ตอนที่แล้ว560 - ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป662 - ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ 

661 - พักผ่อนในตระกูลเฟิง 


661 - พักผ่อนในตระกูลเฟิง

เย่ฟ่านเคลื่อนไหวด้วยทักษะของชายชราผู้บ้าคลั่งและสังหารนักฆ่าทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกันนั้นหญิงสาวชุดขาวก็ถูกขัดขวางโดยค่ายกลของจักรพรรดิดำและตอนนี้นางเผชิญหน้าอยู่กับหลี่เหอซุยที่พยายามถ่วงเวลาให้เย่ฟ่าน

“ตาย!”

ความว่างเปล่าสั่นสะท้านความเคลื่อนไหวของเย่ฟ่านเป็นเหมือนภูตพรายที่น่ากลัว เขาส่งเสียงคำรามให้หลี่เหอซุยหลีกทางก่อนที่ฝ่ามือสีขาวของเขาจะกดเข้าหาศีรษะของหญิงสาวชุดขาวคนนั้น

  

หญิงสาวคนนี้ติดอยู่ในค่ายกลของจักรพรรดิดำ มันทำให้การเคลื่อนไหวของนางติดๆขัดๆและไม่สามารถจากไปได้ชั่วคราว

ผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงหญิงสาวที่มีใบหน้าธรรมดา หากนางยืนอยู่ในฝูงชนจะไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นผู้หญิงที่มีความธรรมดาคนนี้อย่างแน่นอน

แต่ในขณะเดียวกันนี่ก็คือความน่ากลัวของนาง ด้วยการที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นจึงทำให้นางมีโอกาสลอบสังหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เฉียง!”

ร่างของผู้หญิงชุดขาวดูแปลกมาก นางกลืนไปกับความว่างเปล่าอีกทั้งทำให้ยากต่อการโจมตีด้วยสุดกำลัง ในเวลาไม่นานนางก็โจมตีออกจากเงามืดอย่างรวดเร็ว

  

เย่ฟ่านมีความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ และหลังจากบรรลุในเต๋าแล้ว เขาก็อยู่ยงคงกระพัน และความเร็วของเขาก็มาถึงขีดสุดแล้ว แม้ว่าผู้หญิงในชุดขาวจะมีความแปลกประหลาดแต่ก็ไม่สามารถหลบหนีจากสายตาของเขาได้

  

“บูม!”

  

การจู่โจมของเย่ฟ่านน่ากลัวอย่างยิ่ง มันเหมือนกับโลกขนาดใหญ่ที่กดทับลงมาหาหญิงสาวชุดขาว

  

ถ้าไม่ใช่เพราะการเคลื่อนไหวแปลกๆของนาง นางคงถูกทุบตีเป็นเนื้อบดไปตั้งนานแล้ว เพราะแม้แต่ราชาเผิงน้อยปีกทองผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถทนต่ออำนาจครอบงำแบบนี้ได้

  

“บูม!”

  

เลือดสีทองของเย่ฟ่านทะยานสู่ท้องฟ้าราวกับว่ามีมังกรที่แท้จริงนับหมื่นตัวถูกปลดปล่อยออกจากร่างกายของเขา ฉากนั้นน่าอัศจรรย์อย่างมาก

  

“บูม!”

  

หญิงสาวชุดขาวกระอักเลือดคำใหญ่ กระบี่สีเขียวในมือของนางไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและมันแหลกสลายกลายเป็นเศษเหล็กอย่างรวดเร็ว

  

“ป๊า”

  

หญิงสาวชุดขาวผู้มีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองสตรีศักดิ์สิทธิ์คนใดในดินแดนรกร้างตะวันออกได้ถูกเย่ฟ่านทุบตีจนร่างแหลกสลายกลายเป็นละอองเลือด

  

ยอดฝีมือทั้งหมดที่เป็นทายาทของพิภพถูกสังหารจนหมดสิ้น!นอกจากชายในชุดสีเทาก่อนหน้านี้แล้ว เย่ฟ่านยังฆ่านักฆ่าทั้งหมดแปดราย ความขัดแย้งกับศาลสวรรค์ปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์

  

เขาต่อสู้กับราชาเผิงน้อยปีกทอง เกือบ 5,000 กระบวนท่าและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังสังหารยอดนักฆ่าอีก 9 คน

  

ในเวลานี้ ความแข็งแกร่งที่ครอบงำของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณไม่สามารถบรรยายได้เป็นคำกล่าวอีกแล้ว

  

“เขากำลังจะตายจริงๆหรือ พลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน”

  

“โชคดีที่ชีวิตของเขาเหลือเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น หากเขายังคงแข็งแกร่งเช่นนี้เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ในเส้นทางสู่การเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้!”

  

เฟิ่งหวงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ใบหน้าที่สวยงามภายใต้หน้ากากห้าสีเกิดความผันผวน และจิตใจของงานไม่สามารถสงบลงได้

เหยาซี บุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง จ้าวฟาและคนอื่นๆ ก็พยายามสงบสติอารมณ์เช่นกัน พวกเขาต่างคิดและเปรียบเทียบตัวเองว่าหากเกิดการต่อสู้พวกเขาจะยืนอยู่ได้นานสักแค่ไหน

  

ในเวลานี้ในบรรดายอดฝีมือรุ่นหลังทั้งหมดทุกคนต่างมองไปที่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยของตระกูลจี้ดวงตาที่เปล่งประกาย

  

ในโลกนี้ทุกคนต่างกล่าวว่าราชาเผิงน้อยปีกทองสามารถแข่งขันกับร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจี้ฮ่าวเยว่แข็งแกร่งเพียงใด!

  

“นี่เป็นคู่ต่อสู้ที่ควรค่าแก่การชื่นชม!”

  

จี้ฮ่าวเยว่พยักหน้ายกย่องเย่ฟ่าน เมื่อเขากล่าวเช่นนี้แล้วทุกคนก็รู้ทันทีว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปของเย่ฟ่านจะต้องเป็นราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยอย่างแน่นอน!

  

ร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ไม่ได้มีการกระทำที่หวือหวาอะไรเมื่อเทียบกับราชาเผิงน้อยปีกทองดังนั้นคนจึงลืมไปแล้วว่าเขาคือยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของดินแดนรกร้างตะวันออก

 

ตระกูลจี้เป็นทายาทของจักรพรรดิโบราณที่สามารถพิสูจน์สายเลือดได้อย่างแท้จริงเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นของดินแดนทางตะวันออก

คัมภีร์โบราณของความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ของพวกเขานับเป็นศิลปะศักดิ์สิทธิ์ที่หาผู้ใดมาเปรียบเทียบไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาในคัมภีร์สามหน้าสุดท้าย!

ว่ากันว่าทักษะนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะมีผู้ใดเคยฝึกฝนสำเร็จนอกจากตัวจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าผู้ยิ่งใหญ่เอง

  

แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนกลับมีคำเล่าลือว่าร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้คนนี้ได้ฝึกฝนสำเร็จแล้ว หากเรื่องนี้เป็นความจริงมันจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากแค่ไหน

  

ในที่นี้บุคคลพิเศษอีกคนหนึ่งคือบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง เส้นผมสีทองของเขายังคงเคลื่อนไหวตามคลื่นพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่าง ใบหน้าของเขานิ่งเฉยและไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสายตาของคนรอบข้าง

  

“ยังมีใครอีกหรือไม่ที่ต้องการฆ่าข้า…”

เย่ฟ่านกวาดสายตาอย่างเย็นชา ในตอนนี้เขาดูเหมือนจะบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์แล้ว เหล่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งหลายต่างก็รีบหลบสายตาของเขาในทันที

“วัง”

สุนัขสีดำตัวใหญ่คำราม ทันใดนั้นภูเขาก็สั่นสะเทือน มันกระโดดเข้าไปในป่า หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจมันก็กลับมาพร้อมกับปีกของราชาเผิงน้อยปีกทอง

  

“เจ้าเอามาทำไม?” หลี่เหอซุยถาม

“นี่คือปีกศักดิ์สิทธิ์ของเผิงสวรรค์ชิ้นส่วนที่มีค่ามากที่สุดของนกน้อยตัวนั้น”

สุนัขสีดำตัวใหญ่น้ำลายไหลและกล่าวว่า

"เขาเป็นทายาทแห่งเผ่าเผิงสวรรค์ ปีกศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้หายากและประเมินค่าไม่ได้"

  

หลี่เหอซุยมองไปที่ปีกที่เปื้อนเลือด งุนงงเล็กน้อย และเกือบจะอาเจียนออกมาจากความขยะแขยง

เมื่อได้รับข่าวเรื่องนักฆ่ายอดฝีมือทองเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นและรีบเก็บกวาดสนามรบเพื่อค้นหาเบาะแสของผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวนี้

  

สวรรค์ถูกทำลายในยุคโบราณ แต่พิภพและนรกสามารถรอดชีวิตไปได้ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่มรดกของพวกเขาจะตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน

  

ตลอดระยะเวลานับแสนปีที่ผ่านมาทายาทของพวกเขาไม่เคยปรากฏตัวขึ้น แต่ตอนนี้พวกเขากลับคิดจะก่อความวุ่นวายอีก ดังนั้นตระกูลขุนนางโบราณและดินแดนศักดิ์สิทธิ์จึงต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด

  

เย่ฟ่านรู้ดีว่ามือสังหารคนอื่นๆยังไม่ได้จากไป การถูกจับตามองจากยอดคนพวกนี้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกย่ำแย่อย่างยิ่ง

  

ในการต่อสู้ครั้งนี้เย่ฟ่านต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือกระบี่ที่เกือบแทงเข้าสู่ศีรษะของเขา

  

ราชาเผิงน้อยปีกทองก็ทิ้งรอยแผลให้ร่างกายของเขามากมาย ดังนั้นท่ามกลางการปกป้องของยอดฝีมือจากตระกูลเฟิง เย่ฟ่านจึงใช้โอกาสนี้เพื่อฟื้นฟูร่างกายของตัวเองอีกครั้ง

  

เขาใช้ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ที่บันทึกไว้ใน "คัมภีร์ลับ" ซึ่งเป็นทักษะที่อันเหมียวอี้มอบให้ แม้ว่าจะไม่ใช่คัมภีร์โบราณฉบับสมบูรณ์ แต่ก็เป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วที่สุด

  

เลือดสีทองพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า ทุกตารางนิ้วของเนื้อและเลือดของเย่ฟ่านกำลังสั่นสะท้าน โลหิตศักดิ์สิทธิ์ไหลเชี่ยวราวกับทะเลคลั่ง แม้แต่สายฟ้าสีทองก็ยังปรากฏอยู่ด้านบน

  

ภายนอกร่างกายของเขา แสงสีทองโอบล้อมวนเวียนทำให้เขามีลักษณะคล้ายกับผู้อมตะที่แท้จริง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง บาดแผลบนร่างกายของเขาก็หายไป บาดแผลภายในและภายนอกส่วนใหญ่ดีขึ้นในพริบตา  

การรักษาฟื้นฟูร่างกายแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายดาย เขาต้องแลกเปลี่ยนกับแก่นแท้โลหิตสีทองไปไม่น้อย และมันทำให้เขาเกิดความอ่อนแอลงชั่วคราว

  

แต่ตอนนี้ศัตรูที่แข็งแกร่งกำลังแอบมองเขาอยู่ เขาต้องรักษาตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

“พรึ่บ”

  

เย่ฟ่านลืมตาและยิงแสงศักดิ์สิทธิ์สองดวงซึ่งทำให้หัวใจของทุกคนสั่นสะเทือน ในตอนนั้นราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเฟิงก็เดินเข้ามาพยักหน้าให้และกล่าวว่า

"น่าทึ่งจริงๆ ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเทียบได้"

  

“มันเป็นแค่ความบังเอิญผู้อาวุโส” เย่ฟ่านกล่าวเบาๆ   

“เจ้าต้องระวังไว้ให้มาก ศาลสวรรค์เป็นเป็นมือสังหารที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้จริงๆ เจ้าควรจะอยู่ในตระกูลเฟิงสักระยะเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าคงรู้สึกเสียใจต่อราชาสวรรค์ผู้อาวุโสเป็นอย่างมาก” ปรมาจารย์แห่งกระกูลเฟิงเตือน

เย่ฟ่านต้องการจากไปและเร่งเดินทางไปที่หน้าผาศักดิ์สิทธิ์ทันทีเพื่อค้นหาเก้าญาณวิเศษลึกลับ แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวจากราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเฟิงเขาก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย

  

“ผู้เยาว์จะทำตาม” เย่ฟ่านทำได้เพียงตอบรับกลับไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด