บทที่ 472 ไป!

บทที่ 472 ไป!

นี่เป็นสถานการณ์ที่โฉ่วจื่อซ่งไม่ต้องการเห็นมากที่สุด

ตอนนี้เขารู้ซึ้งถึงความรู้สึกของดร.เหอแล้ว ว่ามันอึดอัดเพียงใดที่แม้ว่าความแข็งแกร่งยังคงอยู่ แต่การต่อสู้กลับ กลับให้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อุปนิสัยของผู้คนต่างจากสมัยก่อนมาก กลายเป็นปล่อยตัว บ้าคลั่ง หัวร้อน ขี้หงุดหงิด และสุดขั้ว

ทุกคนกลายเป็นคนบ้า เป็นนักฆ่า นี่คือภาพแท้จริงของผู้คนในวันโลกาวินาศ

โดยเฉพาะโฉ่วจื่อซ่ง

ในฐานะรองประธานของหอการค้าหลิง และเป็นหนึ่งผู้นำเสนอโครงการหมู ความโหดร้ายบ้าคลั่งไม่เพียงพอบรรยายสิ่งที่เขาทำอีกต่อไป เพื่อวิวัฒนาการ เพื่อความแข็งแกร่ง เขากลายเป็นคนไร้ยางอายที่ไม่มีขีดจำกัดล่าง

สิ่งนี้ทำให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้ และมีความแข็งแกร่งเช่นทุกวันนี้

โฉ่วจื่อซ่งตระหนักได้ทันทีว่าชีวิตของเขาคงจบลงในวันนี้ ความบ้าคลั่งที่ไม่ได้ปรากฏมานานได้ก่อตัวขึ้นในใจทันที จนกระทั่งไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

“แม้ต้องตาย เราก็จะลากพวกแกไปตายด้วย”

เมื่อมองเย่จงหมิงที่สงบนิ่งราวกับน้ำตรงหน้า ใบหน้าสวยงามและน่าเกรงขามของโฉ่วจื่อซ่งก็เริ่มบิดเบี้ยว กลายเป็นดุร้ายน่ากลัว เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานกินคน

เย่จงหมิงส่ายหน้า แต่ไม่พูดอะไร

ถ้าตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับกองทัพเหยา เขาอาจรู้สึกตึงมือบ้าง แม้ว่าหลังจากการท้าทายสนามแข่งขันรูเล็ตมรณะสามขั้นแรก อวิ๋นติ่งวิลล่าจะยังคงรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และแข็งแกร่งกว่ากองกำลังอื่นๆ ก็ตาม

แต่กองทัพเหยาก็เป็นกองกำลังที่มีพื้นหลัง วันนี้กองทัพเหยามีกำลังคนสองสาขามากกว่าโหลมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ในหมู่พวกเขา กองทัพเหยาที่ห้านั้นทรงพลังมาก และเย่จงหมิงก็สังเกตเห็นว่า เฉิงเทียนจี้กับกองทัพเหยาที่ห้ายังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขายังคงเป็นปริศนา

และสิ่งที่ไม่รู้จักก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

แม้ว่าเย่จงหมิงจะมีความมั่นใจขนาดไหนก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเขาจะได้เปรียบอย่างท่วมท้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมหาอำนาจดังกล่าว

เมื่อเทียบกับกองทัพเหยาที่ทรงพลังแล้ว หอการค้าหลิงในปัจจุบัน ‘อ่อนแอ’ กว่ามาก

แม้ว่าความแข็งแกร่งเฉพาะตัวของโฉ่วจื่อซ่งจะไม่อ่อนแอไปกว่าเฉิงเทียนจี้ก็ตาม แต่หอการค้าหลิงในเวลานี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เย่จงหมิงได้มากนัก

“มาสู้กันต่อให้จบเถอะ”

แม้ดวงตาของโฉ่วจื่อซ่งจะบ้าคลั่ง แต่เขากลับสงบอย่างน่าประหลาด ความหวังเดียวที่จะรอดชีวิตของเขาก็คือ ต้องปักหมุดชัยชนะลงบนตัวเย่จงหมิง

เย่จงหมิงพยักหน้า และพูดว่า ไป!

ไป?

โฉ่วจื่อซ่งชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็เห็นคนเกือบยี่สิบคนวิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกัน…

สู้กันต่อให้จบงั้นเหรอ? ได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะสู้แบบตัวต่อตัวนี่นา ซึ่งตราบเท่าที่เย่จงหมิงเข้าร่วมด้วย มันก็ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมล่ะ

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โฉ่วจื่อซ่งกู้ร้องออกไปอย่างไม่รักษาภาพลักษณ์!

ข้างตัวเขามีเพียงบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์หยินเถี่ย ส่วนเลขาสาวกับบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์อันหูได้นำผู้คนออกไปจัดการกับกองทัพเหยา

ที่อยู่ตรงข้ามของเขาก็คือ เย่จงหมิง และผมแดง สองสิ่งมีชีวิตระดับ 6 ดาวและด้านหลังของพวกเขาก็คือผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาวจำนวนสองหลัก กับผู้วิวัฒนาการระดับ 4 ดาวจำนวนสามหลัก

เพียงครู่เดียวหอการค้าหลิงก็ถูกจมมิด

บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์หยินเถี่ยเสียชีวิต ทักษะอาชีพอันยอดเยี่ยมของเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย แม้ว่าเขาจะมีพลังและความมั่นใจมากกว่าบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์เป้ยจื่อก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดตัวเองให้เดินตามบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์เป้ยจื่อไปบนถนนหวงฉวนได้

(ผู้แปล – ถนนหวงฉวน เส้นทางสู่ยมโลก)

ส่วนกองทัพเหยาก็เกือบทำตัวแบบเดียวกับอวิ๋นติ่งวิลล่า นั่นคือต่อสู้เป็นทีม!

เมื่อหอการค้าหลิงต้องเผชิญหน้ากับ ผู้วิวัฒนาการระดับ 6 ดาวของกองทัพเหยา พวกเขาก็ไม่ได้ดีกว่าอีกกลุ่มนัก

ในขณะที่โฉ่วจื่อซ่งได้รับการ ‘ดูแล’ โดยอวิ๋นติ่งวิลล่า จึงมีเพียงเลขาสาวเจ้าเสน่ห์ที่มีสายเลือดปีศาจจิ้งจอกขั้นกลางเท่านั้นที่เป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 6 ดาว แต่เธอเพิ่งได้รับยาวิวัฒนาการ จึงยังไม่ได้วิวัฒนาการโดยสมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วันที่จะกลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 6 ดาวอย่างแท้จริง

แม้แต่ไส้เดือนยักษ์ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉิงเทียนจี้ ซึ่งเลขาสาวก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน

สายเลือดที่น่าภาคภูมิใจของเลขาสาว เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเฉิงเทียนจี้ที่เปิดใช้สายเลือดเอลฟ์เพลิง ก็ทำอะไรไม่ได้เลย และถูกยัดเยียดความตายให้

หลังจากการตายของเธอ บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์อันหูก็เสียชีวิตลงพร้อมกับความเกลียดชัง ภายใต้การกลุ้มรุมของผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาวของกองทัพเหยาอย่างเสี่ยวจิ่วเกอ และเหวินหง

จากนั้นข่าวการตายของโฉ่วจื่อซ่งก็มาถึง แม้ความแข็งแกร่งของเขาจะมีเหนือกว่าผู้คนของเขามาก แต่เมื่อต้องเผชิญกับการกลุ้มรุมของเย่จงหมิงกับผมแดง และการปิดล้อมของคนอื่นๆ เขาก็ตกเป็นฝ่ายรับไปอย่างสมบูรณ์ และทำได้เพียงป้องกันเท่านั้น จนกระทั่งตาย เขาก็ไม่มีโอกาสแม้แต่ครั้งเดียวที่จะได้โจมตี

สุดท้ายใบหน้างดงามของเขาก็ถูกตี้หวงหวันกัด…

การเสียชีวิตของโฉ่วจื่อซ่งได้ประกาศการตายของหอการค้าหลิงส่วนนี้ไปอย่างสมบูรณ์ การล้อมกรอบโดยมีจุดประสงค์เพื่อทำคะแนนนี้กินเวลาไม่ถึง 10 นาที ที่พวกเขาทั้งหมดถูกสังหาร

จนถึงตอนนี้ ผู้คนของหอการค้าหลิงที่มาเข้าร่วมในการปิดล้อมอวิ๋นติ่งล้วนเสียชีวิตลงที่นี่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรองประธาน สามบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ ลูกสมุนสองคนที่มีความแข็งแกร่งประมาณ 6 ดาวอย่างญาติทางสายเลือดที่ผิดปกติ และทุกๆคน…

บนม่านแสงจอคะแนน เหลืออยู่เพียงสองกองกำลัง

และเหลือเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นทันทีที่คนสุดท้ายของหอการค้าหลิงถูกกำจัด ไม่มีคำว่าถอยห่างหรือพูดกันดีๆ ตอนนี้ทุกคนต่างเข้าใจดีว่า ในสองกองกำลังนี้ต้องมีฝ่ายหนึ่งต้องตายที่นี่ แล้วจะมาพูดให้เสียเวลากันอีกทำไม? ฆ่าหนึ่งก็ได้คะแนนไปหนึ่ง!

เย่จงหมิงกับผมแดงรีบพุ่งตรงไปหาเฉิงเทียนจี้เป็นอันดับแรก แต่เฉิงเทียนจี้กลับไม่ต้องการประจันหน้ากับพวกเขาเลย และใช้พื้นที่ในสนามรบเข้าโจมตีคนอื่นอย่างต่อเนื่อง

ผู้บัญชาการกองทัพเหยาที่ห้ารู้ดีว่า หากให้เย่จงหมิงหรือผมแดงเข้าพัวพันตัวเองได้ คนอื่นๆที่เหลือของกองทัพเหยาจะถูกฆ่า แม้ว่าเสี่ยวจิ่วเกอและคนอื่นๆจะหยุดพวกเขาได้ แต่สมาชิกหลักคนอื่นๆของอวิ๋นติ่งจะมาช่วยปลดปล่อยพวกเขา ในกรณีนี้ สิ่งที่เกิดขึ้น มันจะส่งผลเสียต่อกองทัพเหยาอย่างมาก

แล้วเฉิงเทียนจี้ก็กลายเป็นเครื่องบินรบ เพราะอวิ๋นติ่งวิลล่ามีนักรบธรรมดาจำนวนมากที่สามารถรอดชีวิตมาได้จนถึงบันไดขั้นนี้ และจำนวนนักรบระดับต่ำเหล่านี้ก็มีจำนวนมากกว่ากองทัพเหยา คนเหล่านี้จึงถูกฆ่าด้วยสัมผัสเดียวของเฉิงเทียนจี้ ซึ่งทำให้เขาได้รับคะแนนมากมายภายในไม่กี่นาที ของดีราคาถูกแบบนี้จะปล่อยไปได้ยังไง!

เฉินเทียนจี้รู้ดีว่าตัวเขาคือกุญแจสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ ตราบใดที่เขาฆ่ามากพอ เขาก็สามารถชดเชยช่องว่างที่อ่อนแอกว่าระหว่างกองทัพเหยากับอวิ๋นติ่งวิลล่าได้เล็กน้อย

เย่จงหมิงชื่นชมความสงบของผู้บัญชาการกองทัพเหยาผู้นี้ ในการต่อสู้ของผู้คนนับพัน และต่างก็เป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 6 ดาวเหมือนกัน มันไม่ง่ายที่จะเข้าพัวพันใครสักคน

หลังจากพบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ติดตามแบบนี้ เย่จงหมิงจึงสั่งให้ผมแดงไล่ติดตามและคอยพัวพันเฉิงเทียนจี้เอาไว้ ส่วนเขาก็รีบตรงเข้าสู่กระบวนรบของกองทัพเหยาโดยตรง

ใครจะฆ่าคนเร็วกว่ากัน? มาดูกัน!

ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่ ‘เกม’ การสังหารด้วยความเร็ว

เนื่องจากอวิ๋นติ่งวิลล่าเคยได้เปรียบมาก่อน ดังนั้นหลังจากการต่อสู้ระยะประชิดได้เริ่มขึ้น พวกเขาจึงยังคงรักษารูปแบบกระบวนรบไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเก็บนักรบระดับต่ำไว้ข้างใน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เฉิงเทียนจี้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะใช้ข้อดีของอาชีพและความแข็งแกร่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์บางอย่าง แต่เห็นได้ชัดมันไม่เพียงพอ ไม่เพียงจะทำคะแนนไม่ทัน ตรงกันข้ามหลังจากเย่จงหมิงลงมือคะแนนของเขาก็ถูกดึงไป 2-3 ร้อยคะแนน

ทันใดนั้นเฉิงเทียนจี้ก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ร่างเอลฟ์เพลิงพองตัวขึ้นอีกเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันเย่จงหมิงก็นำสิ่งแปลกๆออกมาตั้งไว้ข้างหน้า

ณ จุดนี้เหลือเวลาอีกเพียง 5 นาทีก่อนการต่อสู้จะถึงจุดสิ้นสุด