ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 39 แข็งแกร่งขึ้นแบบ 2 ชั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 41 ตระกูลหลิน

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 40 อยากลองสู้กับจอมยุทธขั้นสูง


พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวอยู่ที่ระดับ 8 เท่ากับว่าความเร็วในการบ่มเพาะเร็วขึ้น 512 เท่า

นั้นคือผ่านไป 1 วันโลกภายนอกเท่ากับ 512 วันภายในมิติ และยังฝึกบ่มเพาะอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ถึงยังงั้นซู่เสี่ยวไป่ก็ยังใช้เวลาถึง 4 วันถึงจะทะลวงขั้นเขตแดนได้

จะเห็นได้ชัดเลยว่าเส้นทางของผู้ฝึกตนนั้นยากเย็นขนาดไหน!!

หากไม่มีทรัพยากรช่วยเร่งการบ่มเพาะหรือได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญคนอื่น การที่จะฝึกบ่มเพาะด้วยตนเองอย่างเดียว และค่อยๆ ทะลวงขั้นไปก็ไม่ต่างจากคลานขึ้นท้องฟ้า

แต่โชคดีที่ซู่เสี่ยวไป่ไม่ต้องใช้ของอะไรแบบนั้น ทั้งทรัพยากรและผู้เชี่ยวชาญ

ในตอนนี้ยังเป็นแค่ 512 เท่า ต่อไป 1024 เท่า และต่อไปอีกคือ 2048 เท่า ด้วยความเร็วในการบ่มเพาะที่บ้าคลั่งขนาดนี้ การบ่มเพาะ 1 วันของซู่เสี่ยวไป่ จะมากกว่าคนอื่นๆ ที่ใช้เวลาบ่มเพาะเป็นปีหรือเป็น 10ปี 100ปี

ไม่ว่าหนทางแห่งการฝึกตนจะยากลำบากขนาดไหน สำหรับซู่เสี่ยวไป่มันก็แค่เรื่องขี้หมา

“พลัง…พลังมันเอ่อล้นออกมาเลย!!”

ซู่เสี่ยวไป่ทะลวงขั้นของเขตแดนทำให้กระแสพลังภายในร่างของเขาพลุ่งพล่านไปหมด ทั้งเลือด เนื้อ กระดูก ถูกปรับปรุงและขัดเกลาให้ดีขึ้น

ทุกๆ การทะลวงขั้นหรือเขตแดน ผู้ฝึกตนที่ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่องจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปที่ละน้อย และรู้สึกชัดเจนมากขึ้นเมื่อทะลวงด่านได้ แต่สำหรับซู่เสี่ยวไป่ที่อยู่ๆ ก็ทะลวงขั้นหรือเขตแดนได้ภายในไม่กี่วัน เขาจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนและเห็นผลอย่างมาก ราวกับเกิดใหม่เป็นคนละคน

มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่

เขตแดน : ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง

ระดับพละกำลัง: จอมยุทธขั้นกลาง

ระดับความคงทน: จอมยุทธขั้นกลาง

ระดับความว่องไว: จอมยุทธขั้นสูง

พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ

วิชา: กายาเพชร(สูง) เหยียมย่ำข้ามนภา (สูง) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (พื้นฐาน)

โลหิตสังหาร (พื้นฐาน) วิถีควบคุมมิติ (ฝึกหัด)

ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 8]

พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 7] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว [ระดับ 4]

ความแข็งแกร่งพื้นฐานของซู่เสี่ยวไป่เทียบเท่ากับจอมยุทธขั้นกลางแล้ว

“ค่าสถานะไม่ถูกต้อง เรารู้สึกได้เลยว่าตอนนี้เราแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธขั้นกลางแล้ว!!”

ในแววตาของซู่เสี่ยวไป่ลุกโชนอย่างแรงกล้า

ครั้งหนึ่งที่เขาเคยได้สัมผัสกับกระแสพลังของจอมยุทธขั้นสูงอย่างใกล้ชิด

ทำให้เขารับรู้ได้ในทันที่ว่า กระแสพลังที่เขาปล่อยออกมาตอนนี้นั้น เหมือนกับกระแสพลังของจอมยุทธขั้นสูง

หากใช้วิชาทั้งหมดที่มีพร้อมกับวิถีควบคุมมิติ เป็นไปได้ว่าเขาจะสามารถจัดการกับจอมยุทธขั้นสูงได้

“เมื่อเราทะลวงเขตแดนขึ้นไปอีก ฉันจะแข็งแกร่งเท่ากับยอดยุทธ เมื่อใดที่อยู่ในเขตแดนยอดยุทธเราจะแข็งแกร่งเท่ากับจ้าวยุทธ…”

ผู้ที่อยู่ในเขตแดนจอมยุทธ จะมีสิทธิ์ในการย้ายครอบครัวไปอยู่ในพื้นที่ส่วนใน ก่อตั้งตระกูลเป็นของตัวเองหรือทำธุรกิจเป็นเจ้าของกิจการได้ แต่หากโชคดีอาจจะได้เข้าทำงานกับหน่วยงานของรัฐบาล

เมื่อใดที่อยู่ในเขตแดนยอดยุทธจะกลายเป็นบุคคลสำคัญของรัฐบาลทันที และยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไรก็ย่อมมีสิทธิ์มีเสียงในรัฐบาลมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ตระกูลของต้นมีอิทธิพลมากขึ้นไปด้วย และสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ

แต่ถ้าอยู่ในเขตแดนจ้าวยุทธจะเรียกได้เลยว่าเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของพื้นที่เขต 18 เพียงพลิกฝ่ามือก็ปิดบังแสงตะวันได้ ควบคุมชะตาชีวิตของผู้คน 5 ล้านชีวิต ในพื้นที่ของเขา ตัวตนระดับนี้จะออกหน้าเมื่อมีสถานการณ์ที่เลวร้ายเท่านั้น

ในปัจจุบัน พื้นที่เขต 18 ถ้าไม่นับผู้ว่าการของเขตแล้ว ก็มี 4 ตระกูลหลักที่เป็นขั้วมหาอำนาจของเขตนี้

ทุกคนสามารถที่จะเหาะเหินเดินอากาศ เคลื่อนภูผา ย้ายสมุทรได้ดั่งใจ

เขต 18 ถือว่าเป็นเมืองที่มีมนุษย์อาศัยอยู่มากอีกด้วย

“เราอยากจะลองงัดกับจอมยุทธขั้นสูงดูสักคนว่าตอนนี้ เราแข็งแกร่งขนาดไหนแล้ว!!”

“แต่ถ้าทำแบบนั้นจะไปเตะตาใครเข้าให้ เพื่อกันไม่ให้เป็นที่สนใจเกินไปเราควรช่างเรื่องนี้ไปก่อน!!”

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ภายในใจของซู่เสี่ยวไป่ก็ร้อนวิชาเหลือเกิน

เขาอยากจะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหน!!

ก่อนหน้านี้เขายังเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 17 ปีธรรมดาๆ แต่ภายในสองเดือนเขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสูง และความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจอมยุทธขั้นสูง การเติบโตของเขานั้นรวดเร็วจนไม่อาจจะจินตนาการได้เลย

“เดี๋ยวนะ ดูเหมือนว่าวิถีควบคุมมิติจะสามารถซ่อนกระแสพลังได้ด้วย!!”

ซู่เสี่ยวไป่พอจะนึกอะไรออกและได้ลองทำในทันที

ภายในจิตใจของเขาเริ่มเกิดการเคลื่อยไหว

กระแสพลังและกลิ่นไอของซู่เสี่ยวไป่ก็ค่อยๆ ลดลงจากผู้ฝึกยุทธขั้นสูงเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง และลดลงมาเรื่อยๆ

จนกลิ่นไอและกระแสพลังของเขากลับมาเหลือแค่กึ่งผู้ฝึกยุทธขั้นสูง!!

“ฮ่าๆๆๆๆ เจ้านักฆ่าคนนั้นมอบลาภก้อนโตให้เรา เหมือนมันมอบฟืนให้ในวันที่หิมะตก!!”

ซู่เสี่ยวไป่อดไม่ที่จะอดหัวเราะอย่างสะใจ

ถ้าหากเดรกมาได้ยินเข้า คงโกรธจนกระอักเลือดตายอีกรอบ

โกรธที่ วิชาที่ตัวเขาเองอุสาเก็บซ่อนไว้มานานและไม่อาจจะเรียนรู้ได้ กลับถูกซู่เสี่ยวไป่เอาไปและเรียนรู้ได้อย่างง่ายดายและถูกเยาะเย้ย

“ตอนนี้เราอยากจะทำอะไรก็ทำได้แล้ว!!”

“แต่รอให้เราทะลวงถึงเขตแดนจอมยุทธขั้นแรกก่อน เมื่อถึงเวลานั้น เรานี้และจะไปเหยียบถึงประตูหน้าบ้านตระกูลหยวนด้วยตัวเอง แล้วคิดบัญชีทั้งหมด!!”

นัยน์ตาของซู่เสี่ยวไป่เต็มไปด้วยความอาฆาต

การที่เขาเลือกเป็นฑูตของตระกูลจางนั้นเขาเองไม่ได้รู้สึกเสียใจเลย

และที่เขาต้องรู้สึกหวาดกลัวราวกับถูกมีดจอคอหอยตลอดเวลาก่อนหน้านี้ เป็นเพราะตระกูลหยวน

แต่ซู่เสี่ยวไป่ก็ไม่ประมาท

แม้ว่าตอนนี้เขาจะสามารถต่อกรกับจอมยุทธขั้นสูงได้แล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากหุนหันพลันแล่น

เมื่อใดก็ตามที่ซู่เสี่ยวไป่เข้าสู่เขตแดนจอมยุทธ มันจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลหยวน!!

ผ่านไปสามวัน

ซู่เสี่ยวไป่แต่งตัวปกปิดอีกครั้ง และไปยังหอการค้าเป่าตันเพื่อรับเงินจากการฝากขายยาทั้ง 12 เม็ด

เพื่อไม่ทำให้สะดุดตาเกินไป เขาได้ปกปิดพลังของตัวเองให้เหลือแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง

โรสได้ลงมารับซู่เสี่ยวไป่ด้วยตัวของเธอเอง

“คุณไป่ ยาทั้งหมดที่ฝากขายเป็นที่ต้องการอย่างมาก ทุกคนต่างแย่งกันประมูล!!”

“ทำให้ราคาของมันสูงไปถึง 280 ล้านเหรียญจิต!!”

“เมื่อหักค่าธรรมเนียมกับทางหอการค้าแล้วจะเป็นเงิน 258.58 ล้านเหรียญจิต เมื่อเซ็นรับเรียบร้อยแล้วทางเราจะโอนเงินเข้าบัญชีของคุณไป่คะ”

โรสยิ้มหวานให้กับซู่เสี่ยวไป่ เป็นรอยยิ้มที่สามารถทำให้ชายหนุ่มหลายคนคลั่งได้

“เข้าใจแล้ว..”

ซู่เสี่ยวไป่เซ็นรับเงินแล้วดูหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชี ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ

ครั้งนี้เขาไม่ได้กลั่นยามาด้วย

การกลั่นยาออกมาขายมากเกินไป จะกลายเป็นที่ดึงดูดของใครหลายๆ หากยังกลั่นออกมาขายอีกคงได้เจอปัญหาใหญ่แน่!!

“คุณไป่ โปรดรอก่อน!!”

“คือ…ลูกค้าที่ซื้อยาไปในครั้งนี้คือ หลินเฉิน ทายาทของผู้นำตระกูลหลิน…”

“เขาต้องการเจอคุณไป่..”

ก่อนที่โรสจะพูดอะไรจบ ซู่เสี่ยวไป่ก็ยกมือขึ้นห้ามเธอ

“ไม่”

ซู่เสี่ยวไป่ตอบอย่างไม่ใยดี

เมื่อพูดจบแล้วซู่เสี่ยวไป่กำลังจะเปิดประตูออกจากห้องรับรองแขกพิเศษ

แต่ทันใดประตูกลับถูกเปิดเอง และมีชายสามคนยืนรออยู่หน้าประตู

มีชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูลยืนยิ้นและมองมายังซู่เสี่ยวไป่

“อย่าพึ่งรีบร้อนสิครับคุณไป่ เหตุใดถึงได้รีบร้อนนัก”

“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณไป่เล็กน้อยเท่านั้นเอง!!”

ชายหนุ่มแต่งตัวดูดีพูดขึ้น ด้วยท่าทีนอบน้อม

ข้างๆ เขามีจอมยุทธขั้นสูงสองคนกำลังจ้องมองซู่เสี่ยวไป่อย่างไม่กระพริบตา ทั้งคู่ปล่อยกระแสพลังออกมาอย่างเงียบๆ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกกดดันเล็กน้อย จากกระแสพลังของคนทั้งสอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด