572 - หงส์เพลิงที่ไร้ปีก
1882 - หงส์เพลิงที่ไร้ปีก
ฮ่อง!
สือฮ่าวลุกขึ้นยืนเขาหายเป็นปกติ
เพียงแค่ใช้ญาณวิเศษของหงส์เพลิงออกมาเพียงเล็กน้อยกลับได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้
สือฮ่าวมีความสุขเป็นอย่างมาก หากเขาสามารถรู้แจ้งวิชามหัศจรรย์นี้อย่างสมบูรณ์แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสในอนาคตเขาก็ยังสามารถเกิดใหม่ได้
ไม่มีญาณวิเศษชนิดใดจะล้ำค่ายิ่งกว่านี้อีกแล้ว
ญาณวิเศษชนิดนี้จะทำให้เขากลายเป็นอมตะอย่างแท้จริง!
“ผู้อาวุโสทั้งสองขอบคุณท่านมาก ตอนนี้ข้าต้องกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง” สือฮ่าวกล่าวอำลา
ผลประโยชน์ของเขาในครั้งนี้มีมากมายมหาศาล เขาจำเป็นต้องย่อยและวิเคราะห์สิ่งนี้อย่างสมบูรณ์
วันนี้ญาณวิเศษที่แท้จริงของหงส์เพลิงปรากฏขึ้นอีกครั้งในโลกนี้!
ผู้อาวุโสทั้งสองถอนหายใจ พวกเขาเลือกคนไม่ผิดเขาประสบความสำเร็จจริงๆ
เราต้องเข้าใจว่าสถานที่แห่งนี้ดูเงียบสงบ แต่เมื่อมีคนเข้ามาก็รับประกันได้ว่าจะต้องตายอย่างแน่นอน สิ่งมีชีวิตที่ถูกปิดผนึกมีพลังมากเกินไปมันสามารถฆ่าอัจฉริยะที่แปรปรวนสวรรค์ทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
“คุกของอาณาจักรที่ต่ำกว่า” สือฮ่าวพูดกับตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็หันกลับไปหาผู้อาวุโสทั้งสองดวงตาของเขาลุกโชนด้วยความรู้แจ้ง
เป็นเพราะจู่ๆสือฮ่าวก็ตื่นตัวรู้สึกได้ว่าเขาอาจมองข้ามบางสิ่งไป
“ดูเหมือนข้าจะหลงผิด เป็นไปได้ไหมที่คุกของอาณาจักรที่ต่ำกว่าไม่ใช่แปดดินแดน แต่อยู่ในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า!” สือฮ่าวหวั่นไหว
เขารู้สึกเหมือนมีม่านปิดกั้นจิตใจของเขาที่จู่ๆก็ขาดออกจากกันทำให้ความกระจ่างสดใสถูกเปิดเผยออกมา
การคาดเดานี้น่าประหลาดใจมากแตกต่างจากที่คนอื่นสงสัย!
ความลับบางอย่างของอาณาจักรที่ต่ำกว่าถูกซ่อนไว้ในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า!
“สิ่งที่เรียกว่าคุกไม่ใช่แปดดินแดน สิ่งที่เรียกว่าคุกแท้ที่จริงแล้วก็คือสถานที่แห่งนี้” เสียงของสือฮ่าวสั่นสะท้านเขามองไปที่ผู้อาวุโสสองคนนั้น
“เจ้าหนูเจ้ากำลังคิดมาก ความคิดของเจ้าช่างไร้สาระ”
การแสดงออกของท่านปู่ของนกเหม่อลอยดวงตาไร้ความสดใสไม่สามารถให้คำตอบที่เป็นประโยชน์แก่สือฮ่าวได้
หมอกสีดำแพร่กระจายอยู่ที่นี่มันเข้าครอบงำจิตใจของผู้อาวุโสทั้งสองอย่างรุนแรง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองจะใช้วิธีการลับ แต่ประสิทธิภาพในการขับไล่หมอกสีดำก็ไม่ได้ดีเยี่ยม
เป็นเพราะหลังจากหลายปีที่ผ่านมาหมอกสีดำได้ซึมเข้าสู่จิตใจของพวกเขาเป็นเวลานานโดยที่พวกเขาไม่มีเวลากำจัดมันออกไปอย่างเด็ดขาด
“ผู้อาวุโสทั้งสองขอลาก่อน!” สือฮ่าวไม่ได้ค้นหาอะไรให้ลึกลงไปอีก
ในอนาคตเขาจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอนเพราะมีคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอยู่ที่นี่ นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างแท้จริง พวกเขาเป็นร่างของเต๋าที่สามารถใช้ฝึกฝนร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม
สือฮ่าวจากไป เพื่อที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเขาต้องฝึกฝนเขาเชื่อว่าเขาจะกลับมาท้าทายการดำรงอยู่ที่นี่อย่างแท้จริงในไม่ช้า
ในเวลานั้นเขาจะกลายเป็นใบมีดเซียนที่ผ่านการเจียระไนมันจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนในโลกตกตะลึง!
ด้านหลังหมู่บ้านหินผาภายในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโคลน สือฮ่าวได้สร้างสถานที่บ่มเพาะขึ้น เขาปล้นนิกายต่างๆนำสมบัติจำนวนกลับมาด้วย
ดังนั้นการสร้างค่ายกลที่สมบูรณ์แบบเพื่อใช้ในการฝึกฝนย่อมไม่มีปัญหาอะไร! แสงเพลิงพุ่งขึ้นฟ้ามังกรที่แท้จริงพุ่งเข้าสู่สวรรค์
เก๋อกู่ถูกขังอยู่ในค่ายกลในเวลานี้มันกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง
“ยังขาดอยู่นิดหน่อย!” สือฮ่าวกล่าว
เขากำลังฝึกฝนมังกรแดงตัวนี้สอนความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์และปฏิบัติต่อมันเหมือนกับลูกศิษย์ที่แท้จริงของเขา
เก๋อกู่ทำการบ่มเพาะที่นี่โดยไม่มีใครบังคับให้มันทำ ในค่ายกลนี้จะจำกัดพลังต่อสู้ของมันไว้จนถึงขีดสุด พลังของมันจะไม่เป็นอันตรายต่อถิ่นทุรกันดาร
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้มังกรแดงพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว จึงได้กราบสือฮ่าวเป็นอาจารย์ด้วยความเคารพ! ตอนนี้มันต้องผ่านการฝึกที่ยากที่สุด
เสียงคำรามของมันพิเศษมากทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความมึนงง ประสบการณ์ของมันช่างขมขื่นจริงๆเพราะมันต้องลืมชาติตระกูลของตัวเองและกรีดร้องออกมาว่า
“ข้าคือหงส์เพลิง!”
สิงโตทองอวิ๋นซีและคนอื่นๆต่างก็ตกใจพวกเขาทั้งหมดรู้สึกมึนงง มังกรตัวนี้บ้าไปแล้วการฝึกฝนที่สือฮ่าวสั่งสอนให้กับมันกำลังจะทำให้มันเป็นบ้า?
ก่อนหน้านี้มันเพียงหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง แต่ตอนนี้มันตะโกนออกมาคำพูดเหล่านี้อย่างบ้าคลั่ง มีอะไรผิดปกติกับสมองมันหรือไม่?
ทุกคนสงสัยว่าสือฮ่าวบีบบังคับมังกรน้อยตัวนี้มากจนเกินไป
“ข้าคือหงส์เพลิงสวรรค์ข้าผ่านการเกิดใหม่จากเปลวไฟ!” มังกรแดงกรีดร้องเสียงดังก้อง
“เจ้าอยากจะเป็นอาจารย์ของมันแต่เจ้าจะบังคับมันแบบนี้ได้อย่างไร? แม้แต่ความคิดของมันก็ยังไม่ชัดเจน” อวิ๋นซีกล่าวเตือนสือฮ่าว การที่เก๋อกู่บ่มเพาะด้วยความบ้าคลั่งแบบนี้อาจจะเกิดปัญหาใหญ่ได้
“มันไม่ได้บ้า ข้ากำลังสอนวิชาลับบางอย่างให้กับมันหากใครต้องการฝึกฝนวิชานี้จะต้องลืมตัวตนของตัวเองซะก่อน!” สือฮ่าวตอบอย่างใจเย็น
ทุกคนตะลึงงัน พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงปฏิบัติต่อมังกรแดงเช่นนี้
“ข้าคือหงส์เพลิงที่แท้จริงข้าคือหงส์เพลิงที่ไม่มีปีก!” เก๋อกู่คำรามออกมาเสียงของมันก็ดังสะเทือนไปทั่วทั้งท้องฟ้า แสงไฟรอบๆตัวของมันมีพลังมากยิ่งขึ้น
ทุกคนตกตะลึงการแสดงออกของพวกเขาแปลกขึ้นเรื่อย ๆ
“ที่จริงแล้วเหตุผลเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน มันเป็นมังกรที่แท้จริงที่ไม่มีวิชาประจำตระกูล ข้าจำเป็นต้องสอนวิชาของเผ่าพันธุ์อื่นให้กับมัน ในตอนนี้มีเพียงญาณวิเศษของหงส์เพลิงเท่านั้นที่อยู่ในระดับเดียวกันพอจะสอนมันได้” สือฮ่าวอธิบาย
ในตอนแรกเขาพบกับการต่อต้านที่รุนแรงของมังกรแดง เพราะว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าเหลือเชื่อมากเกินไป มันเป็นมังกรที่แท้จริงซึ่งไม่รู้จักวิชาของเผ่าพันธุ์ตัวเอง แต่กลับไปเรียนวิชาของหงส์เพลิงที่เป็นศัตรู
แต่หลังจากการเกลี้ยกล่อมของเขาและสิงโตทองในที่สุดมันก็เลิกต่อต้าน
เมื่อมันคำรามอย่างต่อเนื่องค่อยๆลืมว่าตัวเองคือมังกรและกลายเป็นหงส์เพลิงที่แท้จริงไปแล้ว
“ข้าคือหงส์เพลิงที่ไม่มีปีก!” มังกรแดงคำราม
น้ำเสียงของมันยังคงอ่อนเยาว์แต่เด็ดเดี่ยว มันเป็นการล้างสมองตัวเองจมอยู่ในกระบวนการนี้อย่างสมบูรณ์
จิ!
ปีกของหงส์เพลิงแผ่กระจายที่ข้างลำตัวของมันพร้อมกับปลดปล่อยสีแดงเข้มสองเส้นฉีกทำลายท้องฟ้าด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
หลังจากนั้นไม่นานหงส์เพลิงที่แท้จริงก็ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ แสงหลากสีสองเส้นปรากฏขึ้นแผ่กระจายราวกับปีกศักดิ์สิทธิ์คู่หนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังที่น่ากลัวของตระกูลหงส์เพลิง
เมื่อไม่มีญาณวิเศษอันล้ำค่าของมังกร สือฮ่าวจึงได้สอนวิชาของหงส์เพลิงที่แท้จริงให้กับมันและได้ผลเป็นอย่างดี
สาเหตุหลักที่สือฮ่าวผ่านเรื่องนี้มาได้เพราะมีตำนานของคู่มังกรและหงส์เพลิง
หากวิชาลับที่ยิ่งใหญ่ของทั้งสองตระกูลถูกรวมเข้าไว้ในร่างเดียวกันนั่นจะเป็นมรดกที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งสามารถกวาดไปทั่วท้องฟ้าอย่างไร้เทียมทาน
หากมังกรแดงได้เรียนรู้ความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหงส์เพลิงเป็นครั้งแรก
ในอนาคตเมื่อการบ่มเพาะของมันก้าวหน้าขึ้นเมื่อมันปลุกการสืบทอดวิชาลับของตระกูลมังกรที่แท้จริงได้นั่นจะแสดงให้เห็นถึงตำนานของมังกรและหงส์เพลิงที่แข็งแกร่งมากที่สุด
“ข้าเป็นสิงโตที่ไม่มีปีก! ไม่ข้าเป็นหงส์เพลิงที่ไม่มีปีก!” สิงโตสีทองก็ตะโกนเช่นกัน เมื่ออยู่กับสือฮ่าวนานเข้าใบหน้าของมันก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ
มันพยายามสอบถามเขาและต้องการเรียนรู้ญาณวิเศษของหงส์เพลิงเช่นเดียวกัน
ในท้ายที่สุดสือฮ่าวก็ปฏิเสธโดยไม่ลังเล
“ เจ้าเป็นเพียงปีศาจต่างถิ่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรจึงจะได้รับญาณวิเศษที่ทรงพลังที่สุดของเก้าสวรรค์?
หากเจ้าอยากเรียนรู้มันจริงๆก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี ขอเพียงเจ้าคายความลับทุกอย่างเกี่ยวกับญาณวิเศษประจำตระกูลของเจ้าออกมาข้าก็สามารถสอนเจ้าได้เช่นกัน” สือฮ่าวมองมันด้วยท่าทางดูถูก
ใบหน้าของสิงโตทองมืดลงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
“เจ้าไม่พอใจอย่างนั้นหรือ? ข้าให้เจ้าตามหานกกระจอกห้าสี แต่สุดท้ายเจ้าก็ยังจับมันไม่ได้ เรื่องแค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้แล้วเจ้าจะให้ข้ามอบความไว้วางใจให้กับเจ้าได้อย่างไร?” สือฮ่าวเยาะเย้ย
สิงโตสีทองรีบทำตัวขึงขังอย่างไม่ลังเลมันกล่าวคำสาบานว่าจะต้องจับตัวนกกระจอกห้าสีตัวนั้นมาให้ได้