บทที่ 43 เขาประลองกับครูฝึก ไปดื่มเหล้าและกินเนื้อกับนักเพาะกาย!
บทที่ 43 เขาประลองกับครูฝึก ไปดื่มเหล้าและกินเนื้อกับนักเพาะกาย!
หลังจากนั้น...ก็ได้เวลาพักผ่อน
จ้าวซือสบโอกาสที่จะพูดคุยกับครูฝึกเหยียนและอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ทำให้เขาต้องการที่จะกลับบ้าน
สีหน้าของครูฝึกเหยียนหม่นลงเล็กน้อย “จ้าวซือ ท่าทางแบบทหารของคุณน่ะดีมากนะ แต่ก็อย่างที่ผมพูดบนรถบัสตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ อีกอย่างที่นี่ก็อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก แล้วคุณจะกลับไปคนเดียวได้ยังไง?”
เป็นเพราะความประทับใจที่เขามีต่อจ้าวซือ หากเป็นคนอื่นมาขอร้องเช่นนี้ครูฝึกเหยียนก็คงจะตะหวาดด้วยความโกรธไปแล้ว
“ผมเข้าใจครับ แต่ผมต้องกลับบ้านไปดูแลน้องสาว ผมไม่เคยทิ้งเธอไว้คนเดียวตั้งแต่เด็ก ส่วนเรื่องที่ผมจะไปยังไง ครูฝึกเหยียนไม่ต้องเป็นกังวลไปครับผมจะจัดการด้วยตัวผมเอง”
ครูฝึกเหยียนส่ายหัวเมื่อได้ยินแบบนั้น “ถ้าคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วใครจะรับผิดชอบ?”
"ผมพอจะมีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้อยู่บ้างและสามารถป้องกันตัวเองได้ครับ" จ้าวซือเต็มไปด้วยความมั่นใจ “ถ้าไม่เชื่อก็ลองทดสอบผมดูได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ครูฝึกเหยียนก็รู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย "ถ้างั้นพวกเราก็ลองมาประลองกันดูสักตั้ง ถ้าผมไม่สามารถที่จะเอาชนะคุณได้ภายในสามกระบวนท่า ผมก็จะเชื่อว่าคุณเป็นคนสามารถเอาตัวรอดได้”
"ตกลงครับ!" จ้าวซือกลัวว่าครูฝึกเหยียนจะไม่ยอมให้เขากลับบ้าน
ภายในชั่วพริบตา ครูฝึกเหยียนก็เรียกรวมพล เพียงผิวเผินแล้วครูฝึกเหยียนต้องการที่จะแสดงฝีมือการต่อสู้ทางทหารให้ทุกคนได้เห็นและใช้จ้าวซือเป็นคู่ประลองของเขา
ทุกคนก็เงยขึ้นทันที และรู้ว่ากำลังจะมีโชว์ดีๆ ให้ดู
ครูฝึกเหยียนพับแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นแขนที่ล่ำสันและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีของเขา กล้ามเนื้อบนแขนของเขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ดวงตาของทุกคนเป็นประกาย ครูฝึกเหยียนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น เขาก็คงจะไม่มีกล้ามเนื้อแบบนั้นอย่างแน่นอน
จ้าวซือเองก็พับแขนเสื้อขึ้นและเผยให้เห็นแขนของเขา สีผิวของเขาดูสุขภาพดี แม้ว่าเขาพอที่จะมีกล้ามเนื้ออยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับแขนของครูฝึกเหยียนแล้ว เขาก็ดูผอมกระหร่องไปเลย
เฉียนเฟิงยิ้ม “ครูฝึกเหยียน ใจเย็นๆ นะครับ อย่าทำร้ายจ้าวซือ”
“จ้าวซือไม่ได้อ่อนหัดเหมือนนายหรอก!” หลี่ซินพูดโดยไม่ลังเล ไม่มีใครที่จะมาล้อเลียนพี่ชายของเธอได้
เมื่อเห็นหลี่ซินแก้ต่างให้จ้าวซือ เฉียนเฟิงก็ถึงกับพูดไม่ออก เขาหวังว่าครูฝึกเหยียนจะทำให้จ้าวซือต้องเจ็บปวด
ก่อนที่จะเริ่มการประลอง ครูฝึกเหยียนและจ้าวซือต่างก็ยืนนิ่งและมองหน้ากัน
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันถึงรู้สึกถึงความกดดันจากนักศึกษาแบบนี้?” ครูฝึกเหยียนรู้สึกได้ว่าออร่าของจ้าวซือเริ่มเปลี่ยนไป ราวกับว่าเขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม
“เข้ามาเลย!” ครูฝึกเหยียนหยุดคิดวอกแวกและตะโกนออกมา เขาเริ่มการโจมตีครั้งแรกและพุ่งไปข้างหน้าเพื่อต่อยจ้าวซือเข้าที่ใบหน้า
หมัดนี้รวดเร็วและรุนแรงมากจนได้เสียงหมัดที่แหวกผ่านลมมา
นักศึกษาหญิงที่อยู่โดยรอบต่างตกใจกับหมัดของครูฝึกเหยียน บางคนถึงกับอ้าปากค้าง
แต่ทว่าจ้าวซือก็ไม่ได้ขบับเลย เขายอมให้หมัดของครูฝึกเหยียนกระแทกเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง
“กล้าดีเหมือนกันนี่!” ครูฝึกเหยียนออกปากชม เขาไม่คาดคิดว่าจ้าวซือจะอ่านทางมวยของเขาได้
แต่ในชั่วพริบตากระบวนท่าต่อไปของเขาก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง มันเป็นหมัดฮุคอย่างรวดเร็ว เขาหันตัวไปทางข้อเท้าของจ้าวซือและเอื้อมมือไปคว้าแขนของจ้าวซือเอาไว้ พยายามที่จะจับตัวเขาเอาไว้
แต่ทว่าจ้าวซือก้าวถอยหลังอย่างสงบและหลบหมัดฮุคของครูฝึกเหยียน เขาใช้มือทั้งสองข้างปัดป้องการคว้าของครูฝึกเหยียนเอาไว้
ทันใดนั้นทั้งสองคนก็ได้แลกหมัดกันอย่างรวดเร็ว ความเร็วของพวกเขาเร็วมากจนน่าตกใจจนทำให้นักศึกษาทั้งหลายถึงกับตาพร่า
“นี่มันบ้าอะไรเนี่ย! นี่เขาถ่ายหนังต่อสู้กันอยู่งั้นเหรอ!?”
“ดูเหมือนครูฝึกเหยียนจะเจองานหินเข้าให้แล้ว!”
ครู่เดียวต่อมาทั้งครูฝึกเหยียนและจ้าวซือก็ผละออกจากันหลังจากการปะทะครั้งแรก ในแววตาของพวกเขาฉายแววความตกใจที่ไม่อาจปกปิดได้
“ครูฝึกเหยียน คุณใช้มากกว่าสามกระบวนท่าแล้วนะครับ” จ้าวซือเตือน
ตอนนั้นเอง ครูฝึกเหยียนจึงจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงกล่าวว่า "ดีมาก ฮีโร่มาจากชายหนุ่ม ถ้าชายหนุ่มแข็งแกร่ง ประเทศก็จะแข็งแกร่ง! จ้าวซือผมอนุมัติเรื่องที่คุณขอเอาไว้!"
ทุกคนต่างก็สับสน แต่จ้าวซือยิ้ม "ขอบคุณครับครูฝึก!"
ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตก ครูฝึกเหยียนมอบหมายงานให้กับทุกคน บางคนมีหน้าที่ตั้งเต็นท์ บางคนมีหน้าที่เก็บผักป่า... มีเพียงจ้าวซือเท่านั้นที่ไม่ได้รับมอบหมายงานใดๆ
จ้าวซือเดินกลับไปที่รถบัสอย่างเงียบๆ และนำเอารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าออกมาจากระบบของเขาโดยฉวยโอกาสจากช่วงเวลาที่ยุ่งวุ่นวาย เขาขอให้ฮันไป่เสวี่ยนำกระเป๋ามาให้เขา ทุกอย่างอยู่ในแผนของเขาอยู่แล้ว
"ไปล่ะนะ" จ้าวซือขึ้นขี่รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและขับเข้าเมืองไปด้วยอารมณ์ที่ร่าเริง ตอนนี้ยังคงหัววันอยู่มาก ดังนั้นเขาจึงยังสามารถที่จะไปส่งอาหารได้อีกสักสองสามออเดอร์!
ไม่นานนักหลังจากที่จ้าวซือขับรถออกมา เขาก็ได้รับออเดอร์ส่งอาหาร
"หือ? แถวบ้านนอก มีสั่งให้ไปส่งอาหารด้วยเหรอ" จ้าวซือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าลูกค้าใช้นามสกุลเฉียง เขาสั่งบาร์บีคิวกองโต และพวกเขาได้ขอให้จัดแบ่งสองเสิร์ฟ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโน๊ตระบุอีกว่าให้จัดแบ่งใส่ถุงเป็นสองถุง
จุดหมายอยู่ไม่ไกลนักแต่ร้านบาร์บีคิวอยู่ไกลเกินไปหน่อย เวลานี้ยังค่อนข้างหัววันอยู่ดังนั้นจ้าวซือจึงเข้ามาอยู่ในรายชื่อจัดส่งด้วย
“นามสกุลเฉียง มองแวบเดียวฉันก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนตัวใหญ่”
จ้าวซืออดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงรูปร่างของคุณเฉียงคนนี้ เขาคงจะมีแผ่นหลังและเอวที่แข็งแรง
ประมาณสิบนาทีต่อมา จ้าวซือก็ถือถุงบาร์บีคิวถุงใหญ่สองถุงและตามระบบจีพีเอสไปยังจุดหมายปลายทาง
“ที่บ้าๆ นี่เป็นคฤหาสน์งั้นเหรอ?” จ้าวซือคิดว่าเขามาผิดทาง เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวหลังจากที่ผ่านป่ามา
จ้าวซือลงจากรถและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับบาร์บีคิวสองถุงใหญ่
จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกและจ้าวซือก็ต้องตกตะลึง
คนที่เดินออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้น ไม่ใช่ผู้ชายร่างใหญ่ แต่เป็นสาวหุ่นฟิต แถมกางเกงรัดติ้ว!
ผู้หญิงคนนี้สูงและผอมเพรียว เธอสูงกว่าจ้าวซือเสียวด้วยซ้ำ รูปร่างของเธอนั้นน่าทึ่งมาก และสัดส่วนไขมันในร่างกายของเธอก็เหมาะสม ลายของกล้ามเนื้อสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แม้จะมืดแล้วแต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงสีผิวที่ดูสุขภาพดีของเธอ ความเซ็กซี่แบบอเมริกันเช่นนี้หาได้ยากมากสำหรับสาวเอเชีย
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายที่ต่ำของเธอ รูปร่างของเธอจึงค่อนข้างดี….
"คุณ... คุณเฉียง?"
“ใช่ ฉันเอง!” สาวเพาะกายยิ้มเผยฟันขาวสะอาดของเธอ ใบหน้าของเธอดูบอบบางมาก แต่รูปร่างของเธอดูโดดเด่นยิ่งนักซึ่งมันทำให้ผู้คนหันเหความสนใจไปที่รูปร่างของเธอในทันที
จ้าวซือส่งอาหารให้กับเธอ
แต่ทว่าหญิงสาวก็ยื่นถุงบาร์บีคิวหนึ่งถุงให้กับจ้าวซือและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “นี่มันก็ค่ำแล้ว คุณยังต้องไปส่งอาหารอีกใช่ไหม? อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ ถือซะว่าฉันเลี้ยง!”
จ้าวซือรู้สึกอบอุ่นหัวใจเมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น เขาผลักถุงอาหารแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นหรอกครับ กว่าผมจะถึงบ้านมันก็คงจะเย็นชืดหมดแล้ว”
“เอ่อ...” หญิงสาวนักเพาะกายดูเหมือนจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่เธอกลับดึงจ้าวซือเข้ามา “งั้นก็เข้ามากินกับฉันก็แล้วกัน เพราะถึงยังไงฉันก็คงจะกินคนเดียวไม่หมดหรอก!”
ด้วยการคะยั้นคะยอและความแข็งแกร่งของหญิงสาวที่อยู่เหนือจินตนาการของจ้าวซือ มันจึงยากที่จะปฏิเสธความรู้สึกที่อบอุ่นเช่นนี้ จ้าวซือถูกดึงเข้าไปภายในห้องและนั่งลงอย่างกระอักกระอ่วนใจ
“คือว่า ผมยังต้องขับรถต่อ ผมคงจะดื่มด้วยไม่ได้” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวคะยั้นคะยอกให้เขาดื่มเบียร์ จ้าวซือจึงรีบกล่าวออกมา
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องอายหรอกน่า ฉันเองก็เบื่อที่นี่เหมือนกัน ดีใจจังที่มีใครสักคนมากินเนื้อกับฉัน! อ้อใช่ ฉันชื่อเฉียงโหย่วหรง แล้วคุณล่ะชื่ออะไร พนักงานส่งอาหาร?” สาวนักเพาะกายแนะนำตัวเองเป็นพิเศษ
“ผมชื่อจ้าวซือ” จ้าวซือไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้รังเกียจ การร่วมทานอาหารกับสาวสวยที่มีรูปร่างดีก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง “คุณอยู่ที่นี่คนเดียวงั้นเหรอ?”