บทที่ 27 ได้รับเคล็ดวิชาสูงสุด เคล็ดวิชามโนภาพ
บทที่ 27 ได้รับเคล็ดวิชาสูงสุด เคล็ดวิชามโนภาพ
“ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่ถ้าเจ้ากล้ามาขวางข้า ไซโต้ ฮาจิเมะ งั้นก็เตรียมตัวตายด้วยดาบของข้าได้เลย!”
ดวงตาของไซโต้ ฮาจิเมะเต็มไปด้วยความอยากฆ่า
จ้าวซือห้ามอุซุยที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า "คนตาบอดควรจะทำเหมือนคนตาบอด ท่านกินก่อนเถอะ และที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า"
หลังจากที่พูดเช่นนั้นแล้ว จ้าวซือก็ส่งมอบอาหารให้กับอุซุยโดยไม่ได้มีคำอธิบายใดๆ
อุซุยรู้สึกสับสน แต่หลังจากที่ได้กลิ่นข้าวแล้ว ความหิวของเขาก็พลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำ ความเกลียดชังและการดวลดาบได้ถูกโยนไปไว้ทีหลัง
ไซโต้ ฮาจิเมะมองจ้าวซือด้วยความกลัวราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยิ่งใหญ่
จ้าวซือไม่เสียเวลาพูดอีกต่อไป เขาหยิบชุดเกราะนักรบสีทองและดาบมังกรทองคำที่เก็บไว้ในกล่องส่งของออกมา และกลายเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามทองคำ
"ชุดเกราะนี่มัน... ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าแกทำแบบนี้ได้ยังไง มันแค่หรูหราแต่ใช้งานไม่ได้หรอก ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย แล้วเอาทองคำไป!"
ดวงตาของไซโต้ ฮาจิเมะเป็นประกายเมื่อเขาเห็นชุดเกราะทองคำนั้น
สำหรับนักรบเช่นเขา การสวมชุดเกราะเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากการใส่กระสอบทรายเลยแม้แต่น้อย!
“มาเลย” จ้าวซือที่เข้าสู่โหมดการต่อสู้มีท่าทางสง่างาม เขาสะบัดดาบมังกรทองคำของเขาและรีบพุ่งเข้าไปหาไซโต้ ฮาจิเมะ
ไซโต้ ฮาจิเมะตกใจมาก เดิมทีเขาคิดว่าจ้าวซือที่สวมชุดเกราะจะต้องรู้สึกเทอะทะมาก เขาไม่เคยคิดว่าจ้าวซือจะเบาราวกับไม่ได้สวมอะไรเลยแบบนี้!
แต่ทว่าไซโต้ ฮาจิเมะก็เป็นปรมาจารย์เคนโด้ เขาไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับแทงดาบไปที่จุดอ่อนของจ้าวซือ
“เจ้าเด็กนี่ไม่ได้รู้วิธีเล่นเคนโด้เลยด้วยซ้ำ เขาต้องตายแน่ๆ!” อุซุยรีบวางกล่องอาหารกลางวันในมือของเขาลงและเข้าไปขวางไซโต้ ฮาจิเมะที่กำลังจะฆ่าจ้าวซือ
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาก็มีบางอย่างที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น
ตูม!
เหมือนกับเสียงของบางสิ่งที่ถูกจุดไฟ ลูกบอลไฟที่ลุกโชนก็พุ่งขึ้นมาจากดาบตรามังกรทองคำของจ้าวซือและฟันอย่างแรงเข้าใส่ไซโต้ ฮาจิเมะ
เมื่อเห็นการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรงเช่นนี้ ไซโต้ ฮาจิเมะก็ต้องล้มเลิกการโจมตีและชักดาบกลับเพื่อป้องกันตัว
แต่ทว่าดาบของเขาถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีแดงและอ่อนตัวลงในทันที จนกระทั่งละลายหายไป!
ดาบเปลวเพลิงตะวันตก!
จ้าวซือกำลังใช้วิชาดาบเปลวเพลิงตะวันตกที่เขาได้รับมาจากระบบ!
ด้วยวิชากำลังภายในลมปราณภูติอุดรที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นความร้อนที่บริสุทธิ์และด้วยกำลังภายในที่ได้ไหลเวียนเข้าสู่ดาบเปลวเพลิงตะวันตกส่งผลให้พื้นผิวของดาบตรามังกรทองคำถูกปกคลุมไปด้วยชั้นกำลังภายในที่เพียงพอที่จะหลอมโลหะและทำลายก้อนหินได้
ดาบของไซโต้ ฮาจิเมะนั้นบอบบางราวกับเศษกระดาษ!
นักดาบที่ไม่มีดาบก็เหมือนนักเปียโนที่ขาดเปียโน เท่ากับเป็นคนพิการ!
ไซโต้ ฮาจิเมะผู้ซึ่งหยิ่งทะนงเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ได้ถูกสยบโดยจ้าวซือเสียแล้ว
เมื่อได้รับรู้ถึงความพ่ายแพ้ของไซโต้ ฮาจิเมะ อุซุยก็ถึงกับอ้าปากค้าง อาหารในปากของเขาร่วงลงไปในกล่องอาหารกลางวัน
"อุณหภูมิขนาดนี้... หรือว่านี่จะเป็นเพลงดาบอัคคีของชิชิโอะ มาโกโตะ!"
ในฐานะผู้รับใช้ของชิชิโอะ มาโกโตะ และเป็นคนที่เขาเกลียด อุซุยคุ้นเคยกับเพลงดาบของชิชิโอะ มาโกโตะเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็คือ เพลงดาบอัคคี
เพลงดาบอัคคี จะแทรกซึมเข้าไปสู่ใบมีดและฆ่าผู้คน ความร้อนจากการเสียดสีระหว่างใบมีดกับพื้นดินระหว่างการปะทะจะทำให้ใบมีเกิดประกายไฟ และนี่คือเพลงดาบที่มีการทำลายล้างได้ถึงสองเท่า
ในตอนนี้ดาบเปลวเพลิงตะวันตกที่จ้าวซือใช้นั้นคล้ายคลึงกับเพลงดาบอัคคีของชิชิโอะ มาโกโตะเป็นอย่างมาก
“ไม่สิ เพลงดาบที่ชายผู้นี้ใช้นั้นแข็งแกร่งกว่าเพลงดาบอัคคีของชิชิโอะ มาโกโตะเสียอีก!” ไซโต้ฮาจิเมะตะโกน “เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าชิชิโอะ มาโกโตะเสียอีก!”
อุซุยตกใจอ้าปากค้าง ชิชิโอะ มาโกโตะเป็นเป้าหมายที่เขาต้องการจะฆ่า แต่อุซุยเองก็ยังไม่อาจที่จะฆ่าเขาได้ แต่จู่ๆ ก็มีอีกคนหนึ่งที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาซึ่งแข็งแกร่งกว่าชิชิโอะ มาโกโตะ!
“อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการที่จะฆ่าชิชิโอะ มาโกโตะ?” จ้าวซือลังเลเล็กน้อย ประการแรก มันดูจะยุ่งยาก ประการที่สอง เขายังไม่ได้ฆ่าใครเลยสักคน
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน” อุซุยยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าข้าไม่ได้ฆ่าชิชิโอะ มาโกโตะด้วยมือของข้าเอง แล้วจะมีประโยชน์อะไร แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วล่ะ เจ้าทำให้ข้าเข้าใจแล้วว่ามีคนมากมายอยู่บนโลกใบนี้ ข้าจะไปจากที่นี่เพื่อค้นหาความหมายใหม่ให้กับชีวิตของข้า...”
จ้าวซืออดไม่ได้ที่จะขยับตัวเมื่อเขาเห็นว่าอุซุยกำลังกำจัดความเกลียดแค้นของเขา
หลังจากที่เขากินชุดปลาหมึกย่างฤดูใบไม้ร่วงเสร็จแล้ว เสียงการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหูของจ้าวซือ "การจัดส่งออเดอร์เสร็จสิ้นแล้ว อุโมงค์อนันตภพจะเปิดในไม่กี่วินาที โฮสต์ เชิญ..."
จ้าวซือกล่าวลาอุซุยและไซโต้ ฮาจิเมะ เหตุผลที่สองคนนี้ทะเลาะกันก็เพราะว่าอุซุยเป็นผู้รับใช้ของชิชิโอะ มาโกโตะแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
เมื่ออุซุยได้คิดไตร่ตรองเรื่องนี้ดูแล้วเขาจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับไซโต้ ฮาจิเมะอีกต่อไป
เมื่อเห็นว่าจ้าวซือขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหายเข้าไปในอุโมงค์อนันตภพและหายตัวไป ไซโต้ ฮาจิเมะก็ไม่อาจที่จะจำได้ว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น
“ทำไมถึงดูเหมือนว่าออร่าของเขาหายไปแล้วล่ะ?” อุซุยไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวซือถึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน และเหมือนกันกับในตอนที่เขาจากไป จนเขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าเขาตาบอดสนิท
ไซโตะ ฮาจิเมะทำคอย่น แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร จ้าวซือได้หายตัวไปจริงๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังคิดว่ามันยากที่จะเชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดออกไป
เขามองไปที่จ้าวซืออีกครั้งและเห็นว่าเขาได้กลับไปสู่โลกแห่งหลักแล้ว นอกจากนี้ เขายังได้รับการแจ้งเตือนจากระบบอีกด้วย
"ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่จัดส่งออเดอร์จากซามูไรพเนจรได้สำเร็จ คุณได้รับการชำระเงินจากอุซุยแล้ว!"
"บี๊บ! บี๊บ! การชำระเงินของอุซุยได้แก่ การชำระเงินแบบเงินจำนวน 2 รายการและการชำระเงินแบบเหล็กดำจำนวน 1 รายการ คุณต้องการที่จะเปิดตอนนี้หรือไม่?"
เปิดทั้งหมดเลย!
จ้าวซือไม่ลังเลใจ
"บี๊บ! บี๊บ! โฮสต์ได้เปิดการชำระเงินแบบเงิน และได้รับ [ทักษะขั้นสูงสุดของอุซุย - วิชามโนภาพ]!"
“บี๊บ! บี๊บ! โฮสต์ได้เปิดการชำระเงินแบบเงิน และได้รับ [เพลงดาบของอุซุย - ความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบนิรเนตร]!”
"บี๊บ! บี๊บ! โฮสต์ได้เปิดการชำระเงินแบบเหล็กดำ และได้รับ [ดาบของอุซุย - ดาบนิรเนตร] หนึ่งเล่ม!
จ้าวซือเกาหัว กลายเป็นว่านี่เป็นชุดข้าวของอุซุย
จ้าวซือไม่ได้ปฏิเสธเคล็ดวิชาที่เสริมสร้างตนเองเช่นนี้เพราะว่านี่อาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็เป็นได้
แต่เมื่อเขาได้รับวิชามโนภาพมาแล้ว เขาก็มีท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก!
ทักษะขั้นสูงสุดของอุซุยก็คือวิชามโนภาพ นอกเหนือจากจะสามารถตัดสินเทคนิคการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ผ่านการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนของคู่ต่อสู้โดยที่มองไม่เห็นแล้ว ก็ยังมีเคล็ดลับขั้นสูงสุดอีกด้วย
นั่นก็คือการอ่านความคิดของฝ่ายตรงข้ามและรับรู้ความคิดของพวกเขาได้!
นี่คือความสามารถที่จ้าวซือใฝ่ฝัน และเป็นเคล็ดวิชาการอ่านความคิดประเภทหนึ่ง!
อย่างไรก็ตามวิชามโนภาพนี้มีข้อจำกัดมากมาย ประการแรกเขาต้องเข้าสู่ภาวะมโนภาพ ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาต้องหลับตาเป็นระยะเวลาหนึ่งและต้องติดต่อกับอีกฝ่ายเป็นระยะเวลาหนึ่ง
ประการที่สอง ความสามารถนี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดมากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถที่จะปกปิดพลังของความสามารถนี้ได้!