ตอนที่แล้วEp.67 - ปล้นสมบัติพวกมนุษย์ปลา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.69 - ชายหน้ากากปรากฏตัว

Ep.68 - โลกกลม


1/3

Ep.68 - โลกกลม

มีสมบัติในค่ายมนุษย์ปลามากกว่าที่คาดไว้

เนื่องจากพื้นที่เก็บของไม่พอ ฮังอวี่จึงไม่สามารถนำกลับไปได้ทั้งหมด

สำหรับของที่เอาไปไม่ได้ แม้เขาจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เสียใจ

เพราะสิ่งที่เหลืออยู่ล้วนเป็นทรัพยากรราคาถูกไม่ก็ไร้ประโยชน์ ของดีๆฮังอวี่ฮุบไปหมดแล้ว

อย่างแร่เหล็กเย็น มันคือวัสดุหลักสำหรับใช้หลอมอาวุธระดับต่ำจำนวนมาก สามารถนำไปใช้สร้างค้อนคนงานของมนุษย์ปลาได้

ส่วนกระดองเต่าเต่าเหล็กนั้นสามารถนำไปใช้สร้างโล่เต่าเหล็กได้

ด้านสารสกัดกระดูกฉลามขาวและสมุนไพรเต่านั้นเป็นวัถดุดิบคุณภาพสูง

อย่างแรกสามารถใช้สร้างหอกก้างปลาอันทรงพลัง อย่างหลังสามารถนำไปกลั่นโพชั่นลมหายใจเต่า

นอกจากนี้ก็เป็นพวกพิม์เขียว

สำหรับฮังอวี่ กอบโกยเท่านี้ก็นับว่ามากพอแล้ว

ฮังอวี่ไม่มีแผนจะสำรวจต่อ แม้รู้ทั้งรู้ว่าในแม่น้ำมีเรือผีอยู่ และที่นั่นมีโอกาสได้รับสมบัติมากกว่าที่นี่

อย่างไรก็ตาม การลอบขึ้นไปบนเรือนั้นเสี่ยงเกินไป!

ตอนนี้ในแม่น้ำเต็มไปด้วยพวกมนุษย์ปลา การว่ายลงไปเท่ากับแส่หาที่ตาย

มีโอกาสถูกฆ่า 100%!

บนเรือผีสิงนั่นคงเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ และอาจมีพวกมอนสเตอร์ชั้นสูงอย่างมนุษย์ปลานักล่าอยู่เป็นจำนวนมาก

ทีนี่คือโลกจริง หากตายจะไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพ

ไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้ได้แต่ปล่อยมันไปเท่านั้น!

ฮังอวี่กลับมาบนถนน ขึ้นขี่จักรยานแล้วปั่นออกจากสถานที่นี้ไป

แต่ฮังอวี่ออกไปไม่กี่นาที เขาก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดุเดือดดังขึ้นเบื้องหน้า

ดูเหมือนว่าจะมีมนุษย์ปลากลุ่มใหญ่กำลังต่อสู้กับคนกลุ่มหนึ่ง

“ฉันก็นึกอยู่ว่าทำไมไม่มีพวกมอนสเตอร์ในค่าย”

“ที่แท้พวกมันก็ถูกคนกลุ่มนี้ล่อมานี่เอง”

ปรากฏว่า ฮังอวี่ไม่ใช่คนแรกที่ค้นพบค่าย

เห็นได้ชัดว่ามีอีกกกลุ่มหนึ่งเร็วกว่าเขา แต่คนพวกนี้เลือกบุกซึ่งๆหน้า เลยเป็นการดึงดูดมอนสเตอร์ออกไป

เพราะพวกเขา เมื่อฮังอวี่ไปถึงค่ายจึงพบว่ามันแทบว่างเปล่า

พิจารณาจากเสียงการต่อสู้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ!

ฮังอวี่นิ่งคิดพักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจย่องเข้าไปดู

ยังไงซะ หากอีกฝ่ายไม่ล่อพวกมนุษย์ปลาออกไป อะไรๆฝั่งเขามันคงไม่ง่ายดายขนาดนี้

ไหนๆตัวเองก็ได้ประโยชน์แล้ว หากปล่อยให้อีกฝ่ายเดือดร้อน แล้วตนตบตูดจากไปเพียงลำพัง มันคงไม่ดี

ขณะที่พละกำลังที่ได้รับจากไตแกะยังไม่หายไป ดาเมจที่สามารถสร้างได้ในระหว่างนี้จึงยังสูงมาก ปล่อยให้เสียเปล่าคงไม่ได้

แต่ยังไงอันดับแรกขอไปดูกันก่อน

ฮังอวี่ค่อยๆปั่นจักรยานเข้ามาใกล้ๆอย่างช้าๆ สายตาเขาเริ่มเห็นกลุ่มคนผ่านหมอกจางๆ  ทั้งหมดดูเหมือนจะมี 6 คน

แต่ตอนนี้พวกเขากำลังถูกปิดล้อมโดย มนุษย์ปลากว่า 50 ตน!

นอกจากนี้ยังมีศพมนุษย์ปลาแน่นิ่งอยู่กับพื้นอีกเป็น 10 ตน ชัดเจนว่าเกิดการต่อสู้มาระยะหนึ่งแล้ว

“มีพวกมนุษย์ปลาอยู่เยอะขนาดนี้เชียว?”

“ทีมนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก”

จำนวนมนุษย์ปลาในที่นี้ เห็นได้ชัดว่ามากกว่าฝ่ายมนุษย์มาก!

อย่างไรก็ตาม ทีมหกคนนี้ แม้ถูกปิดล้อม แต่ก็ยังทนมาจนถึงตอนนี้ได้

นี่มากพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าพลังรบของพวกเขาไม่อ่อนแอ

แน่นอน เพราะมีมอนสเตอร์มากเกินไป ขณะนี้พวกเขาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ฮังอวี่พบร่างอันคุ้นเคยในคนกลุ่มนั้น เขาอดประหลาดใจไม่ได้

“ให้ตายเหอะ นั่นอาจารย์ซูไม่ใช่หรอ?”

โลกกลมจริงๆ

แม้เขาจะรู้ว่าอาจารย์ซูกำลังออกสำรวจริมแม่น้ำ แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้

คาดว่าอาจารย์ซูน่าจะได้ข้อมูลมาตั้งนานแล้ว เธอจึงบุกเข้ามา คิดกอบโกยสมบัติจากพวกมนุษย์ปลาที่นี่

เพียงแต่ว่าจำนวนของมนุษย์ปลาเหมือนจะเกินปัญญารับมือ มากเกินจนตอนนี้กลายเป็นฝ่ายถูกเล่นงานเสียเอง

แม้พวกเธอจะแข็งแกร่งมาก แต่ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป คงมีผู้บาดเจ็บหนักไม่ก็เสียชีวิต

สถานการณ์ที่ถูกฝูงมนุษย์ปลาล้อมเช่นนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงอาจารย์ซู ต่อให้เป็นฮังอวี่ก็ไม่น่าไหวเช่นกัน

ทว่าแม้เขาไม่ไร้เทียมทาน แต่ก็ไม่อาจทนดูคนอื่นๆตายได้เช่นกัน

ตอนแรกฮังอวี่คิดเรียกหน้ากากโนมขึ้นมาใส่ แต่เมื่อคิดได้ว่าอาจารย์ซูค่อนข้างคุ้นเคยกับตนเอง ดังนั้นเลยตัดสินใจหยิบหน้ากากอุลตราแมนขึ้นสวมอีกครั้ง แล้วค่อยๆปั่นจักรยานเข้าใกล้สนามรบจากด้านข้าง

...

ทีม 6 คนแบ่งออกเป็นสองทีมเล็กๆ

นำทีมโดยซูหยุนปิงและหลี่ซ่ง สมาชิกระดับสูงแห่งสมาคมโลกวิญญาณ

ฝั่งซูปยุนปิงลูกทีมประกอบด้วยชายหญิง ผู้ชายเป็นเด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาหล่อเหลา

ฮังอวี่ ร้องอ๋อทันทีที่เห็นหน้าเขา

คนผู้นั้นมิใช่ใครอื่น แต่เป็นประธานนักศึกษาเฉารุ่ย

บุคลิกของเฉารุ่ยนับว่าไม่เลว คนๆนี้มีความสามารถหลากหลาย ได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่างๆมากมาย แต่ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายจะกลายเป็นลูกน้องของอาจารย์ซู

สองมือของเฉารุ่ยกวัดแกว่งดาบคู่จากโลกวิญญาณ ความว่องไวในการโจมตีรวดเร็วมาก สามารถสู้กับมนุษย์ปลาที่รุกเข้ามาหลายตัว ฟาดฟันได้ติดต่อกัน

ผู้หญิงเป็นสาวสวยบุคลิกอ่อนโยน ผมยาวถึงเอว เธอเองก็เคยเรียนมหาลัยเดียวกัน

แต่อย่ามองแค่ภายนอกที่ดูอ่อนโยนหรืออ่อนแอเชียว หญิงสาวคนนี้มีความสามารถกว่าที่คิด เธอชื่อหลินหลาน ตอนที่เธอยังเรียนอยู่ เคยรับตำแหน่งประธานสภานักศึกษา และยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากในช่วงนั้น

หลินหลานถือไม้เท้าในมือ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนต์

เธอสามารถปลดปล่อยการโจมตีจากพายุเฮอริเคนได้ หอบเอามนุษย์ปลาที่บุกเข้ามาลอยกลับออกไป สร้างดาเมจจากระยะไกล

แต่สกิลประเภทนี้ดูเหมือนจะสิ้นเปลืองพลังจิตมาก ดังนั้นน่าจะรั้งไว้ได้อีกไม่นาน

สามคนจากอีกทีมหนึ่ง นำโดยหลี่ซ่ง ระดับสูงของสมาคมโลกวิญญาณ

หลี่ซ่งเป็นชายชราอายุมากกว่า 60 ปี มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลของซูหยุนปิง

จะเรียกว่าเขาเป็นผู้อาวุโสของซูหยุนปิงก็ได้

ส่วนลูกทีมอีกสองคนของเขาเป็นยอดฝีมือจากสมาคมโลกวิญญาณ

หน่วยข่าวกรองตรวจพบว่ามีมนุษย์ปลาจำนวนมากได้ขนส่งเสบียงจากเรือผีไปยังค่าย

หรือก็คือ หากสามารถเข้ายึดค่ายสำเร็จ ย่อมได้รับทรัพยากรมหาศาล

แต่สิ่งที่ทั้งหกคาดไม่ถึงก็คือ พวกเขาไม่นึกว่าจะมีมนุษย์ปลาอยู่ในค่ายมากขนาดนี้!

ตัดสินจากพลังรบของทั้งหกแล้ว นับเป็นอันดับต้นๆของเจียงเฉิง แต่ก็ยังแกร่งไม่พอสำหรับสถานการณ์นี้อยู่ดี --การที่รีบบุกเข้ามาแล้วต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ปลาเป็น 60-70 ตัว นั่นไม่ต่างจากการแหย่รังแตน!

ทำได้แค่สู้และค่อยๆถอยเท่านั้น

เนื่องจากอิทธิพลของหมอก ทำให้ยากจะแยกแยะทิศทาง สุดท้ายกลายเป็นถูกบีบให้เข้าสู่ทางตัน

“ฉันขอกำลังสนับสนุนแล้ว” หลี่ซ่งตะโกน “ทุกคนอดทนไว้!”

ซูหยุนปิงครั้งนี้ไม่ได้ใส่ชุดสูทแบบเป็นทางการ ท่อนบนเธอสวมเสื้อกั๊กเกราะหนัง โชว์สองแขนเรียวสวย หน้าอกนูนกระชับกับเกราะหนัง และหากเพ่งดีๆจะเห็นร่องลึกกลางหน้าอก และนั่นมากพอแล้วที่จะกระตุ้นจินตนาการลามก

อุปกรณ์ท่อนล่างเธอสวมเป็นกางเกงหนังที่ได้มาจากโลกวิญญาณ จากลวดลายสมควรเป็นหนังงู สองขาเพรียวยาวรัดรูป ส่วนโค้งของสะโพกและเอวช่างสมบูรณ์แบบราวกับภาพวาด มองแล้วชวนให้เลือดลมสูบฉีด

ครั้งนี้เธอไม่ได้สวมแว่น ผมสีดำถูกมัดเป็นหางม้า ในมือขวาถือแส้ยาว สภาพต่างจากตอนปกติอย่างสิ้นเชิง

หากสภาพยามปกติเธอเหมือนพี่สาวทรงภูมิปัญญา เวลานี้เธอเหมือนนางพญาซาดิสม์!

ทั้ง 6 คนมีเลเวล 2 ขึ้นไปทั้งสิ้น ทุกคนต่างมีอุปกรณ์จากโลกวิญญาณมากกว่าหนึ่งชิ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูหยุนปิง อาวุธของเธอวิเศษมาก ยามแส้ขาวร่ายระบำ ฟาดเพียงสองสามทีก็สามารถล้มมนุษย์ปลาคนงานลงไปหมอบกับพื้นได้ มีมนุษย์ปลาหลายตนกำลังถูกเธอทุบตีล้มลงต่อเนื่อง

แต่ในตอนนั้นเอง มนุษย์ปลาคนรับใช้ตนหนึ่งได้ถือฉมวกและพยายามย่องเข้าหาเธอ

เฉารุ่ยกับหลินหลานรีบยตะโกนพร้อมกัน “อาจารย์ซู ระวัง!”

ซูหยุนปิงตอบสนองในฉับพลัน เธอเอี้ยวตัวหลบฉมวกมนุษย์ปลาคนรับใช้ไปทางซ้าย ระหว่างกระบวนการไม้เท้าลวดลายสีม่วงปรากฏขึ้นในมือเธอ

มันคืออาวุธไม้เท้าสีเทาใสเลเวล 3 ที่เธอแลกเปลี่ยนกับฮังอวี่!

การที่เธอสามารถสวมใส่และใช้อาวุธเลเวล 3 ได้ นั่นหมายความว่า ... เธอได้ไปถึงเลเวล 3 แล้วเช่นกัน!

มนุษย์ปลาคนรับใช้เมื่อพลาด มันเร่งโจมตีอีกหลายครั้ง

ท้ายที่สุดแล้ว ซูหยุนปิงไม่ใช่นักรบ ดังนั้นแม้เธอสามารถอัพเลเวล 3 แต่ปฏิกิรยาตอบสนองยังคงเชื่องช้า หลบได้ไม่กี่ทีก็ถูกฉมวกแทงเป็นแผล

หว่างคิ้วของเธอย่นเข้าหากันด้วยความเจ็บปวด แต่ยังมั่นคงไม่หวั่นไหว เหวี่ยงไม้เท้าในมือฟาดหัวมนุษย์ปลาคนรับใช้

“เนตรมนต์เสน่ห์!”

ดวงตาของซูหยุนปิงเปล่งแสงประหลาดตา

ฝ่ายมนุษย์ปลาคนรับใช้ มันเงยหน้าขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง จ้องมองเข้าไปในดวงตาของซูหยุนปิง ซักพักร่างมันเริ่มสั่นสะท้าน สั่นกึกๆเหมือนเป็นลมชัก

กระชวนการนี้กินเวลากว่า 2 วินาที สุดท้ายมนุษย์ปลาคนรับใช้สูญสิ้นการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง มันหมุนตัวกลับ และแทงฉมวกไปยังร่างของมนุษย์ปลาคนงานที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่ลังเล