ตอนที่แล้วบทที่ 18 แสงสว่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 กฎ

บทที่  19 คะแนน


บทที่  19 คะแนน

เบื้องหน้าของเย่สวี่เป็น สัตว์อสูรเถื่อนระดับหก มันคือพยัคฆ์เมฆาสายฟ้า สัตว์อสูรเถื่อนตนนี้เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ราวกับสายลม และรวดเร็วราวกับสายฟ้า แม้แต่นักสู้ระดับเจ็ดขั้นกลั่นพลังปราณก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุมัน

ทางด้านของเย่สวี่ กำหมัดแน่นชูกำปั้นไว้ข้างหน้าเขาและออกแรงจิกปลายเท้าสุดกำลัง เขารวบรวมพละกำลังและต่อต้านมัน ในขณะที่เขาถูกมันจู่โจม

หมัดเดียวของเย่สวี่ที่ทั้งรวดเร็วและรุนแรง จู่ ๆ ก็ชกไปข้างหน้า แทงทะลุอวัยวะภายในของมันด้วยกำปั้น! พยัคฆ์เมฆาสายฟ้าส่งเสียงคำราม หลังจากถูกโจมตี มันทรุดตัวลงอย่างกะทันหัน

เมื่อเห็นเช่นนั้น กัวผางกลอกตา และทำใจกับภาพที่เห็น ในช่วงครึ่งเดือนมานี้ ในที่สุด เขาก็เข้าใจแล้วว่าพรสวรรค์ของเย่สวี่น่ากลัวเพียงใด ภายใต้การแนะนำของกัวผาง เย่สวี่ได้ทะลวงผ่านไปยังระดับที่ห้าของขั้นกลั่นพลังปราณแล้ว

สิ่งนี้ทำให้กัวผางชื่นชมเย่สวี่มาก แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความเคารพกับเขามากขึ้น เย่สวี่แอบประเมินพลังของหมัดในครั้งนี้ หากเขาไม่ใช้พลังของมังกรพิภพวารีอำพัน หมัดนี้จะมีพละกำลังถึง 3000 กว่ากิโลกรัม

หากเขาใช้พลังของมังกรพิภพวารีอำพัน แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับขั้นกลั่นพลังปราณระดับที่ 8  เขาก็สามารถหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย

ในช่วงครึ่งเดือนมานี้ เขาไม่เสียเวลาแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่เขาเรียนรู้ท่วงท่าของพลังหมัดห้าธาตุอีกสี่กระบวนท่าได้แล้ว และเขายังเชี่ยวชาญหมัดแยกร่างเพิ่มมากขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากของเหลววิญญาณหยก

เขาได้ก้าวเข้าสู่ขั้นที่หกของขั้นกลั่นพลังปราณ จากนั้นเย่สวี่นำแกนวิญญาณออกแล้วพูดว่า "การทดสอบนี้กำลังจะสิ้นสุดลง เรากลับไปที่ค่ายโลหิตเยือกเย็นกันเถอะ"

จ้าวหรูเอ๋อกล่าวอย่างมีความสุข " เป็นเพราะเย่สวี่ เราจะเป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน"

กัวผางหัวเราะเสียงดัง "ข้าอยากได้เม็ดยาวิญญาณเมฆามานานแล้ว ครั้งนี้ข้าต้องขอบใจเจ้ามาก เย่สวี่ ไม่เช่นนั้นข้าจะได้ยาเม็ดนี้มาได้อย่างไร"

ยาเม็ดวิญญาณเมฆาเป็นเม็ดยาชั้นหนึ่งระดับสูง มันสามารถช่วยให้ผู้คนก้าวไปสู่อาณาจักรที่เหนือขึ้นไปได้ และมันก็เป็นหนึ่งในรางวัลสำหรับการได้อันดับหนึ่งด้วย ทั้งสามคนพูดคุยกันขณะเดินและกลับไปที่ค่ายโลหิตเยือกเย็น

ตอนนี้ กลุ่มเล็กๆ จำนวนมากต่างเดินทางกลับมาแล้ว เมื่อพวกเขามองเห็น เย่สวี่และกลุ่มของเขา พวกเขาต่างแสดงความรังเกียจอย่างโจ่งแจ้ง

คนพวกนี้เป็นเพียงกลุ่มของขั้นที่ 4 ของขั้นกลั่นพลังปราณ พวกเขานั้นไร้ประโยชน์ โดยไม่รอช้า เย่สวี่กำลังจะเอาแกนวิญญาณของเขาออกมาเพื่อแลกกับคะแนน

ทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนขึ้นว่า "หลี่เจียนกลับมาแล้ว!" ทุกคนต้างมองดูและพบว่าเสื้อผ้าสีดำของหลี่เจียนนั้น อยู่ในสภาพเดิม ไม่มีร่องรอยของความยากลำบากใด ๆ เหมือนคนอื่นๆ

“ข้าสงสัยว่าคราวนี้หลี่เจียนจะได้กี่คะแนน ไม่แน่ว่า...เขาอาจจะได้ที่หนึ่งอีกครั้ง!” มีคน ๆ หนึ่งพูดอย่างอิจฉา

ทางด้านหลี่เจียนก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยืดศีรษะสูง มองต่ำลงมายังทุกคน เขาเดินไปที่ป้ายบอกคะแนน และคนรอบข้างต่างก็หลีกทางให้เขาทันที

นี่คือการแสดงออกต่อความเคารพต่อผู้แข็งแกร่ง เมื่อเห็นใครบางคนอยู่หน้าป้ายบอกคะแนน คนข้างๆ หลี่เจียนก็ผลักกัวผางออกไป และพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “ไสหัวไปซะ!”

ใบหน้าของกัวผางแสดงอาการโกรธจัด แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เมื่อมองเห็นใบหน้าของหลี่เจียน เขาไม่ต้องการให้หลี่เจียนสังเกตเห็น เย่สวี่ตั้งแต่เนิ่นๆ

หลี่เจียนไม่ได้เหลือบมองกัวผางด้วยซ้ำ เขานำแกนวิญญาณออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะ ทันใดนั้น แกนวิญญาณที่มีสีสันหลากหลาย ก็ทำให้ดวงตาของทุกคนตื่นตระหนก

ในหมู่แกนวิญญาณ มีระดับ 4 ที่เป็นระดับต่ำที่สุด และสูงสุดคือแกนวิญญาณระดับ 6!

"รวมทั้งสิ้น 6,100 คะแนน" ชายคนหนึ่งขานแต้มคะแนน และจดบันทึกด้วยความเคารพ นี่เป็นคะแนนสูงสุดที่เขาเคยเห็นในวันนี้ และหลี่เจียนคนนี้มีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดรออยู่ข้างเบื้องหน้า เขาจะต้องไม่ยั่วยุหลี่เจียน

“เขาน่าทึ่งจริงๆ กลุ่มของเรามีคะแนนเพียง 250 คะแนน ไม่ถึงครึ่งของหลี่เจียนด้วยซ้ำ”

“ถูกต้อง ข้าเห็นว่ามีแกนวิญญาณระดับ 6 อยู่ข้างใน ข้าคาดว่า มีเพียงกลุ่มของหลี่เจียนเท่านั้นที่กล้าที่จะล่าสัตว์อสูรเถื่อน ระดับ 6”

“หลี่เจียนย่อมจะต้องเป็นอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย” ทุกคนอุทานด้วยความชื่นชมและอิจฉา รางวัลสำหรับการเป็นอันดับหนึ่งนั้นมั่งคั่งมาก และแม้แต่ขั้นกลั่นพลังปราณระดับ 7 ก็ไม่สามารถทำลายมันลงไปได้

หลี่เจียนเงยหน้าขึ้นสูง และขบคิดในใจว่า นี่มันเป็นเพียงแค่ขนมชิ้นหนึ่งสำหรับเขา และมันก็ไม่คุ้มที่จะโอ้อวด

“มอบรางวัลมาให้ข้า” หลี่เจียนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

"ตอนนี้หรือ?" ชายที่ดูแลเรื่องการตรวจนับคะแนนลังเลใจ: “แต่ยังมีบางกลุ่มที่ยังไม่กลับมา ข้าต้องบันทึกคะแนนทั้งหมดและจัดอันดับบนกระดานผู้นำก่อนจึงจะสามารถให้รางวัลได้”

"เจ้าคิดว่าจะมีคนที่มีคะแนนมากกว่าข้าหรือไม่" ดวงตาของหลี่เจียนเย็นชาราวกับงูพิษชูคอ และรอที่จะพ่นพิษใส่เหยื่อผู้โชคร้าย

"ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น" ชายคนนั้นตัวสั่นด้วยความกลัว เขาไม่กล้าที่จะยั่วยุหลี่เจียน

เขาพูดทันทีว่า “เจ้าคือที่หนึ่งโดยธรรมชาติ ข้าจะนำรางวัลมาเดี๋ยวนี้” หลี่เจียนสูดหายใจอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “อย่างน้อยเจ้าก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

"ช้าก่อน" จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนมองดูและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งพูดกับชายผู้รับผิดชอบเรื่องการตรวจนับคะแนนว่า "เจ้ายังไม่ได้บันทึกคะแนนของข้า ทำไมเจ้าถึงมอบลำดับให้ที่หนึ่งกับหลี่เจียน?" เมื่อพูดคำเหล่านี้ ทุกคนก็มองมาที่เขาด้วยความตกใจ

“เขาเป็นใครกัน ทำไมเขากล้าพูดแบบนี้จริงๆ เขาหมายความว่าที่หนึ่งเป็นของเขาหรือ?”

“ข้าจำได้ว่าผู้ชายคนนี้ชื่อเย่สวี่ เขาเป็นบุตรชายที่ถูกตระกูลเย่ทอดทิ้ง”

“หลี่เจียนเอาแต่ใจอยู่เสมอ เขากล้ายั่วยุหลี่เจียน ตอนนี้ เรามีเรื่องสนุก ๆ ให้ดูแน่นอน!” เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลี่เจียนมองไปที่ เย่สวี่อย่างเย็นชา ราวกับว่าเขาจ้องมองร่างที่ไร้วิญญาณ “เจ้าคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนนี้ ต้องการที่จะแข่งขันกับข้าเพื่อเป็นที่หนึ่ง?”

จากนั้นโดยไม่รอให้หลี่เจียนอ้าปาก ชายผู้รับผิดชอบเรื่องการตรวจนับคะแนนกล่าวเยาะเย้ยเย่สวี่และกล่าวว่า "หลี่เจียนที่ทรงพลังอยู่ที่นี่ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เจ้าต้องการแข่งขันกับหลี่เจียนจริงๆ หรือ!"

ดวงตาของ เย่สวี่เปลี่ยนเป็นเย็นชา ชายผู้นี้เป็นเพียงคนรับใช้ของตระกูลเย่ เขากล้าดีอย่างไรถึงหยิ่งผยองเช่นนี้? จากนั้นเย่สวี่เคลื่อนไหวร่างกายและตบหน้าคนรับใช้ผู้ที่กล่าวเย้ยหยันเขา

จากนั้นได้ยินเสียงของสิ่งของตกลงบนโต๊ะราวกับน้ำไหลบ่า แกนวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนถูกวางลงบนโต๊ะ

“เบิกตาดูให้กว้าง จะเป็นไปได้หรือที่ข้ายังไม่สามารถเป็นที่ 1 ได้อีก?” เย่สวี่กล่าวอย่างเย็นชา

จากนั้นใบหน้าของคนรับใช้ก็ร้อนผ่าวด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขาเห็นแกนวิญญาณบนโต๊ะ เขาโพล่งด้วยความตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร?”

แค่แกนวิญญาณระดับ 6 เพียงอย่างเดียวก็มี 6 ชิ้น และแกนวิญญาณระดับห้าก็มีมากกว่านั้นอีกเท่าตัว!

"รวมเป็น 13,000 คะแนน" คนรับใช้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น 13,000 คะแนน อาจเป็นคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ค่ายโลหิตเยือกเย็น

คะแนนของเย่สวี่มากเป็นสองเท่าของหลี่เจียน! เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่สวี่สมควรที่จะเป็นที่หนึ่ง!

จากนั้นดวงตาของหลี่เจียนเย็นชา เขาสนใจรางวัล ชุดเกราะไหมทองคำเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ เขาขอให้คนรับใช้ไปรับรางวัลอย่างมั่นใจ แต่ในที่สุด เย่สวี่เป็นคนที่สามารถเอาชนะเขาไปได้!เขาทนไม่ได้ที่เย่สวี่จงใจทำให้เขาอับอาย! ดวงตาของเขาจดจ่ออยู่ที่เย่สวี่ และสายตาของเขาก็พลันมองเห็นจ้าวหรูเอ๋อ

“นางไม่ใช่สมาชิกกลุ่มของหลี่เหยียนหรอกหรือ? ว่าแต่หลี่เหยียนอยู่ที่ไหน?”

กัวผางเห็นการเปลี่ยนแปลงในสายตาของหลี่เจียน และเขารู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก่อนที่เขาจะพูดอะไร เขาได้ยินหลี่เจียนพูดอย่างเย็นชาว่า "หลี่เหยียน...น้องชายของข้าอยู่ที่ไหน"

กัวผางก้าวไปข้างหน้าและพูดขึ้นว่า "ข้าไม่รู้!"

กลุ่มคนพวกนี้อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด เขาจะไม่รู้ว่าหลี่เหยียนอยู่ที่ใด? ต้องเป็นเพราะหลี่เหยียนประสบอุบัติเหตุแน่นอน

“เจ้าไม่รู้หรอ?” รอยยิ้มเย็น ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่เจียน ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนไหวร่างกายและคว้าไหล่ของกัวผาง ราวกับกรงเล็บของนกอินทรี เขาบีบไหล่ของกัวผางอย่างแรง!

จนคนอื่น ๆ ต่างได้ยินเสียงกระดูกแตกร้าว!

"อ้ากกก!" กัวผางร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และเซถอยกลับไป เหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาตามร่างกาย จกานั้นเย่สวี่รีบไปที่ด้านข้างของกัวผาง ด้วยความเป็นห่วง

หลี่เจียนใช้โอกาสนี้ลอบโจมตีกัวผางทำให้ไหล่ของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาอาจจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นเวลาครึ่งเดือน ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกัน ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ หลี่เจียนจึงโจมตี กัวผาง

จากนั้นหลี่เจียนพูดอย่างเย็นชาว่า "น้องชายของข้า หลี่เหยียน เป็นสมาชิกในกลุ่มของเจ้า.. เจ้าฆ่าเขาแล้วเอาคะแนนของเขาไปหรือ ไม่อย่างนั้น แต้มของพวกเจ้าจะสูงขนาดนี้ได้อย่างไร"

หลี่เหยียนตายไปแล้ว หลี่เหยียนเป็นเพียงน้องชายของเขาที่มีความแข็งแกร่งปานกลาง เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตายของหลี่เหยียนมากนัก

สิ่งสำคัญคือ การที่หลี่เหยียนเสียชีวิตนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก เนื่องจากหลี่เจียนมีเหตุผลเพียงพอที่จะจัดการกับเย่สวี่และกลุ่มของเขา

เย่สวี่มองไปที่ใบหน้าไร้ยางอายของ หลี่เจียนและเย้ยหยันในใจ

หลี่เหยียน ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับหลี่เจียน ดังนั้นเขาจะได้คะแนนมากกว่าหลี่เจียนได้อย่างไร? ใครก็ตามที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จะรู้ว่าคำพูดของหลี่เจียนนั้นไม่ถูกต้อง

ข้อแก้ตัวนี้ดูเงอะงะเกินไป บุคลิกของหลี่เจียนก็เหมือนกับหลี่เหยียน พวกเขาทั้งน่ารังเกียจและร้ายกาจ และหลี่เจียนต้องชดใช้ที่ทำร้ายกัวผางจนบาดเจ็บสาหัส

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด