ตอนที่แล้วบทที่ 43 เขาประลองกับครูฝึก ไปดื่มเหล้าและกินเนื้อกับนักเพาะกาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45 เข้าไปในหนังเรื่องเร็ว…แรงทะลุนรก 7 เพื่อเอาไก่ทอดไปส่งให้ดอม และกลายเป็นเทพเจ้า?

บทที่ 44 เขาไม่ใช่คนธรรมดาเลยแม้แต่น้อย!


บทที่ 44 เขาไม่ใช่คนธรรมดาเลยแม้แต่น้อย!

“อ๋อ... ใช่ ทุกคนในบ้านออกไปข้างนอกกันหมดน่ะ” เฉียงโหย่วหรงกล่าวอย่างคลุมเครือ

จ้าวซือมองไปรอบๆ และพบว่ามีอาวุธประดับอยู่บนผนัง มีทั้งหอกและมีดยาว และมีดัมเบลล์สองสามตัววางอยู่บนพื้น แม้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานี้จะชอบออกกำลังกาย แต่มันก็ดูแปลกเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เธอตอบคำถามของเขา อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้

ขณะที่จ่าวซีรู้สึกสงสัยเล็กน้อย ประตูด้านหลังเขาก็เปิดออกเสียงดังปัง เสียงที่เย็นชาและเบากล่าวว่า “หรง นี่เขาเป็นใคร? ทำไมถึงได้มีคนนอกมาอยู่ที่นี่?”

รังสีอำมหิต ท่าทางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ!

จ้าวซือหรี่ตาลง เขาหันกลับมาและลุกขึ้นจากพื้น เขาหันไปหาคนที่อยู่ด้านหลังของเขา และในขณะเดียวกันเขาก็ระวังภัยให้กับเฉียงโหย่วหรงที่อยู่ด้านหลังของเขาด้วย

เขาเห็นว่าคนที่มาใหม่นั้นเป็นคนสูงและแข็งแรงมาก ดวงตาของเขาคมกริบและออร่าของเขาก็เหมือนดาบอันล้ำค่า ตอนนี้เขากำลังจ้องมองมาที่จ้าวซือ “ออกไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับแก!”

ขณะที่พูด ชายคนนั้นก็ก้าวมาข้างหน้าอาศัยความสูงและความได้เปรียบทางร่างกายของเขา คว้าตัวจ้าวซือเอาไว้ ดวงตาของเขาดูเหมือนเขาอยากจะขว้างถุงขยะใส่จ้าวซือ

“เปรี้ยง!”

จ้าวซือค่อยๆ ยกมือขึ้น และแขนของชายคนนั้นก็กระเด็นออกไปอย่างควบคุมไม่ได้

“แกเป็นใคร!” สีหน้าประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายผู้นั้น เขาคว้าดาบที่เย็นเฉียบจากบนกำแพง ราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม ชายผู้นี้สามารถต่อต้านการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!

เฉียงโหย่วหรงร้องตะกุกตะกักว่า "เฉียนหวู่ หยุดนะ! เขาเป็นแค่คนส่งอาหาร! อย่าทำร้ายเขา!"

ผู้ชายที่ชื่อเฉียนหวู่ทำเป็นหูทวนลมใส่เธอ เขาเอาแต่จ้องมองจ้าวซือและพูดว่า “คุณถูกหลอกแล้วล่ะ เขาไม่ใช่คนธรรมดา... ดูเอาสิว่าคุณพูดอะไรออกมา!”

ก่อนที่เขาจะพูดจบเฉียนหวู่ก็เหวี่ยงดาบใส่จ้าวซือ ความเร็วของเขาเร็วอย่างกับสายฟ้าฟาด

จ้าวซือขยับตัวหลบอย่างรวดเร็วและคว้าหอกยาวที่อยู่ข้างเขา เขาถ่ายเทพลังลมปราณภูติอุดรลงไปที่แขนของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะเหวี่ยงมันขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่ความเร็วนั้นเร็วกว่าสายฟ้าฟาด

แคร๊ง!

ดาบแมเชเทที่อยู่ในมือของเฉียนหวู่กระเด็นลอยออกไปและร่วงลงที่พื้นเสียงดัง

เฉียงโหย่วหรงที่อยู่ด้านหลังของเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ เธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของเฉียนหวู่เป็นอย่างดี ผู้ใหญ่ธรรมดาร้อยคนก็ยังไม่สามารถที่จะต่อกรกับเฉียนหวู่ได้ แล้วพนักงานส่งอาหารคนนี้เป็นใครกันแน่?!

เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากรอยร้าวระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เฉียนหวู่ก็รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ในทันทีอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เฉียนหวู่ยืนอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงงและกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขากำลังที่จะคว้าอาวุธอีกชิ้นที่อยู่ถัดไปเพื่อมาต่อสู้ แต่ก็มีคนห้ามเขาไว้

“หยุดนะ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอกถ้าหากว่าเป็นศัตรูจริงๆ ตอนนี้คุณคงตายไปแล้ว!”

ชายผู้หนึ่ง! เสียงของคนแก่แต่มีพลังดังขึ้น ชายชราคนหนึ่งที่มีคิ้วสีขาว เดินออกมาจากหลังประตู เพียงแค่โบกมือก็รู้ได้ว่าท่าทางของยอดฝีมือท่านนี้ยิ่งใหญ่กว่าปรมาจารย์เทียนฉีและหลี่ชาน ในหมู่พวกเขายังคงมีออร่าของยอดฝีมือที่เหนือกว่า

“ยอดฝีมือท่านนี้ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยที่ทำให้ท่านต้องขุ่นเคืองใจ” ขณะที่ชายชราเดินไปหาจ้าวซือเขาก็ยกมือขึ้นคารวะและกล่าวทักทายเขา

ใบหน้าของเฉียนหวู่และเฉียงโหย่วหรงเต็มไปด้วยความตกใจ ชายชราท่านนี้เป็นอาจารย์ของพวกเขา ท่านคิ้วขาว ความแข็งแกร่งของเขาไม่มีใครหยั่งรู้ได้ ทำไมเขาถึงได้ให้ความเคารพชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขนาดนี้? นี่มันเกิดอะไรขึ้น...

"ยกโทษให้ข้าด้วย เฉียนหวู่ขอโทษผู้อาวุโสสิ!" ท่านคิ้วขาวดุเขาอย่างแรง ในเวลาเดียวกันเขาก็ลอบสังเกตจ้าวซืออย่างละเอียด เห็นได้ชัดว่าเขากลัวจ้าวซือ

เฉียนหวู่และเฉียงโหย่วโค้งคำนับจ้าวซืออย่างเชื่องช้า “ข้าน้อยมีตาแต่หามีแววไม่ หวังว่าผู้อาวุโสจะให้อภัย”

“ช่างเถอะ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย แค่ลูกศิษย์ของท่านหุนหันพลันแล่นเกินไปหน่ย แต่ถ้าเขาไปทำร้ายใครซักคนจริงๆ เข้าล่ะก็?” จ้าวซือไม่ได้ให้ความสำคัญกับเฉียนหวู่อย่างจริงจังนัก เขาเพิ่งจะตระหนักได้ถึงบางสิ่งว่าอาจารย์และลูกศิษย์ที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ไม่ธรรมดา

“ข้าจะลงโทษเขาให้หนัก… เฉียนหวู่ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป การฝึกร่างกายของคุณต้องเพิ่มเป็นสองเท่า!” ท่านคิ้วขาวกล่าวออกมาทันที และเขาได้แสดงจุดยืนของเขาที่มีต่อจ้าวซือมากยิ่งขึ้น "ส่วนเธอได้รับอนุญาตให้สั่งอาหารมาทานเป็นการส่วนตัวได้ แต่ในอนาคต เธอต้องเพิ่มน้ำหนักให้ได้อีก 20%!"

"ครับผม!" ในตอนนี้เฉียนหวู่ไม่กล้าที่จะประท้วงอะไร

ในทางกลับกันเฉียงโหย่วหรงมีท่าทางไม่พอใจเฉียนหวู่ เขาไม่ได้คิดที่จะสร้างปัญหาให้กับยอดฝีมืออาวุโสท่านนี้ แต่ทั้งหมดมันเป็นความผิดของเฉียนหวู่ที่เธอต้องมารับโทษร่วมกันกับเขา

ในตอนนี้ท่านคิ้วขวาหันไปหาจ้าวซือและกล่าวว่า "ไหนๆ ผู้อาวุโสก็มาถึงนี่แล้ว ทำไมคุณไม่ตามข้าไปเยี่ยมชมที่นี่หน่อยล่ะ? คุณคิดเห็นว่าอย่างไร?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวซือก็ต้องหรี่ตาลง เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้สิครับ ผมก็อยากชมเหมือนกัน!”

ด้านหน้าของเขาเป็นห้องฝึกใต้ดินที่กว้างขวาง มีอาวุธและหุ่นไว้ใช้สำหรับฝึกซ้อม

หลังจากที่ท่านคิ้วขาวนำจ้าวซือไปเยี่ยมชมจนทั่วแล้ว เขาก็พูดตรงเข้าประเด็นว่า "ผู้เฒ่าเช่นข้าคนนี้ไม่มีพรสวรรค์ ข้ามีความรู้เกี่ยวกับการใช้หอกเพียงน้อยนิด แต่ข้าเห็นว่าทักษะการใช้หอกของคุณจ้าวนั้นเยี่ยมยอด ทำไมคุณไม่ประลองกับพวกเราหน่อยล่ะ? คุณคิดเห็นว่ายังไง?”

"ได้สิครับ" จ้าวซือตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ ความสามารถในการแข่งขันกับนักศิลปะการต่อสู้ทางทหารก็เป็นประสบการณ์ที่หายากเช่นกันในชีวิตนี้

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฉียนหวู่และเฉียงโหย่วหรงที่ยืนอยู่ข้างเขาถึงกับกลั้นหายใจเล็กน้อย ท่านคิ้วขาวต้องการที่จะประลองกับชายคนนี้จริงๆ

เมื่อจ้าวซือและท่านคิ้วขาวมองหน้ากันพวกเขาก็ต่างเข้าใจซึ่งกันและกันโดยอัตโนมัติ พวกเขาต่างก็หยิบหอกยาวที่ใช้สำหรับฝึกขึ้นมา และจ้องมองซึ่งกันและกัน

หากท่านคิ้วขาวยังคงเป็นชายชราผู้ใจดีเหมือนเมื่อสักครู่นี้ เขาก็คงจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาได้กลายเป็นสัตว์ร้ายที่กำลังจมน้ำและดุร้าย และพร้อมที่จะกลืนคนได้ตลอดเวลา

“เป็นไปอย่างที่คิดไว้เลยท่านอาจารย์คิ้วขาว!” เมื่อรู้สึกได้ถึงออร่าของท่านคิ้วขาว เฉียนหวู่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก โดยคิดว่าอาจารย์ของเขาจะต้องชนะอย่างแน่นอน

ท่านคิ้วขาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายหนุ่มที่ชื่อว่าจ้าวซือที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ หลังจากจ้าวซือที่ได้เห็นออร่าของเขาแล้วแต่เขาก็ยังดูสงบนิ่งจนเกินไป!

"ไม่ว่าลูกวัวแรกเกิดจะไม่เกรงกลัวเสือร้ายหรือว่าเขาจะมีพละกำลังมากมายขนาดไหน ขอให้ผู้เฒ่าคนนี้ลองดูหน่อยเถอะ!"

ท่านคิ้วขาวคิดในใจ เขาคำรามด้วยเสียงต่ำและโบกหอกยาวที่อยู่ในมือ ปลายหอกร่อนไปบนอากาศ ให้เกิดเสียงลมที่แหลมคมขณะที่พุ่งหอกลงไปยังร่างของจ้าวซือ

“อีเกิลสตอมป์!”

เฉียนหวู่ เฉียงโหย่วหรงและลูกศิษย์ของคนอื่นๆ พากันหลับตาปี๋ พวกเขาตะโกนก้องอยู่ในใจถึงที่มาของหอกที่ท่านคิ้วขาวใช้

"ใช้หอกได้เก่งดีนี่"

ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้จ้าวซือพูดเพียงสามคำเท่านั้น เขาโบกหอกยาวที่อยู่ในมืออย่างคล่องแคล่วและผลักหอกที่อยู่ในมือของท่านคิ้วขาวออกไปอย่างง่ายดาย

"เป็นไปไม่ได้!" ลูกศิษย์ทั้งสามคนรวมถึงตัวของท่านคิ้วขาวเองต่างก็ตกใจ

อีเกิลสตอมป์ เป็นเพลงหอกที่มีตัวแปรมากมาย คนธรรมดาไม่มีทางที่จะป้ดป้องมันได้แล้วนับประสาอะไรกับจ้าวซือ

แต่ท่านคิ้วขาวนั้นเป็นยอดฝีมือ เขาเปลี่ยนกระบวนท่าอย่างรวดเร็ว หอกเปลี่ยนทิศทางไปอย่างกะทันหันและจู่โจมเข้าใส่จ้าวซืออีกครั้ง

เพลงหอกของพระไว่!

ความเร็วดั่งที่ใจคิด จ้าวซือได้ปล่อยเพลงหอกของพระไว่ที่แทรกซึมอยู่ในทุกอนูของร่างกายเขาออกมา เพลงหอกนี้ทั้งโหดเหี้ยมและดุดัน และยังแฝงไปด้วยความกระฉับกระเฉงอีกด้วย ไม่เพียงแต่จะสามารถตอบโต้การโจมตีของท่านคิ้วขาวได้อย่างง่ายดาย แต่ยังเป็นการแสดงสัญญาณการโต้กลับอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

"ควรจะพอได้แล้วนะ" จ้าวซือสลัดหัวหอกของท่านคิ้วขาวออกและพูดอย่างใจเย็น

ท่านคิ้วขาวถอยหลังไปสองก้าวและระงับความตกใจในใจของเขาเอาไว้ เขาพินิจดูจ้าวซืออีกครั้ง ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานี้น่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้มาก เขาต้องคิดหาวิธีทำให้จ้าวซือเป็นมิตรกับเขาไม่ใช่ศัตรู!

“คุณจ้าวซือ คุณสนใจที่จะเข้าร่วมกองทัพและเป็นทหารเพื่อรับใช้ประเทศหรือไม่?”

“ผู้ชายควรจะรับใช้ชาติ แต่ผมยังเรียนแพทย์อยู่ครับคงจะยังไม่ถึงเวลา”

เมื่อได้ยินดังนั้น ความผิดหวังที่อยู่บนใบหน้าของท่านคิ้วขาวก็หายไป เขาหยิบนามบัตรจากเสื้อผ้าราคาแพงแล้วยื่นให้จ้าวซือ “อันนี้ผมไม่ได้บังคับคุณนะ เผื่อว่าในอนาคตคุณจ้าวซือจะสนใจ ประตูกรมทหาร..เปิดรอคุณอยู่เสมอ”

"ขอบคุณมากครับ" จ้าวซือรับนามบัตรมา

หลังจากนั้นท่านคิ้วขาวก็ออกไปส่งจ้าวซือด้วยตัวเอง

“อาจารย์ เราควรจะส่งคนไปตามดูเขาไหมครับ?” เมื่อเห็นว่าจ้าวซือได้กลับไปแล้ว เฉียนหวู่จึงถามท่านคิ้วขาว

ท่านคิ้วขาวจ้องมองมาที่เขา “แกอยากตายหรือไง? คนแบบเขาใช่ว่าแกจะไปตามดูเขาได้ตามอำเภอใจ? แกแค่รู้ไว้เพียงว่าเขาเป็นคนจีน แค่นั้นก็พอแล้ว!”

ท่านคิ้วขาวทำให้เฉียนหวู่ตกตะลึง เขารู้แค่ว่าจ้าวซือไม่ใช่คนที่เขาจะล้อเล่นด้วยได้ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าท่านคิ้วขาวจะกลัวเขาขนาดนี้“แต่ท่านอาจารย์ ถ้าหากว่าเขาเป็นศัตรู…”

"ไม่มีทาง ถ้าเขาต้องการที่จะฆ่าพวกเราทุกคนในตอนนี้ ก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นฉันก็ตามอย่างมากฉันก็ทำได้แค่รีบหนีไปให้เร็วที่สุด!” หลังจากที่พูดเช่นนั้น ท่านคิ้วขาวก็หันหลังกลับและเดินจากไป ทิ้งเฉียนหวู่ตะลึงด้วยความตกใจอยู่เป็นเวลานาน

“เขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้จริงๆ งั้นเหรอ?” ใบหน้าของเฉียงโหย่วหรงก็แดงระเรื่อเล็กน้อย เมื่อเธอกำลังนึกว่าเธอเพิ่งจะทานเนื้อและดื่มเหล้ากับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หัวใจของเธอก็ต้องเต้นรัวกว่าตอนที่เธอกำลังฝึกเสียอีก!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด