ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 181
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 183

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 182


ตอนที่ 182

“สหาย ตาของเจ้าแล้ว เด็กน้อยผู้นั้นช่างองอาจยิ่งนัก เจ้าเองก็ไม่ควรจะหลบอยู่หลังเขาเผื่อรอคอยผลประโยชน์ใช่หรือไม่? เจ้าควรจะออกไปหาโอกาสด้วยตัวเอง!” หัวหยุนคงเอ่ยด้วยรอยยิ้มหนาวเย็น

ชายคนหนึ่งกำลังจะเปิดปากขึ้นเพื่อร้องขอความเมตตา แต่ท้ายที่สุด เขาก็ตัดใจเพราะรู้ว่ามีเพียงความตายที่รออยู่

เขาจึงทำได้เพียงก้าวเดินออกไปด้วยขาที่สั่นสะท้าน

ทว่าชายคนนั้นโชคดียิ่ง ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเขาในย่างก้าวแรก รอบด้านยังคงนิ่งสงบและเต็มไปด้วยแสงเป็นประกาย แต่เมื่อก้าวที่สองเหยียบลง ปัญหาก็เกิดขึ้น ทันใดนั้นสายฟ้ารอบด้านก็เปล่งแสงเจิดจ้า!

ในชั่วพริบตา ผู้บ่มเพาะคนนั้นถูกสายฟ้าฟาดใส่จนกลายเป็นร่างไหม้เกรียม โลหิตพุ่งไปทั่วทุกทิศกระทั่งดวงวิญญาณยังถูกทำลาย!

สีหน้าของเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายกลายเป็นขาวซีด พวกเขารู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่แล่นพล่านไปทั่วร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชายคนนั้นใช่ว่าจะอ่อนแอ แต่เขากลับตกตายลงเช่นนี้ รวดเร็วจนแทบไร้สัญญาณเตือน

อย่างไรก็ตาม คนจากหอเทพอัคคีด้านหลังกลับมีสีหน้าสุขใจ นี้เป็นเพราะพวกมันได้ค้นพบเงื่อนไขบางส่วนของค่ายกลจากชีวิตของชายผู้นั้น

“อะไร? ดูพวกเจ้าอารมณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่? นี่คือสิ่งที่สมควรจะมีความสุขเพราะทุกคนเข้าใกล้สมบัติเข้าไปอีกก้าวแล้ว” หัวหยุนคงแสดงสีหน้าเย็นชา

“ต่อไปเป็นตาเจ้า สองก้าวด้านหน้าและสี่ก้าวด้านซ้าย” ก่อนที่มันจะเงียบลงไปชั่วขณะและคำนวณเส้นทางพลางชี้ไปที่เหยื่อล่อคนถัดไป

ทว่า ผู้บ่มเพาะคนที่ถูกเลือกให้เป็นรายต่อไปกลับใบหน้าซีดเผือด เขามิได้ก้าวไปด้านหน้าทว่าคำรามออกมาและเลือกที่จะหนีไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

ทว่าเพียงไม่กี่ก้าวก็ปรากฏเสียงแกรกกรากดังขึ้น ก่อนที่ร่างของเขาจะแตกหักกลางอากาศ ขนนกสีแดงสดตัดผ่านร่างราวกับเป็นกระบี่วิเศษที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า ก่อนจะลุกไหม้กลายเป็นกองเพลิง

“ข้าแนะนำว่าพวกเจ้าอย่าได้กระทำสิ่งใดที่ไร้ค่า” หัวหยุนคงแสดงสีหน้าเย็นชา ดวงตาของมันเปล่งแววเยาะเย้ย

“ตาเจ้า” มันกวาดสายตาไปยังผู้ฝึกตนคนหนึ่ง

“บัดซบ! ข้าจะยอมสู้จนตัวตาย!” ดวงตาของชายคนนั้นกลายเป็นสีแดงก่ำ ผู้ที่ตกตายลงก่อนหน้านี้คือพี่ชายที่สนิทยิ่งของเขา เสียงคำรามดังก้องและร่างเปล่งประกาย ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ทักษะลับบางอย่างในการเผาผลาญแก่นชีวิต โลหิต และปราณในกาย กระบี่ด้านยาวปรากฏขึ้นในอุ้งมือและทิ่มแทงเข้าใส่หัวหยุนคง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทะยานร่างไปถึงฝ่ายตรงข้าม เขาก็มองเห็นเงาที่ใกล้เข้ามา และจู่โจมก่อนคว้าจับเขาเอาไว้อย่างมั่นคง

“ไม่คิดว่าเลยว่าจะได้พบเจอกับสถานการณ์ที่น่าเป็นกังวลเช่นนี้ในยามที่ข้ามาถึง ช่างเป็นมดปลวกที่บังอาจยิ่งนัก กล้าหาญท้าทายอำนาจของหอเทพอัคคีของข้า!” กลิ่นอายของร่างนั้นช่างทรงพลังยิ่ง มันคือตัวตนในระดับสร้างรากฐานอีกคนหนึ่ง การโจมตีของมันกักขังชายผู้โชคร้ายเอาไว้ มันย่อมเป็นอัจฉริยะที่มีระดับการบ่มเพาะล้ำลึกคนหนึ่งของหอเทพอัคคี

อย่างไรก็ตาม ชายผู้โชคร้ายก็มิได้ยินยอมสยบแต่อย่างใด เขาทลายการกักขังออกมาและฟาดฟันกระบี่ในมือ!

“โอ้? เจ้ากล้าพอจะต่อต้านพวกเรา?” หัวหยุนคงเริ่มมีโทสะ มันสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่งก่อนที่จะมีขนนกพุ่งออกมาและแทงทะลุหน้าอกสร้างเป็นรูโหว่ที่สามารถมองผ่านหัวใจของชายคนนั้น

สีหน้าของผู้คนที่เฝ้ามองอยู่กลับกลายเป็นอัปลักษณ์ยิ่ง ความกราดเกรี้ยวในหัวใจของพวกเขาช่างยากที่จะบรรยายได้

ในตอนนั้นเอง หลินซวนที่จ้องมองไปยังคนของหอเทพอัคคีซึ่งปรากฏขึ้นมาใหม่และหรี่ตาของเขา

ดูเหมือนว่าคนทั้งหมดจากนิกายหอเทพอัคคีจะมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้แล้ว!

ซากศพตกลงสู่ผืนดิน ก่อให้เกิดฝุ่นคละคลุ้ง โลหิตอาบย้อมบริเวณโดนรอบจนเป็นสีแดงคล้ำ

ไม่เพียงรุ่นเยาว์ทั้งหลายจะรู้สึกโศกเศร้า แต่พวกเขาเริ่มต้องการจะต่อต้านและเสี่ยงชีวิตในการหลบหนีจากหอเทพอัคคี แต่ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะโจมตี เพราะว่าพวกเขาทั้งหลายย่อมมิอาจเทียบได้กับพวกมัน

พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกดดันยิ่งนักเมื่อเจอกับตัวตนแดนสร้างรากฐานของหอเทพอัคคีเช่นหัวหยุนคง นี่ยังมิได้กล่าวถึงคนของพวกมันทั้งหมดที่มารวมตัวกัน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบหนีพ้น!

ในตอนนี้ สายตาของรุ่นเยาว์ทั้งหลายกลายเป็นเย็นชานัก พวกเขามองไปยังหลินซวนอย่างโกรธแค้น

หากมิใช่เพราะหลินซวนค้นพบเส้นทางที่ถูกต้องและทำให้คนทั้งหมดจากหอเทพอัคคีมารวมกัน มีหรือพวกเขาจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเช่นนี้?

และหลินซวนเองก็เข้าใจว่าสายตาเหล่านั้นหมายความเช่นใด และสิ่งนี้ทำให้เขาเองพูดไม่ออกเช่นกัน เขารู้สึกว่านี่มันย่อมมีบางสิ่งผิดปกติในสมองของเหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีความหมายใดที่จะโต้เถียงออกไป

“พวกเราค้นพบเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีคนโชคดีอยู่เยอะพอสมควรทีเดียวในกลุ่มนี้”

“เจ้านำสะพานสวรรค์สร้างมาด้วยหรือเปล่า?”

“ย่อมเป็นเช่นนั้น ในสถานการณ์นี้ พวกเราน่าจะสามารถใช้มันได้แล้ว”

เหล่าผู้บ่มเพาะแดนสร้างรากฐานจำนวนหนึ่งของหอเทพอัคคีมิได้เก็บซ่อนสิ่งใด และหากฟังสิ่งที่พวกมันพูดคุยกันให้ดีย่อมหมายความว่านี่มิใช่ครั้งแรกที่พวกมันกระทำเช่นนี้

หัวหยุนคงพยักหน้าเล็กน้อยและนำเอาสะพานสีขาวออกมาจากแหวนมิติ มันขว้างสะพานนั้นไปในอากาศและส่งปราณวิญญาณเข้าไป ทันใดนั้น สะพานก็ยืดยาวออกจนดูไม่เหมือนกับก่อนหน้า และมันยังปลดปล่อยประกายแสงเข้มข้นออกมาเพื่อบ่งบอกว่าเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง

จากนั้น ผู้บ่มเพาะแดนสร้างรากฐานทั้งสี่ก็กางค่ายกลขึ้น ใต้ประกายแสงเจิดจรัสสะท้อนไปกับสะพานนั้นก่อเกิดเป็นเส้นทางสีขาวและนำทางไปยังส่วนลึกของเทือกเขา

“ตามมา” หัวหยุนคงเอ่ยอย่างเย็นชา และรุ่นเยาว์ทั้งหลายก็ทำได้เพียงต้องปฏิบัติตาม

พวกเขาส่วนใหญ่มิได้ต้องการที่จะตายและอยากหลบหนีไป แต่ก็ถูกขนนกสีแดงเพลิงพุ่งเข้าใส่ร่างจนตกตายลง

หลังจากหลายคนถูกปลิดชีพ คนที่เหลือก็กลายเป็นเชื่อฟังโดยทันที ร่างกายของพวกเขาสั่นเทา และสีหน้าดูไม่ได้พลางเดินไปตามที่หัวหยุนคงเอ่ยสั่ง

ทางด้านหลินซวนและคนที่กำลังสำรวจอยู่ด้านหน้า พวกเขายืนอยู่ในค่ายกล และภายใต้ค่ายกลนั้นพวกเขามิสามารถเดินไปไหนได้

เหล่าคนจากหอเทพอัคคีมิได้มีความต้องการจะช่วยเหลือพวกเขาแต่อย่างใด และเมินเฉยโดยสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้น พวกมันยังคงทิ้งท้ายไว้

“อยู่นิ่งๆ เสีย หลังจากได้รับสมบัติแล้ว พวกข้าจะมาช่วยเหลือพวกเจ้า”

เห็นใบหน้าของพวกเขากลับกลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง การบอกว่าหลังจากพวกมันได้รับสมบัติแล้วหมายความว่าอย่างไร? ค่ายกลแห่งนี้อันตรายยิ่งนัก การยืนอยู่ที่แห่งนี้นานขึ้นเพียงหนึ่งลมหายใจก็เท่ากับว่าเป็นการเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงแล้ว

หลินซวนมองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง แต่ในห้วงความคิดกลับแค่นเสียงดูถูก

“ใช้เส้นทางแห่งแสงนี้เข้าไปเก็บเกี่ยวสมุนไพรเสีย...” หัวหยุนคงชี้นิ้วไปยังรุ่นเยาว์สามคนและสั่งให้พวกเขาเดินทางเส้นทางนั้นเข้าไปยังสวนสมุนไพรที่อยู่ไกลออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด