บทที่ 50 เขาเป็นสหายของวีไอพีระดับเพชร นางแบบที่หยิ่งยะโสซุนหย่าเหวิน!
บทที่ 50 เขาเป็นสหายของวีไอพีระดับเพชร นางแบบที่หยิ่งยะโสซุนหย่าเหวิน!
“คุณหวังคุนที่เคารพนับถือ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” พนักงานไม่สนใจจ้าวซือและคนอื่นๆ แต่ตรงเข้าไปถามหวังคุน
“ให้ผู้ชายคนนี้ออกไปจากที่นี่ซะ!” หวังคุนชี้ไปที่จ้าวซือ “ไอ้หนู ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะเป็นแฟนแกหรือเปล่า แต่ฉันต้องได้ตัวเธอ ส่วนแก ฉันจะทำให้แกได้เข้าใจถึงคำว่าโหดเหี้ยม!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับข่มขู่อย่างซึ่งหน้าของหวังคุน จ้าวซือจึงเพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา
“กรุณาออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ด้วยครับ” พนักงานได้กระตุ้นให้จ้าวซือออกไป พวกเขาไม่ต้องการคำอธิบายเสียด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นเองก็มีคนวิ่งเข้ามา “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เฉินเหมิง? หืม... บอส!”
จ้าวซือหรี่ตามองและตระหนักว่าคนที่มานั่นก็คือหลี่ซินน้องสาวคนเล็กของเขา ตอนนี้เธอกำลังถือขนมรสดั้งเดิมสองชิ้นอยู่ในมือ ดวงตาของเธอทั้งว่างเปล่าและประหลาดใจ
“เสี่ยวซิน...นี่พวกเธอรู้จักกันเหรอ?” เฉียนเฟิงอ้าปากค้างและไม่คิดว่าหญิงสาวผมสั้นจะเป็นเพื่อนกับหลี่ซิน
“เร็วเข้าสิ รีบบอกให้มันไสหัวไปซะ!” หวังคุนไม่สนใจและเร่งพนักงาน
เมื่อพนักงานเห็นดังนั้นเขาก็กัดฟันและพูดกับจ้าวซือว่า “ถ้าคุณยังไม่ออกจากที่นี่ ผมคงต้องใช้ความรุนแรง!”
หลี่ซินยังไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเธอ แต่เธอสามารถเข้าใจเหตุการณ์ได้คร่าวๆ แล้ว เธอยัดหลอดขนมใส่มือของเฉินเหมิง หญิงสาวผมสั้นคนนั้น และพูดตรงๆ ว่า “ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าทำไมคุณถึงต้องการให้เขาออกไป?”
“เพราะเขาทำให้วีไอพีระดับแพลตตินั่มของพวกเราไม่พอใจ คุณหวังคุน!” พนักงานยังไม่ลืมที่จะยกยอหวังคุน
หวังคุนยืนอยู่ที่นั่นอย่างหมดความอดทนแต่เขาก็ไม่อาจที่จะซ่อนความภาคภูมิใจของเขาได้ เขามองไปที่จ้าวซือราวกับจะพูดว่า "ไอ้หนู... นี่แหละความจริง ฉันเป็นคนที่แกไม่อาจจะที่จะมาก้าวล่วงได้ ถึงแม้ว่าแกต้องการที่จะโต้แย้งฉัน ฉันก็จะทำให้แกต้องออกไปจากที่นี่ซะ!
“อ๋อ? วีไอพีระดับแพลตตินั่ม ถ้าอย่างนั้นคุณคงคิดผิดแล้วล่ะ คนที่ควรจะถูกขอให้ออกไปก็ควรเป็นเขาคนนี้... คุณเลขแปด” หลี่ซินยิ้ม
ใบหน้าของหวังคุนเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฉันชื่อหวังคุน!”
เฉียนเฟิงเหงื่อแตกพลั่กและรีบเดินมาข้างๆ หลี่ซิน “เสี่ยวซิน นี่เธอเข้าใจอะไรผิดงั้นเหรอ? เธอรู้ไหมว่าว่าเขาเป็นใคร! เขาคือหวังคุนนะ! อีกอย่างเขาเป็นวีไอพีระดับแพลตตินั่มแบบท่านซุนฝางเชียวนะ! มันไม่คุ้มเลยที่เธอจะช่วยจ้าวซือแบบนี้!”
หลี่ซินมองดูเฉียนเฟิงด้วยความรังเกียจและดึงเฉินเหมิงที่อยู่ข้างๆเธอให้ก้าวไปข้างหน้า "นี่ไงล่ะวีไอพีระดับเพชร!"
เธอจับมือจ้าวซือเอาไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง “แล้วคนที่คุณอยากจะให้ออกไปจากงาน เขาคนนี้ก็เป็นสหายของคุณซุนฟางวีไอพีระดับเพชร!”
ทั้งหวังคุนและเฉียนเฟิงถึงกับตาโตเมื่อได้ยินเรื่องนี้
พนักงานสองสามคนยิ่งหวาดกลัวและตัวสั่นเทา
วีไอพีระดับเพชรเหนือกว่าวีไอพีระดับแพลตตินั่มเสียอีก!
“เป็นไปไม่ได้! เธอจะเป็นวีไอพีระดับเพขรได้ยังไงกัน? เธอต้องโกหกแน่ๆ!” หวังคุนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองและชี้ไปที่หลี่ซินอย่างโกรธเคือง
หลี่ซินหัวเราะเยาะและหยิบการ์ดคริสตัลจากเฉินเหมิงออกมา "แหกตาดูซะสิ!"
หลังจากที่ยืนยันความถูกต้องแล้ว พนักงานบางคนก็โค้งคำนับและขอโทษจ้าวซือในทันที ในขณะเดียวกัน หนึ่งในนั้นก็เดินไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของหวังคุน
หวังคุนถึงกับหน้าเปลี่ยนสีไปสองสามครั้ง เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจแต่ทำได้เพียงเท่านั้น และเขาไม่อาจที่จะแตะต้องภูมิหลังของเฉินเหมิงได้ง่าย!
เฉินเหมิงกระซิบอะไรบางอย่างกับหลี่ซินโดยโดยอธิบายเหตุการณ์คร่าวๆ สิ่งนี้ทำให้หลี่ซินรู้สึกว่าเธอไม่ได้ตัดสินจ้าวซือผิด ในขณะเดียวกันเธอก็ทำให้เฉียนเฟิงถูกมองว่าเป็นคนน่ารังเกียจ
“หลี่ซิน ฉัน…” เฉียนเฟิงรู้สึกเสียใจ เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นเพื่อนสนิทของหลี่ซินและยังมาจากตระกูลที่หวังคุนไม่อาจที่จะแตะต้องได้อีกด้วย
จริงๆ แล้วไม่เพียงแต่เขาจะได้หน้าและได้รับเครือข่ายที่ดี แต่เขาอาจจะได้รับความดีความชอบจากหลี่ซินด้วยเหตุนี้อีกด้วย
แต่ตอนนี้ทุกอย่างตกไปอยู่ในมือของจ้าวซือเสียแล้ว!
“พี่ใหญ่ ไปดูงานแสดงรถยนต์ด้วยกัน!” หลี่ซินดึงมือของจ้าวซือและเฉินเหมิงโดยที่ไม่สนใจเฉียนเฟิงเลย
ฮันไป่เสวี่ยที่มาสายและเห็นจ้าวซือจากระยะไกล แต่เมื่อเธอได้เห็นผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างๆ จ้าวซือ ฮันไป่เสวี่ยก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย
“อาจารย์ฮัน!” จ้าวซือไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะมันเป็นการยากที่จะอธิบายสถานการณ์ปัจจุบัน
ในทางกลับกัน หลี่ซินกลับมองด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “อาจารย์ฮัน นี่พวกคุณกำลังเดทกันอยู่หรือเปล่า?”
ใบหน้าเรียวสวยของฮันไป่เสวี่ยแดงระเรื่อขึ้นมาทันที เธอดูลุกลี้ลุกลนมากขึ้น แต่เธอก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาด้วยการพูดติดอ่าง “อยู่ข้างนอกเรียกฉันว่าพี่ฮันก็ได้ พวกเราไปช้อปปิ้งด้วยกันนะ”
ในตอนนี้จ้าวซือยังไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา
ทั้งสามคนซึ่งมีบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สามารถรวมตัวกันได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีโดยไม่มีช่องให้เขาเข้าไปแทรกได้เลย
สิ่งที่ลำบากอีกประการหนึ่งก็คือสายตาของคนรอบข้างที่มองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว นั่นเพราะว่าไม่ว่าจะเป็นหลี่ซิน เฉินเหมิง หรือฮันไป่เสวี่ยพวกเธอทุกคนล้วนแต่เป็นสาวงามที่หาตัวจับได้ยาก ตอนนี้พวกเธอดูเหมือนดาวล้อมเดือนที่ล้อมรอบตัวจ้าวซือเอาไว้ซึ่งทำให้พวกเขายิ่งดูเด่นขึ้นไปอีก
ถ้าการมองสามารถฆ่าคนได้ จ้าวซือก็คงจะถูกสับออกเป็นหมื่นๆ ชิ้นไปแล้วโดยพวกผู้ชายที่อิจฉาเขาทั้งหลายพวกนั้น!
แต่ทว่าเมื่อจ้าวซือพยายามที่จะเดินออกจากวงล้อมของทั้งสามสาวและแสร้งทำเป็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ทั้งฮันไป่เสวี่ยและหลี่ซินก็เหมือนกับพยายามตามติดเขาโดยอัตโนมัติ พวกเธอหัวเราะและพูดคุยกันขณะที่มาขนาบทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของเขา
“หรือว่าทั้งพี่หลี่ซินและพี่ฮันทั้งคู่จะชอบเขา?” จิตใจของเฉินเหมิงเคลื่อนไหวอย่างลับๆ แต่เธอกลับไม่รู้ตัว่าเธอได้ถูกดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มที่ชื่อจ้าวซือคนนี้อย่างไม่ตั้งใจ!
“เอ๊ะ? ข้างหน้าดูมีชีวิตชีวามากเลย!”
จ้าวซือและทั้งสามสาวสังเกตเห็นว่ามีคนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างหน้าพวกเขา และความสนใจของคนรอบข้างก็ไม่ได้พุ่งมาที่พวกเขาอีกแล้ว
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ ก็ปรากฏว่ามีการแสดงรถรุ่นต่างๆ ท่ามกลางรถยนต์ที่เรียงรายอยู่นั้นมีสาวสวยคนหนึ่งที่มีรูปลักษณ์สวยงามเป็นพิเศษซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก
"ว้าว เซ็กซี่จัง ครั้งนี้ฉันมาไม่เสียเปล่าเลย"
“พี่ชายรู้จักเธอไหม?”
“นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร? เธอคือซุนหย่าเหวิน สุดยอดนางแบบรถของเมืองเรา เธอมีโฆษณาตั้งมากมาย!”
ซุนหย่าเหวิน? เมื่อจ้าวซือได้ยินชื่อนี้ เขาก็จำได้ว่าเขาเคยเห็นนางแบบคนนี้ในโฆษณารถยนต์ ถือได้ว่าเป็นดาวของเสี่ยวหมิง
ในขณะนี้การถ่ายแบบของซุนหย่าเหวินดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว มีหลายคนขึ้นไปขอถ่ายรูปกับเธอ
“พี่ใหญ่ ไปขอถ่ายรูปเธอด้วยกันสิ!”
จ้าวซือพยักหน้าเห็นด้วยกับหลี่ซิน ไม่เสียเปล่าที่ได้ถ่ายรูปกับซุน หย่าเหวิน กลับบ้านไปเขาก็ยังได้เอารูปไปอวดจ้าวเมิ่งน้องสาวของเขาอีกด้วย
หลังจากเบียดเสียดอยู่นาน ในที่สุดทั้งสองคนก็มาอยู่ตรงหน้าซุนหย่าเหวิน ในตอนนี้ซุนหย่าเหวินยิ้มขณะที่เธอเพิ่งจะถ่ายรูปกับชายวัยกลางคนในชุดเสื้อผ้าราคาแพงเสร็จ
หลี่ซินพูดอย่างตื่นเต้นว่า “น้องหย่าเหวิน ถ่ายรูปกับพวกเราหน่อยสิ!”
ซุนหย่าเหวินมองไปที่จ้าวซือและหลี่ซิน และผู้คนที่รอถ่ายรูปกับเธอ เธอหันไปพูดกับพนักงานที่อยู่ข้างๆ เธอว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว น่าจะพอได้แล้วนะ"
หลังจากที่พูดจบ เธอก็สวมแว่นกันแดดและเสื้อโค้ทขนสัตว์ราคาแพงและจากไปด้วยการดูแลของพนักงาน
เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของหลี่ซิน ความประทับใจของจ้าวซือที่มีต่อซุนหย่าเหวินก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นจุดเยือกแข็ง
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคู่ควรที่จะถ่ายภาพจากทางด้านหลัง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมซุนหย่าเหวินถึงได้จากไปอย่างไม่ใยดี
แต่ทว่าทุกคนต่างก็ต้องแสวงหาผลประโยชน์ เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่สิ่งที่ซุนหย่าเหวินทำแบบไม่ให้เกียรติหลี่ซินนั้นเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด
“ถ้าเธอรู้ว่าหลี่ซินเป็นญาติกับแขกวีไอพีระดับเพชร ฉันอยากรู้จังว่าเธอจะยังเย็นชาแบบนี้อยู่ไหม?” จ้าวซือแอบถอนหายใจและทำได้เพียงแค่ปลอบใจหลี่ซิน
โชคดีที่ผู้ชายคนนี้มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ แต่ก่อนที่จ้าวซือจะปลอบใจหลี่ซินเสร็จ เขาก็ผนึกพลังลมปราณของเขาเรียบร้อยแล้ว