บทที่ 25 ไม่ว่าฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้สูงแค่ไหน มันก็ต้องกลัวมีดทำครัว!
บทที่ 25 ไม่ว่าฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้สูงแค่ไหน มันก็ต้องกลัวมีดทำครัว!
“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้ฉันเห็นอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนน้องชายคนนั้นเร่งตัวขึ้นทันใด!”
“เจ้าหัวล้านนั่นไม่ได้แข็งแรงกว่าเขายังงั้นเหรอ?”
ผู้คนที่อยู่โดยรอบ รวมทั้งพนักงานส่งของอีกสองคนที่ผ่านไปผ่านมาต่างก็พากันตกตะลึง
“บัดซบ! เจ้าพ่อแกรี่ถูกเขาตีซะแล้ว!”
“เจ้าเด็กนั่นเสร็จแน่!”
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเจ้าพ่อแกรี่ล้มเหลวและเกือบจะถูกฆ่าตายแทน พนักงานส่งของทั้งสองคนนั้นก็ฟื้นคืนสติและรู้สึกเป็นห่วงจ้าวซือมากขึ้น
นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าพ่อแกรี่ไม่ใช่การที่เขาต่อสู้ได้อย่างดุเดือด แต่เป็นอิทธิพลของเขาต่างหาก
ผ่านไปเพียงครู่เดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับแจ้งก็รีบเข้ามาในที่เกิดเหตุทันที
ในตอนนี้ ผลจากการโจมตีที่จุดสำคัญก็ได้คลายความเจ็บปวดลง เจ้าพ่อแกรี่เอามือลงและพูดว่า “คุณตำรวจ คุณต้องให้ความยุติธรรมกับผมนะ ไอ้หนุ่มคนนี้ทำร้ายผมแบบนี้ คุณควรจะจับเขาและสั่งสอนเขาให้เข็ดหลาบ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนมองหน้ากัน แต่ไม่ได้ตัดสินใจในทันที หนึ่งในนั้นกล่าวว่า "ผมได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนิรนามแจ้งว่าคุณต่างหากที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน อีกอย่างนะ เจ้าพ่อแกรี่ ผมจำคุณได้"
“คุณตำรวจ บุคคลนี้ต้องสงสัยว่าข่มขู่และทำร้ายผู้อื่น กรุณาสอบสวนเขาด้วย” จ้าวซือเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนนี้มีความชอบธรรมและจึงต้องการที่จะขอแรงจากพวกเขา
หลังจากที่เหลือบตามองจ้าวซือ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายก็พยักหน้าและจากนั้นก็ได้ทำการสอบถามข้อมูลและสอบสวนฝูงชนในที่เกิดเหตุ
“ตอนนี้คุณไปได้แล้วล่ะ” หลังจากที่กล่าวกับจ้าวซือแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็หันไปหาเจ้าพ่อแกรี่ “ส่วนคุณ มากับพวกผม”
หลังจากที่กล่าวเช่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนก็ใส่กุญแจมือเจ้าพ่อแกรี่และจากไป
ก่อนที่จะจากไป เจ้าพ่อแกรี่จ้องมองมาที่จ้าวซืออย่างโหดเหี้ยมและทำปากมุบมิบว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
เมื่อได้เจอกับการข่มขู่ของเจ้าพ่อแกรี่ จ้าวซือก็ได้แต่ทำหน้าดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในร้านขายข้าวซี่โครงเพื่อรับอาหารของเขา
“ขอโทษครับ ผมอยากจะขอให้คุณยกเลิกออเดอร์นี้ ผมคงให้ออเดอร์นี้ไม่ได้แล้ว” เถ้าแก่ร้านมีสีหน้าลังเล
จ้าวซือขมวดคิ้ว เขาเข้าใจเหตุผลนี้ได้อย่างรวดเร็ว "คุณกลัวเจ้าพ่อแกรี่งั้นหรือ?"
“เขาบอกว่าถ้าผมส่งออเดอร์ให้คนอื่น คืนนี้เขาจะพาคนมาพังร้าน” เถ้าแก่ร้านถอนหายใจ
จ้าวซือหงุดหงิดเล็กน้อย “นี่มันมากเกินไปแล้ว นี่เขาไม่ได้แค่ขู่พนักงานส่งของ แต่เขายังขู่เจ้าของร้านด้วย เถ้าแก่ เอาอาหารมาให้ผมด้วย ลูกค้ายังรออยู่ ส่วนเรื่องเจ้าพ่อแกรี่ ผมจะปกป้องคุณเอง!”
เถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครงได้ทำใจแข็งแล้วที่จะไม่ปล่อยออเดอร์ให้จ้าวซือ แต่ในตอนนี้จิตใจของเขาต้องสั่นคลอน ด้วยความกล้าหาญและความมั่นใจของจ้าวซือ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะส่งอาหารในมือให้จ้าวซือไป
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ไม่เพียงแค่เพราะมหาเสน่ห์ของจ้าวซือเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขาเองด้วย ซึ่งมีอิทธิพลอย่างละเอียดเป็นอย่างมากต่อเถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครง
แต่หลังจากที่จ้าวซือจากไปแล้ว จู่ๆ เถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครงก็รู้สึกเสียใจ "เขายังเด็ก จะไปเอาชนะเจ้าพ่อแกรี่ได้ยังไงกัน? ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เพราะว่าเจ้าพ่อแกรี่ป่วยอยู่ เรื่องมันเลยกลายมาเป็นแบบนี้ เฮ้อ.. . "
ในเมื่อเขาได้ส่งออเดอร์ให้จ้าวซือไปแล้ว มันจึงไม่มีประโยชน์ที่เถ้าแก่ร้านจะมานั่งเสียใจในตอนนี้
ในเวลาเที่ยงคืน กลุ่มนักเลงขี่มอเตอร์ไซค์มาหลายคัน ต่างก็ถือก้อนอิฐ ไม้เบสบอล สเปรย์สี และอุปกรณ์อื่นๆ พวกเขาเข้าล้อมร้านข้าวซี่โครงเอาไว้อย่างแน่นหนาซึ่งแม้แต่น้ำเพียงหยดเดียวก็ไม่อาจที่จะรั่วไหลออกมาได้
ในเวลานี้ บนศีรษะของเจ้าพ่อแกรี่มีผ้าพันแผลพันไว้ เขาเดินไปที่ด้านหน้าของกลุ่มคนและเตะประตูเหล็กของร้านข้าวซี่โครง ทำให้เกิดเสียงที่ดังจนแสบแก้วหู
“ไอ้แก่! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” เจ้าพ่อแกรี่คำราม
แสงไฟจากบ้านละแวกนั้นเปิดขึ้น ขณะที่เขาเปิดหน้าต่างออกมาดูและกำลังจะด่า เมื่อพวกเขาได้เห็นความโกลาหลจึงถอยหนีด้วยความกลัวและรีบปิดไฟ
“คาราวะเจ้าพ่อแกรี่...” เถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครงเปิดหน้าต่างและกลัวเสียจนวิญญาณแทบจะบินไปสวรรค์ทั้งเก้า เขาอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา
เจ้าพ่อแกรี่เงยหน้าขึ้นและทำท่าเชือดคอใส่เถ้าแก่ร้าน “เรียกครอบครัวของแกออกมาให้หมด ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกแกให้หมดเลย!”
เมื่อรู้ว่าเจ้าพ่อแกรี่เป็นอาชญากรที่เคยมีประวัติอาชญากรรม เถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครงจึงทำได้เพียงกัดปากเอาไว้และออกมาพร้อมกับครอบครัวของเขาทั้งสี่คนขณะที่ยังสวมชุดนอนอยู่
“โย่ เถ้าแก่ ลูกสาวของแกโตขึ้นมากแล้วนี่ ทำไมแกไม่ให้ฉันพาเธอไปกกเล่นสักสองสามคืนล่ะ?”
เมื่อลูกน้องของเจ้าพ่อแกรี่เห็นลูกสาวของเถ้าแก่ร้าน พวกเขาก็ผิวปากและจ้องไปที่คนอื่นๆ
ครอบครัวของเถ้าแก่กลัวมากจนหน้าซีด พวกเขากอดกันตัวสั่น
ก่อนที่เจ้าพ่อแกรี่จะทันได้พูดอะไรอีก เถ้าแก่เนี้ยก็ร้องไห้และตะคอกว่า "แกมันบัดซบ ทำไมแกไม่ฟังเจ้าพ่อแกรี่ นี่แกพยายามที่จะฆ่าครอบครัวของเราทั้งครอบครัวอยู่ใช่ไหม!?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ร่างกายของเถ้าแก่ร้านก็สั่นสะท้าน ความเสียใจในหัวใจของเขาขยายไปถึงสุดขีดและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เจ้าพ่อแกรี่เห็นแล้วก็ได้แต่เยาะเย้ย เขาเหวี่ยงไม้เบสบอลในมือแล้วพูดว่า "แกคิดว่าพวกเราควรจะทำยังไงดี? เอาเงินมาให้พวกฉัน 2 แสนหยวน ไม่งั้นล่ะก็ลูกสาวของแกจะต้องถูกพาตัวไปในคืนนี้"
“สองแสน!” เถ้าแก่ร้านกลัวจนแทบคลั่ง เงินจำนวนมากขนาดนั้นมันก็เท่ากับการฆ่าตัวตาย ร้านนี้จะต้องถูกปิดไปทัน มันเป็นเพียงการบังคับด้วยวาจา แต่ถูกเรียกได้ว่าเป็นการละเมิดสัญญาอย่างร้ายแรงโดยเจ้าพ่อแกรี่!
ถึงแม้ว่าเถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครงจะโกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร เขาไม่อาจที่จะส่งตัวลูกสาวให้พวกมันไปได้จริงไหม? ใครจะรู้ว่าสัตว์เดรัจฉานกลุ่มนี้จะทำอะไรกับเธอบ้าง!
“ไอ้น้องชาย ไอ้น้องชาย ไหนบอกว่าคุณจะปกป้องฉันไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” เถ้าแก่ร้านข้าวซี่โครงสติหลุดและเกือบจะร้องไห้ออกมา
ในขณะนั้นเอง ร่างหนึ่งก็กระโดดลงมาจากหลังคา แสงจันทร์สาดส่องทางด้านหลังของเขาทำให้เห็นเงาที่ทอดยาว "ฉันอยู่นี่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?"
การปรากฏตัวของจ้าวซือทำให้เจ้าพ่อแกรี่และคนอื่นๆ ตกใจ ว่าเขาขึ้นไปบนหลังคาและซ่อนตัวอยู่ที่ไหน พวกเขาถึงไม่ได้สังเกตเห็นเลย!
จ้าวซือยืนอยู่ตรงหน้าครอบครัวของเถ้าแก่ร้านและมองไปที่เจ้าพ่อแกรี่ด้วยความรังเกียจ "เจ้าพ่อแกรี่ บทเรียนของวันนี้ยังไม่พองั้นเหรอ พวกเรามาเล่นซื่อๆ แล้วส่งอาหารช่วยกันจะดีกว่า"
เมื่อเจ้าพ่อแกรี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หัวเราะออกมาดังๆ หัวเราะหนักมากจนน้ำตาแทบไหล "นี่ พวกแกได้ยินไหม? เจ้าเด็กนี่อยากจะให้ฉันรับออเดอร์ส่งอาหารอย่างซื่อสัตย์
ลูกน้องที่อยู่รอบข้างต่างก็พากันเริ่มหัวเราะ ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งเคยได้ยินเรื่องตลกเรื่องใหญ่ที่สุด
ขณะที่พวกเขาหัวเราะ เจ้าพ่อแกรี่ก็หยุดหัวเราะอย่างกะทันหัน ไม้เบสบอลในมือของเขาถูกโยนไปทางจ้าวซือ โดยที่ไม่มีการเตือนใดๆ "ฉันจะส่งแกไปลงนรก!"
“หึ!” จ้าวซือพ่นลมอย่างเย็นชา เขาหลบหลีกการโจมตีของเจ้าพ่อแกรี่ได้อย่างง่ายดาย เขาใช้เคล็ดวิชาลมปราณภูติอุดรและเตะตัดขาเจ้าพ่อแกรี่
พร้อมกับเสียงแตกถึงสองครั้ง เจ้าพ่อแกรี่ล้มลงกับพื้นเสียงดังตึง หัวล้านของมันเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและแลดูเจ็บปวดอย่างยิ่ง
เมื่อพวกลูกน้องของเขามองดูใกล้ ๆ พวกเขาก็ต้องกลัวจนหัวหดเพราะพวกเขาเห็นว่าขาของเจ้าพ่อแกรี่นั้นหักและมันกลับหัวกลับหางอยู่
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้เด็กเหี้ยนี่มันรู้จักศิลปะการป้องกันตัว!”
เจ้าพ่อแกรี่เองก็ไม่ใช่คนดีเช่นกัน เขาเดาว่าจ้าวซือคงจะเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ลูกน้องของเขาเข้าโจมตีจ้าวซือพร้อมกันทันที
ประสบการณ์หลายปีของเขาในโลกศิลปะการต่อสู้บอกเขาว่าต่อให้มีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้สูงแค่ไหน มันก็ต้องกลัวมีดทำครัว!