ตอนที่แล้วEp.99 - พิชิตสุนัขป่าโลกวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.101 - เรดาร์สมบัติ

Ep.100 - สไลม์ใต้ดิน


3/3

Ep.100 - สไลม์ใต้ดิน

สกิลของหวังเอ๋อมีประโยชน์จริงๆ

มันสามารควบคุมมอนสเตอร์ประเภทสุนัขได้!

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขในการควบคุมคือคู่ต่อสู้ต้องอ่อนแอกว่าตัวเอง

สาเหตุที่มันไม่ได้ผลในตอนแรก? เพราะมีมอนสเตอร์ชั้นยอดปะปนอยู่ด้วยนั่นเอง และมอนสเตอร์ชั้นยอดนั้นแข็งแกร่งกว่าหวังเอ๋อ สุดท้ายเลยนำไปสู่การเข้าควบคุมล้มเหลว!

หลังจากไขปริศนาได้ ฮังอวี่ไล่ฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 2 ไปหลายตัว ในที่สุดสุนัขป่าโลกวิญญาณตัวอื่นๆจึงถูกหวังเอ๋อควบคุมได้สำเร็จ

ฮังอวี่เชื่อว่าหากเลเวลของหวังเอ๋อเพิ่มขึ้น และระดับวิวัฒนาการของหวังเอ๋อก้าวสู่ขั้นต่อไป ความสามารถในการควบคุมของมันจะยิ่งทรงพลังกว่านี้

บางทีเมื่อไปถึงจุดหนึ่ง สิ่งที่ควบคุมได้อาจไม่จำกัดแค่เฉพาะมอนสเตอร์สุนัขอีกต่อไป!

“หวังเอ๋อ ตอนนี้นายรู้สึกยังไงบ้าง?”

“เปิ่นหวังควบคุมพวกมันได้แล้ว แต่ดูเหมือนเจ้าพวกนี้จะไม่ค่อยเชื่อฟัง ไม่เหมือนกับเหล่าพี่น้องในตรอกมังกรฟ้า” หวังเอ๋อเห่า “ฮ่ง! ไม่ได้การ เจ้าพวกนี้สมองไม่ค่อยดี เจ้านายอย่าเข้ามาใกล้ ไม่อย่างนั้นอาจถูกโจมตีได้”

หวังเอ๋อทำได้แค่ควบคุมเท่านั้น ยังไม่สามารถทำให้สุนัขป่าเชื่องได้

ทั้งสถานะนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างแรกมันคือการบังคับให้ฟังคำสั่งแบบชั่วคราว หวังเอ๋อต้องใช้งานสกิลอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาการควบคุม

อย่างหลังคือการควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ ต่อให้ไม่เปิดใช้งานสกิล พวกมันก็ยังยอมทำตามคำสั่ง

หนึ่งคนหนึ่งหมาไล่ล่าหาสุนัขป่าอีกหลายฝูง พวกเขาทำกระบวนการเดิมซ้ำๆ ไล่ฆ่าจ่าฝูงเพื่อเข้าควบคุมสมุน จนในที่สุดได้สุนัขป่ามาทั้งสิ้น 18 ตัว

ความจริงพวกเขาเจอสมุนสุนัขป่ามากกว่านี้ แต่ควบคุมไม่ได้อีกแล้ว

เหมือนว่านี่จะเป็นขีดจำกัดในตอนนี้ของฮัสกี้

หากควบคุมเกินกว่านี้ สมุนสุนัขป่าบางตัวจะหลุดการควบคุมและหนีไป

ไม่ว่าจะทำยังไงจำนวนที่ควบคมได้จะอยู่ที่ราวๆ 18 19 ตัวเสมอ

“ฮ่ง! เจ้านาย! ดูนี่สิ ตอนนี้เปิ่นหวังเหมือนราชาหมาป่าแล้วหรือยัง?” ฮัสกี้ยืดอกเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ “มีสมุนขนแดงมากมายขนาดนี้ แต่เปิ่นหวังก็ยังควบคุมพวกมันได้ เดี๋ยวเปิ่นหวังจะโชว์อะไรให้ดู!”

ว่าจบ มันเห่า ฮ่ง ฮ่ง สองครั้ง

สุนัขทั้ง 18 ตัวเคลื่อนไหว ตั้งแถวเรียงหนึ่งโค้งเป็นรูปตัว S  ก่อนสลับเป็นรูปตัว B

แม้จะควบคุมลำบากกว่าหมาจรจัดในตรอกมาก แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม หวังเอ๋อพอใจมาก

“ด้วยสุนัขป่าทั้ง 18 ตัว บวกกับมันสมองอันยอดเยี่ยมของเปิ่นหวังที่เรียนรู้ศิลปะสงครามของซุนวูอย่างแตกฉาน ตอนนี้ต่อให้เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 3 เปิ่นหวังก็สามารถฆ่ามันได้!”

“อย่าแสร้งทำเป็นเก่งหน่อยเลย ในสายตาฉัน ตอนนี้นายยังเป็นแค่ผู้นำหมา ต้องฝึกอีกเยอะ” ฮังอวี่ตำหนิ “เพราะสุดท้ายแล้ว นายยังอ่อนแอเกินไป เอาไว้แข็งแกร่งกว่านี้ ฉันว่านายน่าจะควบคุมพวกมันเพิ่มได้อีกเป็นสิบตัว!”

แม้จะกล่าวแบบนั้น แต่ลึกๆฮังอวี่รู้สึกพอใจมากแล้ว

สุนัขป่าที่ว่องไวราดเปรียวกว่า 18 ตัวอยู่ภายใต้การควบคุมของหวังเอ๋อ

หากให้ฮังอวี่สู้กับพวกมัน ใช่ว่าจะปราศจากความเสี่ยงซะทีเดียว

ด้วยความสามารถนี้ของหวังเอ๋อ ยังมีภารกิจอีกเยอะเฝ้ารอมันในภายภาคหน้า

“ฮ่ง! เจ้านาย เราจะเอาพวกขนแดงพวกนี้กลับไปด้วยหรอ?” หวังเอ๋อนึกได้ถึงปัญหา “แต่ทำแบบนั้นอาจดึงดูดความสนใจคนอื่นๆนะ แถมเปิ่นหวังยังควบคุมพวกมันได้ไม่เต็มที่ ไม่แน่ระหว่างทางอาจหลุดไปทำร้ายใครเข้า”

ถ้าเกิดพวกมันทำร้ายคน ผลที่ตามมาจะเป็นยังไงทุกท่านคงพอเดาได้

แต่โชคดีก็คือ บริเวณที่โซนนี้แทบไม่มีคนมาเดินเพ่นพ่าน ตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกล ดังนั้นภาพที่ฮังอวี่และฮัสกี้เดินนำฝูงหมาเป็นสิบๆตัวจึงไม่แทบถูกใครพบเห็น

...

ณ สถานีรถไฟใต้ดินจินหยินโข่ว

“ฮ่ง! เจ้านายระวัง! บนขั้นบันไดมีมอนสเตอร์ซ่อนตัวอยู่!” หวังเอ๋ออุทานขึ้นมา

ฮังอวี่มองตาม แต่กลับพบแค่ว่าบนขั้นบันไดปราศจากสิ่งใด

ถ้าไม่ใช่เพราะหวังเอ๋อเตือน เขาอาจตรงดิ่งเข้าไปแล้วก็ได้

ด้วยสกิลพรสวรรค์ ‘จิตสุนัขเทวะ’ จมูกของหวังเอ๋อไม่มีทางผิดเพี้ยน เมื่อเขาลองยื่นหน้าจ้องมองใกล้ๆ ถึงค่อยสังเกตเห็นร่องรอยมอนสเตอร์

บนบันไดทั้งหมดตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์  สายตาของฮังอวี่ถูกพวกมันบดบังวิสัยทัศน์อย่างสิ้นเชิง

เขาเพ่งไปทางที่สุนัขเตือน และพบว่ามีของเหลวแปลกๆเคลื่อนไหวอยู่ข้างในนั้น

มันอยู่ในรูปแบบวุ้นที่เหมือนเจลาติน เป็นมอนสเตอร์ที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม

“นั่นมันตัวอะไรกัน?” หวังเอ๋อเห่า “ในความรู้สึกของเปิ่นหวัง พวกมันมีมากกว่าหนึ่งตัว แต่สามารถอยู่รวมกันเป็นแอ่งน้ำได้ น่าทึ่งจริงๆ ฮ่ง!”

ฮังอวี่ตอบ “พวกมันคือสไลม์”

สไลม์เป็นมอนสเตอร์ระดับต่ำที่พบได้ทั่วไป เกือบทุกเมืองใหญ่สามารถหาเจ้าพวกนี้เจอได้

ค่าสเตตัสของเจ้าพวกนี้ค่อนข้างอ่อนแอ แต่ยุ่งยากหากคิดจัดการ

มอนสเตอร์ประเภทของเหลวเช่นนี้มีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือมันมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพ สามารถลดดาเมจที่ถูกทำร้ายได้

หากฮังอวี่คิดกำจัดไสลม์เลเวล 2 ด้วยการโจมตีทางกายภาพแล้วล่ะก็ เอาจริงมันลำบากกว่าการสังหารมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 4 ซะอีก

สไลม์เปลี่ยนจากแอ่งน้ำเหลวๆเป็นก้อน มันเรืองแสงสีเขียวเหมือนเยลลี่ ดูไม่มีพละกำลัง ทั้งยังเคลื่อนไหวเชื่องช้า แม้จะมีความสามารถในการพ่นกรดกัดกร่อนที่สร้างดาเมจได้ไม่เลว แต่ง่ายที่จะหลบเลี่ยง

ตราบใดที่ฮังอวี่ไม่ได้อยู่กลางดงสไลม์กลุ่มใหญ่ ท่าพ่นกรดของมันไม่อาจทำอะไรเขาได้

“นี่คือมอนสเตอร์ที่ฉันตามหาในครั้งนี้”

“เข้าใจแล้ว งั้นให้สมุนสุนัขป่าของเปิ่นหวังจัดการมันไหม?”

“ไม่จำเป็น สไลม์มีพลังชีวิตและพลังป้องกันต่ำ แต่มันมีความสามารถลดดาเมจจากการโจมตีทางกายภาพได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าสู้แบบปกติยากจะกำจัดมัน”

ฮัสกี้รู้สึกหดหู่เล็กน้อย ตัวมันพึ่งเข้าควบคุมสมุนทั้ง 18 ตนได้อย่างยากลำบาก ตอนนี้จึงอยากลองของ แต่ไม่นึกว่าจะเจอมอนสเตอร์แบบนี้เข้า!

“วางใจเถอะ สมุนของนายยังมีประโยชน์อยู่” ฮังอวี่หยิบหน้าไม้โครงกระดูกธาตุน้ำแข็งออกมา จ่ายเก้าหินคริสตัลขาวที่มีราคาแพงแสนแพง

“ตอนนี้ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”

ภาษีโลกวิญญาณสำหรับหน้าไม้สีขาวใสเลเวล 4 นั้นแพงจริงๆ!

ด้วยความหายากของมัน ทำให้ราคาเก้าหินคริสตัลขาวในปัจจุบัน น่าจะตีเป็นเงินมากถึง 20 ล้านหยวน!

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เรียกมันออกมาคือการลงทุน!

เจ้าสิ่งนี้จำเป็นต่อการล่าสไลม์ และวัสดุที่ได้จากสไลม์มีประโยชน์มาก

การลงทุนครั้งนี้จะได้รับผลตอบแทนเป็นสิบ ยี่สิบเท่าในอนาคต!

ฮังอวี่ตระหนักดีว่าต้องใช้การโจมตีด้วยธาตุจึงจะฆ่าสไลม์ได้อย่างง่ายดาย แต่จะเป็นการดีที่สุดหากไม่โจมตีด้วยไฟ

เพราะแม้ไฟจะสร้างดาเมจมหาศาลให้กับสไลม์  แต่หลังจากโดนไฟคลอกแล้ว วัสดุในตัวมันก็จะละลายหายตามไปโดยอัตโนมัติ ไม่สามารถเก็บรวบรวมได้

หวือ หวือ หวือออ!

สามศรหน้าไม้ยิงออกไป

ลูกศรเรืองรองไปด้วยแสงสีขาวนวลเยือกแข็ง ปักลงบนตัวสไลม์แทบจะในวินาทีเดียวกัน

หน้าไม้โครงกระดูกสามารถยิงได้สามลูกติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการโจมตีหรือความสามารถในการยิงออก ทั้งสองมิใช่สิ่งที่หน้าไม้ก็อบลิน , หน้าไม้แบล็ควูด หรืออุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหายจะสามารถนำมาเทียบได้

ร่างสไลม์ถูกเจาะ บางส่วนถูกแช่แข็ง แผ่ไอเย็นออกมา ... นี่คือพลังของหน้าไม้โครงกระดูกธาตุน้ำแข็ง

“ฮ่ง! เจ้านาย อุปกรณ์ชิ้นนี้สุดยอดจริงๆ!”

หวังเอ๋อตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

ฮังอวี่ใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบใส่ศพของสไลม์ แสงเรืองรองเข้าห่อหุ้มมัน ก่อนระเหยกลายเป็นหมอกแสง ไหลเข้ามาบนฝ่ามือเขา รวมตัวกันเป็นของเหลวสีเขียวที่ถูกห่อหุ้มด้วยฟิล์ม

เมื่อได้รับวัสดุนี้ ฮังอวี่ดูตื่นเต้นมาก

ใช่แล้ว!

เจ้าสิ่งนี้ล่ะ!

ถ้าใช้ประโยชน์จากมัน เรื่องบุกค่ายมนุษย์หมูป่าจะไม่ใช่แค่ฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไป!