ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 177
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 179

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 178


ตอนที่ 178

หากให้ต้องเปรียบเทียบแล้ว นัยน์ตาหยินหยางคล้ายกับค่ายกลที่ทรงพลังรูปแบบหนึ่ง อำนาจของมันไม่ธรรมดาและสามารถใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนเนตรสวรรค์นั้น เทียบได้กับกระบี่ชั้นยอดที่สามารถทำลายความชั่วร้ายและทิ่มแทงทุกสรรพสิ่ง!

และถ้าให้ทั้งสองอย่างควบคู่ไปพร้อมกัน ย่อมไม่มีสิ่งใดที่จะหลบซ่อนจากสายตาของหลินซวนไปได้ ค่ายกลทั้งหลาย วิธีการบ่มเพาะ กระทั่งสมบัติที่ถูกเก็บงำไว้อย่างดีก็เป็นเพียงของเล่นในมือเขาเท่านั้น

ทว่า ทุกสิ่งย่อมขีดจำกัดของมัน หากหลินซวนใช้เนตรสวรรค์และนัยน์ตาหยินหยางพร้อมกัน มันจะเผาผลาญปราณวิญญาณและปราณโลหิตของเขาไปเป็นจำนวนมหาศาล หากมิใช่สถานการณ์เป็นตาย เขาก็มิคิดที่จะใช้พวกมันออกมาพร้อมกัน

หลินซวนยืนอยู่บนเนินเขาลูกหนึ่งและมองไกลออกไป เขาเห็นปราณวิญญาณในที่รวมตัวกันหนาแน่น และไอห้าสีซึ่งลอยล่องอยู่เหนือยอดไม้ กระทั่งอสูรจำนวนไม่น้อยและแมลงดุร้ายกระจายอยู่ ที่แห่งนี้เปรียบดั่งสวรรค์บนผืนดิน

ท้ายที่สุด เขาก็ค้นพบตำแหน่งของเสาเหล่านั้นด้วยนัยน์ตาหยินหยาง มันอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนที่กว้างใหญ่คล้ายดั่งมังกรยักษ์ที่ตกตายลงและโครงกระดูกของมันกลายเป็นหินผา แสงหลากสีเปล่งประกายโดยรอบพร้อมปราณวิญญาณหนาแน่น สมบัติมากมายถูกเก็บซ่อนอยู่ เมื่อหลินซวนใช้เนตรสวรรค์ของตนเพื่อกวาดมองไปรอบๆ เขาก็ค้นพบระฆังโบราณแห่งห้วงมิติอันล้ำลึกปรากฏอยู่ท่ามกลางภูเขาเหล่านั้น!

“กลิ่นอายเหล่านี้มีทิศทางมาจากเทือกเขา ช่างทรงพลังยิ่งนัก เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นหรือ? มีสิ่งใดถูกเก็บซ่อนเอาไว้กันแน่? หลินซวนพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา

คนจากหอเทพอัคคีนั้นกำลังเฝ้าอยู่โดยรอบเทือกเขาแห่งนี้ รุ่นเยาว์ทั้งหลายถืออาวุธอยู่ในมือและมีสีหน้าเย็นชายิ่งนัก พวกมันกายค่ายกลปกป้องขึ้นซ้อนกันหลายชั้นและใช้สมบัติมากมายเพื่อเตรียมจับผู้บุกรุก การป้องกันที่แน่นหนาเช่นนี้กระทั่งหนอนสักตัวยังมิอาจหลุดรอดจากการค้นพบ

หลินซวนเฝ้าสังเกตอย่างเงียบงันและมิได้เลือกจะเร่งรีบตรงเข้าไป เขากำลังรอคอยโอกาสอย่างใจ ทว่าขณะที่กำลังสำรวจสิ่งต่างๆอยู่ เขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

“หืม? นั่นมันอะไรกัน?” ไม่นานหลังจากนั้น หลินซวนก็ค้นพบที่มากของความรู้สึกแปลกประหลาด นี่เป็นเพราะว่าเขาเดินทางเพียงร้อยลี้ก็พบเจอกับค่ายกลที่เก่าแก่และล้ำลึกขวางกั้นอยู่ และค่ายกลนั้นก็ปิดผนึกบริเวณโดนรอบทั้งหมด!

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวิ่งวนดูรอบๆ ค่ายกลนี้ด้วยต้องการจะค้นหาทางออก

ทว่าผลลัพธ์กลับทำให้เขาต้องผิดหวัง และเขาก็มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

รัศมีราวร้อยลี้โดยรอบนั้นถูกครอบคลุมโดยค่ายกล ไม่มีทั้งทางเข้าและทางออก ราวกับเป็นกำแพงเหล็กกล้าที่กีดขวางอย่างสมบูรณ์แบบ คนธรรมดาย่อมไม่สามารถหลบหนีออกไปได้

“ค่ายกลเช่นนี้จะสามารถก่อร่างขึ้นมาได้ด้วยตัวตนระดับแดนหมุนวนทะเลปราณเท่านั้นมิใช่หรือ?” หลินซวนประหลาดใจไม่น้อย ค่ายกลนี้ย่อมมิใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะแดนปรับปรุงกายหรือแดนปรับปรุงปราณจะสามารถสร้างขึ้นมาได้

“ดูเหมือนว่าโชคของข้านั้นไม่เลวทีเดียว ข้าจึงได้พบเจอคนจากหอเทพอัคคีในทุกที่ที่เหยียบย่างเช่นนี้!” หลินซวนบ่นเล็กน้อย และเขาเองก็รู้สึกไม่ดีกับพวกมันสักเท่าไหร่ เป็นเพราะพวกมันเคยใช้เขาเป็นเหยื่อล่อและยังมีความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์อมตะอีกด้วย

เช่นเดียวกันกับหลินซวน คนบางส่วนที่มุ่งหน้ามาทางนี้ก็ค้นพบกับสิ่งที่ขวางทางอยู่

พวกเขาทั้งหลายที่กำลังสำรวจอยู่ถูกค่ายกลโบราณนี้กักขังเอาไว้ และค่ายกลที่มีระดับหมุนวนลมปราณเช่นนี้มิใช่สิ่งที่พวกมันซึ่งเป็นเพียงผู้บ่มเพาะแดนปรับปรุงปราณจะสามารถทลายออกไปได้ ทำให้พวกเขาติดอยู่ในที่นี่เช่นกัน

“หอเทพอัคคีกำลังวางแผนใดอยู่? พวกมันจงใจสร้างค่ายกลขึ้นหรือจริงๆ แล้วต้องการให้พวกเราอยู่ที่นี่และหลอกใช้บางอย่าง?” รุ่นเยาว์คนหนึ่งเอ่ยขึ้น ในหัวใจของมันหนาวเหน็บ

ในตอนนั้นเอง คนที่ยืนอยู่เบื้องหลังก็ค้นพบค่ายขอคนจากหอเทพอัคคีที่กำลังกระทำบางอย่างอยู่

“หรือว่าพวกมันค้นพบสมบัติเข้าจึงได้กักขังพวกเราไว้เพื่อจะได้ไม่สามารถแจ้งข่าวออกไปได้?”

ในตอนนั้นเอง เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายก็เข้าใจได้ว่าเหตุใดที่แห่งนี้จึงไม่มีอสูรหรืออสรพิษแม้กระทั่งแมลงอยู่เลยแม้แต่น้อย กลายเป็นว่าพื้นที่นี้นั้นถูกกวาดล้างและแยกออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง

พวกเขาบางคนขมวดคิ้วและต้องการจะหลบหนีออกไป ทว่า ทันทีที่พวกเขากระทำเช่นนั้น ก็ถูกพลังของค่ายกลสังหารลง ไม่มีผู้ใดสามารถหนีไปได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่

นี่ให้สีหน้าของเหล่ารุ่นเยาว์อัปลักษณ์ยิ่ง พวกเขามิสามารถจะคงความสงบไว้ได้อีกต่อไป

พวกเขาควรทำเช่นไร? คำถามที่ผุดขึ้นในหัว แต่ทำได้เพียงสับสนและไร้การช่วยเหลือ

หลินซวนก็มิได้เลือกที่จะทำลายค่ายกลลง แต่เลือกจะกลับไปยังเทือกเขาที่กว้างใหญ่นั้น

ในตอนนี้เอง เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายกำลังเฝ้าจับตามองและต้องการรู้ว่าหอเทพอัคคีมุ่งหมายสิ่งใดอยู่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงกลายเป็นเพียงเครื่องมือให้หอเทพอัคคีใช้งาน

ทันใดนั้น เสียงดังสนั่นปานฟ้าถล่มก็เกิดขึ้นจากทิศทางของเทือกเขา ตามมาด้วยอัคคีสวรรค์และปักษาวิญญาณสีแดงเข้มที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ครึ่งหนึ่งลุกโชนด้วยเปลวเพลิงและอีกครึ่งเป็นประกายอัสนี ร่างของมันปะทะกับภูเขาและเปลี่ยนเขาทั้งลูกให้กลายเป็นพื้นราบ

“เร็วเข้า!”

“ใครก็ได้ รักษาผู้บาดเจ็บที!”

เสียงการเคลื่อนไหวดังขึ้นจากบริเวณนั้น เหล่ารุ่นเยาว์จากหอเทพอัคคีพุ่งเข้าไปพลางรักษาคนที่บาดเจ็บ

“เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดเขาจึงบาดเจ็บเช่นนี้?”

ปักษาวิญญาณชาดเป็นทักษะช่วยชีวิตหนึ่งของหอเทพอัคคี มันจะเปลี่ยนร่างของผู้ใช้ให้กลายเป็นอสูรและเพิ่มระดับการบ่มเพาะขึ้นอย่างมหาศาล ทางด้านคนที่บาดเจ็บนั้นเป็นชายหนุ่มวัยราวยี่สิบปีที่อยู่ในขั้นที่แปดของแดนปรับปรุงปราณ แม้ว่ามันคือหนึ่งในเหล่าอัจฉริยะของหอเทพอัคคี แต่บัดนี้กลับบาดเจ็บสาหัส

ดวงตาของพวกมันเคลื่อนไหวทันที และต้องการจะไปยังทิศที่ชายคนนั้นกระเด็นออกมา แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกมันก็เลือกที่ยังยอมแพ้ เพราะสองเค่อต่อมา ปักษาวิญญาณสีแดงจำนวนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากหุบเขาแห่งนั้นด้วยบาดแผลฉกรรจ์

เป็นที่ชัดเจนว่าหอเทพอัคคีส่งคนจำนวนมากของพวกมันไปยังที่แห่งนั้น

“ฮี่ๆ ให้พวกมันรอดชีวิตไปอีกสักพักเพื่อสำรวจเส้นทางจะดีกว่า ข้าจะคอยอยู่รอบๆ แถวนี้เพื่อหาโอกาสอันดีเสียหน่อย” มุมปากของหลินซวนยกขึ้น จากนั้นเขาก็ในท่าเท้าเจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลายของตนไปยังพื้นที่ไร้คนซึ่งอยู่ไม่ไกล เพื่อจะเก็บเกี่ยวสมุนไพรวิญญาณ เป็นสถานที่ซึ่งเขาค้นพบจากการใช้นัยน์ตาหยินหยางก่อนหน้านี้

เหล่ารุ่นเยาว์ที่มิใช่คนของหอเทพอัคคีบางส่วนเลือกจากไป บางส่วนก็รอคอยโอกาสอยู่ไม่ไกลด้วยมิต้องการจะเสียเวลา พวกเขาต้องการจะเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของหอเทพอัคคี

ทว่า ไม่นานหลังจากนั้น ความสงบก็จางหายไป

หลินซวนที่เข้าไปยังหุบเขา ค้นพบสมุนไพรมากมายเติบโตอยู่และส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรระดับหมุนวนทะเลปราณ... เขาเพียงเดินได้ไม่กี่ก้าวก่อนที่ปราณกระบี่สีแดงจะพุ่งเข้ามา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด