ตอนที่แล้วบทที่ 5 นั่นคือยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 เรียนที่โรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่ง

บทที่ 6: อาจารย์มหาวิทยาลัยชิงเป็นอาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้*


*(轻飘飘 หมายถึงร่างกายอ่อนแอ แต่ในที่นี้จะหมายถึงการอธิบายสถานะอื่นๆ ที่เทียบไม่ได้กับฐานะอาจารย์)

เฉียวเชินอดไม่ได้ที่จับมือของเหออวี้เจวียนไว้อย่างแน่น สายตาของเธอหันไปมองในทิศทางที่เฉียวเนี่ยนเพิ่งจะเดินออกไป แล้วกระซิบว่า "คุณย่าได้ยินสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดเมื่อกี้ไหม?เหมือนเขาจะบอกว่าปู่แท้ๆ ของพี่สาวนั่งอยู่ในห้องอาหารส่วนตัว..."

แต่ครอบครัวของเฉียวเนี่ยนเป็นคนชนบทไม่ใช่เหรอ?

จะมีปัญญาจองห้องอาหารส่วนตัวของสุ่ยเซี่ยซวนได้ยังไง?

ตระกูลเฉียวต่างก็คิดถึงเรื่องนี้ และสีหน้าของพวกเขาดูไม่สู้ดีนัก อย่างไรก็ตามยังมีคนนอกอยู่ด้วย จึงทำให้พวกเขาไม่สามารถพูดคุยเรื่องบางอย่างได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงแค่ระงับความสงสัย และเดินตามพนักงานเสิร์ฟไปยังสถานที่ที่จองไว้

ในห้องอาหารส่วนตัว

เย่วั่งชวนผลักประตูให้เปิดออก และพบว่าข้างในมีหลายคนนั่งอยู่แล้ว

เธอเดินตามหลังเข้ามาทันที

ดวงตาของชายชราที่นั่งอยู่ในรถเข็นก็เริ่มแดงก่ำทันที แล้วให้ใครสักคนเข็นเขาเข้าไปหาคนตรงหน้า แล้วคว้ามือของเฉียวเนี่ยนอย่างตื่นเต้น ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร น้ำตาของชายชราก็เริ่มไหลลงมาอย่างเงียบๆ "หลานคือเนี่ยนเนี่ยนใช่ไหม? เด็กดี เด็กดี ปู่ตามหาหลานมาตั้งหลายปีในที่สุดก็พบหลานแล้ว! ปู่กลัวจริงๆ ว่าปู่จะตายก่อนได้เจอหลาน ถ้าหาหลานไม่เจอ ปู่จะมีหน้าไปบอกแม่ของหลานได้อย่างไงกัน..."

เฉียวเนี่ยนจ้องมองไปยังชายชราที่มีผมขาวแซมตรงหน้า สีหน้าท่าทางของชายชรานั้นดูเหมือนจะไม่ใช่การเสแสร้ง ดวงตาที่ชุ่มฉ่ำนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา เห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นมากแค่ไหน แม้แต่มือที่กำลังจับเธอก็สั่นเล็กน้อย... เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน อารมณ์ของเธอผันผวนไปตามชายชราที่จับมือของเธออยู่แล้วพูดคุยเรื่องราวต่างๆ มากมาย

ไม่ว่าอย่างไร ปู่เจียงก็เป็นคนที่สามารถฟันฝ่าคลื่นลมแรง* มาได้ ถึงแม้เขาสูญเสียการควบคุมอารมณ์ไปชั่วขณะหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อย่างช้าๆ มีเพียงแค่ดวงตาของเขาที่ยังคงดูเป็นสีแดงอยู่ และสามารถดูออกว่าเขาร้องไห้มาก่อนหน้านี้ เขาคว้ามือของเฉียวเนี่ยนมา แล้วเริ่มแนะนําผู้คนในห้องอาหารส่วนตัวให้รู้จักทีละคน

*(大风大浪 คลื่นใหญ่ลมแรง เป็นการอุปมาว่า อุปสรรคมากมาย)

"เนี่ยนเนี่ยน นี่คือคุณพ่อของเธอ เจียงจงจิ่น ตอนนี้กำลังสอนหนังสืออยู่"

เย่วั่งชวนยกคิ้วขึ้น ยืนพิงกำแพงพร้อมกับดูการแนะนำตัวของปู่

ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิง ปู่แนะนำแบบสบายๆ

เฉียวเนี่ยนเห็นชายคนหนึ่งที่สวมชุดซุนยัดเซ็น* ดวงตามีสีแดง มือกำแน่นราวกับพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง

*(中山装 ชุดประจำชาติจีนของผู้ชายเรียกว่า ซุนยัดเซ็น เป็นชื่อของดร. ซุนยัดเซ็น ที่ได้รับขนานนามว่า "บิดาแห่งชาติสาธารณรัฐจีน" จึงถือเป็นชุดประจำชาติ)

เธอมีความคิดเกี่ยวกับพ่อที่ค่อนข้างคลุมเครือ แต่ดูเหมือนปู่จะต้องการให้เธอเรียกว่าเขาว่าคุณพ่อ เธอเม้มริมฝีปากและจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนแล้วเรียกว่า "คุณพ่อ"

"เฮ้!" ดวงตาของชายวัยกลางคนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แล้วเขาก็หยุดอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะแสดงอารมณ์ออกมา

ปู่เจียงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก เขาค่อยๆ แนะนําสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวให้เธอรู้จัก

"นั่นคือลุงรองกับอาสะใภ้ และพี่สาวของหลาน เซียนโหรว ลุงรองกำลังทำธุระอยู่ข้างนอก เซียนโหรวกับหลานก็อายุพอๆ กัน ส่วนพี่ชายของเธอ หลานก็เคยเจอแล้ว ก็คือเจียงหลี"

เฉียวเนี่ยนมองไปรอบๆ และเห็นเด็กผู้หญิงอายุพอๆ กับเธอกำลังยืนอยู่ข้างชายหญิงคู่หนึ่ง สีหน้าของหญิงสาวและแม่ของเธอดูเฉยเมย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพียงพยักหน้าให้ชายชรา และทักทายอย่างไม่เต็มใจ กลับกันผู้ชายคนนั้นยังดี เขาทักทายอย่างเป็นมิตร

"ลุงรองกับอาสะใภ้" เฉียวเนี่ยนพูดออกมาอย่างช้าๆ

ใบหน้าของปู่เจียงเต็มไปด้วยความสุข เขาไม่ได้ขอให้เฉียวเนี่ยนกลับเข้ามาในครอบครัวนี้ทันที แต่เขารู้สึกพอใจที่เห็นว่าเฉียวเนี่ยนไม่ได้ต่อต้านเขา!

เขาจับมือเฉียวเนี่ยนทันทีและพูดว่า "หลานหิวไหม? ยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลยใช่ไหม? มาๆ กินก่อนสิ จงจิ่น ให้บริกรเสิร์ฟอาหารได้แล้ว"

"ครับ"

ครอบครัวมีความสุข* กับอาหารค่ำในคืนนี้ และปู่ก็ตักอาหารให้เธอไม่หยุด

*(其乐融融 มีความสุข)

ในทางกลับกันก็ถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตของเธอ

ตราบใดที่เขาถาม เฉียวเนี่ยนก็ต้องตอบทุกคําถาม แม้ว่าคําตอบจะสั้นมากก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่คำพูดธรรมดา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด