เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 166
ตอนที่ 166
ไม่นานหลังจากนั้น เหล่าคนจากราชวงศ์อมตะก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดอีกหลากหลายชนิด ตัวอย่างเช่น หนอนทองคำที่ทั่วร่างอาบย้อมด้วยสายฟ้าและสามารถมุดเข้าในห้วงมิติและโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า ในคราแรกที่พวกคนของราชวงศ์ได้พบเจอกับหนอนเหล่านั้น พวกมันสูญเสียคนไปมากกว่าสิบคน ก่อนที่ยอดฝีมือครึ่งก้าวแดนก่อตั้งจิตซึ่งเป็นผู้นำจะโจมตีออกมาและสังหารหนอนทองคำไปนับร้อยตัว
“พวกมันคือตัวอ่อนของแมลงแม่เหล็กทองคำ” สีหน้าของผู้บ่มเพาะครึ่งก้าวแดนก่อตั้งจิตอัปลักษณ์ยิ่งนัก ในหน้าของมันดำคล้ำราวกับก้นหม้อ เหล่าหนอนตัวอ่อนพวกนี้มันจะกินคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นอาหารและอาศัยอยู่ในจุดอันตรายอย่างยิ่ง หากได้พบเห็นหนอนตัวอ่อนเหล่านั้นย่อมหมายความว่าในบริเวณใกล้เคียงนี้มีตัวตนซึ่งอันตรายเป็นอย่างยิ่งอาศัยอยู่ หากว่าเป็นผู้บ่มเพาะสามัญทั่วไปที่กำลังสำรวจดินแดนลึกลับอยู่แล้วบังเอิญได้พบเจอกับหนอนพวกนี้ แน่นอนเลยว่าพวกเขาต้องรีบหนีออกไปจากพื้นที่นั้นโดยทันที
หากแต่ มิใช่ว่าตัวอ่อนแมลงแม่เหล็กทองคำพวกนี้สูญพันธุ์ไปเนิ่นนานแล้วหรอกหรือ?
ยอดฝีมือแดนครึ่งก้าวสู่ปราณก่อตั้งจิตได้เพียงนึกในใจอย่างเหน็บหนาว ทว่ามันก็ยังบดขยี้หนอนทองคำทั้งหลายและมิได้หลบหนีไปแต่อย่างใด พวกมันมาที่นี่เพื่อสืบข่าวของตระกูลหลิน พวกมันย่อมไม่ยอมจะล่าถอยกลับไปอย่างแน่นอน
รัศมีเพียงห้าพันลี้ดูเหมือนจะมิใช่พื้นที่ใหญ่โตเท่าใดนัก ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มันคือพื้นที่ขนาดมหึมา ยิ่งกว่านั้น สภาพแวดล้อมของต้าหยานในตอนนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก สิ่งมีชีวิตโบราณอาศัยอยู่เต็มไปหมด บางส่วนถึงกับเป็นสายพันธุ์ที่สาบสูญไปแล้ว พวกมันสามารถทำร้ายเหล่าผู้บ่มเพาะที่ย่างกรายเข้าไปในอาณาเขตจนบาดเจ็บสาหัสได้ มีกระทั่งบางสายพันธุ์นี่ผู้นำกลุ่มคนจากราชวงศ์มิเคยพบเจอมาก่อนในช่วงชีวิต และมิเคยมีสิ่งชีวิตเหล่านั้นบันทึกอยู่ในตำราของราชวงศ์อมตะแม้แต่น้อย!
ยกตัวอย่างเช่น ในยามที่พวกมันเดินทางผ่านเทือกเขาแห่งหนึ่ง พวกมันได้เจอเข้ากับลูกมังกรพายุ มันขดตัวอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งและกำลังหลับอย่างสงบสุข มันไม่ขยับเคลื่อนไหวหรือแม้แต่ปลดปล่อยกลิ่นอายและแรงกดดันใดๆ !
และเพราะว่ามังกรนั้นมิได้ปล่อยแรงกดดันใด เหล่าคนจากราชวงศ์ที่กำลังรีบร้อนจึงมิได้สังเกตรอบด้านให้ดี ท้ายที่สุดพวกมันก็โดนมังกรพายุตัวหนึ่งโฉบเอาผู้บ่มเพาะแดนอาณาเขตม่วงจากราชวงศ์อมตะส่วนหนึ่งไปเป็นอาหาร!
ยิ่งกว่านั้น เจ้ามังกรตัวที่กล่าวถึงช่างดูแปลกประหลาดนัก มันมีปีถึงสามคู่ ครึ่งหนึ่งเป็นเกล็ดสีขาว อีกครึ่งเป็นพังผืดสีดำ ส่วนหนึ่งของปีกเหล่านั้นปลดปล่อยพลังชีวิตเข้มข้น และอีกส่วนก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ทางด้านผู้นำของคนจากราชวงศ์ได้โจมตีใส่มังกรโดยทันที และเตรียมจะสังหารมังกรตัวนั้นลง ทว่าท้ายที่สุด เจ้ามังกรเพียงบาดเจ็บสาหัส แต่หนีไปได้
“นี่มันบัดซบอันใดกัน? ที่แห่งนี้คือเมืองต้าหยานจริงน่ะหรือ? มิใช่ว่าเป็นแดนพิศวงโบราณสักแห่งหรือไรกัน?” เหล่าคนจากราชวงศ์ต่างมิสามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้อีกต่อไป
ในการเดินทางครั้งนี้ พวกมันประสบกับเหตุการณ์อันตรายทุกรูปแบบ ยิ่งเข้าไปลึกในอาณาเขตค่ายกลตระกูลหลินมากเพียงใด อันตรายที่น่าหวั่นเกรงทั้งหลายก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ราวกับว่าบริเวณโดยรอบนี้ถูกกฎเกณฑ์ที่เก่าแก่และลึกล้ำจารึกเอาไว้ในทุกพื้นที่!
สีหน้าของผู้นำของพวกมันในตอนนี้น่าเกลียดยิ่งนัก เป็นเพราะว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนคนที่มาด้วยกัน บัดนี้ตกตายลงไปแล้ว!
อย่างไรก็ตาม มันมิอาจจะหยุดอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะหากมันหยุดการสำรวจลง การเสียสละที่ผ่านมาย่อมกลายเป็นไร้ค่าไปในทันที พวกมันจำเป็นต้องไปให้ถึงเมืองต้าหยานและลอบจับตัวหลินซวนมาให้ได้!
ในท้ายที่สุด พวกมันหลุดเข้าไปในหมอกหนา พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยสายฟ้าห้าสีที่ผ่าลงมาตลอดเวลา แม้ว่ามันจะงดงามเพียงใด ทว่ากลิ่นอายของสายฟ้านั้นกลับอันตรายยิ่งนัก!
จำนวนของสิ่งมีชีวิตเองก็ลดลงไปเรื่อยๆ หากแต่พวกมันแต่ละตัวกลับน่าหวาดเกรงและเป็นสายพันธุ์ที่พบเจอได้ยากยิ่ง กระทั่งยอดฝีมือครึ่งก้าวแดนก่อตั้งจิตยังมิอาจเอ่ยนามของพวกมันได้!
“นั่นมันอะไรกัน?”
หลังจากผ่านไป ครู่ใหญ่ คนของราชวงศ์อมตะก็หยุดลง พวกมันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความรู้สึกมิอาจทำใจให้เชื่อในสิ่งที่เห็นได้เพราะฉากที่ปรากฏเบื้องหน้านั้นน่าตื่นตระหนกมากล้น!
บนท้องฟ้าสีเลือด ปรากฏเป็นแม่น้ำสายหนึ่งไหลหลาก มันปลดปล่อยประกายแสงและกลิ่นอายเก่าแก่ออกมา!
พวกมันคนหนึ่งเหาะขึ้นไปด้วยความอยากรู้และต้องการจะตรวจสอบแม่น้ำนั้น ทว่าทันทีที่มันเข้าใกล้แม่น้ำ ปราณกระบี่ก็พุ่งออกมาจากในแม่น้ำนั้นและตรงเข้าใส่มันทันที!
พวกมันต่างนิ่งค้างไป และในเวลาเดียวกันนั้นเองก็ค้นพบว่าท่ามกลางสายน้ำนั้นปรากฏเป็นซากศพล่องลอยอยู่นับไม่ถ้วน!
เมื่อสังเกตให้ดีก็สามารถระบุได้ว่าซากร่างเหล่านั้นคือคนจากกองทัพที่ถูกส่งมาด้วยราชวงศ์อมตะของพวกมัน!
อย่างไรก็ตาม พวกมันมิได้มีเวลามากพอให้สงสัยได้ว่าเหตุใดซากศพทั้งหลายจึงมาปรากฏ ณ ที่แห่งนี้ เป็นเพราะว่าปราณกระบี่ที่กำลังพุ่งเข้ามานั้นน่าหวาดกลัวยิ่ง ต่อให้เป็นผู้นำของพวกมันที่ถือสมบัติที่มีความสามารถในการป้องกันเอาไว้ในมือยังยากที่จะต่อต้านปราณกระบี่เหล่านี้ได้!
“ถอย!”
“ถอยเร็วเข้า!”
พวกมันทั้งหมดต่างหลบหนีอย่างรวดเร็วทันทีโดยมิต้องใช้สมองขบคิดแต่อย่างใด หลังจากที่พวกมันหลุดออกมาจากอาณาเขตของค่ายกลแห่งนั้นได้ พวกมันก็เหลือจำนวนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น อีกทั้งคนที่เหลืออยู่ต่างอยู่ในสภาพย่ำแย่และเต็มไปด้วยโลหิตปกคลุมทั่วร่าง
พวกมันยังมิสามารถฝ่าค่ายกลเข้าไปด้านในได้เลยเสียด้วยซ้ำไป หลังจากที่ผู้นำของพวกมันกลับไปยังราชวงศ์อมตะ มันก็พยายามจะเกลี้ยกล่อมเหล่าผู้นำชั้นสูงของราชวงศ์ให้ดำเนินการกำจัดตระกูลหลินโดยเร็วที่สุด ทว่าเรื่องที่มันร้องขอกลับถูกเมินเฉย....
“พวกเรามิได้มีเวลามากพอจะไปจัดการกับตระกูลหลิน การทำสงครามกับพวกมันเป็นการเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์”
“ต่อให้พวกเราจะขาดหม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไปหนึ่งใบ ทว่าแปดใบที่เหลือก็ได้รับโลหิตสังเวยมากเพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่า เวลาของพวกเราก็เหลือไม่มากแล้ว ถ้าหากพวกเรารอจนกว่าจะสามารถนำหม้อสามขาที่อยู่ในตระกูลหลินกลับมาได้ การสังเวยโลหิตจะสูญเสียประสิทธิภาพไป”
“ยิ่งกว่านั้น การรับสมัครลูกศิษย์รุ่นใหม่ของสำนักศึกษาในอาณาเขตกลางกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว พวกเราจำเป็นต้องส่งยอดฝีมือไปคุ้มกันเหล่าอัจฉริยะน้อยของจักรพรรดิและขุนนางชั้นสูงทั้งหลายเพื่อไปยังสำนักศึกษา พวกเราจำเป็นต้องเข้าไปยังสำนักศึกษาขั้นนำของอาณาเขตกลางให้จงได้!”
“นอกจากนี้ พวกเรายังไม่สามารถจะแบ่งความสนใจไปให้ตระกูลเล็กๆ เช่นนั้นได้ ปล่อยให้พวกมันได้ใจไปก่อน หลังจากนี้พวกเราจะส่งคนไปคอยจับตาดูพวกมัน หากพวกมันกล้าออกมาจากอาณาเขตแห่งนั้น พวกเราจะสังหารมันอย่างไร้ปรานี!” ชนชั้นสูงของราชวงศ์อมตะผู้หนึ่งเอ่ยออกมา
“แล้วตระกูลเป่ยเฉินและตระกูลซวนเล่า? พวกเราได้ข่าวมาว่าพวกมันให้ความช่วยเหลือแก่ตระกูลหลิน!”
“พวกมันเป็นเพียงหนอนแมลงตัวจ้อย ไม่มีสิ่งใดให้จำเป็นต้องกังวล ภารกิจหลักของพวกเราในตอนนี้คือการชำระล้างหม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและการส่งอัจฉริยะน้อยทั้งหลายเข้าไปยังสำนักศึกษาของอาณาเขตกลาง! หลังจากที่เรื่องทั้งสองนี้สิ้นสุดลงแล้ว ก็ยังไม่สายที่จะตามไปสังหารตระกูลหลินในภายหลัง!”
หลังจากประโยคคำสั่งของผู้มีอำนาจของราชวงศ์ได้เผยแพร่ออกไป ราชวงศ์อมตะและตระกูลภายใต้การปกครองของพวกมันก็รับคำสั่งนั้น พวกมันส่งคนไปปิดกั้นเมืองโดยรอบของต้าหยานและข่มขู่ตระกูลซวนและตระกูลเป่ยเฉิน ทว่ามิได้โจมตีตระกูลหลินแต่อย่างใด
......
หนึ่งเดือนผ่านไป
วันหนึ่ง หลินซวนที่นั่งบ่มเพาะอยู่บนต้นไม้และฝึกทักษะลมหายใจปราณม่วงปฐมกาลของตนไปพลางศึกษาพลังดูดกลืนไปพร้อมกัน
ทว่า ทันใดนั้น หลินซวนก็ลืมตาขึ้นและมองไปยังขอบฟ้าทางเหนือทันที!
ตูม!
เสาแห่งแสงขนาดยักษ์ที่สามารถเอื้อมแตะท้องฟ้าได้ปรากฏขึ้น!
เสาต้นนั้นอยู่ห่างจากหลินซวนไปแสนไกล แม้ว่าเขาจะใช้ทักษะเนตรสวรรค์และนัยน์ตาหยินหยางออกมาก็ยังที่จะระบุระยะทางได้!
อย่างไรก็ตาม หลินซวนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่แฝงอยู่ในเสาแห่งแสงนั้นได้อย่างชัดเจน!
“นั่น...มันอะไรกัน?”