ตอนที่แล้วย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 4  เรียกรวมตัวเหล่าตระกูลข้ารับใช้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 6 ระเบิดลูกใหญ่ที่เกิดขึ้นในจีน

ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 5 ความตื่นตระหนกของตระกูลข้ารับใช้ทั้งสิบ


ตอนที่ 5 ความตื่นตระหนกของตระกูลข้ารับใช้ทั้งสิบ

ตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10!

ตั้งแต่ที่ตระกูลหลินก่อตั้งขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ตระกูลหลินก็มีตระกูลอีก 10 ตระกูลเป็นตระกูลข้ารับใช้อยู่เคียงข้างมาตลอด ซึ่งตระกูลทั้ง 10 จะทำหน้าที่ทำงานทุกอย่างให้ตระกูลหลิน ทำตัวเป็นเหมือนมือเป็นเหมือนเท้าของตระกูลหลินในการทำงานต่างๆ ให้

และตระกูลทั้ง 10 ตระกูล ก็ยังแทรกซึมอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ของมณฑลหลินหนานแถมทุกคนยังมีตำแหน่งอยู่ในระดับสูงในหน่วยงานนั้นๆ ด้วยเหตุผลนี้ ตระกูลหลินจึงถูกนับว่าเป็นเจ้ามณฑลแห่งมณฑลหลินหนานอย่างแท้จริง

และตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 แต่ละตระกูลต่างก็มีตำแหน่งระดับสูงในกองทัพมณฑลหลินหนานด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลินฟานมั่นใจว่าตระกูลหลินยังคงปกครองกองทัพมณฑลหลินหนานเอาไว้อยู่ หากไม่มี 10 ตระกูลเป็นแนวหลังให้ หลินฟานก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าตระกูลหลินยังจะมีอำนาจทางการทหารอยู่ไหม

ส่วนชื่อของตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 ทั้งหมดมีชื่อว่า ตระกูลโอหยาง!  ตระกูลหนิง! ตระกูลจาง! ตระกูลเว่ย! ตระกูลหวัง! ตระกูลหยาง! ตระกูลโจ! ตระกูลซิน! ตระกูลหม่า! และตระกูลเจียง! พวกนี้คือรายชื่อตระกูลข้ารับใช้ตระกูลหลินที่มีมาตั้งแต่อดีต พวกเขาทั้งหมดต่างก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมากับตระกูลหลินมาเป็นเวลานาน ทั้งช่วงสงคราม ทั้งช่วงสงบสุข  ทั้งช่วงมี ทั้งช่วงอดอยาก

และถึงแม้ตระกูลหลินว่าจะก่อตั้งมาเป็นเวลานานนับล้านปี พวกตระกูลทั้ง 10 ก็ไม่เคยทรยศต่อตระกูลหลินเลยสักครั้ง

แต่!

ตอนนี้สถานการณ์มันต่างออกไป เมื่อโลกเปลี่ยนไป เมื่อแนวคิดทางตะวันตกเข้ามาแทรกแซงแนวคิดทางตะวันออก เมื่อตระกูลหลินอ่อนแอลงจนถึงจุดต่ำสุด ตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 ก็เริ่มแสดงจุดยืนว่าต้องการแยกตัวบ้างแล้ว

ตอนนี้หลินฟานก็รู้เรื่องพวกทรยศเช่นกัน เพราะชาติก่อนของเขาหลายตระกูลก็ทรยศในช่วงวันโลกาวินาศ หลินฟานต้องการใช้การประชุมครั้งนี้ตัดเนื้อเน่าออกไปให้หมด ถึงตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 จะถือว่าเป็นรากฐานของตระกูลหลิน แต่หากรากฐานไม่ยอมเชื่อฟังเจ้านายรากฐานพวกนี้ก็ไม่สมควรเก็บเอาไว้

ภายในตระกูลโอหยาง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมคุณหลินถึงได้ประกาศด่วนเรียกรวมตัว?”

ชายแก่รูปร่างกำย้ำกล่าวถามชายหนุ่มที่นำคำสั่งมาบอก ชายแก่คนนี้มีชื่อว่า โอหยางห่าว เขาเป็นผู้นำตระกูลโอหยางคนปัจจุบัน

ตั้งแต่ที่หลินฟานขึ้นเป็นผู้นำตระกูลหลิน หลินฟานก็ไม่เคยเรียกรวมตัวตระกูลข้ารับใช้เลยสักครั้ง อย่าว่าแต่เรียกรวมตัวเลย คำสั่งให้ทำอะไรก็ยังไม่เคยออกมาเลยสักครั้ง และคำสั่งแรกดันกลายเป็นประกาศด่วนแบบนี้อีก แบบนี้แล้วจะไม่ให้โอหยางห่าวสงสัยได้ยังไง

ต้องเข้าใจก่อนว่าประกาศด่วนเป็นการเรียกรวมตัวแบบพิเศษที่ตระกูลหลินกำหนดขึ้นมา หากไม่เกิดเรื่องเลวร้ายจริงๆ ตระกูลหลินก็ไม่เคยออกคำสั่งประกาศด่วนแบบนี้สักครั้ง การใช้คำสั่งนี้ครั้งล่าสุดก็คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครั้งที่ญี่ปุ่นบุกประเทศจีน นี่หมายความว่า ต้องมีเรื่องร้ายแรงแบบสงครามโลกเกิดขึ้นตระกูลหลินถึงจะออกคำสั่งแบบนี้ออกมา

แต่ช่วงเวลานี้มันมีสงครามที่ไหนกัน ถึงประเทศจีนกับประเทศอเมริกาจะพยายามสู้กันด้านธุรกิจอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นเพียงสงครามธุรกิจไม่ใช่สงครามจริงๆ

ชายหนุ่มที่โดนถามตอบคำถามว่า

“เรื่องนั้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เมื่อครู่มีการต่อสายตรงจากตระกูลหลินมายังตระกูลโอหยาง บอกให้สมาชิกทั้งหมดของตระกูลโอหยางที่อยู่ในหลินหนานไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน และคนของเราที่อยู่ในตระกูลหลินก็บอกมาว่า วันนี้จีเป่ยยังไม่เข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหลิน เรื่องนี้น่าจะเป็นความต้องการของคุณหลินเอง”

“โอ้ว…”

โอหยางห่าวแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดต่ออีกว่า

“งั้นก็ทำตามคำสั่งของคุณหลิน เรียกสมาชิกทั้งหมดของตระกูลโอหยางกลับมา พวกเราจะเดินทางไปยังตระกูลหลินตามคำสั่ง”

“ครับ”

ชายหนุ่มตอบรับแล้วเดินออกจากห้องไป

หลังจากชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปโอหยางห่าวก็คิดในใจเงียบๆ คนเดียวว่า

“ เรื่องครั้งนี้มีอะไรแปลกๆ

“ หากนี่เป็นความต้องการของคุณหลินจริงๆ ก็แปลกเกินไป อยู่ๆ ทำไมเขาถึงได้เรียกรวมตัวเหล่าตระกูลข้ารับใช้แบบนี้ หรือว่าคุณหลินจะรู้แล้วว่ามีบางตระกูลไปเข้าพวกกับรัฐบาลกลางและต้องการกำจัดทิ้ง

“ไม่! เรื่องนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ คุณหลินเอาแต่เที่ยวผู้หญิงและกินเหล้าไปวันๆ เขาจะไปรู้เรื่องพวกนั้นได้ยังไง และครั้งนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจีด้วย …คงต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่!”

โอหยางห่าวพยามเดาความคิดของหลินฟาน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเดาเท่าไหร่เขาก็ไม่สามารถเดาออกได้ เขาคิดไม่ออกว่าเพราะอะไรถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะอะไรหลินฟานถึงได้ออกคำสั่งที่เหมือนกับว่ากำลังจะเกิดสงครามขึ้น

อีกอย่าง การเรียกรวมตัวแบบประกาศด่วนก็ไม่เคยมีเรื่องดีเลยสักครั้ง การเรียกแบบนี้จะเรียกสมาชิกทั้งหมดของตระกูลข้ารับใช้ไปรวมตัวกันที่ตระกูลหลิน หากมีคำสั่งอยากสั่งหรืออยากคุย แค่การเรียกรวมตัวปกติก็เพียงพอแล้ว เพราะแค่ออกคำสั่งกับผู้นำตระกูลเดี๋ยวคำสั่งก็กระจายตัวเอง

โอหยางห่าวไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ที่เขาแน่ใจก็คือการเรียกประชุมครั้งนี้ต้องไม่ใช่การประชุมที่ดีแน่นอน

“ท่านผู้นำตระกูล!”

ชายหนุ่มคนเดิมวิ่งเข้ามาในห้องอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เข้ามาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ

โอหยางห่าวขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็ถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“หอบ… ตระกูล… ตระกูลหลินกำลังเทขาย หอบ… ขายหุ้นของหลินกรุ๊ปออกครับ”

ชายหนุ่มตอบ

“มันมีอะไรน่าแปลกใจขนาดนั้น!?”

โอหยางห่าวถามต่อด้วยหน้าตาสงสัย ก็แค่ขายหุ้นไม่เห็นมีอะไรต้องตกใจ

ชายหนุ่มเริ่มหายใจได้เป็นปกติ จากนั้นเขาก็ทำหน้าจริงจังพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ทั้งหมดครับ! ตระกูลหลินเทขายหุ่นของหลินกรุ๊ปทั้งหมดครับ!”

โอหยางห่าวอึ้งไป

เขาไม่รู้ว่าจะต้องตอบรับยังไงในสถานการณ์แบบนี้ หากพูดถึงเรื่องการปกครองเงินเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก และหลินกรุ๊ปก็เป็นเครื่องมือผลิตเงินอย่างดีให้กับตระกูลหลินมาตลอด การขายหุ้นทิ้งทั้งหมดแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคนใกล้ตายที่เอากรรไกรมาตัดสายออกซิเจนของตัวเอง

หลินกรุ๊ปคือกระดูกสันหลังของตระกูลหลิน พูดแบบนี้ก็คงไม่เกินจริงเลย

โอหยางห่าวยังไม่ทันได้ตอบอะไร ชายหนุ่มก็รายงานเรื่องน่าตกใจอีกเรื่องต่ออีกทันทีว่า

“แถมยังประกาศขายผลงานศิลปะที่สะสมเอาไว้! ประกาศขายที่ดินทั้งหมดที่ครอบครอง! ประกาศขายสมบัติต่างๆ ที่สามารถขายได้ออกมาทั้งหมด! ทั้งหมดถูกประกาศขายในตลาดในราคาเพียง 80% ของมูลค่าแท้จริงของพวกมัน พวกเราไม่สามารถหยุดเรื่องนี้เอาไว้ได้แล้วครับ การซื้อขายดำเนินการเกือบเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว”

โอหยางห่าว “…”

แค่เรื่องเทขายหุ้นของหลินกรุ๊ปก็เป็นปัญหามากพอแล้ว แต่นี่… ตอนนี้ตระกูลหลินขายทุกอย่างที่จะสามารถทำเงินในอนาคตได้ออกทั้งหมด ยิ่งได้ฟังรายงานโอหยางห่าวก็ยิ่งงงงวยมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพยายามทำความเข้าใจ ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีก

ติ่ง! ติ่ง! ติ่ง!

ระหว่างที่โอหยางห่าวกำลังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้น มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เมื่อมองไปบนหน้าจอมือถือก็พบกลับชื่อที่เขียนเอาไว้ว่า [ ผู้นำตระกูลเจียง (ภักดี) ] เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือ โอหยางห่าวก็พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายโทรมาทำไม

“ออกไปก่อน”

โอหยางห่าวสั่งชายหนุ่ม

ชายหนุ่มผสานมือให้จากนั้นเขาก็เดินออกไปจากห้องตามคำสั่ง เมื่อในห้องเหลือตัวเองคนเดียว โอหยางห่าวก็กดรับสายจากอีกฝ่าย

“ผู้นำตระกูลโอหยางคุณรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วใช่ไหม! มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!! ทำไมคุณหลินถึงได้เทขายหุ้นและขายของมีค่าออกทั้งหมด ตระกูลจีมันเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้อีกแล้วใช่ไหม ถ้าใช้ตระกูลเจียงจะขออาสาไปฆ่าล้างตระกูลพวกมันเอง”

ทันทีที่โอหยางห่าวกดรับสาย เสียงชายวัยกลางคนก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงกำลังโมโหแบบสุดขีด

โอหยางห่าวตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า

“ใจเย็นก่อนผู้นำตระกูลเจียง เรื่องครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกตระกูลจี เรื่องครั้งนี้เหมือนว่าจะเป็นความตั้งใจของคุณหลินเอง ส่วนเพราะอะไรคุณหลินถึงได้ตัดสินใจทำเรื่องแบบนั้นฉันเองก็ยังไม่รู้ ตอนนี้พวกเราต้องทำตามคำสั่งไปก่อน”

“จริงงั้นเหรอ???”

น้ำเสียงจากปลายสายเต็มไปด้วยความสงสัย

โอหยางห่าวพูดต่อ

“ จริง! ฉันเองก็เดาไม่ออกว่าคุณหลินต้องการทำอะไร แต่ที่ฉันแน่ใจก็คือ การเรียกประชุมครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน นายเองก็ควรเตือนคนในตระกูลของตัวเองเอาไว้ว่าอย่าสร้างปัญหาในการประชุมวันนี้

“อีกอย่าง เรื่องการเทหุ้นและขายสมบัติของตระกูลออกแบบนี้ฉันเชื่อว่าคุณหลินต้องมีเหตุผล เพราะหากคุณหลินไม่มีเหตุผลที่ดีมากพอ นายคิดว่าหลี่หมิงจะยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้เหรอ”

“…อาจจะเป็นแบบนั้น”

น้ำเสียงของผู้นำตระกูลเจียงเริ่มใจเย็นลง

ในตระกูลข้ารับใช้ทั้ง 10 ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหลี่หมิงเป็นใครแล้วทำหน้าที่อะไรในตระกูลหลิน หากไม่มีเหตุผลที่ดีจริงๆ คนแบบหลี่หมิงก็คงไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่ พอคิดเรื่องนี้ได้ผู้นำตระกูลเจียงก็ใจเย็นลง

ผู้นำตระกูลเจียงพูดต่อ

“คุณคิดว่าคุณหลินจะจัดการพวกทรยศไหม?”

“อย่าพูดเรื่องนั้นออกมาอีก ถึงจะเป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ลับแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครดักฟังพวกเรา ตอนนี้พวกเราไว้ใจซึ่งกันและกันได้เท่านั้น อีก 8 ตระกูลพวกเราไม่รู้ว่าตระกูลไหนทรยศไปบ้างแล้ว หากพวกเราเดินเกมพลาดตระกูลของพวกเราอาจโดนพวกทรยศรุมขย้ำได้”

“ชิ! พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมาก็อารมณ์เสียทุกที พวกมันไม่คิดหรือไงว่าตระกูลตัวเองอยู่มาได้ก็เพราะตระกูลหลิน ตระกูลตัวเองโตมาได้ก็เพราะตระกูลหลิน ไอพวกเนรคุณนั่น”

ผู้นำตระกูลเจียงสบถด้วยน้ำเสียงโมโห

ฟังผู้นำตระกูลเจียงสบถด่าพวกทรยศได้สักพัก โอหยางห่าวก็พูดขึ้นว่า

“ใจเย็นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะเคลื่อนไหว ดีไม่ดี การเรียกประชุมครั้งนี้อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเราแทนก็ได้ พวกทรยศอาจปรากฏตัวออกมาในงานประชุมวันนี้ หากพวกมันเลือกที่จะต่อต้านตระกูลหลิน การรวมตัวแบบนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการประกาศจุดยืนตัวเอง”

“อืม! การประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสประกาศจุดยืนของพวกมันจริงๆ หากยอมทำตามคำสั่งก็แปลว่ายังต้องการรับใช้ แต่หากไม่ยอมทำตามคำสั่งก็แปลกว่าพวกนั้นต้องการต่อต้านตระกูลหลิน”

ผู้นำตระกูลเจียงเห็นด้วย

หลังจากคุยเรื่องพวกทรยศจบทั้งคู่ก็แลกเปลี่ยนประโยคกันอีกสองถึงสามประโยค จากนั้นก็ว่างสายเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปคฤหาสน์ตระกูลหลิน

ขณะเดียวกัน ตระกูลข้ารับใช้ตระกูลอื่นๆ ก็เกิดความตื่นตระหนกเช่นเดียวกันแบบตระกูลโอหยาง และตระกูลเจียง เมื่อได้รับคำสั่งประชุมพวกผู้นำตระกูลข้ารับใช้ยังไม่สงสัยเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ยินว่าตระกูลหลินเทขายหุ้นของหลินกรุ๊ป ขายสมบัติที่มีของตระกูลออกทั้งหมด พวกผู้นำตระกูลข้ารับใช้ต่างๆ ต่างก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องครั้งนี้มันไม่ปกติแล้ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด