่าจือฉินจะพูดจนจบ ก็ได้เกิดเสียงที่ดังมากขึ้นมาก่อน ทุกสายตาในห้องต่างก็หันหน้าไปทางเสียงที่ดังขึ้นอย่างฉับพลัน แม้แต่ผู้นำตระกูลทั้งสี่ที่กำลังคุยกันอยู่ พวกเขาทั้งหมดต่างก็หันเหความสนใจไปทางเสียงที่ดังขึ้นเช่นกัน

และทันทีที่หันไปมองยังจุดที่เกิดเสียง ทุกคนก็เกิดความสงสัยในใจ

อะไร?

ทำไปทำไม?

ทำเพื่ออะไร?

คุณหลินพังประตูเพื่ออะไร ทำไมไม่เปิดแล้วเดินเข้ามาดีๆ???

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด