ตอนที่ 38 แผน พลิก แปลงร่าง

“น้องพี่สู้ๆ น้องต้องทำได้!”

หลินอี้รู้สึกตื่นเต้นมาก ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมเมื่อเธอมองหลินซีบนดาดฟ้าสังเกตการณ์ชั้นสาม “หมอนั่นกำลังจะแพ้!”

เธอสนุกกับการแข่งขันครั้งนี้มาก

น้องสาวของเธอปราบปรามคู่ต่อสู้ของเธออยู่ตลอดเวลา

เธอโดดเด่นมาก เป็นตัวเอก แพรวพราวมาก

ความขมขื่นและความเศร้าโศกจากการพ่ายแพ้ของหวังเช่อเมื่อวันก่อนได้หายไป ตอนนี้เธออารมณ์ดีมาก

“ความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงมากเกินไป” ศาสตราจารย์หยานกล่าวขณะเขาส่ายหัว “หลังจากฝึกมา 1 สัปดาห์ความแข็งแกร่งของงูหมวกเมฆของเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สิ่งที่หนอนผีเสื้อสามารถเทียบได้อีกต่อไปแล้ว...ตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรวิญญาณแบบเธอที่ไม่มีข้อบกพร่อง มันต้องเดิมพันด้วยทักษะวิญญาณพ่นไหม ตราบใดที่มันสามารถโจมตีได้หนึ่งครั้งก็ยังมีโอกาส

“น่าเสียดายที่เขาใช้ทักษะนี้เมื่อวานนี้ งูหมวกเมฆนั่นเตรียมการสำหรับวันนี้เอาไว้แล้ว ภายใต้ความแตกต่างที่ชัดเจนเรื่องความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่าย มันยากเกินไปที่จะโจมตีเป้าหมาย

“ไม่ว่าในกรณีใด สำหรับหนอนผีเสื้อนั้นยากอยู่แล้วที่จะสามารถต่อสู้กับงูหมวกเมฆได้ขนาดนี้”

ขณะที่ศาสตราจารย์หยานพูด เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขามองไปที่ชายตาบอด

“หลินอี้ไปบอกให้พวกเขายกแท่นสังเกตการณ์ขึ้น 15 เมตร” ชายตาบอดสั่ง

"อะไรนะ?" ศาสตราจารย์หยานตะลึงเล็กน้อย

เขาไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ชายตาบอดพูด

“ปู่หลี่ หมายความว่ายังไง?” ความอิ่มเอมใจของหลินอี้ลดลงและเธอก็ขมวดคิ้ว

เขาพูดอย่างสบายๆ “ยกขึ้น 15 เมตร แล้วเธอจะรู้ว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร?”

เธอพูดไม่ออกเล็กน้อย แต่ตอบว่า “ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถเห็นและได้ยินทุกอย่างชัดเจนในตอนนี้”

นี่คือแท่นสังเกตการณ์ และมันก็มีมุมดีสุดสำหรับการชม เทียบกับเวทีการแข่งขัน มันสูงกว่าสี่หรือห้าเมตร

พอมองลงจากฝั่งนี้ เธอสามารถเห็นทุกอย่างที่เกิดบนเวทีได้ชัด

แต่ทว่า เนื่องจากชายตาบอดสั่ง เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเรียกเจ้าหน้าที่ให้ยกแท่นขึ้นอีกสิบเมตร

หลังทำเช่นนั้น ผู้อาวุโสก็หัวเราะลั่น

“น่าสนใจ!ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างตาเห็น..เขาถึงกับหลอกฉันได้...ฉลาดมาก!’

“หมายความว่าไง?”ศาสตราจารย์หยานสับสน

“ดูเองสิ”

ศาสตราจารย์หยานก้มมอง

แวบแรก สายตาเขาก็เปลี่ยนไป

จากนั้น ก้ตามด้วยสีหน้า เขาทึ่ง

“เข้าใจแล้ว!”

ในขณะเดียวกัน หวังเช่อก็ยังคอยออกคำสั่งอสูรเขา

หนอนเขียวปลดปล่อยทักษะวิญญาณพ่นไหมใส่งูหมวกเมฆอีกครั้ง

งูหลบมันอีกครั้ง

ขณะที่หนอนเขียวกำลังจะตัดไหม หวังเช่อก็พลันสั่ง

“ไม่ต้องหลบ ยืนกับที่และป้องกันตัวเอง”

หนอนเขียวสับสน

‘ฉันจะป้องกันได้?’มันคิดกับตัวเอง

หนอนเขียวไม่เข้าใจ แต่ก็เชื่อฟัง

มันพลันขดตัวเป็นวงกลม

ตอนทุกคนเห็นแบบนี้ แม้แต่หลินซีก็ยังตกตะลึง

กลยุทธ์ใหม่?

หรือแค่ป้องกันตัว?

สัญชาตญาณบอกเธอว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แต่การฟาดหางที่งูหมอกเมฆได้สะสมพลังไว้เหมือนลูกศรที่ยืดจนสุดสายแล้ว มันต้องยิง

ไม่มีทางหยุดได้

เหนือสิ่งอื่นใด ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม ครั้งนี้ มันไม่หลบ ถ้ามันโจมตีโดนเป้า ศึกนี้จะจบ

บูม!

โดยไม่ออมแรง การฟาดหางระเบิดใส่หนอนเขียวที่หดตัว!

การระเบิดสั่นสะเทือน

รอยปริแตกเกิดบนเวที ส่งหินจำนวนนับไม่ถ้วนปลิวว่อน

เกิดเมฆฝุ่นและร่างหนึ่งก็ปรากฏ

มันคือหนอนเขียวที่โดนโจมตี!

ถึงแม้มันจะอยู่ในท่าป้องกัน พลังของการโจมตีก็ยังส่งมันบิน

มันตกพื้นห่างไปไม่ไกล

แต่ทว่า เรื่องน่าแปลกคือหนอนเขียวยังยืนได้ แม้มันจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่พอทำให้มันหมดสภาพ

หลินซีขมวดคิ้ว มองหนอนเขียวที่ดูเหมือนกำลังจะแพ้ เธอพลันตะโกน“งูหมวกเมฆ โจมตีมันอีกครั้ง!”

ครั้งนี้ สภาพของหนอนเขียวทรุดลงมาก มันไม่สามารถรับการโจมตีได้อีกแน่

แม้จะมีคำสั่ง แต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเลย

ลางสังหรณ์ผุดในใจหลินซี

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้ทุกคนประหลาดใจ

ควันค่อยๆสลายตัว ทั้งตัวงูหมวกเมฆเผยออกมา มันโดนไหมสีขาวหนาแน่นพัวพันไว้ตรงกลางเวที ป้องกันมันไม่ให้ขยับตัว

“เป็นไปได้ไง?!”

เป็นครั้งแรก หลินซีเสียความเยือกเย็น

เธอไม่อยากเชื่อ

“ฟ่อ!’

อสูรวิญญาณเธอส่งเสียงร้องด้วยความโกรธ

ทุกคนอึ้ง

น่าเสียดาย ไม่มีผู้พากษ์ในงานแข่งนี้

ถึงกระทั่ง ผู้คนก็ยังอึ้งกับสิ่งที่เกิด

“หรือว่า...”

หลินซีตรวจสอบเวทีและสังเกตรอบตัว

ตัวของเธอกระตุกพอเห็นกระจุกไหมขาวที่ปกปิดอย่างแนบเนียนภายในซากหินต่างๆ

พวกมันพันกันอย่างแน่นหนา

มันดูเหมือน...

ใยแมงมุมขนาดใหญ่!

“มันคือใยแมงมุมขนาดใหญ่’ชายชราตาบอดถอนหายใจ”ขณะที่ใช้ทักษะวิญญาณต่อเนื่อง ชายหนุ่มได้วางใยแมงมุมขนาดใหญ่บนลานประลองโดยไม่มีใครสังเกต!”

“นั่นทำให้เขาสั่งให้หนอนเขียวใช้ทักษะพ่นไหม เขาไม่คิดแม้แต่จะใช้มันสู้กับงูหมวกเมฆ มันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและทำให้ศัตรูไม่ทันระวัง”

“ควบคู่กับการทำลายเวทีและฝนหินที่บดบัง มันจึงยากมากที่จะตรวจพบเว้นแต่จะยืนสูงพอและเห็นทั้งเวที สุดท้าย การป้องกันการโจมตีก็คือการอำพรางเพื่อเปลี่ยนตัวมันเป็นเหยื่อ ล่อให้ศัตรูมาติดกับ..”

“น่าประทับใจมาก..เขาวางแผนได้แยบยลขนาดนี้ มันน่าประทับใจจริงๆ”

น้ำเสียงของชายชราเปลี่ยนไป“ในสถานการณ์ที่พลังของสองฝ่ายชัดเจน เขาได้วางกับดักไว้ตั้งแต่ต้นและเปลี่ยนอสูรวิญญาณของเขาเป็นเหยื่อล่อ เขาล่อศัตรูทีละก้าวให้มาเล่นตามเกม..”

“นักล่าที่ฉลาดมักทำตัวอ่อนแอ!”

ศาสตราจารย์หยานถอนหายใจ

เขาไม่ทันสังเกตเช่นกัน นับประสาอะไรกับหลินซี

หลังแท่นสังเกตยกตัว พวกเขาก็จ้องเวทีแข่งขันทั้งหมดจากด้านบน พวกเขาถึงสังเกตเห็นร่องรอยของไหม

หลินอี้ที่ยืนอยู่อีกฝั่งอึ้ง

ปู่ตาบอดคนนี้เป็นใคร?ถ้าแม้แต่คนที่น่าเคารพยังพูดแบบนั้น…

ตอนนี้ ทั้งฝูงชนปั่นป่วน

งานแข่งถ้วยตรัสรู้จัดมาหลายครั้ง แต่การแข่งขันพิเศษนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การโต้กลับนี้ทำให้ทุกคนอึ้ง

แต่ทว่า หวังเช่อไม่ได้มีรอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้า เนื่องจากทั้งหมดนี้เป็นไปตามแผนของเขา

อย่างไรก็ตาม...

มันก็เกิดความเงียบยาวนาน

ใบหน้าของหลินซีแดงเล็กน้อย เพราะเธอติดกับและไร้หนทางต่อต้าน

มันไม่มีทางอื่น

เธอคิดว่าเธอระมัดระวังพอแล้ว แต่ใครจะไปรู้...

“ฉันต้องบอกว่า...หวังเช่อ นายเก่งจริงๆ”หลินซีมองหวังเช่อด้วยความชื่นชม

“ถ้ามันไม่ใช่เพราะรอบก่อน ฉันคงแพ้ไปแล้วภายใต้สถานการณ์ปกติ”

“มันน่าเสียดายที่ในรอบแรก...”

ทันใดนั้น ดวงตาของหลินซีก็แหลมคม

“งูหมวกเมฆได้เข้าใจทักษะวิญญาณธาตุ! แผนของนายไม่สามารถกักขังมันได้หรอก!”

“งูหมวกเมฆ ใช้ระเบิดเมล็ดพันธุ์!”

ทันทีที่เธอพูดจบ

“ฟ่อ!’

อสูรวิญญาณเธอก็ปล่อยเสียงแหลมสูง

จากนั้น ปีกน้อยบนหัวมันก็เริ่มกระพือ

ระเบิดเมล็ดพันธุ์คือหนึ่งในทักษะวิญญาณธาตุของอสูรประเภทหญ้า

มันมีศักยภาพมาก

มันสามารถรวมเมล็ดพันธุ์พลังงานประเภทหญ้าและระเบิดได้ ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง ในเวลาเดียวกัน มันสามารถฟื้นฟูพลังกายกับพลังวิญญาณของผู้ใช้ได้ด้วยส่วนหนึ่ง

มันคือทักษะวิญญาณสิบปีหลักของอสูรประเภทหญ้าที่ผสานทั้งการสร้างความเสียหายและฟื้นฟู

มีแค่อสูรวิญญาณหายากมากอย่างงูหมวกเมฆถึงมีโอกาสทำความเข้าใจมันด้วยฐานบ่มเพาะ 70 ปี ถ้ามันเป็นอสูรประเภทหญ้าตัวอื่น มันจะต้องมีฐานบ่มเพาะอย่างน้อยร้อยปีเพื่อพัฒนาทักษะวิญญาณหลักที่ทรงพลังแบบนี้

จุดเขียวขนาดเท่าเม็ดข้าวบินออกจากปากข้างหูงูหมวกเมฆ

มันเหมือนหิ่งห้อย พวกมันรวมตัวและระเบิดบนใย!

ในชั่วพริบตา ใยแมงมุมที่ใช้เวลาครึ่งวันเพื่อสร้างก็โดนทำลาย

กลุ่มพลังงานค่อยๆผสานเข้ากับตัวงูหมวกเมฆ ช่วยฟื้นฟูพลังกายกับพลังวิญญาณมัน

หวังเช่อไม่แปลกใจ

หากหลินซีบอกว่าเขาชนะ การต่อสู้ก็ควรจบตอนงูหมวกเมฆติดกับ

นั่นคือผลลัพธ์ที่ดีสุด เขายังซ่อนไพ่ตายเขาไว้ได้

แต่ทว่า เขาไม่คิดว่างูหมวกเมฆของหลินซีจะเข้าใจเมล็ดพันธุ์ระเบิดในการต่อสู้รอบก่อน

ก็ได้...

หวังเช่อพอเดาสถานการณ์แบบนี้ไว้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิด

เหนือสิ่งอื่นใด โอกาสที่จะเกิดนั้นต่ำมาก ใครจะไปคิด...

พอระเบิดเมล็ดพันธุ์ปะทุ ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับสู่จุดเริ่มต้น

ทุกคนเงียบ และสถานการณ์ก็พลิกกลับอีกครั้ง

กาต่อสู้ยืดเยื้อเช่นนี้อาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของถ้วยตรัสรู้

แต่ทว่า ครั้งนี้ มันราวกับโต๊ะไม่สามารถพลิกได้อีกแล้ว

มันดูเหมือนผลลัพธ์จะถูกตัดสิน

หลินซีประกาศ“หวังเช่อ นายไม่มีโอกาสอีกแล้ว”

ทุกคนเชื่อขณะที่เผลอพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

ความต่างในสภาพของพวกมันนั้นสูงเกินไป มันไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ

‘ฉันคิดว่าเรายังสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้’

หวังเช่อคิด เหลือบมองหนอนเขียวและตะโกน

“หนอนเขียว แปลงร่าง!”

เขาสั่งมันผ่านกระแสจิตให้ใช้ฮาคิเกราะวิญญาณ!