ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0018
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0020

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0019


บทที่ 7 ป่าเบอร์มิวด้า, ออกล่า (4)

* * *

หลังจากเพิ่งทราบข่าว จินซอยอนรีบย้อนกลับมาทันที

“ปฏิบัติการจบแล้ว?”

“นั่นคือสิ่งที่พวกเขารายงาน เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางกลับ อีกสองสามชั่วโมงคงได้รู้ความจริงกัน”

“รายงานมีแค่นี้?”

ผู้บัญชาการใหญ่พยักหน้ารับ

รายงานที่ส่งกลับมากะทันหันเต็มไปด้วยข้อสงสัย แต่อีกฝ่ายกำลังเดินทางกลับ จึงมิอาจถามทุกเรื่องผ่านวิทยุสนาม

แม้จะไม่อันตรายเท่าในป่า แต่ด้านนอกเบสแคมป์ก็ไม่ได้ปลอดภัยโดยสมบูรณ์

ผู้บัญชาการใหญ่ออกคำสั่งกับบางหน่วยผ่านอุปกรณ์สื่อสารแบบมีสาย

“เราได้รับรายงานว่า หน่วยพิเศษที่หายตัวไปถูกช่วยเหลือออกมาแล้ว ขอให้ทีมแพทย์เร่งมือเตรียมความพร้อมโดยด่วน”

สิ่งสุดท้ายที่ OWIC ต้องทำก็คือ เตรียมวิเคราะห์ข้อมูลจากภาคสนาม หมายความว่าจินซอยอนมีงานหนักรออยู่

ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง

[ทีมปฏิบัติการกลับมาแล้ว]

จินซอยอนผู้อยู่ในละแวกเดียวกับเวรยามที่ส่งรายงาน รีบหันหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง

พระอาทิตย์ใกล้ขึ้นเต็มที เส้นขอบฟ้าสีม่วงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้า

มนุษย์กลุ่มหนึ่งทยอยปรากฏตัวจากเนินเขาในทิศเดียวกับป่าเบอร์มิวด้า

เจ้าหน้าที่ทุกคนหยุดมือทันที รีบมองไปยังตำแหน่งดังกล่าว

ทีมปฏิบัติการสามสิบคน บางคนกำลังแบกบางสิ่ง คงเป็นหน่วยพิเศษที่หายตัวไปก่อนหน้านี้

และท่ามกลางกลุ่มเจ้าหน้าที่ ชายคนหนึ่งกำลังเดินในตำแหน่งกึ่งกลาง ประหนึ่งกำลังถูกคุ้มกัน

ชายคนดังกล่าวแบกซากศพสัตว์ประหลาดยักษ์พาดไหล่ด้วยแขนข้างเดียว

“นั่นคือสัตว์ประหลาด?”

“ตัวใหญ่ชะมัด ใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลย…”

เจ้าหน้าที่พากันส่งเสียงฮือฮา สายตาจ้องไปทางศพสัตว์ประหลาด

มีเพียงคนเดียวที่จ้องชายผู้กำลังแบกศพ

จินซอยอน

“พี่สาว ทีมวิจัยเตรียมตัวเสร็จหรือยัง? ผมต้องปรับแต่งการตั้งค่าล่วงหน้า… อะ… เอ่อ?”

จองจีฮุนที่เตรียมสะสางงานสุดท้าย แวะมาหาจินซอยอนเพื่อขอความร่วมมือจากทีมวิจัย

ทว่า จินซอยอนกลับเอาแต่จ้องเส้นขอบฟ้าประหนึ่งคนหูหนวก

“นี่! พี่สาว?”

หลังจากเห็นสีหน้าจินซอยอน จองจีฮุนหมดคำจะพูด

“…ต้องเป็นของฉัน”

จองจีฮุนสะดุ้งเฮือก คล้ายกับความเย็นกำลังแผ่ซ่านไปทั่วแผ่นหลัง

เมื่อลองมานึกดู

บริษัทนี้มีแต่พวกโรคจิตจริงๆ

* * *

นี่มันอะไร?

เต็นท์จำนวนมากถูกกางบนที่โล่งจนเด่นสะดุดตา มองยังไงก็รู้ว่าเป็นค่ายทหาร

ระหว่างเต็นท์ใหญ่มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ พิจารณาจากเสาอากาศ คงเป็นรถบรรทุกอุปกรณ์สื่อสารหรือไม่ก็สำรวจ

“…เล่นขับรถแบบนี้ไปไหนมาไหน ถ้าถูกชาวต่างโลกจับได้จะทำยังไง?”

จากมุมมองชาวต่างโลก ไม่ว่ายังรถคันนี้ก็ดูมีพิรุธมาก

ฉันคิดแบบนั้นในตอนแรก แต่เมื่อพิจารณาสภาพแวดล้อมอย่างถี่ถ้วน ฉันสังเกตเห็นจุดคัดกรองคนเข้าออกในรัศมีกว้าง

พยายามปกปิดแล้วสินะ?

“…”

“นั่นเจ้าหน้าที่ของเรา?”

“อาจเป็นพลเรือน หรือไม่ก็ฮาวนด์”

“…ฮาวนด์แบกสัตว์ประหลาดนั่นคนเดียวไม่ไหวหรอก”

“ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของเราอยู่แล้ว”

ดูเหมือนว่าคนของ OWIC จะยังไม่ทราบสถานการณ์โดยละเอียด

สำหรับฉัน แบบนี้ดีแล้ว เพราะไม่อยากให้มีข่าวลือแปลกๆ แพร่ออกไปจนชีวิตวุ่นวาย

หากเป็นไปได้ ฉันก็อยากให้ทุกสิ่งถูกปิดเป็นความลับ แต่จะไปหวังถึงขั้นนั้นก็คงยาก

ขณะครุ่นคิด ฉันเดินผ่านค่ายทหาร

ทุกครั้งที่มีคนเห็น พวกเขาจะหยุดทำงานและเหลียวหลังกลับมามอง

ทันใดนั้น ทีมปฏิบัติการคนหนึ่งเดินเข้าไปในเต็นท์ซ่อมบำรุง ไม่นานก็มีเสียงบ่นดังออกมา

“มันยิงไม่ออกตั้งแต่นัดแรก”

“หมายถึง… กระสุนไม่พุ่งออกจากลำกล้อง?”

“ปืนพวกนี้ใช้ได้แน่หรือ? แค่ทำจากพลาสติกก็น่าหงุดหงิดมากแล้ว นี่ยังยิงไม่ออกอีก… รู้งี้พกหนังสติ๊กไปแทนดีกว่า”

วิศวกรเอียงคอสงสัย ก่อนจะแยกปืนออกมาตรวจสภาพ

“สลักตรงนี้เปียกชุ่มไปหมด… ทำตกน้ำที่ไหนมา?”

“หา? ยังไม่ได้เข้าใกล้แหล่งน้ำเลย”

แน่นอนอยู่แล้ว เพราะนั่นเป็นฝีมือของฉัน

เมื่อเห็นปากกระบอกปืน ฉันรีบใช้ภาษารูนก่อนที่ไกปืนจะถูกเหนี่ยว

เดาได้ไม่ยากว่าทางนั้นจะกระหน่ำยิงเข้ามา ฉันจึงเตรียมรับมือล่วงหน้า

เกือบได้กินกระสุนเปลี่ยนดวงชะตาเข้าไปแล้ว…

แม้จะไม่แสดงออก แต่ฉันตกใจพอสมควร

เดินผ่านหน้าค่ายทหารที่กำลังยุ่งวุ่นวาย ฉันตัดสินใจตรงดิ่งกลับสำนักงานทันที

ระหว่างทาง ฉันพบจินซอยอน

“เธอก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ”

“คุณคังซอนฮู…”

เดี๋ยวนะ สายตานั่นมันอะไร?

ฉันถึงกับขนลุก สายตาของจินซอยอนเหมือนกับพวกสัตว์กินเนื้อไม่มีผิด คล้ายกับเสือพูม่าต่างโลกที่เคยจ้องจะเขมือบฉัน

จินซอยอนรีบส่ายหน้าเพื่อดึงสติ

“…ฉันไม่คิดว่าคุณจะทำจริงๆ”

“ก็บอกไปแล้วว่าจะทำ เชื่อใจคนยากจังนะ”

“ฉันเป็นนักวิจัย พื้นฐานคือการตั้งคำถาม”

ในเวลาเดียวกัน ทีมแพทย์ลากเปลสนามผ่านไป

“ขอทางหน่อย! กำลังเคลื่อนย้ายคนเจ็บ!”

“สัญญาณชีพเป็นยังไงบ้าง?”

“ไม่ร้ายแรง! กำลังพาไปตรวจสุขภาพ!”

เห็นจินซอยอนหันไปมอง ฉันคิดว่าควรบอกให้เธอรู้

“ทุกคนปลอดภัยดี”

“คุณซอนฮูช่วยไว้สินะคะ… ขอบคุณมาก”

“มีสามคนที่อาการน่าเป็นห่วง ถึงผมจะปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วในป่า แต่ก็ยังมีภาวะขาดสารอาหาร รีบดูแลพวกเขาก่อน”

“…ขอบคุณค่ะ ฉันคงทำได้แค่พูดขอบคุณ”

ฉันพยักหน้ารับและเดินตรงไปตามทาง

ถึงจะไม่แสดงออก แต่สิ่งที่อยู่บนบ่านั้นหนักเอาการ อยากรีบวางใจแทบขาด

ทว่า ใครบางคนมาขวางทางฉันอีกครั้ง

“วางลงเดี๋ยวนี้!”

“…?”

ฉันสับสนเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยังทิศทางของเสียง และพบเจ้าหน้าที่หน้าเด็กคนหนึ่ง กำลังฝืนทำหน้าเข้ม

พิจารณาจากชุดที่สวม น่าจะเป็นพนักงานมากกว่าเจ้าหน้าที่

“ตามกฎแล้ว วัตถุต่างโลกทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของ OWIC หากบริษัทเรียกคืน คุณก็ต้องนำกลับมา…”

ผัวะ!

ยังไม่ทันพูดจบ ใครบางคนวิ่งเข้ามาและตบเข้าที่ท้ายทอย

เป็นคนที่ฉันคุ้นหน้าดี

“เจอกันอีกแล้ว”

“สวัสดีครับคุณคังซอนฮู ผมคือหัวหน้าแผนกยุทธศาสตร์ จองจีฮุนครับ!”

“จำได้”

“ขอบคุณครับ! และต้องขอโทษที่เสียมารยาท!”

จองจีฮุนโค้งศีรษะลง เด็กหนุ่มด้านข้างถูกมือจองจีฮุนกดหัวให้ก้มโดยไม่ทราบสาเหตุ

“หมอนี่เป็นเด็กใหม่น่ะครับ กำลังเรียนรู้งานอยู่…”

“ได้ยินว่าเป็นกฎ… สรุปแล้วยังไง?”

“นั่นคือในกรณีที่บริษัทเรา ‘เรียกคืน’ ครับ หากเป็นเช่นนั้น จะมีการนัดพบอย่างเป็นทางการในภายหลัง… สำหรับตอนนี้ คุณคังซอนฮูเป็นเจ้าของซากอย่างถูกต้องครับ! ผมขอรับประกันและจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง”

“…”

ไม่ได้ตอบอะไร ฉันแค่พยักหน้ารับและเดินไปจนพ้นเขตค่ายทหาร

เด็กใหม่สินะ หลังจากนี้คงโดนสวดยาว…

ใช้เวลาอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง ฉันกลับมาถึงกระท่อม

ตึง!

วางสัมภาระลงบนพื้น ฉันรู้สึกเหมือนไหล่จะหลุด

กลับไปขอให้ OWIC ช่วยรักษาดีไหม?

ฉันส่ายหน้า กวาดตามองรางวัลจากการล่า

ประกอบด้วยด้ายที่พันรอบรังไหม, เปลือกแข็งของรังไหม, และซากปรสิต

หากต้องการนำด้ายมาใช้งาน จำเป็นต้องผ่านกระบวนการอีกเล็กน้อย ฉันจึงวางไว้ในห้องเก็บของ

เปลือกของรังไหมจะถูกนำไปตากแห้งและนำมาทำเป็นเสื้อโคต มันแข็งถึงขนาดที่มีดของฉันมิอาจสร้างรอยขีดข่วน แต่มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นมาก

และชิ้นสุดท้าย สำคัญที่สุด

แขนใบมีดที่เหมือนกับขาหน้าของตั๊กแตนตำข้าว

วืด—

หลังจากหยิบข้างหนึ่งขึ้นมาแกว่ง ต้นไม้เล็กๆ หน้ากระท่อมถูกฟันขาดทันที รอยตัดเรียบเนียนราวกับใช้กระดาษทรายขัด

อาวุธของปรสิต คมเหมือนหินดำ แข็งเหมือนเหล็ก

สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ มันเป็นโลหะจริงๆ แถมยังปล่อยแก๊สกัดกร่อนโลหะ

หรือกล่าวได้ว่า นี่คือโลหะชีวภาพที่มีภูมิคุ้มกันแก๊สกัดกร่อน

โดยทั่วไปแล้ว ความคมและความคงทนมักอยู่ร่วมกันไม่ได้

ยิ่งคมมาก ความทนทานก็ยิ่งต่ำ

อุปกรณ์ที่ไม่คงทนจะไม่มีคุณค่าในการสำรวจ

กล่าวคือ ใบมีดชนิดนี้เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม

“…ต้องหาวิธีแปรรูป”

เหตุผลที่ฉันไม่เคยทำเรื่องนี้สำเร็จสมัยยังดิ้นรนในต่างโลก เพราะภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว ค่อนข้างยากที่จะหาวิธีและเครื่องมือสำหรับแปรรูปเป็นอาวุธ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว หมู่บ้านเบสแคมป์อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ และเดินถัดไปอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงใจกลางกรุงโซล

ซากศพที่เหลือยังนำมาทำประโยชน์ได้ ฉันจึงใส่ถุงและวางไว้ด้านหลังกระท่อม

ในเขตรกร้างของต่างโลก กระบวนการเน่าเปื่อยจะเกิดขึ้นช้ากว่าปรกติ สามารถปล่อยศพทิ้งได้นานหลายสัปดาห์

“เตรียมการเสร็จสิ้น”

ฉันนั่งลงและพูดกับลิลี่ที่กำลังจ้องหน้า

แม้จะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ฉันคือคนที่พูดกับลูกโป่งอยู่หลายปี อย่างน้อยลิลี่ก็ยังเป็นมนุษย์

“…เธอยากเป็นวิลสันไหม? วิลสันซีซั่น 2,144”

“…?”

เมื่อเห็นลิลี่เอียงคอฉงน ฉันขำแห้งทันที

รู้สึกเขินมุกตัวเองจนต้องลุกจากเก้าอี้ เตรียมออกไปชำระล้างร่างกาย

อย่างไรก็ดี ฉันพบว่าสีหน้าของลิลี่ค่อนข้างประหลาด

คล้ายกับกำลังอมทุกข์ กลุ้มใจ หรือเตรียมตัดสินใจบางสิ่ง

คิดอะไรอยู่กันนะ?

* * *

ลิลี่นึกทบทวนเหตุการณ์ในป่าอีกครั้ง

ก่อนจะออกจากป่า คังซอนฮูที่เพิ่งล่าปรสิตสำเร็จ เงยหน้ามองรังไหมที่ว่างเปล่า

สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข ลิลี่เองก็ทราบว่า เปลือกของดักแด้มีคุณค่ามากแค่เพียงใด

ฉึบ—!

คังซอนฮูตัดเปลือกดักแด้ด้วยแขนใบมีดของปรสิต

ลิลี่มองดูฉากดังกล่าวพร้อมกับตั้งคำถาม

‘เหลือไว้ทำไม?’

ดักแด้มีน้ำหนักเบา และถ้าพับก็จะไม่กินพื้นที่

แต่คังซอนฮูไม่คิดจะนำดักแด้เปล่ากลับไปทั้งหมด ยังเหลือบางส่วนทิ้งไว้ที่หัวใจป่า

ลิลี่เข้าใจความหมายทันที

‘เพื่อช่วยป่า…’

แม้ปรสิตจะถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว แต่ในสายตาลิลี่ ป่านี้กำลังจะตาย

สารอาหารถูกแย่งชิงไปเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้น ป่าที่ตั้งอยู่ในเขตรกร้างกลับลงทุนสร้างกำแพงเถาวัลย์รอบทิศเพื่อช่วยคังซอนฮู พฤติกรรมดังกล่าวสิ้นเปลืองพลังมหาศาล

ป่ากำลังขาดแคลนสารอาหารอย่างหนัก

อย่างไรก็ดี สารอาหารบางส่วนที่ปรสิตแย่งชิงไปยังหลงเหลือในดักแด้ เพราะปรสิตตายก่อนที่จะได้กินดักแด้

ดังนั้นหากดักแด้อยู่ใกล้กับหัวใจป่า ยังมีโอกาสที่ป่าจะฟื้นฟูพลังงานกลับมา จนเพียงพอสำหรับการอยู่รอด

คังซอนฮูคิดไกลถึงเพียงนั้น

เต็มใจสละสิ่งสำคัญ เพื่อให้ป่ายังดำรงอยู่ได้

“แบ๊ะ—”

แกะหนุ่มสีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของป่าเบอร์มิวด้า ใช้ศีรษะถูไถกับขาคังซอนฮูเพื่อแสดงความขอบคุณ

คังซอนฮูยิ้มพร้อมกับลูบศีรษะมัน

“ขอแค่ทุกครั้งที่ฉันเข้ามาในป่า ได้โปรดอย่าหัวเสีย ไม่ต้องการอย่างอื่นนอกจากนี้แล้ว”

เธอไม่เข้าใจความหมาย แต่พอจะเดาได้ว่า ในอนาคต ป่าเบอร์มิวด้าจะให้ความร่วมมือกับคังซอนฮูอย่างเต็มที่

ไตร่ตรองเสร็จ ลิลี่มองไปทางคังซอนฮูที่เพิ่งกลับจากบ่อน้ำพุเล็กๆ

ชายหนุ่มเช็ดคราบเปียกด้วยผ้าขนหนู จากนั้นก็เดินไปนอนบนเก้าอี้ยาวหน้ากระท่อม

เธอตัดสินใจได้แล้ว

ชายคนนี้มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การเป็นผู้ปกครอง

ไม่สิ อาจเหนือกว่านั้นอีก

ไม่จำเป็นต้องประวิงเวลาอีกต่อไป ความกังวลอันยาวนาน ในที่สุดก็ถึงคราวตัดสินใจ

ลิลี่ลุกจากที่นั่ง สองมือประสานกันด้านหน้าขณะเดินไปหาคังซอนฮูด้วยย่างก้าวนุ่มนวล

คังซอนฮูยังคงนอนในสภาพหมวกปิดหน้า ไม่มีการตอบสนองแม้จะรู้ตัวว่าลิลี่เข้ามาใกล้

ไว้ใจเราขนาดนั้นเชียว?

ลิลี่ผู้เข้าประชิดตัว ก้มมองชายหนุ่มสักพัก

หงับ

เธอกัดนิ้วของเขา

“…!?”

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด