ตอนที่แล้วเล่มที่ 1 บทที่ 10: พรของปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 2 บทที่ 0: นี่ความฝันของใครกัน?

เล่มที่ 1 บทที่ 11: แล้วฉันก็อายุสี่ขวบ


หลังจากทานของว่าง ฉันรู้สึกมึนเมาเล็กน้อย  ฉันเดินตามกลิ่นของท่านเอเลนอร์เพื่อไปรวมกับเธอ

“.....ตรงนั่น พวกเขาทำสิ่งที่โหดร้ายและน่ากลัว”

*ฟี้ ฟี้* ขณะที่ร้องไห้ ฉันกอดเอเลนอร์และเอเลนอร์ก็ให้ฉันนอนกรนเสียงฟี้ๆอย่างกับแมวบนตักของเธอ

“รู้ไหม เราทำเครื่องหมายเอาไว้มากมายขณะที่ถูกนำตัวมาที่นี่ อีกไม่นานสามีของฉันและท่านโฟลท์ก็จะมาถึงที่นี่เพื่อช่วยเรา มารอด้วยกันน่ะ”

เธอบอกกับฉัน

สำหรับเด็กสามขวบฉันต้องทำตัวดูเหมือนเจ้าเล่ห์สุดๆเลย แต่อันที่จริงแล้วฉันไม่ได้แสดงน่ะ ที่ฉันร้องไห้เป็นผลมาจากการเมาจริงๆ ฉันค่อนข้างมึนเมาจากการดื่มมากเกินไปในขณะที่ฉันอยู่ในร่างแมว ฉันผิดเอง

แล้วในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน ท่านพ่อก็มาช่วยพวกเราพร้อมกับเหล่าอัศวินหลายร้อยคน

โห้ยยย อย่างเท่.... แล้วสามีของท่านเอเลนอร์อยู่ที่ไหนกันล่ะ? ไม่รู้ แต่ท่านพ่อเป็นทหารหรอ? ในที่สุด ท่านพ่อสุดหล่อที่ฉันอยากเจอก็ได้เข้ามาสวมกอดฉันไว้ การหายใจของฉันถูกบีบรัดจากการถูกกอดโดยอ้อมกอดของเขา ฉันไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อฉันสงบลง ฉันก็ได้แต่ขอบคุณต่อผู้คนที่ได้มาช่วยฉันไว้จำนวนมากในใจ ขอโทษที่ทำให้ท่านพ่อเป็นห่วง

พอฉันตื่นในวันรุ่งขึ้น... ฉันก็มีอาการเมาค้าง เหมือนจะไม่มีของกินมาเติมในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณโดยรอบเมืองหลวง: การลักพาตัวเด็กจำนวนมาก การทรยศหักหลัง และที่แย่ที่สุดคือ เหตุการณ์อัญเชิญอสูร ส่วนผู้ต้องสงสัยทุกคนก็ยังมาถูกปีศาจที่ถูกอัญเชิญมาฆ่าตายไปทั้งหมดอีก

ในเหตุการณ์ได้รับการระบุและตรวจสอบว่าเด็กที่ถูกลักพาตัวไปส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและนักพเนจรที่ถูกพาไปเมื่อไม่นานนี้ ตอนนี้พวกเขาส่วนใหญ่จึงกลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว

ส่วนคนที่บงการของเหตุการณ์นี้ มาร์ควิส บรันโนว ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็พังทลายลง ตระกูลผู้สูงศักดิ์อีกหลายตระกูลก็หายตัวไปจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

ผู้ร่วมเป็นพยานในการอัญเชิญปีศาจ ดัชเชสแห่งโคเอรุ อัลเบอร์ทีน ก็ได้รับการยืนยันว่าตายแล้วเช่นกัน แม้จะไม่ใช่หัวหน้าครอบครัว แต่การทรยศครั้งใหญ่นี้ก็ไม่ใช่อาชญากรรมที่เบาบาง ข้อมูลภายในเกี่ยวกับดยุค ผู้นำของแคว้นถูกปิดเป็นความลับ และตำแหน่งของดยุคแห่งโคเอรุได้ถือว่าถูกทำลายไปตามความเป็นจริง

พร้อมกันนั้น ท่านชายคนรองที่ได้ละทิ้งราชวงศ์ไป ก็สละสิทธิในราชบัลลังก์ไม่กลับไปยังปราสาทของดยุคแห่งโคเอรุคนก่อน แต่กลับสร้างบ้านใหม่ที่มีชื่อเดียวกับราชวงศ์แทน: ‘เวอรูซีเนีย’

ร่วมกับภรรยาคนใหม่ของเขา.... พร้อมกับ ‘เจ้าหญิง’ ที่ยังเด็กอยู่

สองเดือนหลังจากเหตุการณ์นั้น ในที่สุดฉันก็อายุสี่ขวบ

สี่ปีในร่างนี้.... หลังจากนี้ ชีวิตปัจจุบันของฉันสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม ความคิดชั่วร้ายแบบปีศาจของฉันกลับมาอยู่ในขอบเขตแต่น่าแปลกที่ในส่วนของมนุษย์ฉันนั้น จิตใจแบบมนุษย์ของฉันแข็งแกร่งขึ้น

วันเกิดของฉัน ฉันได้รับของขวัญมากมายจากทุกคน ถึงริคจะมีวันเกิดที่หรูหรา แต่งานเลี้ยงวันเกิดของฉันก็มีครอบครัวของฉัน: แบบนี้ทำให้ฉันมีความสุขมากกว่า

เชลลีก็เดินทางจากเมืองหลวงมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉันด้วยเช่นกัน เมล็ดพันธุ์ดอกไม้และสมุนไพรที่เธอนำมาให้ทำให้ฉันมีความสุข เธอสวมชุดที่เข้ากันด้วย

ส่วนริคก็แวะมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง

เขาจ้องมองมาที่ใบหน้าของฉัน ลูบผมของฉัน “....อึก” ฉันพูดระหว่างทางกลับ... มีบางอย่างในตัวเด็กคนนั้นที่ทำให้รู้สึกคล้ายกับ ‘ชายคนนั้น’ นอกจากนี้ จากเขา ฉันยังได้สร้อยคอที่มีหินสีน้ำเงิน และแน่นอน.... ขนมลูกกวาดอีกเยอะแยะ

จากท่านพ่อ ฉันได้รถม้าตัวเดียวสวยเหมือนดอกลิลลี่ และชุดน้ำชาที่งดงามมากๆ

แต่.... ถูกส่งไปแล้ว

ท่านพ่อไม่มา

*เสียงสูดจมูก*

หลังจากนั้นครึ่งปีผ่านไป ตอนนี้ก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ฉันได้แลกเปลี่ยนจดหมายกับเชลลี แต่จู่ๆ ก็มีจดหมายจากริคมาด้วย เด็กคนนี้ทำอะไรตามใจจริง..... หรือบางทีเขาคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันงั้นเหรอ?

แต่ยังไงก็เถอะ..... ตลอดเวลานั้น ท่านพ่อก็ยังไม่กลับบ้าน

ฉันสงสัยว่างานของเขาทำให้เขายุ่งหรอ หรือเขาเบื่อที่ฉันพึ่งพาเขามากเกินไปหรือเปล่า....?

พอคิดอย่างนั้น ท่านแม่ก็ชวนฉันและทุกคนไปหาท่านพ่อที่เมืองหลวง เย้!

.

.

.

ฉันอยู่ที่ปราสาทหลวง

“.........................เอ๊ะ?”

ปราสาทหลวง..... ปราสาทที่กษัตริย์ทรงประทับอยู่

ใช่ มีบางอย่างผิดปกติ ฉันคิดน่ะ จากบ้านของเรามาถึงเมืองหลวง เรานั่งรถม้าขนาดใหญ่หกตัว แทนที่จะใช้รถม้าคันเดี่ยวที่เราเคยใช้เป็นประจำ รวมทั้งอัศวินคุ้มกันของเราด้วย มี 20 กว่าคนได้

คุณตาพ่อบ้านก็ตามมาด้วย

ต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาดูมีความสุขมากขนาดนั้น ฉันพยายามหาชื่อของเขา แต่ทั้งหมดที่เขาต้องการคือให้ฉันเรียกเขาว่า ‘คุณปู่’ ชื่อคุณปู่... เอ๊ะ ยังไงก็เถอะ เดี๋ยวฉันก็จะรู้ได้ในที่สุด

คุณอัศวินที่เห็นฉันดูหงุดหงิด ใช่ ที่รูปลักษณ์ของฉันมันดูน่ากลัว แต่ฉันจะไม่กินเธอหรอกนะ ไม่ต้องกลัว ตกลงไหม

พอคิดถึงตอนนั้นแล้ว... สงสัยจังว่าเด็กพวกนั้นสบายดีไหม

แล้วจากนั้น.....

ในที่สุดก็ได้เจอท่านพ่อ

เขายังหล่อเหมือนเดิม ฉันทำเสียงตบมือขณะวิ่งไปหาเขา “สูงมาก น่ากลั ⁓ ว” ฉันพูดขณะที่เขาเหวี่ยงฉันไปมา แล้วเขาก็กอดฉันแน่น

ท่านพ่อคงจะเหงาเหมือนฉัน ขอบคุณสวรรค์

หลังจากที่เราได้พบกัน ฉันกับท่านพ่อท่านแม่ก็ออกไปในเมือง ฉันตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เที่ยวชมเมืองหลวงกับพวกเขา.... หืม?  ร้านเสื้อผ้าหรอ?

เราเข้าไปในร้านเสื้อผ้าหรูหราขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เรามีคนคอยปรนนิบัตินับสิบคนนำทางให้เรา พวกเขามีชุดที่เหมาะกับฉันคอยอยู่แล้ว ชุดที่ดูเหมือนเจ้าหญิง หรูหราเกินจะสวมใส่ ยิ่งไปกว่านั้น เงินจำนวนมากถูกใช้ไปราวกับว่ามันไม่มีอะไรมาก.....

ฉันยังคงตกตะลึงกับความฟุ่มเฟือยนี้ตอนฉันออกจากร้าน มีอัศวินหญิงเป็นโหลที่ไม่เคยมีมาก่อน....? พวกเขาได้รับมอบหมายให้มาปกป้องรถม้าจนกว่าเราจะกลับถึงปราสาท

ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่?

ปราสาทมีบรรยากาศเหมือนมหาวิหาร หน้าต่างทุกบานเป็นกระจกสี โถงทางเข้าเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้าง ดูความสูงนั่นสิ บ้าน 2 ชั้นสามารถอยู่ใต้เพดานนี้ได้อย่างสบายเลย 'ทำความสะอาดยังไงกันน่ะ' เป็นคำถามเดียวที่เข้ามาในหัวฉันตอนนี้

ในขณะที่ท่านพ่อกอดฉัน เขาก็เล่าว่ากระจกสีทางด้านขวาบอกถึงเรื่องราวการก่อตั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ด้านซ้ายมือเป็นผลงานของราชวงศ์

ขอโทษท่านพ่อ หนูไม่ได้สนใจ

“เรากำลังจะไปที่สวน ยูรุเชียมีที่ไหนที่หนูอยากเห็นในปราสาทอีกไหม”

“อะ-อืม.....”

ก่อนจะพูดอย่างนั้น ช่วยบอกฉันทีว่ามีอะไรอยู่ในปราสาทอีก ฉันโง่หรือเปล่าที่ไม่รู้

ท่านหันมายิ้มให้ฉัน ท่านพ่อบอกให้หยิบของที่สะดุดตาฉันตอนที่ท่านเดินไปกับแม่ แต่ไม่มีอะไรเข้าตาฉันเลยเนี้ยสิ..... เป็นปัญหามั้ย

แต่ในฐานะเด็ก 4 ขวบ ถ้าบอกว่า "หนูอยากไปห้องทรมาน" ด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา.... คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน ยังไงก็เถอะ สวนของปราสาท.... โดยทั่วไปก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโดยไม่มีเหตุผลอยู่แล้วนี่?

ขณะที่ถูกเรียกตัวไปที่ปราสาท สวมชุดเหมือนตุ๊กตา เรากำลังเข้าพบกับคนที่มีอิทธิพลหรอ? หรือเท่าที่ฉันสงสัย..... เขาต้องเข้าพบเป็นการส่วนตัวกับกษัตริย์หรือเปล่า?

สวนอยู่ภายในกำแพงขนาดใหญ่ อีกด้านหนึ่งของประตูใหญ่เบ้อเร่อนั้น

“นี้.....”

“สังเกตไหม”

ใช่ฉันสังเกตเห็น สวนขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นที่ที่เราเคยมางานเลี้ยงน้ำชา…หือ? พวกเขาใช้แค่ส่วนหนึ่งของปราสาทเป็นงานเลี้ยงน้ำชาเองหรอ? บางทีหนึ่งในพวกเด็กเหลือขออาจเป็นคนสำคัญ....?

ฉันคิดว่าเราอยู่ที่บ้านของริค

ในศาลาหลังคาสีขาว ที่โต๊ะใหญ่ ฉันสังเกตเห็นท่านเอเลนอร์กำลังโบกมือให้เรา

ท่ามกลางคนอื่นๆ....มีริคและพี่ชายคนโตกว่าเขาคนหนึ่ง ผู้ชายแก่ที่ฉันไม่รู้จัก และคู่สามีภรรยาอายุราวๆ ห้าสิบเศษๆได้ นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย

ทุกคนมองมาที่ท่านพ่อแล้วมองมาที่ท่านแม่..... ฉันแอบมองอย่างงงๆ

ท่านพ่อคุกเข่าลงต่อหน้าชายชรา.... ช่างหายากเหลือเกิน

“ท่านพ่อ.... ข้าพาเรียสเทียและยูรุเชียมาพบ”

ท่านพ่อหรอ? เขา เขาคือปู่ของฉันงั้นหรอ? ……………………เอ๊ะ?

“ข้าเข้าใจ  นี่คือลูก....”

“คุณปู่หรอ....?”

พอฉันพึมพำไปแบบนั้น คุณปู่ก็ยิ้มกว้างและยกฉันลุกขึ้นด้วยแขนที่แข็งแรงของเขา

“ใช่ เป็นเช่นนั้น ‘เรา’ คือปู่ของเจ้า ฮ่าๆๆๆ”

เสียงหัวเราะดังไปทั่ว หญิงชราที่งดงามคนนั้นก็ ‘คุณย่าของฉันหรอ?’ เธอลูบแก้มและผมของฉันอย่างจริงจังพร้อมกับยิ้มกว้าง

....คนเหล่านี้น่าทึ่งจริงๆ ใช่ไหม พวกเขาไม่กลัวฉันเลย

“ตอนนี้ทุกคนก็มาแล้ว ไปกันเถอะ”

คุณปู่รีบเดินไปตามทางที่เรามาโดยที่ยังกอดฉันอยู่ ฉันเข้าใจ... คุณคือคนใหม่ที่กอดฉัน

....แต่เดี๋ยวก่อน เราจะไปไหนกัน?

ท่านพ่อและเอเลนอร์เดินตาม หลังจากนั้นกลุ่มคนและเหล่าอัศวินที่แต่งกายอย่างมีเกียรติจำนวนมากก็เดินขบวนไปตามทางเดินอย่างสง่างามข้างเรา

เหล่าอัศวินและพ่อบ้านเปิดประตูโอ่อ่านั่น...

“.....ฟูอา?”

ในห้องโถงใหญ่นั้น มีผู้คนหลายพันคน.... เหล่าผู้รับใช้ของปราสาท ขุนนาง และเหล่าอัศวินอีกจำนวนมาก ยืนเคียงข้างกันทักทายเรา

“ขอบคุณที่รอ ‘เรา’ ข้าขอแนะนำเด็กคนนี้ให้พวกเจ้าได้รู้จัก เธอเป็นลูกของโฟลท์ ลูกสาวของดยุคแห่งเวอรูซีเนียและเป็นหลานของข้า ชื่อของเธอคือ......”

ยูรุเชียแห่งเวอรูซีเนียหรอ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้ชื่อเต็มของฉัน

ขณะที่ฉันได้เข้าใจทุกอย่าง ฉันก็ถึงกับตะลึง ทุกสายตาในสถานที่นี้มองมาที่ฉัน

“เด็กคนนี้คือ ‘เจ้าหญิง’ ของพวกเจ้าทุกคน!”

......................เอ๋?

ตอนนั้นเองก็มีเสียงกระหึ่มดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงเชียร์และเสียงโห่ร้องจากเหล่าอัศวินมากมาย

เฮ่!!!!!!!!!??

.............................

ฉันเป็นหลานสาวของกษัตริย์ นามสกุลเดียวกับราชวงศ์ เป็นธิดาของดยุค: ยูรุเชียแห่งเวอรูซีเนีย

พวกเขาไม่ได้บอกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตอนที่คุยตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กนิเนอะ สถานะของฉันคือลูกสาวคนที่สามจากภรรยาคนที่สองของดยุค…. ดูเหมือนกับว่า

ท่านแม่เป็นคนรักลับๆของเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาอยู่นานเกินไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ภรรยาคนแรกไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป.... เดี๋ยวน่ะ

ที่ปู่พูด ‘เจ้าหญิง’ คงไม่ต่างกันหรอกมั้งเพราะฉันเป็นลูกสาวของดยุคนิ? ใช่มั้ย.... เพราะยังมีเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวในราชวงศ์ พวกเขาต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ

อันที่จริง โลกนี้ช่างบังเอิญ... ถึงจะเรียกว่าแรงไปหน่อยก็เถอะฉันก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองถูกมองข้ามเกี่ยวกับสามัญสำนึกของโลกนี้คืออยู่อย่างเจียมตัว

อัศวินเหล่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเฝ้ารอการมีอยู่ของเจ้าหญิงเพื่อปกป้องและทุ่มเทให้กับ.... ความรักของผู้ชาย

ว่าแต่.... หืม?

ฉันคงไม่มีพี่สาวอีกสองคนหรอกน่ะ…?

“เอ่อ ยังไงก็เถอะ...”

ล้อเล่นหรือไง? ฉัน.... เป็นปีศาจน่ะ

เราออกจากบ้าน (คฤหาสน์) หลังนั้นที่เราอยู่มาเป็นเวลานานแสนนาน พร้อมด้วยท่านแม่และสาวใช้ ไปที่บ้านพักหลักของขุนนางในอาณาเขตทูล คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่กว่าคฤหาสน์อื่นหลายเท่า ห้องของฉันก็ใหญ่กว่าเดิมมากเช่นกัน ฉันเริ่มคิดขณะจ้องไปที่ถนนในยามดึกอันเงียบสงบจากทางหน้าต่าง

ฉันเป็นปีศาจ

จิตใจของมนุษย์ยังคงอยู่ในใจฉัน ทำให้เกิดความวิตกกังวล สักวันหนึ่ง ฉันอาจสร้างปัญหาให้ท่านพ่อท่านแม่

นอกเหนือจากสองคนนั้น ไม่มีอย่างอื่นสำคัญเลยจริงๆ.... อย่างที่ฉันคิด แต่ตลอดการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ จำนวนคนที่คุณห่วงใยก็เพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ

หากฉันจะมีชีวิตอยู่ในฐานะมนุษย์

ฉันจะเป็นมนุษย์ที่มีค่าและได้รับความรักจากพวกเขา

แต่หากฉันจะมีชีวิตอยู่ในฐานะปีศาจ

มนุษย์ที่ล้ำค่าและโง่เขลา หากพวกเขากำลังต่อสู้กับความเศร้าโศก ฉันจะรักพวกเขากลับ

เพราะปีศาจอย่างฉันมันหิวกระหายความรัก

ในฐานะที่ฉันเป็นมนุษย์.... ฉันจะช่วยผู้คนเพื่อความรักจากพวกเขา แต่ในฐานะปีศาจฉันจะกลืนกินวิญญาณอันหอมหวานของพวกเขาทั้งหมดไม่ให้เหลือ

จากที่ฉันบอกได้ทางหน้าต่าง แม้ในค่ำคืนอันเงียบสงัดนี้ ผู้คนยังคงมีชีวิต เพราะฉันได้ยินมัน..... เสียงหายใจของพวกเขา

กลัวสิ่งต่างๆแม้แต่ความมืด ความรู้สึกที่น่ารักเหล่านี้.....

พวกคุณควร..... อุทิศ ‘ความรัก’ให้ฉันแทนจะดีกว่านะ

“....ฉัน ‘เจ้าหญิงปีศาจ’ จะนำพาดวงวิญญาณของพวกคุณไปด้วยความรัก....”

หมายเหตุนักแปล:

นี่เป็นการสิ้นสุดของเล่มที่ 1 และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างแท้จริง บทต่อไปเราจะไปเที่ยวกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด