ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0023
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0025

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0024


บทที่ 9 หมาล่าเนื้อซอจีอา (3)

* * *

การเอาชนะเมดูซ่าไม่ใช่เรื่องยาก แม้สมรรถภาพร่างกายของพวกมันจะค่อนข้างสูง แต่ถ้ามีพลังกัดกร่อนโลหะ อีกฝ่ายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ตึงมือ

ฉันจึงจงใจปล่อยให้ถูกพาตัวไป

ไม่มีสัตว์ชนิดใดคิดว่าจะถูกอาหารซัดเข้าที่ท้ายทอย นั่นคือเหตุผลที่เมดูซ่าประมาท

ฉันค่อยๆ กัดกร่อนโลหะจากข้างใน และลอบเข้าไปโจมตีจุดตาย

ง่ายๆ แค่นั้น

ฉันมองไปทางถุงผ้าที่วางพิงกำแพงไว้

“…น่าเสียดาย”

หากได้พลังของเมดูซ่ามาครอง ขอแค่สัดส่วนเล็กน้อย นั่นจะมีประโยชน์อย่างมาก

แต่น่าเสียดาย เลือดของพวกมันมีความเป็นพิษสูงจนหมดสิทธิ์ดื่ม

แต่ฉันได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว

“ลิลี่ เก็บมาครบไหม”

“ฉันกลายเป็นคนเก็บหญ้าแล้วสินะ”

ลิลี่นำใบไม้และแมลงที่ยังมีชีวิตออกจากถุงผ้า

เธอเคยบ่นที่จู่ๆ ก็ถูกให้ใช้จับแมลง แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามแต่โดยดี

ฉันกล่าวพลางกางปากถุงผ้าที่นำกลับจากเหมืองร้าง

“มันค่อนข้างน่าขนลุก ถ้าเธอไม่อยากดู จะปิดตาก็ได้”

ลิลี่พยักหน้ารับ แต่คงเพราะพ่ายแพ้ต่อความอยากรู้อยากเห็น จึงแอบเหล่ตามอง

“อะ…!”

จากนั้นก็รีบก้มหน้ากลับไป

ไม่ใช่เพราะมันน่าขยะแขยง แต่เพราะเธอทราบว่าดวงตาของพวกมันมีอำนาจเช่นไร

“เจ้าไปทำอะไรที่ไหนมา…”

“ก็เธอบอกว่าต้องใช้ดีบุกผสาน”

ฉันชี้ไปทางแขนใบมีดทั้งสี่ที่วางอยู่ตรงมุมห้อง

“เธอบอกว่าถ้าจะสร้างอุปกรณ์ ก็ต้องมีดีบุกผสาน”

“แล้วเจ้านี่เกี่ยวยังไง?”

ฉันนำหัวบนสุดในถุงออกมาและกล่าว

“นี่คือเมดูซ่าที่สร้างดีบุกผสาน”

“พิลึกคนจริงๆ”

ลิลี่พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย

“เจ้าน่าจะเป็นคนเดียวที่จับสัตว์ประหลาดตัวนี้เพียงเพราะต้องการดีบุกผสาน”

ฉันหัวเราะในลำคอพลางหยิบหัวหนึ่งออกมา หันดวงตาไปทางกองใบไม้และแมลง

เมดูซ่าซึ่งเป็นสัตว์มีพิษ จะยังไม่ตายทันทีแม้จะถูกตัดหัว

พลังพิเศษของพวกมันยังแสดงผลอยู่ เหมือนกับงูที่แม้จะโดนสับคอ ก็ยังสามารถแว้งกัดสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ

สายตาของกอร์กอนจ้องไปทางใบไม้และแมลง

แกร่กแกร่กแกร่ก—

แมลงเริ่มกลายเป็นดีบุกผสานด้วยเสียงที่ไม่น่าอภิรมย์

“นี่ใช่ดีบุกผสานไหม?”

ฉันมองไปยังหินก้อนตรงกลางระหว่างกลุ่มหินและโลหะ

เมื่อสะท้อนแสงแดด หินรูปร่างแมลงกำลังส่องประกายห้าสี ค่อนข้างงดงามทีเดียว

“นี่คือวัสดุที่ใช้หลอมแขนใบมีดของปรสิต?”

ลิลี่พยักหน้า

“กล่าวกันว่า มันสามารถผสานโลหะสองชนิดที่มีคุณสมบัติต่างกันให้เป็นเนื้อเดียว ข้าเองก็ไม่ทราบรายละเอียด”

“ที่เหลือก็แค่เอาทั้งหมดไปไว้ในป่าเบอร์มิวด้า?”

ขั้นตอนถัดไปคือการเข้าป่าเบอร์มิวด้าพร้อมกับดีบุกผสานและกรงเล็บ

ได้ยินว่าต้องมีพลังของป่าจึงจะทำสำเร็จ

แต่ก่อนหน้านั้น ฉันมีบางสิ่งต้องสะสาง

เมื่อเดินกลับเข้าไปในกระท่อม รูปปั้นขนาดเท่าคนจริงกำลังโดดเด่นเป็นสง่า

หรือระบุให้ชัดก็คือ นั่นไม่ใช่รูปปั้น

“ดูเหมือนจะชื่อซอจีอา…”

เข้าหาฉันด้วยพฤติกรรมน่าสงสัย และไม่ถอดใจแม้จะถูกฉันเมิน

ซอจีอากลายเป็นรูปปั้นที่มอบอารมณ์หลากหลาย สีหน้ากำลังประหลาดใจ ผมปลิวไสว เฮดโฟนถูกเคลือบด้วยโลหะต่างโลกจนมันวาว

“เดี๋ยวนะ เฮดโฟนหูสัตว์…”

ก่อนที่ฉันจะถูกลากไปต่างโลก หรือก็คือเมื่อสองปีก่อน ฉันเคยเห็นคนที่สวมเฮดโฟนหูสัตว์ออกมาเดินในที่สาธารณะแค่ครั้งเดียว

เป็นพวกรสนิยมประหลาดสินะ…

ฉันไม่ได้ใส่ใจนัก จึงเข้าประเด็นสำคัญทันที

หลังจากนำมือวางลงบนศีรษะและเพ่งสมาธิ

ผ่านไปราวห้านาทีเห็นจะได้ โลหะที่ผุกร่อนทยอยปริแตกและร่วงกราวลงพื้นจนเกิดเสียง

ถัดมา

“แฮ่ก…!”

ซอจีอาได้รับอิสระเฉพาะส่วนหัว

เธอมองไปรอบตัวด้วยอาการตื่นตระหนก

จนกระทั่งเห็นใบหน้าของฉัน ดวงตาของเธอกลายเป็นดุร้ายทันที

“นายคิดจะทำอะไร?”

“…”

“คิดจะทำอะไร? ตอบมา!”

“ถ้าเธอตอบคำถามฉันอย่างสุภาพ จะลองคิดดูอีกทีว่าควรช่วยหรือไม่”

“นายไม่รู้หรือว่านี่เป็นอาชญากรรม? ซอนฮู นายคิดจะทำอะไรกับฉัน…”

“ฉันรู้ว่าเธอเป็นฮาวนด์ ไม่ต้องเสแสร้ง”

“…”

ฉันสังเกตเห็นว่า มีชั่วขณะหนึ่งที่สีหน้าซอจีอาเปลี่ยนไป

โปเกอร์เฟซเก่งระดับนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ฮาวนด์ธรรมดา

“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดเรื่องอะไร ทำไมถึงคิดว่าฉันเป็นฮาวนด์…”

ไม่จำเป็นต้องฟังจนจบ

ฉันยกหัวเมดูซ่าเข้าไปใกล้หน้าเธอ

“กรี๊ด! อะไร? เดี๋ยว! หยุด!”

ซอจีอากลายเป็นรูปปั้นที่มีสีหน้าสับสน

* * *

เปรี้ยะ—

ซอจีอาขมวดคิ้วหลังจากแสงแยงเข้าไปในตา

เปลือกนอกถูกกะเทาะอีกครั้ง

“ได้สติหรือยัง”

เช่นเคย คังซอนฮูกำลังนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้

“เดี๋ยวก่อนสิ เรามาเริ่มกันที่…”

แกร่ก—

ซอจีอากลายเป็นรูปปั้นยิ้มแย้ม

* * *

เปรี้ยะ—

“แฮ่ก…!”

“ได้สติหรือยัง”

“ไอ้สารเลว! กล้าล้อฉันเล่นหรือ? ฟังคนเขาพูดก่อน…”

แกร่ก—

ซอจีอากลายเป็นรูปปั้นโกรธ

* * *

เปรี้ยะ—

“แฮ่ก!”

ซอจีอาสูดลมหายใจลึกและมองไปรอบตัว

การถูกขังในรูปปั้นสามารถทำให้คนกลายเป็นบ้า

ในสถานการณ์ที่มองไม่เห็นและมิอาจกระดิกปลายนิ้ว นั่นไม่ต่างอะไรกับนรก

“นายคิดว่าฉันเป็นใคร…”

“ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์”

“…?”

ซอจีอาเพิ่งตระหนักว่าตนถูกแขวนไว้กับบางสิ่ง

และด้านล่างมีฟืนวางกองอยู่

“ฉันคาใจมานานแล้ว สัตว์ที่ถูกเมดูซ่าเล่นงานจะทนต่อความเสียหายภายนอกโดยสมบูรณ์ หรือกล่าวได้ว่ามีพลังป้องกันเป็นเลิศ แต่ฉันสงสัยว่ามันจะป้องกันความร้อนได้ไหม”

“เดี๋ยว… อย่า…”

ยังไม่ทันได้พูดจบ ซอจีอาเห็นคังซอนฮูยกหัวเมดูซ่าขึ้นอีกครั้ง

แกร่ก—

เธอเข้าใจผิดมาตลอด

ชายคนนี้เป็นไอ้ระยำตัวพ่อ

* * *

แน่นอน ฉันไม่ได้คิดจะเผาจริงๆ

ไม่ใช่พวกโรคจิตสักหน่อย ยังพอจะมีมนุษยธรรมหลงเหลืออยู่บ้าง

ย้อนกลับไปครั้งแรกที่เธอกลายเป็นรูปปั้น ฉันกวาดสายตาตรวจสอบสิ่งของที่เธอพกมา

รูปปั้นถูกสร้างอย่างประณีตจนมองเห็นด้านในกระเป๋าเสื้อ และเมื่อพบมีด ฉันก็มั่นใจทันทีว่าเธอคือฮาวนด์

นอกจากนั้น มีเพียงคนของ OWIC ที่รู้ว่าฉันชื่อเต็มว่าคังซอนฮู

แต่ผู้หญิงคนนี้เรียกฉันว่าคังซอนฮูได้ถูกต้อง

กล่าวคือ เธอมีแหล่งข้อมูล และนั่นแปลว่าต้องไม่ธรรมดา

มีโอกาสสูงที่เธอพยายามเข้าหาฉันด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์

ตอนนี้จะใจเย็นลงบ้างไหม?

โลหะถูกนำออกจากศีรษะซอจีอาอีกครั้ง

“แฮ่ก…!”

“ได้สติหรือยัง”

ซอจีอาจ้องฉันด้วยสายตาดุร้าย

ยังทำตาแบบนี้ได้อีก?

จะด่าไหม? หรือถ่มน้ำลาย?

ท่ามกลางการคาดเดา

“ฉันจะให้ความร่วมมือ!”

“…”

“ฉันจะบอกนายทุกอย่าง! และจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในอนาคต! ฉันสาบาน!”

ดูเหมือนว่าจะตั้งสติได้แล้ว

“…มีบางสิ่งที่ฉันยังไม่ได้ถาม เธอคือหัวหน้าของพวกฮาวนด์ที่ลอบจู่โจมฉันใช่ไหม”

“ฉันแค่บอกให้ไปทวงสินค้าคืน ไม่ได้ให้จู่โจมนาย และตอนนี้ก็ล้มเลิกความคิดไปแล้ว”

“แต่ดอกไม้นั่นเป็นของเธอ”

“ก็แค่ดอกไม้ที่ทำให้หลับ! ฉันกำชับให้พวกมันแอบทำอย่างลับๆ ในวงการนี้ ถ้าก่อความวุ่นวายก็จะทำธุรกิจได้ไม่นาน ไม่มีใครโง่ขนาดนั้น! เจ้าพวกบ้านั่นทำตามอำเภอใจ!”

“เธออยากให้ฉันเช็ดเลือดที่ปากแล้วทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น?”

ฉันลองหยั่งเชิงข่มขู่เพราะอยากเห็นอากัปกิริยา แต่กลับต้องผิดคาด สายตาซอจีอาไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

“บอกว่าจะร่วมมือสินะ… รู้จักสมาคมฮาวนด์ใช่ไหม? ได้ยินว่ากลุ่มคนที่หากินในต่างโลกนั่น ปัจจุบันกำลังรุมทึ้งน้ำผึ้งกันอยู่”

สมาคมฮาวนด์คือองค์กรที่มีข้อมูลในมือล้นหลาม

แต่น่าเสียดาย มันเป็นองค์กรปิด

“และน้ำผึ้งก็ถูกเฝ้าโดยผึ้งงาน เพื่อไม่ให้คนนอกเข้าไปเก็บได้… พอดีฉันไม่ชอบโดนผึ้งต่อย ก็เลยไม่ชอบตีรังผึ้งด้วยตัวเอง”

“ฉันเอาน้ำผึ้งออกมาให้นายได้”

แววตาของซอจีอากำลังเปล่งปลั่ง

“ฉันบอกนายได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับสมาคมฮาวนด์ และไม่ใช่แค่ตอนนี้ แต่เป็นตลอดไป!”

“…ทำไมฉันต้องเชื่อเธอ? คนอย่างเธอจะแทงข้างหลังตอนไหนก็ได้”

“หา? นี่นายยังไม่รู้อีกหรือ?”

คำพูดซอจีอาเริ่มทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ

“ไม่รู้เรื่องอะไร?”

“ไม่มีฮาวนด์คนไหนกล้าแตะต้องนายแล้ว และฉันก็ไม่ได้เข้าหานายเพื่อที่จะเล่นงาน… หากฮาวนด์คนไหนคิดจะยุ่งกับนาย OWIC จะจัดการขั้นเด็ดขาดโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ถ้ายังรักชีวิต คงไม่มีใครโง่คิดสั้นแน่”

“หมายความว่ายังไง? อธิบายมา”

“ตอนนี้ OWIC ทำการข่มขู่วงการฮาวนด์ ใครที่แตะต้องนายจะถูกตัดแขนขา”

“…”

แม้จะฟังดูสุดโต่ง แต่ฉันก็พอจะเข้าใจความหมาย

ด้วยเหตุผลบางประการ ละแวกใกล้กับสำนักงานกิลด์ค่อนข้างเงียบในช่วงหลัง

ดูเหมือนว่าจะเป็นฝีมือของ OWIC ที่แอบใช้อิทธิพลเบื้องหลังเพื่อรักษาสัญญากับฉัน

“เธอจะให้ความร่วมมือยังไง? มีหลักประกันไหมว่าจะทำตัวมีประโยชน์?”

“…”

ซอจีอาจ้องหน้าฉันพลางครุ่นคิด

“นายรู้ใช่ไหมว่า OWIC ทำการวิจัยทางทิศใต้ของเบสแคมป์”

“ก็พอรู้… ทางเหนือและตะวันออกถูกปิดตาย ทิศใต้จึงเป็นทางเดียว”

“เดินเท้าลงไปประมาณหนึ่งสัปดาห์”

ซอจีอาเลียริมฝีปาก

“ที่นั่นมีหมู่บ้านของชาวต่างโลก”

“…เล่าต่อไป”

“OWIC ปิดบังเรื่องนี้จากทุกคน และนั่นไม่ใช่แค่อย่างเดียวที่พวกเขาซ่อน”

“OWIC มีความลับเยอะน่าดู”

ซอจีอาพยักหน้า

“คนทั่วไปไม่มีทางจินตนาการออกว่าพวกเขาซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่ไว้มากแค่ไหน แม้แต่ฉันเองก็ไม่รู้ละเอียด… แต่ก็รู้มากกว่าคนอื่น”

บริษัทที่เต็มไปด้วยความลับ

เมื่อลองย้อนนึกดู ชาโซฮีเคยพูดในทำนองเดียวกัน

ทันทีที่เห็นฉันแสดงความสนใจ ซอจีอาเริ่มพรั่งพรูข้อมูล

“ฉันช่วยนายได้แน่ ขอแค่ส่วนแบ่งเล็กๆ ก็พอใจแล้ว ตกลงไหม?”

หลังจากลองไตร่ตรอง

ถ้ามีคนคอยสั่งให้ลูกน้องรวบรวมข้อมูลจุกจิกแทน นั่นคงดีกับฉันไม่น้อย

“หืม…”

นับว่าไม่เลวทีเดียว หากฉันเริ่มเคลื่อนไหวในต่างโลกอย่างจริงจัง คงเป็นการยากที่จะหันไปสนใจฝั่งโลก

การมีมือเท้าคอยสนับสนุนเป็นเรื่องดี ยิ่งมากก็ยิ่งดี

อาจมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมีผลตอบแทน

“ฉันมีเงื่อนไข”

“ได้”

“ถ้าเธอแทงข้างหลังฉันแม้แต่ครั้งเดียว… แค่ครั้งเดียว…”

“จะฆ่าฉัน? ก็เอาสิ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ใช่คนโง่ การผูกมิตรกับนายจะทำให้ฉันมีหุ้นส่วนทางธุรกิจเพิ่ม”

ฉันไม่กล้าพูดว่าฆ่าคนอย่างเต็มปาก ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากทำ

แต่กลับกัน ฉันรู้สึกว่าซอจีอาคุ้นเคยกับสถานการณ์นี้ดี

ฉันทำลายโลหะที่ยังหลงเหลือบนตัวซอจีอา

หลังจากครางแผ่วเบา เธอพูดต่อ

“เจ็บหลังชะมัด… อันที่จริง ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายของฉันคือการร่วมมือกับนาย”

“ทำไมถึงเป็นฉัน?”

“นายแตกต่างจากคนอื่น หลักฐานพิสูจน์คือการที่พวก OWIC น้ำลายไหลขนาดนี้”

จากนั้น เธอมองไปรอบๆ ด้วยสายตาผ่อนคลาย กดปุ่มบนเฮดโฟนและโบกมือลา

“แล้วพบกันใหม่นะที่รัก จริงสิ… เกือบลืมของสัมมนาคุณครั้งแรก…”

ซอจีอาแหงนมองท้องฟ้า จมอยู่กับความคิดสักพักก่อนจะเปิดปาก

“หมู่บ้านทางทิศใต้เป็นพวกคลั่งศาสนา”

“ศาสนา?”

“ศาสนาที่นับถือ ‘วิลสัน’ ผู้พเนจรแห่งผืนนภา ฟังแล้วก็พิลึกดี”

…วิลสัน?

* * *

“ไปไหนมาครับ?”

ลูกน้องของซอจีอาเดินเข้ามาทักหลังจากเธอหายตัวไปเป็นวัน

“ทำธุระ”

“ธุระอะไรครับ? งานใหม่หรือ? ทำไมไม่ให้เด็กๆ ไปทำแทน…”

ซอจีอาจ้องหน้าลูกน้องด้วยสายตาเย็นชา

“ยังกล้าพูดแบบนี้หลังจากเด็กของนายทำสินค้าของฉันหาย?”

“ขอโทษครับ ผมจะสั่งสอนเด็กๆ ให้ดีกว่านี้”

“ช่างเถอะ จัดการงานในมือให้เรียบร้อยก็พอ เผื่อนายไม่ทราบ ตอนนี้เรากำลังโดน OWIC เพ่งเล็ง ต้องระวังตัวให้มาก อย่าทำตัวโฉ่งฉ่างจนกว่าฉันจะมีคำสั่งใหม่”

“เข้าใจแล้วครับ”

“ฉันจะอาบน้ำ อย่าเข้ามา”

“ครับ”

ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อและผงโลหะ นอกจากนั้นยังได้รับบาดแผลขณะดิ้นรนจนปวดแปลบบริเวณเอว

ซอจีอาเดินเข้าห้องน้ำ ลงกลอนและถอดเสื้อผ้า

เสื้อผ้าชุ่มเหงื่อมอบความรู้สึกไม่น่าพิสมัยเลยสักนิด

เหลือแค่ชั้นใน เธอมองเข้าไปในกระจก

“…เป็นแบบนี้ได้ยังไง”

เธอเก่งกาจในการปรับตัวและทำธุรกิจในทุกสถานการณ์

ซอจีอาภูมิใจในไหวพริบและฝีมือของตนมาก นานแล้วที่ไม่ถูกเล่นงานหนักหน่วงเช่นนี้

อย่างไรก็ดี เธอไม่ใช่พวกยึดติดกับความผิดพลาด

ขอแค่ทำกำไรจากสถานการณ์ปัจจุบันได้ก็พอ

เธอคิดเช่นนั้น

เปิดน้ำใส่อ่าง จ้องกระจกสักพักก่อนจะหมุนตัวหนึ่งรอบ

“…?”

เธอเพ่งกระจกอีกครั้ง

อักขระบางอย่างที่มองไม่เห็นจากด้านหน้า

“นี่มันอะไร?”

ซอจีอาพบว่าลวดลายบางอย่างถูกสลักไว้เหนือสะโพก

ลายเดียวกับภาพบนกระดาษที่เคยเผาสำนักงานจนวอดวาย

และในตอนนั้น เศษกระดาษนั่น

คือสิ่งที่คังซอนฮูส่งมา

“…”

หญิงสาวพยายามข่มความอึดอัดที่กำลังถาโถม

* * *

เมื่อครั้งยังดิ้นรนอยู่ในป่า ฉันเคยถูกผึ้งจู่โจม

อาจมีคำถามว่าแล้วมันแปลกยังไง เข้าป่าก็ต้องโดนผึ้งต่อยเป็นธรรมดา

ปัญหาก็คือ ผึ้งตัวนั้นสูงเท่าเข่า

หลังจากต่อสู้เลือดตาแทบกระเด็น ฉันได้เรียนรู้ว่าพวกมันไม่ได้แข็งแกร่งหรือฉลาดอย่างที่เข้าใจ

ผึ้งยักษ์มักติดกับดักและกลายเป็นอุปกรณ์หรืออาหารให้ฉันเสมอ

ผ่านไปไม่นาน ความคิดหนึ่งผุดขึ้น

“ฉันตั้งใจปล่อยผึ้งตัวหนึ่งกลับไป”

“ตั้งใจปล่อย?”

ลิลี่ถาม

“ผึ้งมีแนวโน้มที่จะขอความช่วยเหลือ ฉันจึงผูกด้ายไว้ที่เอวของมัน หลังจากนั้นก็หารังพบได้ง่ายๆ”

“แล้วทำยังไงต่อ?”

“ขึ้นอยู่กับสถานการณ์… จะปล่อยให้เป็นห่านที่ออกไข่ทองคำไปเรื่อยๆ ก็ได้ หรือถ้ารีบก็ไปเก็บไข่กลับมาในคราวเดียว”

การเปรียบเปรยด้วยห่านออกไข่ทองคำไม่ใช่สิ่งที่ลิลี่เข้าใจได้ทันที ต้องจมอยู่กับความคิดสักพัก

แต่ก็อย่างที่กล่าวไป ซอจีอาเป็นได้ทั้งห่านออกไข่ทองคำทีละฟอง และตู้เซฟที่ผ่าท้องแล้วได้ไข่ทองคำหลายสิบฟองในคราวเดียว

ยังไม่ต้องด่วนสรุปว่าเป็นแบบใด เพราะฉันสลักคำว่า ‘มาร์คmarlk’ ไว้บนตัวเธอแล้ว

สามารถแกะรอยซอจีอาได้ง่ายดาย เหมือนกับที่แกะรอยหัวใจป่าในการสอบใบอนุญาต

ซอจีอาในปัจจุบันคือผึ้งที่ถูกปล่อยกลับรังโดยมีด้ายผูกเอว

ระหว่างกำลังสนทนา ฉันยื่นลูกโป่งฮีเลียมให้ลิลี่

“ลิลี่ เธอเรียกมันว่าอะไร?”

“ลูกโป่ง”

ลิลี่ตอบอย่างมั่นใจ

“พวกเธอก็เรียกว่าลูกโป่ง?”

“…ไม่เหมือนเสียทีเดียว แต่ก็พอจะเดาได้”

“ตามปรกติแล้ว ลูกโป่งทำจากอะไร?”

“เครื่องในสัตว์ ส่วนมากจะเป็นกระเพาะปัสสาวะ”

“ใช้ลูกโป่งทำอะไร?”

“นักแปรธาตุมักใช้เก็บแก๊ส… ถามทำไม?”

ฉันเบือนหน้าไปด้านข้าง

พอจะรู้อยู่แล้วว่าในต่างโลกก็มีลูกโป่ง และไม่ผิดจากที่คิด รูปร่างและประโยชน์การใช้งานไม่เหมือนของโลก

ฉันออกไปข้างนอกและปล่อยลูกโป่งลอยขึ้น

ลอยขึ้นไปบนฟ้า

ตามปรกติแล้ว ลูกโป่งจะลอยจนถึงจุดหนึ่งและระเบิดออก หรือไม่ก็ถูกลมพัดไปตกที่ใดสักแห่ง และกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมในสภาพแวดล้อม

“…ผู้พเนจรแห่งผืนนภา”

วิลสันที่ลอยขึ้นฟ้าในวันนั้น กำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด