ตอนที่ 185 คนเข้าใจสถานการณ์คือคนฉลาด

“ว่าไงนะ? สารเลวอย่างมันควรได้รับคำขอโทษจากฉันเหรอ?” จางเฟยไม่ไว้หน้าเย่เทียนแม้แต่น้อย ทำไมต้องขอโทษนักต้มตุ๋นที่มาโกงคริสตัลพาเลซเมื่อคืนด้วย?

และอย่างไรเขาก็เป็นถึงเจ้าของที่นี่ ถ้าเขาขอโทษนักต้มตุ๋นที่ปฏิเสธจ่ายเงินหลังได้รับบริการต่อหน้าหมอนวดสาวหกคนที่เพิ่งไล่ออกไป เขาจะมีหน้าอยู่ในธุรกิจนี้ต่อได้ยังไง? แบบนี้พ่อจะไม่กลับมาลงดาบเขาเหรอ?

จางเฟยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจไม่ขอโทษนักต้มตุ๋น

“ฉันจะพูดอีกครั้ง ขอโทษซะ!” เย่เทียนมองจางเฟยที่อยากรับเงินแต่ไม่อยากขอโทษ การพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงไม่ดีและเรียกเขาว่าคุณเย่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่เพิกเฉยได้ แต่การทำผิดต่อพี่น้องเขาและโยนโทรศัพท์ทิ้งเย่เทียนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด!

ขอโทษซะ ถ้าไม่ขอโทษก็อย่าว่าเขารังแกกันเกินไป!

ร้านเล็กๆอย่างคริสตัลพาเลซไม่จำเป็นต้องถึงมือหรูเยียนเลย แค่‘เซียนอ้วนผอม’อย่างฉินเยี่ยนกับผางเหว่ยก็จัดการได้ง่ายๆแล้ว

แต่เย่เทียนมั่นในความสามารถของนักต้มตุ๋นที่ให้ชื่อเล่นฉินเยี่ยนกับผางเหว่ย เขาเอาชื่อเซียนอ้วนผอมมาจากหนังต่อสู้ ฮ่าฮ่า...ตอนได้ยินครั้งแรกเขาแทบกลั้นหัวเราะไม่ได้ ถ้าเจียงเซิ่งเฟิงกับจื่อฉีรู้ชื่อนี้ของพวกเขา ชื่อนี้จะกระจายในแวดวงพวกเขาเลยหรือเปล่า?

“เย่เทียน ฉันไม่สนว่านายหลอกคุณฉินกับคุณเหว่ยให้มาติดตามได้ยังไง แต่วันนี้ฉันได้รู้แล้วว่านายมันก็แค่คนบ้านนอก ฉันได้ยินจากลูกพี่ลูกน้องมาว่าเขาเป็นเพื่อนเก่าชั้นประถมของนายใช่ไหม? แกกล้าดียังไงถึงมาหลอกคุณฉินกับคุณเหว่ยด้วยความสามารถหลอกลวงเล็กน้อยของแก? คุณเย่บัดซบอะไร เงินหนึ่งล้านนี้ถือเป็นเงินที่พี่ชายนักต้มตุ๋นของแกใช้บริการหมอนวดร้านฉันแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน แถมยังทำเรื่องใหญ่โตจนเข้าถึงสถานีตำรวจ แต่นายน้อยคนนี้เป็นคนใจกว้างดังนั้นจะไม่สนใจเรื่องของแกอีก แกรีบพาพี่ชายแกไสหัวออกซะ ต่อจากนี้ไปคริสตัลพาเลซจะไม่ต้อนรับคนชั้นต่ำแบบพวกแกอีก”

หลังจากจางเฟยเตือนเย่เทียนกับนักต้มตุ๋นด้วยความโกรธ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจที่จะปล่อยพวกเขาไปง่ายจึงคว้าคอเสื้อเย่เทียนโดยไม่ให้โอกาสฉินเยี่ยนและผางเหว่ยหยุดเขา น่าเสียดายที่เขาสูงไม่เท่าเย่เทียนเลยทำได้แค่ปล่อยมืออย่างสิ้นหวังและกลับสู่ท่าเดิม ส่วนฉินเยี่ยนและผางเหว่ยจางเฟยยังพูดกับพวกเขาด้วยความเคารพ “คุณฉิน คุณเหว่ย ฉันมีเรื่องเล็กน้อยต้องจัดการดังนั้นคงไม่ขอให้พวกคุณรออยู่ตรงนี้ การใช้จ่ายของพวกคุณในวันนี้ฉันจะรับผิดชอบเอง”

ผางเหว่ยเห็นจางเฟยคว้าคอเสื้อเย่เทียนและต้องการยกขึ้นจึงรีบวิ่งไปตบหน้าจางเฟย เมื่อจางเฟยกำลังมึนงงอยู่ผางเหว่ยจึงใช้โอกาสนี้บีบข้อมือจางเฟยสุดแรงจนเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“อ๊าก...เจ็บเจ็บเจ็บ คุณเหว่ยหมายความว่ายังไง? ฉันไม่เคยยั่วยุคุณนะแล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้? เย่เทียนมันเป็นนักต้มตุ๋น มันเป็นแค่คนบ้านนอกจริงๆ ถ้าคุณกับคุณฉินไม่เชื่อก็ลองเรียกลูกพี่ลูกน้องฉันมาถามได้เลย มันก็แค่...มันก็แค่...โอ๊ย ปล่อยข้อมือฉันคุณเหว่ย ข้อมือมันจะหักแล้ว โอ๊ย...”

ผางเหว่ยเป็นเหมือนคนหูหนวกที่ไม่สนใจเสียงร้องอันเจ็บปวดของจางเฟย และบอกให้อีกฝ่ายทำตามคำสั่งของเย่เทียน “ทำตามที่พี่ชายบอก ไม่อย่างนั้นบอกลามือข้างนี้ได้เลย”

จางเฝยเจ็บมากจนหน้าผากหลั่งเหงื่อเย็น เจ้าคนพาลนี่มันมาจากไหนเนี่ย? จางเฟยขอร้องให้ผางเหว่ยปล่อยเขาไปด้วยสีหน้าย่ำแย่ “ฉันผิดไปแ           ล้วคุณเหว่ย ปล่อยฉันทีเถอะ จากนี้ไปฉันจะไม่อวดดีต่อหน้าคุณกับคุณฉินอีกแล้ว คุณสองคนสามารถมาใช้บริการฟรีที่คริสตัลพาเลซเมื่อไหร่ก็ได้...”

“เหล่าฉิน หลานชายคนนี้มันดูถูกพวกเรา พวกเราเหมือนคนมานวดแล้วไม่จ่ายเงินหรือไง? ถ้าเรื่องนี้กระจายไปในไห่จิงแล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”

ฉินเยี่ยนที่ขมวดคิ้วอยู่นานบอกให้เย่เทียนนั่งพักสักครู่โดยไม่มองจางเฟยว่าโดนหักข้อมือไปแล้วหรือยัง เขาไม่สนใจเพราะเขาอยู่กับผางเหว่ยมาหลายปีจึงรู้ว่าไซจูเก๋อคนนี้คำนวณเอาไว้ทุกอย่าง ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นกับจางเฟยหลังจากนี้เขากับเย่เทียนจะรอดู เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรพวกเขาก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี

“น้องชาย เป็นแบบนี้ต่อไปจะดีเหรอ? พี่อ้วนคนนั้นจะไม่หักข้อมือของผู้จัดการจางจริงๆใช่ไหม? เขาเป็นผู้จีดการของคริสตัลพาเลซนะ ถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาเราต้องจ่ายเงินมหาศาลหรือเปล่า? น้องชายบอกหน่อยสิว่าเรายังมีเงินเหลือมากพอไว้ใช้พัฒนาบริษัท...”

นักต้มตุ๋นเห็นผางเหว่ยอยากบีบข้อมือจางเฟยจนหักเลยกลัวว่าเย่เทียนจะไม่มีเงินพอชดใช้ให้จางเฟย และเขาอาจต้องใช้เงินที่หามาจ่ายแทนจึงเข้าไปกระซิบกับเย่เทียน

ก่อนหน้านี้เย่เทียนเขียนเช็คให้จางเฟยซึ่งถือเป็นค่าชดเชยสำหรับปัญหาของเขากับคริสตัลพาเลซ แต่ถ้าคราวนี้ข้อมือจางเฟยหักเย่เทียนจะใช้เงินชดเชยเพื่อทำให้เรื่องง่ายขึ้นได้อีกไหม? ต่อให้เป็ฯตัวเขาเองก็คงจะมีไม่ได้

เย่เทียนอารมณ์ดีขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของนักต้มตุ๋น เขาหัวเราะอยู่ในลำคอและคิดว่าผู้ชายคนนี้เหมาะกับคำว่า'คนเข้าใจสถานการณ์คือคนฉลาด'จริง ๆ

แต่ตราบใดที่มีเขา ฉินเยี่ยน และผางเหว่ยอยู่นักต้มตุ๋นก็ไม่จำเป็นต้องกลัว เขาอยากทำอะไรก็ทำไปพวกเขาจะรับผิดชอบเรื่องเงินเอง

ส่วนจางเฟยที่มองว่าภูมิหลังเขาด้อยกว่า ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องขอโทษต่อให้ไม่อยากทำก็ตาม!