ตอนที่แล้วบทที่ 19 ค่าสถานะแบบนี้ขี้โกงจนน่าจะถูกรายงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 หลัวจี๋พึงพอใจ

บทที่ 20 โปรแกรมฝึกฝน


(โน๊ตจากผู้แปล: ตรงส่วนทักษะหรือสกิลของแต่ละคนที่มีเขียนว่า “ได้รับโบนัสจาก…” ผมต้องขอเปลี่ยนเป็น “อยู่ในหมวดหมู่…” นะครับ ต้องขอโทษจริงๆครับที่เข้าใจตรงส่วนนี้ผิดไป)

ในฐานะผู้เล่นเก่าที่เล่นมานานกว่าหลัวจี๋ เกาซู่จึงมีแต้มอารยธรรมเยอะกว่าเขามาก ดังนั้นจึงไม่ค่อยสนใจกับการเสียแต้มเล็กน้อยไปกับการส่งข้อความเล่น

แต่ปัญหาคือหลิวจี๋กำลังรีบร้อน! เขาไม่มีเวลามานั่งจ้องจุดสามจุดโง่ๆนี่นะ ในขณะที่กำลังจะส่งข้อความไปบอกให้อีกฝ่ายเลิกเล่นแล้วตอบคำถามมาได้ซะดีๆ ข้อความของเกาซู่ก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าเขาแล้ว

“หลังจากพัฒนา skill tree ของการทหารไปพักนึงนายจะปลดล็อคโปรเจ็คต์”วิทยาลัยทหาร“นายสามารถใช้แต้มอารยธรรมแล้วก็แต้มการทหารเพื่อล้างสกิลได้ แต่ว่าถ้าล้างสกิลไปแล้ว สกิลใหม่ที่นายจะได้ก็จะได้มาแบบสุ่ม ยิ่งนายล้างสกิลเดิมไปมากเท่าไหร่ การจะล้างสกิลนั้นก็จะต้องใช้แต้มมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ว่านายจะ”

ข้อความตอบกลับขาดลงเฉยๆเมื่อเขียนมาถึงตรงนี้ คงจะเป็นเพราะถึงลิมิตจำนวนตัวอักษรของข้อความ จากนั้นข้อความที่สองก็ถูกส่งตามมาอย่างรวดเร็ว “สร้าง”วิทยาลัยทหาร“หรือล้างสกิล สำหรับนายที่เป็นผู้เล่นใหม่แล้วก็เป็นงานที่หนักหน่วงที่ส่งผลกับทั้งกำลังพลของนายแล้วก็แต้ม เพราะงั้้นถ้าไม่ระวังให้ดีก็อาจจะหมดตัวเอาได้ รอให้พัฒนาไปได้มากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยใช้ก็ได้”

“ส่วนเรื่องลิมิต(ขีดจำกัด)ของจำนวนสกิลก็ดูง่ายๆ ดูที่จำนวนดาว อย่างเช่นถ้ามีสามดาวในค่าความกล้าหาญ ก็จะสามารถเรียนรู้สกิลที่อยู่ในหมวดหมู่”ความกล้าหาญ“ได้ 3 สกิล อะไรประมาณนี้ อย่างอื่นก็เหมือนกัน”

“ค่อยยังชั่ว” หลัวจี๋ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถ้าได้ล้างสกิลก็เป็นเรื่องดี “ถ้าจำไม่ผิด สกิล”ตกปลา“น่าจะอยู่ในหมวดหมู่”ความอดทน“ถ้าอย่างนั้นผลกระทบในช่วงแรกๆนี่ก็คงไม่มากเท่าไหร่”

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อได้โอกาสพูดคุยกัน หลัวจี๋จึงใช้โอกาสนี้ถามถึงสิ่งที่เขายังไม่เข้าใจ ซึ่งง่ายกว่าการที่ให้เขาไปศึกษาเอาเองช้าๆทีหลัง

หลัวจี๋จึงส่งข้อความไปอีก “แล้วก็เรื่องของ”ค่ากำลังใจ“เนี่ย มันมีโบนัสอะไรให้หรือเปล่า?”

ในครั้งนี้เกาซู่ไม่ได้เล่นมุขอะไรอีก และตอบมาตรงๆ “ค่ากำลังใจสูงสุดคือ 100 แต้ม 60 แต้มคือค่ากลาง ไม่มีผลดีหรือผลเสียใดๆ ถ้าค่ากำลังใจเกิน 60 แต้มจะกลายเป็นสถานะ”กำลังใจสูง“และทุกๆ 1 แต้มนับจากตรงนั้นจะได้โบนัสความสามารถในการต่อสู้ 1% และจะเป็นแบบนั้นไปถึงค่ากำลังใจ 80”

“หลังจากที่ค่ากำลังใจขึ้นเป็น 81 แต้ม ค่าสถานะจะเปลี่ยนกลายเป็น”ถาโถมไม่หยุดพัก“และจะเปลี่ยนโบนัสจากค่ากำลังใจเป็น 2% และเมื่อค่ากำลังใจไปถึง 100 แต้ม สถานะนั้นจะเปลี่ยนไปเป็น”ชัยชนะไร้พ่าย“และเปลี่ยนเป็นได้รับโบนัสความสามารถในการต่อสู้ 100% แทน”

“แต่ในทางกลับกัน หากค่ากำลังใจลดต่ำลงกว่า 60 แต้ม นายจะเข้าสู่สถานะ”กำลังใจต่ำ“ความสามารถในการต่อสู้จะลดลงเหมือนกับที่บอกไปก่อนหน้า บางครั้งก็อาจจะมีทหารหนีทัพด้วยเหมือนกัน พอต่ำลงกว่า 30 แต้ม จะเข้าสู่สถานะ”จัดทัพไม่ได้“เรียกง่ายๆก็หมดกำลังใจสู้ต่อ แล้วก็จะไม่สู้อีกต่อไป”

เกาซู่ให้คำแนะนำในฐานะผู้เล่นเก่า หลังจากที่อ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง หลัวจี๋ก็เข้าใจถึงเรื่องของ “ค่ากำลังใจ” และในขณะเดียวกัน เขาก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของสกิล “หนักแน่นดั่งหินผา” ของจ้าวผาน

หลังจากย่อยข้อมูลที่ได้มา หลัวจี๋ก็ถอนหายใจยาวและส่งข้อความขอบคุณเกาซู่ไป “ขอบใจมาก ตอนนี้มีแค่นี้แหละ”

หลังจากขอบคุณ เกาซู่ก็ไม่ได้ส่งข้อความใดๆตอบกลับมา และการพูดคุยกันระหว่างทั้งสองก็จบลงตรงนี้

หลัวจี๋ที่ปิดหน้าต่างสื่อสารไปแล้วก็ยังไม่ได้วางใจ เขาบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องหาโปรแกรมฝึกฝน ถึงจะไม่มีประสบการณ์ในการฝึกทหาร แต่เขาก็รู้วิธีฝึกร่างกายพื้นฐานอย่างการซิทอัปหรือดันพื้น ซึ่งมันมีประสิทธิภาพมากกว่าการฝึกร่างกายในยุคนี้

ส่วนเรื่องการฝึกรูปขบวนของนักรบในเผ่าแล้ว หลัวจี๋ไม่คิดจะฝึกให้ในตอนนี้ การฝึกรูปขบวนนั้นเป็นอะไรที่เปลืองเวลาและหนักหนา และการฝึกนี้นั้นก็มีไว้เพื่อฝึกวินัยของนักรบ แต่เขาไม่ต้องการเท่าไหร่ในตอนนี้ นักรบในเผ่ามีรวมๆกันแล้วก็ 20-30 คน เขายังจัดการคนเดียวได้ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องค่าความภักดีที่สูงอีก ดังนั้นแล้วสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้จึงมีแค่เพิ่มความแข็งแกร่งของคนในเผ่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อจำนวนคนในเผ่าเยอะขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ค่อยฝึกตอนนั้นก็ยังไม่สาย

หลังจากเรียบเรียงโปรแกรมการฝึกที่พอจะนึกออกเสร็จ เขาก็ไปหาหลัวหย่งที่กำลังลับขวานหินทั้งสองอยู่ และจ้าวผานที่ตอนนี้ยังไม่รู้วิธีการฝึกฝน หลัวจี๋คิดจะสอนวิธีการออกกำลังกายให้พวกเขาก่อน จากนั้นก็จะให้พวกเขาสอนนักรบคนอื่นๆในเผ่า

และเพราะนี่เกี่ยวกับการฝึกฝนนักรบในเผ่าคนอื่น หลัวจี๋จึงคิดว่าจ้าวผานคงจะเหมาะที่สุด เพราะว่าค่าการสั่งการและค่าความฉลาดของจ้าวผานก็มีระดับสูงสุดถึง 4 ดาว นั่นหมายความว่าเขาจะสามารถฝึกฝนนักรบคนอื่นๆได้ดี อย่างไรก็ตาม เพราะสถานะของจ้าวผานในตอนนี้ไม่สามารถทำให้นักรบในเผ่าคนอื่นทำตามได้ หลัวจี๋จึงเรียกหลัวหย่งมาด้วย

ท่าการออกกำลังกายง่ายๆนั้นไม่ซับซ้อน หลัวจี๋แสดงให้ดูและพูดถึงจุดสำคัญ จ้าวผานที่ไม่ได้โง่ก็เรียนรู้ไปอย่างรวดเร็ว บุคลิคที่เยือกเย็นของเขาทำให้เขาพิถีพิถันมากในสิ่งต่างๆที่ทำ และทุกๆท่าที่เขาทำนั้นก็ดูเหมือนกับต้นฉบับมาก นั่นทำให้หลัวจี๋ที่เป็นคนสอนไปก่อนหน้านี้รู้สึกอายขึ้นมานิดหน่อย เพราะเขารู้สึกราวกับจ้าวผานทำถูกกว่าเขาเสียอีก

ในขณะเดียวกัน เสียงจากระบบก็ดังขึ้น…

คำเตือนจากระบบ: ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น 'หลัวจี๋' ที่ริเริ่มโปรเจ็คต์ “การฝึกทหาร” ได้รับแต้มอารยธรรม 100 แต้ม และแต้มการทหาร 1 แต้ม

หลัวจี๋จำได้ว่าก่อนหน้านี้เขามีแต้มการทหารอยู่ 6 แต้ม และหากเพิ่มไปอีกหนึ่งก็จะเป็น 7 แต้ม แต่เขาก็ยังอัปเกรดอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปดู เขายังคงตั้งสมาธิอยู่กับหลัวหย่งและจ้าวผานตรงหน้า

เมื่อเทียบกับจ้าวผานแล้วนั้น หลัวหย่งค่อนข้างจะเรียนรู้ได้ช้ากว่าและทำตามอย่างติดๆขัดๆ แม้ดูผ่านๆเหมือนจะใช้ได้ แต่ในรายละเอียดเล็กๆน้อยก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่

หลัวจี๋เห็นได้ชัดว่าคำชมที่เขาให้กับจ้าวผานนั้น ได้ทำให้จิตวิญญาณแห่งการแข่งขันของหลัวหย่งตื่นขึ้นมา แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นสมาชิกในเผ่าดั้งเดิม หลัวหย่งไม่ได้แค้นเคืองหรือขัดแย้งอะไรกับจ้าวผาน ก็แค่ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเท่านั้นเอง

หลัวจี๋ไม่ว่าอะไรหรอกกับการแข่งขันแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองในใจของหลัวหย่งอยู่นิดหน่อย เขาตบไหล่จ้าวผาน “ฉันยังเหลืออะไรต้องไปทำอยู่ ฉันจะให้นายคอยจัดท่าให้หลัวหย่งก็แล้วกัน”

หลังจากพูดจบหลัวจี๋ก็หันหลังกลับและเดินจากไป จ้าวผานตอบรับคำสั่งของผู้นำด้วยสีหน้าที่จริงจัง หลัวหย่งที่ได้ยินก็คิ้วกระตุก และการดันพื้นของเขาก็ผิดท่าไปด้วยเช่นกัน และบังเอิญว่าจ้าวผานเห็นเข้าพอดี…

“เจ้าทำผิดท่านะ”

“ข้ารู้!”

“ไม่ต้องทำเร็วขนาดนั้นก็ได้ ท่านผู้นำบอกว่ารักษาจังหวะเอาไว้”

“เออ ข้ารู้!”

“แต่เจ้ายังทำไวไปอยู่นี่”

“...”

PS: เรื่องนี้อาจจะคิดเงินเร็วอยู่บ้าง แต่จะฟรี 2 ตอนทุก 10 ตอนนะครับ อย่าลืมติดตามคอยให้กำลังใจกันด้วยนะครับ พันสี่ร้อยกว่าตอน ก็มีตอนฟรีตกร่วม เกือบ สามร้อย ตอน

0 0 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด