ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 38 บรรลุวิถีควบคุมมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 40 อยากลองสู้กับจอมยุทธขั้นสูง

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 39 แข็งแกร่งขึ้นแบบ 2 ชั้น


ฝุ่นที่ตรงมุมห้อง

รอยแตกเล็กๆ ที่ขาโต๊ะ

พวกแมลงสัตว์เลื้อยคลานที่กำลังมุดอยู่ในดิน

เพียงช่องว่างเล็กๆ ระหว่างประตูห้องก็พอแล้วที่จะทำให้เขาเห็นซู่หลิงเกอนั่งดูทีวีอยู่พร้อมกับกินขนม และได้ยินกระทั้งเสียงที่เธอพูด

มุมมองของซู่เสี่ยวไป่กว้างขึ้นเรื่อยๆ มันขยายการรับรู้ของเขาออกไปทุกทิศทางรอบตัว

ต้นไม้ ดอกไม้ นก ฝูงแมลง

เพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมา

แม้แต่เส้นผมเล็กๆ ที่ร่วงจากหัวซู่เสี่ยวไป่ก็ยังมองเห็น

มุมมองของซู่เสี่ยวไป่กว้างออกไปเรื่อยๆ

คนที่เดินอยู่ตามท้องถนน คนขายของระแวกนั้น รถที่วิ่งผ่านไปผ่านมา ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของเขาทั้งสิ้น

“หือ?”

อยู่ๆ ซู่เสี่ยวไป่ก็ถึงกับขมวดคิ้ว

เขาเห็นใครสักคนที่ดูคุ้นตา

“นั่นใช่…น้องของผู้นำตระกูลจางหรือเปล่า?”

ซู่เสี่ยวไป่จำได้ในทันทีเมื่อเห็น

ชายผู้นี้นั่งอยู่บนยอดตึก กำลังหลับตาทำสมาธิบ่มเพาะอยู่ ชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือ จางเหิงเต่อ น้องชายของผู้นำตระกูลจาง!!

“จากจุดที่เขาอยู่ เขาสามารถเฝ้าดูฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นแปลว่าเขากำลังคุ้มกันฉันอยู่!”

ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับแปลกใจอยู่ไม่น้อย

ไม่คิดว่าจางเหิงเต่อจะเป็นคนที่คอยคุ้มกันเราอยู่ เขาลืมกินยาเขย่าขวดรึไง? หรือจะเป็นเพราะว่าเราเองเป็นฑูตของตระกูลจางแล้ว ทำให้เหมือนร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน

ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าตระกูลจางควรส่งคนมาคุ้มกันเขาสักคนสองคน แต่ไม่คิดว่าจะเอาระดับรองผู้นำตระกูลมาคุ้มกัน

ให้จอมยุทธขั้นกลางมาคอยคุ้มกันผู้ฝึกตนขั้นกลาง? มันไม่มากเกินไปงั้นหรอ?

แต่หากไม่ได้มาคุ้มกันล่ะ หากว่าเขามีแผนการอื่น….แต่ถ้าจะเขาคงลงมือ เขาคงทำไปนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้เราแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ก่อน

“ไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมตอนที่เราสู้กับมือสังหารนั้น เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของใครสักคน ที่อยู่ไม่ไกลจากเราเท่าไร คงต้องเป็นเขาแน่ๆ”

แม้ว่าซู่เสี่ยวไป่จะเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นแรกในตอนนั้น แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงกระแสพลังของจางเหิงเต่อที่แผ่ออกมาเพราะความกังวล แต่เพราะกำลังสู้กับเดรกอยู่เลยทำให้ซู่เสี่ยวไป่ไม่มีเวลามาสนใจ

ซู่เสี่ยวไป่พอจะคาดเดาได้แล้วว่า ตระกูลจางส่งคนมาคุ้มกันเขาตั้งแต่แรก

“ดูท่าฉันจะเลือกฝั่งถูกสินะ”

ซู่เสี่ยวไป่หัวเราะเบาๆ

แต่การรับรู้และการมองเห็นของซู่เสี่ยวไป่ยังไกลออกไปได้อีก

แล้วไม่นานซู่เสี่ยวไป่ก็รู้ถึงขีดจำกัด

เขาสามารถเห็นและสัมผัสได้ทุกอย่างที่อยู่ในระยะ 50 เมตรเท่านั้น

หากไกลกว่านั้น สัมผัสและการเห็นของเขาจะด้อยลงเรื่อยๆ เหมือนกับคนสายตาสั้นมากๆ ทุกอย่างมันจะดูเบลอๆ ไปหมด แต่หากเพ่งสมาธิสักหน่อยก็พอจะรับรู้ได้ไกลถึง 100 เมตร แต่ถ้าเลยไปมากกว่านั้น จะไม่เห็นหรือรับรู้อะไรเลย เหมือนคนตาบอด

“สัมผัสรับรู้แบบอาณาเขต อยากรู้จริงๆ ว่าสัมผัสการรับรู้นี้มันเทียบเท่ากับการตรวจจับของเขตแดนยอดยุทธหรือไม่”

ซู่เสี่ยวไป่ปิดการรับรู้ของเขา

การเปิดสัมผัสรับรู้ของกระแสพลังเป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีแต่ในเขตแดนยอดยุทธ ซึ่งซู่เสี่ยวไป่เองก็เข้าใจแล้วว่า เหตุผลที่ผู้คนโดนกระแสพลังของเขตแดนยอดยุทธตรวจสอบ ถึงอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

การรับของรู้ของวิชาวิถีควบคุมมิตินั้นใกล้เคียงกับสัมผัสรับรู้ของยอดยุทธอยู่ระดับหนึ่ง

“เปิดพื้นที่ว่าง!!”

ซู่เสี่ยวไป่เอานิ้วชี้และนิ้วกลางติดกันก่อนจะชี้นิ้วออกไป แล้ววาดมือไปด้านหน้า

แล้วทันใดเกิดช่องว่างของมิติถูกเปิดขึ้นเป็นรอยยาวโปร่งแสง

มันคือพื้นที่มิติ

การมีอยู่ของมิตินี้เป็นเอกเทศไม่ยุ่งเกี่ยวกับมิติใดๆ ทั้งสิ้น

เนื่องจากยังสำเร็จวิชาวิถีควบคุมมิติแค่ขั้นฝึกหัด ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ยังไม่อาจจะเข้าใจเนื้อหาที่แท้จริงของวิชานี้ได้ลึกซึ้ง พื้นที่มิติในตอนนี้เลยมีความกว้างแค่ 100 ตารางเมตรเท่านั้น

แต่ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะ มันก็กว้างมากอยู่ดี

มันกว้างพอที่จะเอาอะไรใส่เข้าไปก็ได้ เหมาะกับเป็นที่เก็บของที่สุด

และขนาดของมิติจะเพิ่มขึ้นเองเรื่อยๆ ตามความแข็งแกร่งของซู่เสี่ยวไป่

“น่าเสียดายที่ไม่สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปอยู่ในมิตินี้ได้ ไม่ยังงั้นเราคงใช้มันเป็นที่หลบหนีฉุกเฉินได้”

พื้นที่มิติสามารถเก็บได้แต่สิ่งของที่ไร้ชีวิตเท่านั้น ไม่สามารถใส่สิ่งมีชีวิตเข้าไปได้

แต่ก็ไม่แน่หากความลับของวิถีควบคุมมิติถูกเปิดเผยมากขึ้น มันอาจจะทำอะไรได้มากกว่านี้

“สุดท้าย เคลือนทีข้ามมิติ!!!”

ซู่เสี่ยวไป่ก้าวออกไปอย่างช้าๆ

เมื่อตอนยกเท้าขึ้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่เมื่อตอนกำลังจะเอาเท้าลงไปวางด้านหน้า

วูบ!!

ร่างของซู่เสี่ยวไป่ ไปปรากฏตัวที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องในทันที

ไม่ได้เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ไม่มีแรงสั่นสะเทือนอะไรทั้งสิ้น หรือแรงต้านอากาศ มันคือการหายจากอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในทันที และมีร่องรอยของมิติที่ถูกฉีกขาดอยู่จางๆ

เป็นหนึ่งในความสามารถที่มีประโยชน์ที่สุดของวิถีควบคุมมิติ ที่ซู่เสี่ยวไป่ชอบ

ก้าวพริบตา

ในขั้นฝึกหัด การก้าวพริบตาของวิชาวิถีควบคุมมิติยังสั้นอยู่มาก มีระยะไม่ถึง 5 เมตรด้วยซ้ำ

“ความสามารถนี้ทำให้เราเข้าประชิดศัตรูที่อยู่ห่างกับเราได้ในพริบตา ที่นี่เราก็จะไม่ต่างจากเครื่องจักรสังหาร”

แววตาของซู่เสี่ยวไป่เป็นประกายและนึกถึงพ่อของตัวละครเอกตัวหนึ่งในแห่งโลกของนินจาที่พระเอกอยากเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน….

หากอยู่ใกล้ๆ ซู่เสี่ยวไป่ระยะไม่เกิน 5 เมตร พวกเขาจะถูกปาดคอโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

“เดี๋ยว…ไม่ใช่เรารู้สึกไปเองใช่ไหม ว่าเราคล่องแคล่วขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า!!”

ความเร็วที่ถูกเร่งขึ้นในมิติพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวนั้นส่งผลต่อความว่องไวของซู่เสี่ยวไป่ จากการสำเร็จวิชาวิถีควบคุมมิติ

หากใช้ทั้งก้าวพริบตาผสานกับความว่องไวของตัวเขาเองในตอนนี้ มันจะกลายเป็นความเร็วที่เกินจะจินตนาการได้!!

ซู่เสี่ยวไป่รีบตรวจสอบสถานะความว่องไวของเขาทันที

มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่

เขตแดน : ผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง

ระดับพละกำลัง: จอมยุทธขั้นแรก

ระดับความคงทน: จอมยุทธขั้นแรก

ระดับความว่องไว: จอมยุทธขั้นสูง

พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ

วิชา: กายาเพชร(สูง) เหยียมย่ำข้ามนภา (สูง) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (พื้นฐาน)

โลหิตสังหาร (พื้นฐาน) วิถีควบคุมมิติ (ฝึกหัด)

ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 8]

พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 7] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว [ระดับ 4]

“ความว่องไวของเราเทียบเท่ากับจอมยุทธขั้นสูงแล้ว!!”

ซู่เสี่ยวไป่ตกใจอย่างมาก

ไม่คิดว่าการสำเร็จวิถีควบคุมมิติ จะทำให้ความว่องไวของเขาเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ขั้น

ความสามารถของวิชานี้ ได้เปลี่ยนค่าสถานะพื้นฐานของเขาไป!!

ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมวิชาควบคุมธาตุมิติระดับละเอียดอ่อนถึงทำให้ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ออกมาแย่งชิงกัน

ขณะที่ซู่เสี่ยวไป่กำลังดื่มด่ำไปกับความสุดยอดของวิชาวิถีควบคุมมิติที่เพิ่มความว่องไวให้เขาเป็น 2 ขั้นอยู่นั้น

เพล้ง!!

กระแสพลังชุดใหม่ระเบิดทะลักออกมาจากร่างของซู่เสี่ยวไป่ในทันที

“ทะลวงขั้น!!?!!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด