ตอนที่แล้วEp.53 - ระบายของให้เหล่าเซี่ยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.55 - วิหารเนโครแมนเซอร์

Ep.54 - หินสกิลขว้างอาวุธ


1/3

Ep.54 - หินสกิลขว้างอาวุธ

แม้อุปกรณ์ที่ฮังอวี่มอบให้ทั้งหมดมันเป็นแค่สีเทา

แต่ราคาที่เหล่าเซี่ยงรับซื้อนั้นไม่ต่ำแน่นอน

ยังไงก็ตาม เหล่าเซี่ยงพอใจกับอุปกรณ์พวกนี้มาก

เมื่อเขานำอุปกรณ์คุณภาพสูงพวกนี้ออกขาย ด้วยคุณภาพของมันและความขาดแคลนในตลาด ประกอบกับสถานการณ์ยุคปัจจุบันที่ทรัพย์สินจากโลกวิญญาณกำลังเป็นที่นิยม มันจะต้องทำให้พวกเถ้าแก่ใหญ่หลายคนก้าวออกมาแย่งชิงอย่างแน่นอน และราคาขายก็จะพุ่งสูงลิ่ว

เพราะสุดท้ายแล้ว สหายทั้งหลายในเมืองโม่ตู่ล้วนแต่เป็นคนมั่งคั่ง การควักเงิน 1-2 ล้านหยวนเพื่อซื้ออุปกรณ์ซักชิ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อย่างมากแค่ขนหน้าแข้งสองสามเส้นร่วง

อย่างไรก็ตาม ขนหน้าแข้งของคนเหล่านั้น สำหรับเหล่าเซี่ยงแล้ว มันมากพอที่จะสร้างกำไรมหาศาล!

การลงมือทำเช่นนี้จะช่วยให้เขากลายเป็นจุดสุดใจ เป็นบทบาทสำคัญในการวางรากฐานเพื่อสร้างคอนเนคชั่น

เหล่าเซี่ยงไม่คิดพยายามหลอกล่อเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยกลอุบายของเขา อย่างแรกเลยเด็กหนุ่มค่อนข้างฉลาด และไม่ง่ายที่จะหลงกล

อย่างที่สองเหล่าเซี่ยงไม่ต้องการทำสิ่งโง่เขลาอย่างการหลอกตบทรัพย์ เพราะเขาสามารถสังเกตเห็นได้ ว่าเด็กหนุ่มคนนี้อาจเป็นมหาเทพที่ซ่อนเร้นและทรงพลังที่สุดในค่าย

หากอยากคว้าโอกาสร่ำรวยในอนาคต เขาจำเป็นต้องพึ่งพาอีกฝ่าย ได้แต่มอบความโปรดปรานให้เท่านั้น มิอาจล่วงเกินให้ขุ่นเคือง

“ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน!”

เหล่าเซี่ยงโอนเงินผ่านมือถือโลกวิญญาณเสร็จ เขายื่นมือไปเชคแฮนกับฮังอวี่ด้วยใบหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเร่าร้อน  เอ่ยปากย้ำอีกครั้ง “คราวหน้าถ้ามีของดีอะไรอีก อย่าลืมคิดถึงฉัน!”

ฮังอวี่ไม่ได้ปฏิเสธ

แต่ในตอนนั้นเอง เกิดความปั่นป่วนขึ้นในค่าย มีคนกลุ่มหนึ่งกลับมา

พวกเขาเดินทางมาจากแดนฝังกระดูกก็อบลิน

ตัดสินจากอุปกรณ์ที่สวมใส่ บ่งบอกชัดว่าแข็งแกร่งกว่าคนทั่วๆไป

และในบรรดาคนพวกนั้น มีสามคนที่ฮังอวี่รู้จักดี เป็นจ้าวหมิง เจียงหนาน และจางเสี่ยวเฉียง

ทั้งสามยืนอยู่กลางคนกลุ่มนั้น

หลังจากเดินเข้ามาในค่าย ทั้งสามเห็นฮังอวี่เช่นกัน พวกเขาก้าวเข้ามาทักทายทันที

เจียงหนานตะโกนอย่างมีความสุข “ฮี่ ฮี่ พี่มหาเทพ ในที่สุดพี่ก็กลับมา”

ฮังอวี่พยักหน้ารับ กวาดสายตาสำรวจทั้งสาม “ดูเหมือนพวกเธอจะได้กำไรมากันไม่น้อยเลยนี่ แถมพลังรบก็ดูแข็งแกร่งขึ้นมาก”

“ใช่ ใช่! ฉันขึ้นเป็นเลเวล 3 แล้ว!”

จางเสี่ยวเฉียงแทบรอไม่ไหว เอ่ยปากอวด

เขาเป็นคนแรกที่ขึ้นเป็นเลเวล 3 และน่าจะเป็นคนเดียวในค่ายนี้ที่ทำได้หากไม่นับฮังอวี่

เหล่าจ้าวกับเจียงหนานยังคงติดอยู่ในเลเวล 2 อย่างไรก็ตาม มีเพียงเส้นบางๆเท่านั้นที่ขวางกั้นพวกเขาสู่เลเวล 3

เหล่าจ้าวขาดแต้มวิญญาณเพียง 10 แต้ม เมื่อกลับไปแล้วได้กินอาหารวิญญาณที่มีคุณภาพสักเล็กน้อย เขาย่อมสามารถอัพเลเวลได้

ส่วนเจียงหนาน แม้ยังขาดแต้มวิญญาณอีกกว่า 30 แต้ม แต่ครั้งต่อไปที่เธอเข้าสู่โลกวิญญาณ การอัพเลเวล 3 ไม่ใช่ปัญหา

สามารถกล่าวได้ว่าทั้งสามนำหน้าผู้คนนับร้อยล้านพันล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่แน่นอน นั่นยังเทียบไม่ได้กับฮังอวี่

แม้ฮังอวี่จะยังอยู่ในเลเวล 3 แต่เขาสะสมแต้มวิญญาณได้มากกว่า 200 แต้มแล้ว ในขณะที่การยกระดับจากเลเวล 2 เป็น 3 มันต้องใช้แต้มวิญญาณแค่ 150 แต้มเท่านั้น

ในขณะที่ฮังอวี่ขาดเหลืออีกเพียงหลักสิบแต้ม ก็จะสามารถขึ้นเป็นเลเวล 4 ได้แล้ว

ฮังอวี่สังเกตเห็นว่านอกจากเจียงหนาน จ้าวหมิง และจางเสี่ยวเฉียงแล้ว ยังมีคนอื่นยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา จากที่สังเกตดูคร่าวๆ พบว่าหลายคนดูไม่อ่อนแอ เดาว่าคงมีสกิลพรสวรรค์ที่ไม่เลว และน่าจะขึ้นเป็นเลเวล 2 แล้ว

จ้าวหมิงเอ่ยสั่ง “ปันจื่อ ไล่พวกที่แอบมองอยู่แถวนี้ออกไปให้หมด”

ชายผมทรงจานบิน รูปร่างผอมเพรียว หน้าตาเหมือนทหารพาคนที่เหลือไปกับเขา เริ่มกระจายฝูงชนที่เฝ้าดูความคึกคักอยู่รอบๆทันที

และในค่ายนี้ คงมีแต่เหล่าจ้าวเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้! อาาา! เขาไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการ แต่ยังมีคุณสมบัติของผู้นำอย่างแท้จริง

กลุ่มคนที่แยกตัวออกไปเมื่อครู่ พวกเขาไม่ได้อ่อนแอ แต่ทั้งหมดปฏิบัติตามคำสั่งของจ้าวหมิง

“ฮังอวี่ นายกลับมาได้เวลาพอดี พวกเราไปเจอของดีเข้า และฉันตั้งใจเก็บไว้ให้นาย”  เมื่อเหล่าคนมุงแยกย้าย เหล่าจ้าวก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “ฉันคิดว่านายคงอยากได้เจ้าสิ่งนี้”

มันคืออะไร?

ได้แต่คิดในใจ จ้าวหมิงไม่รอให้ฮังอวี่เอ่ยถาม เขาส่งข้อมูลไอเท็มชิ้นหนึ่งออกไป

เมื่ออ่านมัน ดวงตาของฮังอวี่เปล่งประกายทันที

ปรากฏว่ามันคือหินสกิลสีขาว! และมันคือหินสกิลขว้างอาวุธ!

[หินสกิลสายนักรบ : ขว้างอาวุธ] : สีขาวคุณภาพสูง ชิ้นส่วนมรดกของนักสอดแนม เงื่อนไขการเรียนรู้ : ไม่มี

“วันนี้พวกเราเก็บกวาดโนมปล้นศพได้อีกกลุ่มหนึ่ง” จางเสี่ยวเฉียงอธิบาย “เจ้านายดึงปันจื่อกับคนอื่นๆเข้าทีม แล้วพากันไปล่าโนมปล้นศพ!”

“เหอ เหอ แต่กลายเป็นว่าหินสกิลล่องหนไม่ดรอป แต่ดรอปหินสกิลนี้แทน!”

ฮังอวี่รู้สึกดีใจมาก แต่เอาตรงๆเขาแปลกใจยิ่งกว่า

ก็ในเมื่อนี่เป็นหินสกิลนักรบ แล้วจ้าวหมิงเองก็เป็นนักรบ งั้นทำไมเขาไม่เก็บไว้ใช้เอง แต่กลับเลือกมอบมันให้แก่ตน

“ฉันรู้ตัวว่าสไตล์การต่อสู้ของฉันไม่เหมาะกับหินสกิลนี้ ขณะที่นายเรียนรู้หนึ่งในสกิลนักสอดแนมไปแล้ว เลยน่าจะต้องการมันมากกว่าฉัน”

เหล่าจ้าวถืออาวุธมือเดียว อีกมือเป็นโล่ เมื่อเขาก้าวสู่สมรภูมิแนวหน้า ก็แทบไม่มีโอกาสขว้างมีดบิน ดังนั้นถึงเรียนรู้มันไป ก็ได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สกิลนี้เอาจริงๆใช้งานได้ง่ายมาก หากมีมัน ความสามารถในการต่อสู้จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

และประเด็นก็คือ หินสกิลขว้างอาวุธนี้มีประโยชน์ต่อฮังอวี่มากเป็นพิเศษ เพราะมันคือหนึ่งในมรดกของนักสอดแนม

หากเรียนรู้มัน เท่ากับว่าเขามีสองในสามมรดกแล้ว ในอนาคต ตราบใดที่ได้รับหินสกิลตาเหยี่ยวซึ่งเป็นอันสุดท้าย  เขาก็จะได้รับชิ้นส่วนมรดกทั้งหมด และได้รับอาชีพเสริมเป็นนักสอดแนม

แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ฮังอวี่ในตอนนี้ยังไม่มีสกิลโจมตีอย่างจริงจัง ดังนั้นเมื่อได้หินสกิลขว้างอาวุธมา จะถือว่าช่วยชดเชยจุดอ่อนตรงนี้ได้เป็นอย่างดี

ฮังอวี่ต้องการมันจริงๆ ดังนั้นเอ่ยถามตรงๆ “ลุงจ้าวอยากได้อะไรแลกเปลี่ยนครับ?”

จ้าวหมิงกล่าว “พวกเราเป็นสหายต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ไหนๆก็สนิทกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม ขอแค่ใช้ของที่มีค่าใกล้เคียงกันแลกมาก็พอ”

ของที่มีค่าใกล้เคียงกัน?

ฮังอวี่มีชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์อีกหนึ่งเซ็ท แต่ขืนเอาทั้งสามชิ้นนั้นออกมาแลก ไม่ต้องคำนวณดูก็รู้ว่าเขาขาดทุน

แต่นอกจากชุดเซ็ทแล้ว อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวเขาตอนนี้? แน่นอน ว่าย่อมเป็นหินสกิลลูกศรอากาศ

หินสกิลลูกศรอากาศมีมูลค่าไม่ด้อยไปกว่าหินสกิลขว้างอาวุธ แต่ปัญหาก็คือลูกศรอากาศเป็นสกิลสายนักเวทย์ แล้วแบบนี้จ้าวหมิงจะรับได้หรือ?

แล้วอีกอย่าง ผู้ควบคุมอากาศขั้นต้นก็เป็นแค่มรดกขั้นต้น มันไม่มีชิ้นส่วนมรดกเหมือนกับนักสอดแนม

ดังนั้นหากพูดกันแบบจริงจัง คือมันมีค่าน้อยกว่าหินสกิลขว้างอาวุธอยู่เล็กน้อย

ฮังอวี่ตัดสินใจทันที เขานำหินสกิลลูกศรอากาศออกมา และยังหยิบอาวุธสีเทาใสเลเวล 3 [ตะลุมพุกไม้เอฟเฟกต์สตั๊น] กับ [ใบไม้วิญญาณบำบัด] ซึ่งสองสิ่งนี้น่าจะเพียงพอสำหรับชดเชยช่องว่างที่ขาดหายไป

อย่างไรก็ตาม หินสกิลลูกศรอากาศไม่เหมาะกับเหล่าจ้าว มันไม่คู่ควรเท่าหินสกิลขว้างอาวุธ เช่นนั้นแล้วเหล่าจ้าวจะตกลงหรือไม่?

“ฉันตกลง!”

ฮังอวี่เดิมตั้งใจจะรอดูปฏิกิริยาของจ้าวหมิงก่อน แต่ไม่นึกเลยว่าจ้าวหมิงจะตกปากรับข้อเสนอโดยไม่เสียเวลาคิดสักนิด รวดเร็วอย่างไม่อยากจะเชื่อ!

ตะลุมพุกไม้จ้าวหมิงเก็บไว้ใช้เอง อาวุธชิ้นนี้บังเอิญจับคู่กับโล่เขาได้อย่างพอดิบพอดี

ส่วนใบไม้วิญญาณบำบัด สำหรับฮังอวี่ที่หลังจากนี้ไปจะเริ่มกลั่นยาแล้ว มันมีค่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังนับเป็นไอเท็มสนับสนุนที่ดีสำหรับเหล่าจ้าว

ส่วนหินสกิลอากาศเล่า? จ้าวหมิงตัดสินใจมอบมันให้จางเสี่ยวเฉียงโดยตรง

จางเสี่ยวเฉียงรู้สึกปลื้มปิติมาก “อา เจ้านาย! นี่มันมีค่ามากเกินไป!”

“หินจะมีค่าแค่ไหนมันก็ยังเป็นหิน มันจะมีประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อถูกใช้เท่านั้น” จ้าวหมิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ “นายเอามันไปใช้ก่อน คอยสนับสนุนบริษัทของพวกเราให้ก้าวหน้า ใช้เวลาเหล่านั้นชดใช้ให้ฉัน”

“รับทราบ รับทราบ!” สีหน้าของจางเสี่ยวเฉียงดูมีความสุขมาก

ตอนนี้เขามีอุปกรณ์สีขาวสามชิ้นที่ช่วยเพิ่มการโจมตีทางเวทมนตร์และเพิ่มสติปัญญา แม้แต่อาวุธในมือก็ยังเป็นไม้เท้าคุณภาพขาว

หากสกิลลูกศรอากาศนี้ตกอยู่ในมือจางเสี่ยวเฉียง อำนาจสังหารของมัน ไม่อาจมองข้ามได้อย่างแน่นอน

สกิลนี้มีระยะเวลาคูลดาวน์สั้นมาก มันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการโจมตีต่อเนื่องของจางเสี่ยวเฉียงได้เป็นอย่างดี

หลังจากแลกเปลี่ยนกับฮังอวี่เสร็จแล้ว จ้าวหมิงเอ่ยปากขึ้นมาทันทีว่า “อันที่จริงแล้ว ฉันมีบางอย่างอยากรวบกวน หวังว่านายจะช่วยได้”

ฮังอวี่พบว่าเหล่าจ้าวช่างลื่นเป็นปลาไหลจริงๆ เมื่อตัวเขาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เหล่าจ้าวก็เอ่ยปากขอความช่วยเหลือทันที

และมันไม่เหมาะที่เขาจะปฏิเสธ

“ลุงจ้าวมีอะไรให้ช่วย?”

“ฉันกำลังหาหินสกิลที่น่าสนใจอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าหินสกิลแบบไหนที่เหมาะกับฉัน เพราะฉะนั้นหวังว่าจะได้รับคำแนะนำที่พอเป็นประโยชน์บ้าง”

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองสินะ

เหล่าจ้าวตระหนักดีถึงความสำคัญของหินสกิล ดังนั้นเขาจึงเตรียมเงินมากมายไว้รอซื้อมัน

อย่างไรก็ตาม จ้าวหมิงก็ตระหนักได้เช่นกัน ว่าหินสกิลหรือพวกมรดก มันมีหลากหลายประเภท เขาไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับมรดกแบบไหน เลยรอขอคำแนะนำจากฮังอวี่

เพราะถึงอย่างไร การซื้อหินสกิล สำหรับเหล่าจ้าวแล้ว มันถือว่าใช้ทุนไม่น้อย! เขาเลยไม่ต้องการความผิดพลาด

หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา เรื่องที่ฮังอวี่ฉลาดกว่าใคร เหล่าจ้าวมีหรือจะไม่รู้

เขาเดาว่าฮังอวี่ต้องได้รับสกิลพรสวรรค์ที่สามารถครอบครองประสบการณ์หรือความรู้มาแน่ๆ