ตอนที่แล้วEp.47 - สถานการณ์ภายใต้น้ำนิ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.49 - จะเหิมเกริมเกินไปแล้ว!

Ep.48 - วันกอบโกย


1/3

Ep.48 - วันกอบโกย

ฮัสกี้เล่นเกมได้ดีกว่าฮังอวี่ซะอีก

ทั้งๆที่พึ่งเริ่มเล่น มันกลับทำได้ดีถึงขั้นนี้ ใครจะกล้าเชื่อ?

แล้วอีกอย่าง คนอื่นๆในทีมคงไม่มีทางรู้เลย ว่าเพื่อนร่วมทีมที่เล่นเกมกับพวกเขานั้นเป็นสุนัข!

“หวังเอ๋อ นายไปฝึกวิธีเล่นเกมมาจากไหน?”

“อ๋า? เรื่องแบบนี้ต้องฝึกด้วยหรอ แค่อ่านคู่มือ ที่เหลือก็ไม่ยากแล้ว” ​ฮัสกี้กระโดดลงจากที่นั่ง กระดิกหางอย่างอารมณ์ดี ก่อนอุทานเสียงดัง “อ้อใช่ เปิ่นหวังอยากขอเจ้านายเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไร?”

“ฮ่ง! ในฐานะที่เปิ่นหวังเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเจ้านาย เจ้านายช่วยจ่ายเงินเดือนให้หน่อยได้ไหม เปิ่นหวังจะเอาไปเติมเงินซื้อฮีโร่กับสกิน” ฮัสกี้เอ่ยปากขออย่างไม่เกรงใจ

“ฮ่ง! นอกจากเงินเดือนแล้ว เปิ่นหวังอยากได้โทรศัพท์ด้วย จะได้เล่น Wechat กับสั่งอาหารออนไลน์มาส่งที่บ้านได้ แล้วอีกอย่าง เปิ่นหวังก็อยากเข้าไปผจญภัยในโลกวิญญาณเหมือนกัน! แต่มันคงทำไม่ได้ถ้าไม่มีโทรศัพท์แบบคนอื่นๆ”

ฮังอวี่พูดไม่ออก ในใจจินตนาการไปไกล

แต่นายเป็นแค่หมานะ!

ขอกันถึงขนาดนี้ทำไมไม่บอกมาเลยล่ะว่าอยากให้ช่วยซื้อกันดั้มเอาไว้ขับสู้กับพวกมอนสเตอร์?

ยังไงก็ตาม พูดก็พูดเถอะ เอฟเฟกต์ของผลแห่งปัญญาน่าจะหมดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสมองของฮัสกี้จะได้รับการพัฒนาเกินขีดจำกัดไปแล้ว ส่งผลให้หน่วยความจำและความสามารถในการเรียนรู้ในปัจจุบันไม่อาจดูแคลนได้ อย่างน้อยมันน่าจะฉลาดไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์วิชาการชั้นนำ

ชนิดที่ว่าเมื่อได้อ่านสิ่งใดไปก็ยากที่จะลืมเลือน เช่นขอแค่ได้อ่านตำราคณิตศาสตร์ชั้นสูง มันก็จะสามารถทำความเข้าใจและแก้โจทย์สมการได้

แต่แน่นอน เนื่องจากมันเป็นฮัสกี้เลือดบริสุทธิ์ อุปนิสัยอันน่าขบขันจึงยังติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต่อให้ได้กินผลไม้ระดับมหากาพย์เข้าไป นิสัยตรงจุดนี้จึงยังไม่เปลี่ยนแปลง

ถึงเจ้าฮัสกี้จะดูซื่อบื้อในหลายๆเรื่อง แต่อย่าได้ดูถูกมันเชียว เพราะหากมีการทดสอบ IQ กันจริงๆ คาดว่า 90%ของคนบนโลกนี้อาจด้อยกว่ามัน ...

หวังเอ๋อใช้เวลาเรียนรู้เพียงสองวันเท่านั้น มันก็สามารถเปิดทีวี ปรับเครื่องปรับอากาศ ใช้งานคอมพิวเตอร์ เข้าห้องน้ำกดชักโครกได้โดยไม่ต้องมีใครสอนได้แล้ว

มาตอนนี้มันไม่ใช่แค่ใช้ Ipad เป็น แต่ยังเล่นเกมออนไลน์ได้ด้วย แถมยังเล่นได้อย่างลื่นไหล ชำนาญอย่างกะเทพเจ้า

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด!

ฮังอวี่ลองคำนวณให้สอดคล้องกับความสามารถในการเรียนรู้ของมัน และได้ข้อสรุปว่า ตราบใดที่ให้เวลามันเรียนหนังสือซักเดือนหรือสองเดือน เจ้าหมาตัวนี้คงสามารถเชี่ยวชาญได้ถึงแปดภาษา

ลองคิดเอาเถอะ ว่าถ้ามีฮัสกี้พูดได้แปดภาษาเกิดขึ้นบนโลก มันจะน่าตกตะลึงแค่ไหน!

กล้าพูดเลยว่า คนส่วนใหญ่เล่นเกมได้ไม่โปรเท่าฮัสกี้แน่นอน คุณไม่สามารถเลียนแบบวิธีการเล่นของฮัสกี้ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะเล่นเกมแพ้หมา!

ความเป็นจริงช่างโหดร้ายเหลือเกิน!

สำหรับคำขอของหวังเอ๋อ ฮังอวี่ไม่ได้ขัดอะไร เขาเปิดโทรศัพท์ แล้วโยนให้มัน “ลองใช้ดูสิ”

ฮัสกี้ใช้ปากกระโดดงับมือถือ กระดิกหางอย่างมีความสุข  มันเหยียดอุ้งเท้าออกไป และสะกิดลงบนไอคอนโลกวิญญาณบนหน้าจอ

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สัมผัสโดดน ไอคอนกลับโปร่งใสแล้วหายไป

“อื๋อ? เกิดอะไรขึ้น?”

“เจ้าของเสียงน่าเกรงขามจากโลกวิญญาณตัดสินให้มนุษย์เท่านั้นที่สามารถเป็นผู้เล่นได้ ฮัสกี้แบบนายไม่มีสิทธิ์”

ฮังอวี่หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาคืน และทันทีที่นิ้วเขาสัมผัสจอ ไอคอนโลกวิญญาณก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ฮัสกี้รู้สึกหดหู่ มันก้มหัวลงอย่างหงุดหงิด “ฮ่ง! ไม่ยุติธรรม! ทำไมเปิ่นหวังถึงเข้าไปผจญภัยในโลกวิญญาณไม่ได้?”

“อันที่จริงก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว ยังพอมีวิธีอยู่”

ฮังอวี่ลองนึกหาวิธีให้ฮัสกี้ ว่ามีสกิลหรือม้วนคัมภีร์ไหนบ้างที่สามารถช่วยให้ฮัสกี้สามารถผูกมัดกับตัวเขาได้

ซึ่งวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุดวิธีหนึ่งก็คือการทำสัญญาณเป็นสัตว์วิญญาณ

หากฮังอวี่ทำสัญญากับหวังเอ๋อ เขาก็จะสามารถนำมันเข้าไปในมิติสัญญาสัตว์เลี้ยงผ่านทางมือถือ และพามันเข้าสู่โลกวิญญาณได้ แม้ม้วนคัมภีร์สัญญาสัตว์วิญญาณจะค่อนข้างหายาก แต่ก็สามารถดรอปพวกมอนสเตอร์เฉพาะบางตัวได้

เอาจริงๆฮัสกี้ตัวนี้ก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง หากสามารถทำสัญญาสัตว์วิญญาณกับมัน มันก็จะได้รับความสามารถจากโลกวิญญาณ และช่วยเหลือเขาได้มากขึ้น

ต่อมา ฮังอวี่ซื้อโทรศัพท์ให้หวังเอ๋อ ติดตั้งซิมการ์ดแบบเล่นเน็ตได้ไม่จำกัด ดาวน์โหลดและลงทะเบียนแอพเพนกวินQQ และ Wechat เพื่อผูกบัตรธนาคารของเขา

อันที่จริงแล้ว ที่ฮังอวี่ยอมรับคำขอของมันแต่โดยดีนั้นเหตุผลก็ง่ายมาก เพราะการปล่อยให้ฮัสกี้เล่นเกมเกมออนไลน์หรือใช้มือถือจีบสาวฆ่าเวลา ย่อมดีกว่าให้มันกัดแทะบ้านเป็นไหนๆ

...

ฮังอวี่นั่งอยู่ในห้องนอน เฝ้ารอให้โลกวิญญาณเปิดขึ้นอีกครั้ง

ระหว่างนี้เขาพยายามสงบสติอารมณ์ และวางแผนการในขั้นต่อไป

อันดับแรกต้องเรียนรู้สกิลกลั่นยา ฝึกฝนสูตรที่ได้มา และเริ่มผลิตยาฟื้นฟูพลังจิตและพลังชีวิต

เจ้าพวกนี้เป็นของสำคัญมาก ยาฟื้นฟูไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตอาหารเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตด้วย ช่วยให้ทำอะไรได้สะดวกขึ้นทั้งในโลกวิญญาณและโลกมนุษย์

อันดับสอง ฮังอวี่วางแผนที่จะชายชุดอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้เป็นเงินสด

แม้จะเกิดเงินเฟ้อในปัจจุบัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ล่มสลายลงในเร็วๆนี้ ดังนั้นสกุลเงินยังคงสามารถใช้จ่ายได้ในโลกมุนษย์ และยังมีลูกน้องของเขาอีกหลายส่วนที่ต้องใช้เงินในการปฏบัติงานเช่นสามพี่น้องโล่นซ่า

ส่วนเรื่องที่ว่าจะขายมันให้ใครน่ะหรือ?

เหล่าจ้าว เหล่าเซี่ยง ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี

อันดับสาม ฮังอวี่ตั้งเป้าหมายว่าต้องได้รับหินสกิลและม้วนสัญญาสัตว์วิญญาณ

แม้ข้อสุดท้ายอาจเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ อย่างเช่นในความทรงจำของฮังอวี่ สัญญาสัตว์วิญญาณมีโอกาสดรอปได้ที่วิหารเนโครแมนเซอร์ ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในแดนฝังกระดูก นอกจากนี้ยังมีหินสกิลและทรัพยากรให้ซื้อข้างในอีกด้วย

และในที่สุด ประตูสู่โ,กวิญญาณก็เปิดออกอีกครั้ง

ฮังอวี่สั่งให้หวังเอ๋อดูแลบ้านให้ดี ส่วนเขากดคลิกเข้าสู่โลกวิญญาณโดยตรง

...

ณ ป่าทึบที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในหุบเขาที่มีลำธารสายเล็ก มีดอกไม้และพืชพรรณแปลกตา เป็นความงามดั่งเทพนิยาย หากมีสถานที่แห่งนี้ปรากฏขึ้นบนโลก มันย่อมกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างไม่ต้องสงสัย

ได้กลับมาสู่โลกวิญญาณอีกครั้ง!

ฮังอวี่รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิมที่เกิดจากอุปกรณ์สวมใส่บนร่างกาย เขาสูดหายใจลึก และพบว่าอากาศของที่นี่ปราศจากมลพิษ  เริ่มมุ่งหน้าเข้าไปในหุบเขา

หุบเขาเล็กๆแห่งนี้ไม่มีมอนสเตอร์ลิงหมวกเขียวให้รำคาญ แต่มีมอนสเตอร์เลเวล 3 ที่ชื่อว่าอสูรดอกไม้กินคนอาศัยอยู่

อสูรดอกไม้กินคนเป็นมอนสเตอร์ประเภทพืชต้นใหญ่ที่มีความสามารถบางอย่างทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดที่ใหญ่โตทำให้เคลื่อนที่ได้ไม่เร็วนัก แต่ควรระมัดระวังเอาไว้ เพราะมันสามารถโจมตีได้ทั้งระยะประชิดและระยะไกล

อสูรดอกไม้กินคนมีสกิลที่เรียกว่า “พ่นเข็มพิษ”

สกิลนี้สามารถโจมตีเป้าหมายได้ในระยะ 20 เมตร ซึ่งพิษของเข็มมีผลทำให้เกิดเอฟเฟกต์สลบและเชื่องช้า

ในการต่อสู้ระยะประชิดมันจะกัดเป้าหมายอย่างรวดเร็วด้วยปากใหญ่ แรงกัดของมันมีพลังมากเกือบจะเทียบได้กับฉลาม และเมื่อไหร่ที่กัดโดน มันจะไม่มีวันยอมคาย นอกจากนี้ ฟันของมันยังมีพิษ สร้างดาเมจได้อย่างต่อเนื่อง

ฮังอวี่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอสูรดอกไม้กินคนเกินกว่าสองต้น เขาเลือกเป้าหมายที่อยู่โดดเดี่ยว ซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่ และยิงหน้าไม้แบล็ควูดของเขาออกไป สร้างดาเมจทีเดียว 4 หน่วย

อสูรดอกไม้กินคนพ่นเข็มพิษสวนทันที

ตึง!

หนามแทงทะลุต้นไม้

แต่ฮังอวี่คาดเดาไว้อยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากยิงหน้าไม้ออกไป เขาหดตัวกลับทันที และอ้อมไปอีกด้านหนึ่งเพื่อหลบหลีกเข็มพิษ ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนหน้าไม้ในมือเป็นดาบสั้น วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วและฟันลงบนก้านของดอกไม้อสูร แล้วชักออกมา

เมื่อถูกทำร้ายในระยะประชิด ดอกตูมของอสูรดอกไม้กินคนพลันอ้าออก เผยให้เห็นฟันแหลมเรียงกันเป็นแถว มีกระทั่งลิ้นใหญ่

ฮังอวี่หมุนตัวหลบมัน และฟันลงบนก้านอสูรดอกไม้กินคนในจุดเดิมอีกที

แม้การกระทำนี้จะอันตรายมาก แต่สุดท้ายมันก็ยังดีกว่าต้องคอยหลบเข็มพิษ

แล้วอีกอย่าง อาวุธในมือเขาไม่ใช่ธรรมดา แต่มันเป็นอาวุธสีขาว!

เพียงมีดที่สองสับลง ก้านอสูรดอกไม้กินคนก็หัก

อสูรดอกไม้กินคนถูกสังหาร กลุ่มปราณวิญญาณและหินคริสตัลเทาเด้งออกมา

อืม แม้การโจมตีของอสูรดอกไม้กินคนจะไม่ได้อ่อนแอ แต่ในด้านการป้องกันค่อนข้างเปราะบาง ตราบใดที่มีค่าความว่องไวและปฏิกิริยาตอบสนองมากพอ ก็จะสามารถหลบหลีกเข็มและการถูกกัดได้ หลังจากนั้นจะฆ่ามันก็ง่ายมาก

ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลรวบรวมวัตถุดิบใส่มัน ไอเท็มดรอปออกมา

[ต่อมพิษของอสูรดอกไม้กินคน] : เกรด 3 มีพิษที่ทำให้เป็นอัมพาต ซึ่งอาจทำให้สลบหรือเชื่องช้าลง

เจ้าสิ่งนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก แต่สามารถใช้สกิลกลั่นยาเพื่อแยกพิษ แล้วนำไปฉาบลงในอาวุธหรือลูกศรได้

นอกจากนี้ การสังหารอสูรดอกไม้กินคนยังสามารถดรอปหินคริสตัลเทาได้เช่นกัน นี่ช่วยเติมเต็มจำนวนผลึกสีเทาที่เขาใช้ไปเป็นจำนวนมากได้

ดวงตาของฮังอวี่กวาดไปทั่วหุบเขาอันงดงาม วันนี้เป็นวันดีที่จะกอบโกย!