ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0021
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0023

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0022


บทที่ 9 หมาล่าเนื้อซอจีอา (1)

* * *

สตรีคนดังกล่าวยืนกระวนกระวายสักพัก ราวกับลังเลที่จะจ้าง

ฉันจึงเป็นฝ่ายทักกลับไป

“มีอะไรในใจหรือครับ?”

“เอ่อ… เกี่ยวกับค่าจ้าง…”

ค่าจ้าง

ฉันคิดมาตลอดว่าจะไม่จริงจังกับธุรกิจ แค่ทำเพื่อเลี้ยงปากท้องไปวันๆ ไม่เคยคิดมากไปกว่านั้น จึงปวดหัวทุกครั้งเมื่อคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรกับค่าจ้างดี

เพราะการตั้งราคาต้องมีหลักการและมาตรฐาน ฉันไม่สามารถพูดออกไปว่า ‘ขอแค่ค่ารถก็พอครับ’

เงินก็สำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง

ถ้าฉันรับงานจุกจิกทั้งหมดโดยไม่คัดกรอง เวลาในชีวิตอาจหมดไปกับการทำงานโดยไม่ได้ออกไปทำตามความฝัน

ดังนั้น

“สามสิบล้านวอน” (ประมาณแปดแสนบาท)

ฉันเรียกให้สูงเข้าไว้

ในความเป็นจริง ฉันไม่ได้หิวเงิน แต่เป็นการหยั่งเชิงว่าตัวเองตั้งราคาสูงไปหรือไม่ หากพิจารณาแล้วว่าแพงหรือถูกเกินไปก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต

ในท้ายที่สุด ฉันจะได้บรรทัดฐานค่าจ้างของตัวเอง และจะไม่ลดราคาหากไม่มีเหตุผลที่มากพอ อีกทั้งยังไม่ต้องปวดหัวกับการต่อรองค่าจ้าง

นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด

ผู้หญิงคนดังกล่าวลังเลสักพักก่อนจะพยักหน้า

“นั่นคือเงินก้อนสุดท้ายของเรา… แต่ถ้าช่วยชีวิตสามีได้ ฉันยินดีจ่ายให้”

หงึก

ฉันตอบตกลง ภายในใจอดคิดไม่ได้ว่าตนกำลัง ‘ปอกลอก’ อีกฝ่ายอยู่หรือไม่

“ไปกันเลยไปไหม? อยู่ไกลรึเปล่า?”

สตรีคนดังกล่าวส่ายหน้า

“อยู่ในโรงพยาบาลใกล้กับประตูมิติ ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่า ในกรณีนี้เรียกว่าแอดมิตโรงพยาบาลได้ไหม…”

แอดมิต?

เมื่อลองนึกทบทวนดู ฉันยังนึกไม่ออกว่าประเทศนี้จัดการกับเหยื่อที่กลายเป็นรูปปั้นในลักษณะใด

ถ้าเห็นแล้วก็คงรู้เอง

เมื่อไม่ต้องพกสัมภาระ ฉันสวมแจ็กเกตและเตรียมเดินเท้าไปยังประตูมิติ

แต่ก่อนหน้านั้น ฉันย้ายปรสิตเข้าไปในห้องและปิดประตูให้มิดชิด

ไม่แน่ใจว่าจะมีไอ้บ้าที่ไหนพังกระท่อมเข้ามาอีกหรือไม่ แต่เนื่องจากติดตั้งกับดักไว้แล้ว ผู้บุกรุกคงได้ไม่คุ้มเสีย

ว่ากันตามตรง ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าผู้บุกรุกจะรอดชีวิตจากกับดักหรือไม่ แต่การบุกรุกบ้านคนอื่นย่อมต้องได้รับโทษเป็นธรรมดา

“นั่นคืออะไรหรือคะ”

“ไม่ต้องสนใจหรอกครับ ไปกันเถอะ”

ลูกค้าที่แตกตื่นเมื่อเห็นศพสัตว์เลื้อยคลานอัปลักษณ์ จ้องมองอยู่สักพักก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี

* * *

มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ไม่ไกลจากประตูมิติ

โรงพยาบาลเอกชนที่คอยดูผู้บาดเจ็บในต่างโลก ได้ยินว่า OWIC ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

เป็นบริษัทที่เข้าไปยุ่งกับทุกเรื่องจริงๆ …

เมื่อเดินผ่านทางเข้าโรงพยาบาล ฉันได้ยินเสียงเอะอะจากทุกทิศ

“โอ้ย! เจ็บนะ! ฉันแค่ขึ้นเรือไปตกปลาตามปรกติ พอรู้ตัวว่าเป็นแบบนี้ก็รีบกลับทันที!”

เพี้ยะ!

“โอ้ย! ทำไมต้องโมโหด้วย? ฉันไม่ได้บาดเจ็บหนักสักหน่อย”

“บาดเจ็บก็คือบาดเจ็บ! ถ้ามีอีกครั้ง ฉันจะหักเบ็ดตกปลาหรืออะไรเทือกนั้นทิ้งให้หมด! นั่นคือวิธีแก้ปัญหาของฉัน!”

เพี้ยะ!

ลุงนักตกปลาที่ฉันได้พบในครั้งแรกที่เดินทางมายังต่างโลก กำลังโดนใครบางคนตบหลังชุดใหญ่

เมื่อเห็นแขนข้างหนึ่งกลายเป็นสีเหลือง ฉันคิดว่านั่นอาจเป็นพิษจากตะไคร่น้ำสีแดง

นอกจากเขา ยังมีกลุ่มคนที่ป่วยจากอาการพิสดารซึ่งไม่เคยพบเจอบนโลกมนุษย์ กำลังส่งเสียงร้องครวญคราง

ทั้งหมดเป็นอาการบาดเจ็บจากการใช้ชีวิตในต่างโลกด้วยความประมาท ในกรณีแผลทั่วไป หมอสามารถรักษาได้ไม่ยาก แต่ก็ยังมีอาการป่วยอีกหลายชนิดที่อยู่นอกเหนือจินตนาการ

“ทำไมลูกผมถึงเป็นแบบนี้?”

“อิฮิฮิฮิ! สายรุ้ง! สายรุ้ง!”

ผลข้างเคียงจากการได้รับพิษกะทันหัน ส่งผลให้เหยื่อเสียสติหลังจากข้ามประตูมิติ

“เอ่อ… หมอ ผมจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“แน่นอน”

“คราวที่แล้วก็พูดแบบนี้”

คุณลุงที่กินอะไรแปลกๆ เข้าไปจนหน้าเขียว เล่าว่าเมื่อคืนกำลังเมาและพยายามทำกับแกล้ม

โชคดีที่อาการส่วนใหญ่สามารถหายเป็นปรกติหรือไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ขอแค่กินอิ่มและพักผ่อนให้เพียงพอ

“แค่เห็นก็ท้อแทนหมอแล้ว… แต่ก็เข้าใจได้”

ทำไมถึงดันทุรังมาเที่ยวต่างโลกทั้งที่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้รออยู่? หากมีใครมาถามแบบนี้ ฉันคงตอบกลับไปอย่างมั่นใจ

ก็เหมือนกับพวกนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ไม่เคยหยุดเล่น ทั้งที่มีข่าวคนตายให้ได้ยินทุกปี

“ทางนี้ค่ะ”

ฉันเดินผ่านกลุ่มคนไข้ที่ส่งเสียงอื้ออึง และแหวกผ่านฝูงชนจนกระทั่งมาถึงมุมหนึ่ง

เข้าใจได้ว่าทำไมมุมนี้ถึงมีคนมุงอยู่เยอะ

สีหน้าอันตกตะลึงและท่วงท่าราวกับกำลังหนี

รูปปั้นที่ไม่มีใครทราบวัสดุ

ประเด็นสำคัญก็คือ ข้างในมีคนอยู่

เหยื่อของเมดูซ่า สามีของลูกค้า

มีคนจำนวนมากกำลังยืนมุงดู

“หืม คนใหม่อีกแล้ว?”

“ใช่ ภรรยาของเขาจ้างคนมาช่วยสามีไม่ซ้ำหน้า”

เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น

“ได้ยินว่าใกล้จะหมดเนื้อหมดตัวแล้ว”

“คราวนี้จะใช้ยาแบบไหนอีก?”

ฉันแทรกตัวผ่านฝูงชนเข้าไปโดยไม่กล่าวคำใด จนกระทั่งยืนอยู่ข้างรูปปั้น

พยาบาลคนหนึ่งกำลังยืนจ้องรูปปั้นด้วยสีหน้าซับซ้อน

ฉันตัดสินใจถาม

“เหยื่อยังมีชีวิตอยู่ไหม”

“ค่ะ… คุณเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือคะ?”

หงึก

เนื่องจากถูกจ้างมา ฉันจึงเป็นผู้เกี่ยวข้องอย่างชอบธรรม

พยาบาลพยักหน้ารับและเล่าต่อ

“เขายังมีชีวิตอยู่ค่ะ… แม้จะไม่ได้กินอะไรเลยตลอดหนึ่งสัปดาห์ แต่ก็โชคดีมากที่ยังรอดมาได้…”

นั่นล่ะเมดูซ่า

ฉันหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เคยดิ้นรนในต่างโลก

ครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ร้าย กินแร่เป็นอาหาร ท่อนล่างเป็น งูท่อนบนคล้ายมนุษย์

แต่แน่นอน โดยรวมใกล้เคียงกับสัตว์เลื้อยคลานมากกว่า ฉันตั้งชื่อให้มันว่าเมดูซ่า

ประเด็นสำคัญก็คือ หากอยู่ในระยะสายตา เมดูซ่าสามารถปล่อยคลื่นที่เปลี่ยนให้สิ่งมีชีวิตกลายเป็นโลหะได้ ไม่จำเป็นต้องจ้องตาเหมือนกับในตำนาน

ส่วนจะถูกเปลี่ยนให้เป็นโลหะแบบใด นั่นขึ้นอยู่กับเมดูซ่าแต่ละตัว

บางตัวก็เป็นหิน บางตัวก็เหล็ก บางตัวก็ทอง บางตัวก็เป็นโลหะที่ฉันไม่รู้จัก

มองไปทางเหยื่อ ฉันพึมพำโดยไม่รู้ตัว

“…โล่งไปที”

“อะไรนะ?”

ลูกค้าและพยาบาลจ้องหน้าฉันราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่พูด

หากเหยื่อตรงหน้ากลายเป็นหิน ฉันคงจนปัญญา

โชคดีที่เป็นโลหะ และนั่นคือสาเหตุที่โล่งใจ

“คุณรักษาได้หรือ?”

ขณะฉันเดินเข้าไปใกล้โดยไม่ตอบลูกค้า พยาบาลรีบหลีกทางให้

บรรจงวางมือลงบนผิวของเหยื่อ

แกร่ก—

ฉันเริ่มได้ยินเสียงปริแตกในบริเวณที่ฝ่ามือสัมผัส

ต้องค้างไว้แบบนี้สักสองสามนาที จึงจะกัดกร่อนในระดับที่สามารถกะเทาะเปลือกออก

ก็แค่ใช้เวลาสักหน่อย ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าฉันรักษาได้

ตำแหน่งแรกที่ฉันเล็งทำลายคือใบหน้า แต่นั่นไม่ได้เกี่ยวกับการหายใจ เพราะอีกฝ่ายยังมีชีวิตแม้จะผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์

ฉันแค่คิดว่าเหยื่อน่าจะอยากให้ทำลายตำแหน่งนี้มากที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น การถูกปิดกั้นการมองเห็นเป็นเวลานานจะทำให้มนุษย์เครียด

หากคิดจะพังทั้งตัวคงเสียเวลาไม่น้อย จึงต้องเรียงลำดับความสำคัญอย่างเหมาะสม

เปรี้ยะ—

ผ่านไปราวสามถึงห้านาที ในที่สุดโลหะบริเวณใบหน้าเหยื่อก็แตกออก เผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ยังมีชีวิต

“แฮ่ก…!”

ผงโลหะปะปนกับหนวดที่ไม่ได้โกนมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์

ใบหน้าของชายคนดังกล่าว กำลังหลั่งน้ำตาและน้ำมูกด้วยความตื้นตัน

ไม่ว่าจะจิตใจเข้มแข็งสักเพียงใด แต่ก็ไม่ง่ายที่จะอดทนนานหนึ่งสัปดาห์โดยไม่สั่นคลอน

ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องเผื่อใจว่าตัวเองอาจไม่รอด เป็นความเจ็บปวดทางใจที่มิอาจพรรณนาเป็นคำพูด

“…”

ฉันเข้าใจความเจ็บปวดนั้นดี

หลังจากถูกลากเข้ามาในต่างโลก ฉันต้องใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกเดียวกันนานหนึ่งปีเต็ม

“แฮ่ก… แฮ่ก…”

“ที่รัก! ที่รัก! ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฮึก… ฮือ…”

ลูกค้าของฉันร้องไห้โดยใช้มือปิดปาก

เหยื่อที่สูดลมหายใจลึก กลอกตาไปมาพร้อมกับอ้าปาก

“แค่ก… ธ…เธอค้นพบวิธีแล้วหรือ? ไหนบอกว่าไม่มีวันกะเทาะเปลือกได้ไง? พบวิธีแล้วสินะ! เก่งมาก! ฮะฮะ!”

ในสภาพคล้ายกับถูกแช่แข็งนานหนึ่งสัปดาห์เต็ม ดูเหมือนว่าเหยื่อจะได้ยินเสียงรอบตัวทั้งหมด

ขณะลูกค้ายังตื่นเต้นจนพูดไม่ออก เสียงอื้ออึงของไทยมุงที่ค่อยๆ ดังขึ้นจนถึงเมื่อครู่ ปัจจุบันกำลังเงียบสงัด

ในเวลาเดียวกัน หมอและพยาบาลต่างสบตากันก่อนจะรีบวิ่งออกไปข้างนอก

ส่วนฉันยังคงเพ่งสมาธิ

ไม่จำเป็นต้องทำลายโลหะทั้งหมด เห็นได้ชัดว่ารอยต่อของรูปปั้นเริ่มเปราะบาง ขอแค่ผ่าออกเป็นสองซีก ผู้ชายด้านในก็จะเป็นอิสระ

“แฮ่ก…!”

ทันทีที่ออกจากรูปปั้น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่รออยู่รีบพาตัวชายคนดังกล่าวขึ้นเตียงและเข็นเข้าไปในห้องคนไข้

“ฟู่ว”

ผ่านไปสักหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้

หลังจากใช้พลังพิเศษเป็นเวลานาน ฉันค้นพบข้อเท็จจริงที่ว่า มันสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงมากกว่าที่คิด

ฉันปาดเหงื่อพลางนั่งลงบนเก้าอี้

“นี่ค่ะ…”

ใครบางคนยื่นผ้าเช็ดตัวให้ แค่มองก็รู้ทันทีว่าเป็นพยาบาลมือใหม่

“ขอบคุณครับ”

พยาบาลโค้งศีรษะคำนับและรีบวิ่งจากไปคล้ายกำลังยุ่ง

ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น มีเพียงสายตาของไทยมุงที่ค่อนข้างน่ารำคาญ แต่ก็ยังดีที่ไม่มีใครถ่ายคลิป

เมื่อฉันมองไปรอบตัวผู้ คนทยอยแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองด้วยสีหน้าเขินๆ

ทันใดนั้น ฉันสบตากับผู้หญิงคนหนึ่ง

สูงโปร่ง ผมยาวสีดำไม่เป็นธรรมชาติ ดวงตา จมูก ปาก และหูดูแปลกตาคล้ายกับชาวต่างชาติ

เฮดโฟน (Headphone) อันใหญ่รูปทรงน่ารักไม่เข้ากับบุคลิก

ผู้หญิงแปลกหน้าจ้องตาฉันเป็นเวลานาน ก่อนจะหายปะปนไปกับฝูงชน

“…ทำไมถึงจ้องแบบนั้น?”

นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด

* * *

ซอจีอาคือฮาวนด์

สำหรับฮาวนด์ ข้อมูลแทบจะมีค่าเท่าชีวิต

ดังนั้นทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์หรือประเด็นใหม่ เธอจะตรงดิ่งไปยังที่หมายทันที

ปัจจุบันก็เช่นกัน ซอจีอาตัดสินใจแวะมาดูที่โรงพยาบาล

ข่าวคราวของนักสำรวจที่ประสบภัยจากทิศตะวันตก มีโอกาสมอบข้อมูลล้ำค่าเสมอ

หลังจากถึงโรงพยาบาลและเห็นสภาพเหยื่อ ซอจีอาทำได้เพียงส่ายหน้า

“ชิ…”

ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว แค่มองแวบเดียว เธอทราบทันทีว่าเหยื่อถูกกอร์กอนโจมตี

“เขาไปทางตะวันตกมาใช่ไหม?”

ถ้าอย่างนั้นข่าวลือของสมาคมฮาวนด์ที่ระบุว่า กอร์กอนอาศัยอยู่ในเหมืองร้างทางตะวันตก ก็ยิ่งฟังดูเข้าเค้า

หากไม่เตรียมตัวให้พร้อม คงเป็นการยากที่จะบุกเบิก

กลไกในต่างโลกไม่ซับซ้อน ใครสำรวจได้ก่อนก็รวยก่อน เป็นเหตุผลว่าทำไมฮาวนด์ถึงแห่กันไปสำรวจทิศตะวันตก แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกลับมา

“กอร์กอน…”

ต้องทำยังไงถึงจะบุกเบิกสำเร็จ?

นี่ไม่ใช่ปัญหาของซอจีอาคนเดียว เพราะสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากเบสแคมป์มากนัก

หากไม่สามารถตีฝ่าไปทางทิศตะวันตก หมายความว่าการสำรวจต่างโลกใกล้ถึงทางตันแล้ว

ขณะเธอกำลังครุ่นคิด

เปรี้ยะ—

ด้วยมือเปล่าข้างเดียว ชายคนหนึ่งทำลายโลหะของกอร์กอนซึ่งไม่เคยมีใครทำลายได้มาก่อน

แค่ใช้มือสัมผัสลงไป โลหะก็ผุกร่อนทันที

ซอจีอารู้จักพลังนั้น

สัตว์ประหลาดที่เป็นปรสิตในป่า นี่คือหนึ่งในพลังของพวกมัน

และชายคนดังกล่าวกำลังใช้พลังแบบเดียวกัน

หลังจากเปลี่ยนเฮดโฟนเป็นโหมดฟังเสียงรอบข้าง ซอจีอาถามกับลูกน้องใกล้ๆ

“นั่นใคร”

“…คังซอนฮูครับ”

“นั่นน่ะหรือ… คังซอนฮู”

เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นคังซอนฮูตัวเป็นๆ เพราะนับตั้งแต่เหตุการณ์ก่อน ซอจีอาก็ไม่กล้าแตะต้องคังซอนฮูทั้งทางตรงและอ้อม

กลับกัน เธอยิ่งสนใจอีกฝ่ายในเชิงบวก

อย่างไรก็ดี จวบจนปัจจุบัน ซอจีอาทราบเพียงว่าคังซอนฮูเป็นเพียงพวกติสท์ เพราะคนปรกติที่มีฝีมือระดับฮาวนด์ มักไม่ค่อยปฏิเสธการเข้าร่วมสมาคมฮาวนด์สักเท่าไร

เธอแค่อยากได้อีกฝ่ายมาเป็นพวก โดยคิดจะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นและชดเชยอย่างเหมาะสม จากนั้นก็เล่าให้ฟังว่าเธอทำกำไรจากการเป็นฮาวนด์ได้มากแค่ไหน ปิดท้ายด้วยการชักชวนมาเป็นหุ้นส่วน

ทว่า

ในวินาทีนี้ คังซอนฮูกำลังละลายโลหะด้วยมือเปล่า

‘…ได้ยังไง?’

มนุษย์ใช้เวทมนตร์ไม่ได้

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นของวิเศษจากต่างโลก? ครอบครองสมบัติมากขนาดนั้นแล้วหรือ?

สีหน้าซอจีอาไม่หลงเหลือความผ่อนคลายแม้แต่เศษเสี้ยว

‘…เขาใช่มนุษย์แน่หรือ’

มีชั่วขณะหนึ่งที่ซอจีอาคิดเช่นนั้น

บางที ชาวต่างโลกอาจลักลอบผ่านประตูมิติและปะปนกับมนุษย์

‘แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด’

เธอเข้าใจแล้วว่าทำไม OWIC ถึงตักเตือนว่า ‘ห้ามยุ่งกับคังซอนฮูเด็ดขาด’

‘พวกโลภเอ้ย… คิดจะฮุบไว้คนเดียวสินะ’

OWIC วางแผนที่จะดึงคังซอนฮูไปเป็นพวก

ซอจีอาไม่คิดจะปล่อยให้ชายคนนี้หลุดมือ

และเธอเป็นพวกที่ยอมใช้ลูกไม้ทุกชนิดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

* * *

วันถัดมา

ชาโซฮีแวะมาหาเช่นเคย มื้อเช้าของทุกคนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว และสำหรับคังซอนฮู กิจวัตรของมันคือการกินข้าวทุกมื้อ

คังซอนฮูดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษหลังจากได้หลับยาว ส่วนชาโซฮีก็ยังช่างพูดเหมือนเดิม

“สามสิบล้าน? สุดยอดไปเลย แล้วจะได้เมื่อไร?”

“ฉันจะแวะไปหาลูกค้าก่อนมื้อเที่ยง”

“ลูกค้าไม่มาหา?”

“สามีของเธอแอดมิตอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้คงยุ่งน่าดู ส่วนฉันกำลังว่างพอดี ระยะทางก็ไม่ไกล”

“โฮ่… ซอนฮูของเราใจดีจังเลยน้า~”

ชาโซฮีแซวพลางยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนหัวหน้าสนทนา

“นายดังแล้วนะ”

“ฉัน?”

“ในยูทูปกับเฟสบุ๊คพูดเรื่องของนายเต็มไปหมด แค่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นฝีมือนาย”

ชาโซฮีคันมืออย่างมาก เหตุเพราะตอนนี้ไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ

“ชายผู้ใช้มือเปล่าช่วยชีวิตเหยื่อที่กำลังสิ้นหวัง… หัตถ์แห่งไมดาส!”

“…หัตถ์แห่งไมดาส? เปรียบเปรยผิดรึเปล่า?”

“แค่สนใจว่านายดังแล้วก็พอ อย่าจุกจิกรายละเอียดนักเลยน่า! ว่าแต่ เล่าเรื่องหัตถ์แห่งไมดาสให้ฟังหน่อย”

“เธอยังไม่รู้เรื่อง?”

ตำนานของคังซอนฮูแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วในลักษณะข่าวลือ

เหตุเพราะในเขตโรงพยาบาลห้ามถ่ายภาพอย่างเคร่งครัด จึงไม่มีหลักฐานยืนยัน

- อย่าเหลวไหลน่า ฮะฮะฮะ! ใช้มือเปล่าละลายโลหะเนี่ยนะ?

- เป็นพ่อมดหรือไง? คึคึก! เขาท่องภาษารูนหรืออะไรทำนองนั้น?

- พระเอกในโลกใบนี้ปรากฏตัวแล้ว!

└ เบียวฉิบ

└ เบียวฉิบ

[เจ้าพวกบ้า! ฉันบอกแล้วไงว่าเห็นเต็มสองตา!]

ทำไมพวกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถึงเอาแต่พูดว่าห้ามถ่ายๆ …

- โม้

- อย่าไปให้ค่าพวกหิวแสง

- หิวจัดๆ

เธออยากจะอวดความวุ่นวายบนโลกอินเทอร์เน็ตให้คังซอนฮูเห็น แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจชื่อเสียงตัวเองจริงๆ

“ธุรกิจของนายกำลังจะไปได้สวย”

“ไหนบอกว่า พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นฝีมือฉัน?”

“อีกเดี๋ยวก็ต้องรู้”

“ต้องเตรียมบัตรคิวแล้วใช่ไหมเนี่ย”

ฉันต้องแสดงท่าทีชัดเจนว่า จะไม่รับงานเกินปริมาณที่กำหนด

ขณะกำลังสนทนา

“…!”

อยู่ดีๆ ลิลี่ก็ลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปหลบหลังกระท่อม

เฉกเช่นทุกครั้ง ทันทีที่สัมผัสถึงผู้มาเยือน ลิลี่จะหนีไปซ่อน

“ลูกค้า…?”

“ฉันบอกแล้วไง ธุรกิจของนายกำลังจะดังระเบิด! ข่าวลือน่ากลัวกว่าที่คิดนะ”

“สวัสดี!”

น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความสดใส ผมสีดำยาว เฮดโฟนรูปทรงน่ารักที่ดูคล้ายหูแมว

สตรีคนดังกล่าวโค้งศีรษะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“…คนที่เจอกันเมื่อวานใช่ไหม?”

“ถูกต้อง! ฉันเห็นคุณที่โรงพยาบาล!”

“…มาว่าจ้าง?”

ซอจีอาพยักหน้า

“สวัสดี! ฉันคือซอจีอา”

ซอจีอามั่นใจมาก

ไม่มีทางที่บุรุษจะต้านทานรอยยิ้มของเธอได้

คังซอนฮูยังคงใช้ช้อนตักซุปเลือดวัวขึ้นมากิน พลางจ้องหน้าซอจีอา

ภายในใจกำลังคิดว่า

‘แนะนำตัวทำไม? พิลึกชะมัด’

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด