ตอนที่แล้วบทที่ 36 ร้านค้าอนันตภพได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ยันต์พิทักษ์แม่ลูก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 มันน่าจะเป็นแค่ทองแดงแต่กลับกลายเป็นตำนานของมหาวิทยาลัย!

บทที่ 37 ผลของยาเพิ่มความทรงจำ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้คะแนนสูงแบบนี้!


บทที่ 37 ผลของยาเพิ่มความทรงจำ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้คะแนนสูงแบบนี้!

"จุ๊ๆๆ นายก็รู้ดีอยู่แล้วว่าการสอบกำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่นายก็ยังคงลาอย่างไม่มีเหตุผล ฉันกลัวจังเลยว่านายจะต้องหน้าแตก"

“ฉันสงสัยจังเลยว่าเขาจะมีสีหน้าแบบไหนกันนะเมื่อได้เห็นจดหมายฉบับนั้น ฮิฮิฮิ…”

ใครบางคนในห้องเรียนชี้ไปที่จ้าวซือ

จ้าวซือนั่งลงและเหยียดมือออก เขาพบกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในลิ้นชัก มันถูกเขียนว่า:

"ไอ้ขยะจ้าวซือ แกไม่มีวันตามหลิวฉินหยางได้ทัน!"

“ยอมแพ้ซะเถอะ! เหนื่อยเปล่า แกไม่คู่ควรที่จะได้ศาสตราจารย์หูเป็นที่ปรึกษาหรอก!”

ยังมีการเขียนคำที่คล้ายกันนี้ และเห็นได้ชัดว่ามีลายมือของคนมากกว่าหนึ่งคน

จ้าวซือขยำกระดาษให้เป็นลูกบอลเล็กๆ แล้วโยนมันลงในถังขยะ

ก็แค่มดบางตัวที่คอยตามรังควานเขา เขาไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

“พี่จ้าวซือ พี่กลับมาแล้ว อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้ว? ถ้าพี่ไม่เข้าใจตรงไหนถามฉันได้เลยนะ” หลี่ซินยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และเพียงแค่เข้ามาทักทายจ้าวซือ

จ้าวซือกล่าวขอบคุณเธอและฟุบลงบนโต๊ะ เขาไม่ได้นอนติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว เมื่อฤทธิ์ของยาเพิ่มความทรงจำหมดไปตอนนี้เขาก็เริ่มง่วง ถึงแม้ว่าสุขภาพของเขาจะดีแค่ไหนแต่เขาก็ยังต้องการการพักผ่อน

เมื่อหลี่ซินเห็นดังนั้นเธอจึงถอยห่างออกไปเงียบๆ

“ให้ตายสิ ทำไมหลี่ซินถึงได้ดีกับจ้าวซือขนาดนั้นนะ!”

“ใช่ เขาก็ไม่เห็นจะหล่อ แถมเกรดก็ไม่ดีด้วย เสื้อผ้าที่เขาใส่ก็ดูเห่ย… ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาก็ไม่ได้สนใจหลี่ซิน!”

ไม่ใช่แค่เฉียนเฟิงที่คอยตามจีบหลี่ซินมานานแล้ว แต่ยังรวมถึงเพื่อนร่วมชั้นชายบางคน เป็นเพราะหลี่ซินพวกเขาจึงรู้สึกไม่พอใจจ้าวซือมากขึ้นเรื่อยๆ

นั่นก็เพราะว่าหลี่ซินเรียนหนังสือเก่ง หน้าตาดีและอารมณ์ของเธอก็ยอดเยี่ยม หลายคนมองว่าเธอเป็นคนที่พวกเขาแอบชอบ ในทางกลับกันจ้าวซือนั้นเป็นเพียงนักศึกษาที่ยากจน แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะแสดงออกต่อหน้าจ้าวซือมากนัก พวกเขาทำได้แค่แอบดูถูกเขาเพื่อระบายความโกรธเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าจ้าวซือไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อกระดาษที่พวกเขาจงใจยั่วยุ หลิวฉินหยางก็ลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา เขาเดินมาตรงหน้าของจ้าวซือและพูดด้วยรอยยิ้มอันจอมปลอมว่า "จ้าวซือ ทำไมนายถึงยังกลับมาอีกล่ะลาหยุดไปตั้งครึ่งวันแล้ว? นี่นายคำนวนเวลาผิดไปหรือเปล่า? นายน่าจะกลับมาหลังจากที่หมดเวลาสอบไปแล้วนะ”

ทำไมจ้าวซือจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด? หลิวฉินหยางต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ทำให้เขาอับอายต่อหน้าทุกคน เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและเหยียดมือขวาออก

หลิวฉินหยางกลัวมากจนต้องก้าวถอยหลังเพราะคิดว่าจ้าวซือกำลังจะตบเขา แต่จ้าวซือเพียงแค่เกาหลังและหาวเท่านั้น “อะไรนะ? อันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยงั้นเหรอ? ถ้านายมีเวลามาเอาใจใส่ฉันขนาดนั้น นายน่าจะเอาเวลาไปอ่านหนังสือเพื่อไม่ให้คนอื่นแซงนายได้จะดีกว่านะ”

หลิวฉินหยางพูดอย่างโกรธเคือง “เสียใจไหมล่ะ? นายกังวลไปก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อ่านหนังสือแต่ฉันก็ทำข้อสอบได้ดีกว่านายแน่ๆ!”

“เอาไว้ค่อยคุยหลังสอบเสร็จเถอะ” จ้าวซือโบกมืออย่างหมดความอดทนและไม่สนใจหลิวฉินหยางอีกต่อไป เขาล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

หลิวฉินหยางเห็นว่าจ้าวซือทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับอย่างโกรธเคือง "คอยดูละกัน!"

เขาแอบคิดในใจ คราวนี้เขาต้องการที่จะเพิ่มช่องว่างระหว่างเขากับลำดับที่สองของมหาวิทยาลัย เขาเพียงต้องการที่จะกระทืบจ้าวซือที่เขาเกลียดให้จมดิน

เมื่อนักศึกษาคนอื่นๆ ได้เห็นการสนทนาสั้นๆ ระหว่างจ้าวซือและหลิวฉินหยาง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

จ้าวซือคนนี้ช่างมั่นใจเหลือเกิน

คนที่เก่งอย่างหลิวฉินหยางมีสิทธิ์ที่จะหยิ่งผยอง แต่จ้าวซือเป็นใครกัน? เกรดเฉลี่ยของเขาในระดับมหาวิทยาลัยจะมาเทียบกับเกรดเฉลี่ยของหลิวฉินหยางได้อย่างไรกัน?

ภายในชั่วพริบตา การสอบวัดผลครั้งที่สองซึ่งเป็นจุดสนใจก็มาถึง

เมื่อเห็นคำถามที่อยู่บนกระดาษ จ้าวซือก็ยิ้มบางๆ คำถามที่ทำให้เขาคิดหนักตอนนี้กลับดูง่ายเหมือน 1 + 1

หลังจากอ่านบทความจบทั้งหมดแล้ว ก็มีเพียงสองคำถามที่ทำให้เขาต้องคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง

หลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จแล้ว จ้าวซือก็ทบทวนคำตอบของเขาอีกครั้งหนึ่งและส่งข้อสอบ จากนั้นเขาก็นอนหมอบลงบนโต๊ะและผล็อยหลับไป

นักศึกษาในชั้นเรียนต่างก็พากันมองมาที่เขา และหลายคนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว จ้าวซือคนนี้คงจะยอมแพ้แล้วอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเห็นว่าจ้าวซือส่งกระดาษคำตอบแล้ว หลิวฉินหยางก็ขยับแว่นตาและยิ้มเหยียดก่อนที่จะทำข้อสอบต่อไป ในเวลานี้เขารู้สึกดีมาก เขามั่นใจว่าเขาจะกระทืบจ้าวซือไว้ใต้ฝ่าเท้าได้อย่างแน่นอน

การสอบสิ้นสุดลง

ฮันไป่เสวี่ยในฐานะผู้คุมสอบ เข้าไปในห้องสอบ

“นักศึกษาเนื่องจากสถานการณ์พิเศษในครั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนทราบผลได้ทันที อธิการบดีจึงได้ตัดสินใจที่จะถ่ายทอดสดการตรวจคะแนนการทดสอบ เพราะฉะนั้นกระดาษทดสอบจะถูกบันทึกวิดีโอเอาไว้ เนื่องจากว่ามีคณาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่ให้ความสนใจกับผลการทดสอบในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด”

ทันทีที่การสอบวัดผลสิ้นสุดลง ฮันไป่เสวี่ยก็ได้แจ้งข่าวที่ทำให้ทั้งชั้นเรียนต้องสั่นสะเทือน

เธอมองไปที่จ้าวซือด้วยความกังวล ถึงแม้ว่านักศึกษาคนนี้ของเธอจะเก่งเรื่องการต่อสู้ แต่การต่อสู้ก็เรื่องหนึ่ง แต่การต่อสู้ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาการแต่อย่างใด! เมื่อเธอคิดว่าจ้าวซือคงจะไม่มีวาสนาได้เป็นนักศึกษาในที่ปรึกษาของศาสตราจารย์หู ฮันไป่เสวี่ยก็รู้สึกว่ามันช่างน่าเสียดาย

แต่งานวิชาการก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป ฮันไป่เสวี่ยเปิดโปรเจคเตอร์และเริ่มฉายผลการตรวจข้อสอบ

แม้ว่าจะเรียกได้ว่าถ่ายทอดสด แต่จริงๆ แล้วมันเป็นพื้นหลังที่ว่างเปล่า ชื่อของผู้เข้าสอบปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ตามด้วยผลคะแนนสอบที่สอดคล้องกัน

"ฮ่าฮ่า ในครั้งนี้ผลสอบของฉันดีมากเลย"

"นี่ฉันทำพลาดอะไรไปหรือเปล่า? ทำไมคะแนนฉันถึงได้ต่ำนัก..."

เมื่อประกาศผล บางคนก็มีความสุข ในขณะที่บางคนก็เป็นกังวล

“ว้าว คนนั้นคือหลูเหว่ยฮวงที่อยู่ห้องถัดไป ครั้งที่แล้วเขาได้อันดับที่ 2 ของมหาวิทยาลัย คราวนี้คะแนนของเขาสูงมากจริงๆ!” ทั้งชั้นเรียนเริ่มกระสับกระส่าย

เมื่อเห็นดังนั้นหลิวฉินหยางก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะผลสอบของเขายังไม่ออกมา แต่อันดับสองของมหาวิทยาลัยได้ผลคะแนนสอบดีมาก ถ้าเขาทำผลงานได้ไม่ดี คราวนี้เขาอาจจะต้องเสียที่หนึ่งไปก็เป็นได้…

"หลิวฉินหยางได้ 587 คะแนน! สูงกว่าอันดับสองมากกว่า 30 คะแนน!"

"เชี่ยยย นั่นเกือบจะได้คะแนนเต็มแล้วไม่ใช่เหรอนั่น?"

เมื่อชื่อและผลคะแนนของหลิวฉินหยางปรากฎขึ้นมา ทั้งชั้นเรียนก็แทบระเบิด

เมื่อเห็นคะแนนสอบของตัวเองแล้ว หลิวฉินหยางก็ดีใจมาก ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่จ้าวซืออย่างเหยียดหยันและพึงพอใจ “จ้าวซือ ฉันแน่ใจว่าคราวนี้ฉันจะได้ที่หนึ่ง มาดูกันว่านายจะเข้าสิบอันดับแรกได้หรือเปล่า?”

เกี่ยวกับเรื่องนี้จ้าวซือยังคงนิ่งเงียบ

"จุ๊ๆๆ ความเก่งกาจของหลิวฉินหยางนี้ช่างเกินคำบรรยายจริงๆ เขาคว้าอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยได้ถึงสองปีซ้อน ชื่อเสียงของเขาในฐานะอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยนี่มันของแท้จริงๆ"

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะหยิ่งยะโส เพราะที่เขาหยิ่งก็เป็นเพราะเขาเป็นคนมีความสามารถ ไม่เหมือนกับบางคน… แต่ก็เอาเถอะตอนนี้เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว”

เกือบทุกคนกำลังพูดถึงหลิวฉินหยาง ในขณะเดียวกันพวกเขาต่างก็แอบเหยียดจ้าวซือทั้งต่อหน้าและลับหลัง

เฉียนเฟิง หูเจียหาวและคนอื่นๆ อยากเห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของจ้าวซือ แต่พวกเขากลับพบว่าจ้าวซือยังคงสงบนิ่ง ราวกับว่าทุกอย่างไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

ในตอนนี้ มีใครบางคนกระซิบ "ดูสิ คะแนนสอบของจ้าวซือกำลังมาแล้ว!"

เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่จอโปรเจคเตอร์ บางคนก็ถึงกับหมดความอดทนกับการรอคอยแล้ว ทันทีที่ผลคะแนนของจ้าวซือประกาศออกมา พวกเขาก็จะมีหลักฐานและเยาะเย้ยจ้าวซือได้!

สิ่งแรกที่ปรากฏบนหน้าจอคือชื่อของจ้าวซือตามด้วยเลขห้า

“ฮ่าฮ่า ไม่น่าจะเกิน 50 คะแนน…” มีคนต้องการที่จะเยาะเย้ยเขา แต่สีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปในทันใด

แม้ว่าผลของจ้าวซือจะเทียบไม่ได้กับของหลิวฉินหยางแต่ก็เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เขาจะได้ตัวเลขเพียงสองหลัก เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นไปได้?

ในเวลานี้ หัวใจของทุกคนเริ่มเต้นแรง

ตัวเลขที่ปรากฎหลังเลข 5 คือ 9 และตัวเลขที่ตามหลังเลข 9 ก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ทั้งห้องเรียนเงียบกริบ

หลังจากที่เงียบงันไปครู่หนึ่ง ทุกคนก็ระเบิดเสียงออกมาอย่างกับนัดกันไว้

"597 คะแนน!"

"เป็นไปไม่ได้!"

"เชี่ยยย!"

ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ในชั้นเรียนของจ้าวซือเท่านั้น แต่คณาจารย์และนักศึกษาทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดต่างก็มีคำถามมากมายอยู่ในใจ

นี่ระบบมีปัญหาหรืออาจารย์ที่ให้คะแนนมีปัญหากันแน่ หรือ... ว่าจะเป็นปัญหาที่ตาของพวกเขาเอง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด