ตอนที่แล้วบทที่ 657 แผนการของเฉียวหรง  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 659 จู่โจม!

บทที่ 658 สิ่งกีดขวาง(ตอนฟรี)


บทที่ 658 สิ่งกีดขวาง

ท่ามกลางฤดูร้อนของเดือนกรกฎาคมในทะเลทรายโกบีที่ชายแดนตะวันตกของประเทศจีน มีกลุ่มคนที่เหมือนกับนักสำรวจกำลังเดินกันอยู่เป็นกลุ่ม พวกเขาสวมชุดเดินทางธรรมดาๆ สวมหมวกกันแดด ที่ด้านหลังยังมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ และขวดน้ำที่ห้อยไว้ข้างเอว นอกจากนั้นก็มีอุปกรณ์สำรวจภาคสนามอย่างเช่นเข็มทิศ

คนกลุ่มนี้ไม่ใช่สิ่งผิดแปลกในทะเลทรายโกบีแต่อย่างใด เพราะความจริงแล้วในบางครั้งก็จะมีกลุ่มนักสำรวจสามถึงห้าคนเดินอยู่ท่ามกลางทะเลทรายโกบีนี้เพื่อตรวจสอบหรือสำรวจภูมิประเทศหรือทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าประหลาดใจจริงๆก็คือ นักสำรวจกลุ่มนี้ล้วนเป็นคนหนุ่มอายุราวๆ 20 ปี แถมในกลุ่มของพวกเขายังไม่มีมัคคุเทศก์มาด้วย นอกจากนั้นแล้วดูเหมือนว่ากลุ่มชายหนุ่มสิบกว่าคนกลุ่มนี้จะเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย

แต่ในความเป็นจริง หากใครสังเกตดีๆ จะพบว่าแม้คนเหล่านี้จะเดินกันอย่างไร้จุดหมายและดูเหมือนว่าการเดินท่ามกลางทะเลทรายภายใต้แสงอาทิตย์ที่แผดเผาจะทำให้พวกเขาลำบากลำบนกันมาก แต่ดวงตาที่หลบอยู่ภายใต้หมวกกันแดดนั้นกลับเฉียบคมจนน่าเกรงขาม และที่ข้อมือของพวกเขายังมีอุปกรณ์ระบุตำแหน่งดาวเทียมความเร็วสูงซึ่งหากดูจากภายนอกแล้วมันไม่ได้แตกต่างไปจากนาฬิกาข้อมือทั่วๆไปเลย

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าการเดินทางของพวกเขาจะดูเหมือนเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย แต่ถ้าหากคุณมีเวลามากพอและมองอย่างใกล้ชิดแล้ว คุณจะสังเกตเห็นได้ว่าตำแหน่งการเดินของพวกเขามีกฎระเบียบของมันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างระหว่างกัน การเคลื่อนที่ การสลับตำแหน่งและทิศทางการเดิน เพราะไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวอย่างไร ระยะห่างระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก และพวกเขาก็ยังเดินได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

“หมายเลข 1 เราอยู่ไกลแค่ไหน?” ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งในตอนนี้เดินอยู่หันศีรษะมาด้านข้างและถามเพื่อนร่วมกลุ่มของเขา

“เหล่าซือ ตามตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้ในแผนที่ดาวเทียม ตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้เป้าหมายแล้วครับ” ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าหมายเลข 1 กล่าว

“ใกล้จะถึงแล้วเหรอ? กะประมาณเวลาได้มั้ย?” ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“อย่างมากที่สุดก็ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงครับ” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆมองดูแผนที่อิเล็กทรอนิกส์แล้วตอบด้วยเสียงต่ำๆ

“ถ้าเวลาอย่างช้าคือครึ่งชั่วโมง งั้นแสดงว่าถ้าเราไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น น่าจะไปถึงที่นั่นภายในสิบนาที แล้วกองพลพิเศษส่งข้อความมาหรือยัง?” ชายหนุ่มด้านหน้าถามอีกครั้ง

“ยังไม่มีครับ!” ชายหนุ่มที่อยู่ถัดจากเขากล่าว

ชายหนุ่มที่นำอยู่ด้านหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หาที่ซ่อนก่อนก็แล้วกัน พักสักหน่อย และระวังอย่าให้เป้าหมายจับได้!”

“ครับ!” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆตอบรับอย่างขึงขัง เขาโบกมือและสูดลมหายใจ “หาที่สำหรับหยุดพักผ่อน! ให้หมายเลข 9 และหมายเลข 10 เป็นผู้รับผิดชอบในการเฝ้าระวัง!”

พวกเขาเดินต่อไปอีกซักพักก็เจอกองหินผุกร่อนกองใหญ่และนั่งลงที่ด้านใต้ลม

“ในที่สุดก็ถึงซักที!” ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำนั่งพิงหินก้อนใหญ่และยกน้ำขึ้นมาจิบก่อนจะพูดว่า “พักผ่อนกันให้เต็มที่ ตั้งสมาธิให้ดี รอสัญญาณจากกองพลพิเศษมาถึงเมื่อไหร่ เราจะมุ่งสู่เป้าหมายทันทีโดยไม่หยุดพัก และทุกคนควรระลึกไว้เสมอว่ามีมนุษย์ดัดแปลงอยู่ในกองพลของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นต้องระวังตัวให้ดี!”

“ครับ!” ชายหนุ่มคนอื่นๆตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

และแน่นอนว่ากลุ่มชายหนุ่มนี้ก็คือกลุ่มของจี้เฟิงและทหารสิบคนของกองพลเรดแอร์โรว์ และคนที่เป็นผู้นำกลุ่มก็คือจี้เฟิง ส่วนชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆคอยรับคำสั่งและตอบคำถามของเขาก็คือ กู่เฉากับหลิวซิ่น

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง จี้เฟิงและคนอื่นๆตกลงที่จะใช้ชื่อรหัสในการเรียกกันและกัน จี้เฟิงจะถูกเรียกว่าเหล่าซือ กู่เฉาเป็นหมายเลข 1 หลิวซิ่นเป็นหมายเลข 2 .. ทั้งสิบคนถูกจัดเรียงตามลำดับ จาก 1 ไปจนถึง 10

ส่วนสาเหตุที่จี้เฟิงและคนอื่นๆปรากฏตัวในทะเลทรายโกบีก็เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าสายตาที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป ดังนั้นกลุ่มของจี้เฟิงจึงถูกแยกกองพลปฏิบัติการพิเศษที่นำโดยเซียงหยงซาน พวกเขาพึ่งพาอุปกรณ์ระบุตำแหน่งดาวเทียมและแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ในการแยกกันออกปฏิบัติการ

ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างจี้เฟิงและเซียงหยงซาน ก่อนต่อสู้หลักจะเป็นของกองพลปฏิบัติการพิเศษของเซียงหยงซานส่วนจี้เฟิงและคนอื่นๆจากกองพลเรดแอร์โรว์จะเป็นฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือกองพลปฏิบัติการพิเศษอีกทีหนึ่ง เช่นเดียวกับการจับปลาที่หลุดรอดผ่านตาข่ายออกมา แต่ส่วนที่เหลือจะจัดการยังไงคงไม่จำเป็นต้องถาม

สำหรับข้อตกลงนี้เซียงหยงซานเป็นฝ่ายเสนอ ซึ่งจี้เฟิงก็ตกลงเห็นด้วยไม่ได้มีการคัดค้านใดๆ

เพราะเขารู้ว่าพลทหารของทีมปฏิบัติการพิเศษได้ประสบกับการต่อสู้มาหลายร้อยครั้งแล้ว และพวกเขาก็มีประสบการณ์มากมายในการจัดการกับมนุษย์ดัดแปลง ซึ่งแตกต่างจากเหล่าทหารของกองพลเรดแอร์โรว์ในปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อลดข้อผิดพลาดและได้เรียนรู้ประสบการณ์ จี้เฟิงจึงตอบตกลง

อันที่จริง ถ้าวิเคราะห์แค่ความสามารถของทั้งสองทีม ทหารของทีมเรดแอร์โรว์จะเหมาะกับการต่อสู้และโจมตี พวกเขามีความสามารถส่วนตัวที่แข็งแกร่งกว่ากองพลปฏิบัติการพิเศษ อย่างที่รู้ กองพลเรดแอร์โรว์ได้เริ่มฝึกชุดยิมนาสติกที่จี้เฟิงเป็นคนถ่ายทอดมากว่าครึ่งปีแล้ว ดังนั้นในแง่ของสมรรถภาพทางกาย ทหารของหน่วยกองกำลังพิเศษจะด้อยกว่าทหารของกองพลเรดแอร์โรว์อยู่พอสมควร

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการต้องอยู่ในสนามรบ ความสามารถในการต่อสู้ส่วนบุคคลจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือความสามารถในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การสอดประสานงานต่างๆ ซึ่งกองพลเรดแอร์โรว์ก็ไม่ได้ขาดในสิ่งนี้ แต่พวกเขาขาดประสบการณ์ในการจัดการกับมนุษย์ดัดแปลง

จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ภายใต้แสงแดดอันร้อนแรงของพระอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา แม้ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างกิ้งก่าหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตในทะเลทราย พวกมันก็ไม่กล้าที่จะออกมาเดินรอบๆในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ดังนั้นจี้เฟิงจึงเชื่อว่าการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามจะผ่อนปรนลงในช่วงเวลานี้ และเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการโจมตี

ยิ่งไปกว่านั้น ในทะเลทรายโกบีนี้มีก้อนหินผุก่อนอยู่เป็นจำนวนมาก มีภูมิประเทศที่ไม่สม่ำเสมอกัน ซึ่งเอื้อต่อการหลบซ่อนตัว และดูเหมือนว่าเซียงหยงซานจะใช้ความพยายามอย่างมากในการเฟ้นหาเส้นทางในการบุกโจมตี ซึ่งเหมาะสมอย่างมาก

“อย่างแรก เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ถ้ามีโอกาส ก็พยายามจับมนุษย์ดัดแปลงในสภาพที่มีชีวิตอยู่มาให้ได้ซักสองสามคน แน่นอนว่าต้องเป็นในกรณีที่เรามั่นใจว่าพี่น้องของเราทุกคนไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย และถ้าหากมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็ยิงและฆ่าอีกฝ่ายได้เลยทันที สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัย เข้าใจมั้ย!”

กู่เฉาพูดขึ้นทันทีว่า “เหล่าซือ โปรดวางใจ ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจับมันทั้งเป็นให้ได้!”

ในความคิดของกู่เฉา ที่หัวหน้าน้อยต้องการจับมนุษย์ดัดแปลงมาเป็นๆ อาจไม่ต้องการให้กองพลปฏิบัติการพิเศษได้ผลงานอยู่ฝ่ายเดียว แต่ไม่ว่าจุดประสงค์ของหัวหน้าน้อยจะเป็นอะไร คำตอบของกู่เฉามีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ‘ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเฉียบขาด!’

“อีกอย่างที่ต้องจำไว้ให้ดี ถ้าเกิดเจอมนุษย์ดัดแปลงที่หนีรอดจากการโจมตีของกองพลปฏิบัติการพิเศษมาได้จริงๆ แล้วต้องเผชิญหน้ากับมัน คุณห้ามต่อสู้ระยะประชิดโดยเด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ใช้ปืนแก้ปัญหา ต่อให้คุณอยากจับมันมากแค่ไหน คุณต้องทำให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมดความสามารถในการต่อสู้แล้ว หลังจากนั้นถึงค่อยเข้าไปจับกุม เข้าใจมั้ย?!”

“ครับเหล่าซือ!” กู่เฉาถ่ายทอดคำสั่งของจี้เฟิงด้วยท่าทางพิเศษให้กับคนอื่นๆรับทราบทันที จากนั้นคนอื่นๆก็พากันพยักหน้าแสดงออกว่าพวกเขาเข้าใจและจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าอย่างพอใจ แม้ว่าเขาจะศึกษาภาษามือแบบพิเศษของกองกำลังพิเศษในช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องบินขนส่งทหารเท่านั้น แต่ด้วยความจำอันน่าสะพรึงกลัวของจี้เฟิง เขาได้จดจำสัญลักษณ์ที่ใช้กันโดยทั่วไปได้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่กล้าสั่งการกู่เฉาและคนอื่นๆได้อย่างง่ายดาย

การเป็นผู้บัญชาการในการรบไม่ใช่การแสดงศักดิ์ศรี แต่เพื่อชนะสงครามและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดของเขาปลอดภัย ส่วนผู้นำที่ไม่สนใจความปลอดภัยของผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง จะไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีอย่างแน่นอน

เวลาได้ล่วงเลยเข้ามาสู่ช่วงเที่ยงวัน อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ หากมองไปรอบๆจะสามารถเห็นไอร้อนที่ลอยขึ้นจากพื้นทรายได้อย่างชัดเจน ราวกับภาพตรงหน้ากำลังบิดเบี้ยว แม้แต่จี้เฟิงที่มีความสามารถพิเศษในการปรับสภาพร่างกายที่ไม่ธรรมดาก็ยังรู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่พุ่งเข้าใส่หน้าเขา ดังนั้นเขาจึงพอจะจินตนาการได้ว่าอุณหภูมิที่นี่นั้นสูงแค่ไหน

“ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด—!”

ทันใดนั้นนาฬิกาที่ข้อมือของจี้เฟิงก็ดังขึ้น เขายกมือขึ้นทันทีเพื่อมองมันและพูดเสียงเบาว่า “ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม สหายของเราส่งข้อความมาแล้ว! พวกเขาพร้อมที่จะบุกโจมตีแล้ว”

“ฟึ่บ—!”

จี้เฟิงและคนอื่นๆรีบคว้ากระเป๋าเป้ใบใหญ่ของตนเองมารูดซิปออกและหยิบอาวุธ อุปกรณ์และชุดอำพรางออกมา

“คลิก! คลิก!”

เกิดเสียงคลิกดังขึ้นติดๆกัน ทุกคนกำลังตรวจสอบอาวุธปืนไรเฟิลอัตโนมัติและจัดเตรียมอาวุธอื่นๆในมือของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

“ติ๊ด..!  ติ๊ด..!  ติ๊ด—!”

นาฬิกาของจี้เฟิงดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ระยะห่างของเสียงนั้นช้าขึ้นกว่าเดิม ทันใดนั้นจี้เฟิงก็หยุดชะงักทันที เสียงนี้หมายความว่าเซียงหยงซานและทีมของเขาได้เริ่มโจมตีแล้ว!

ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ เสียงร้องที่รวดเร็วของนาฬิกาหมายความว่าเซียงหยงซานและคนอื่นๆเข้าใกล้เป้าหมายแล้ว แต่ถ้าเป็นเสียงร้องที่ช้าแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาได้เริ่มการต่อสู้แล้ว และเป็นการต่อสู้อย่างกะทันหันด้วย!

“เริ่มแล้ว!” สีหน้าของจี้เฟิงเปลี่ยนไปทันที เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ทุกคน กระจายกำลังกันออกไป ติดต่อกันเรื่อยๆ และใส่ใจกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง!”

หลังจากพูดจบจี้เฟิงก็สวมหมวกเหล็กบนหัวของตัวเองก่อนก้าวออกไปเป็นคนแรกโดยถือปืนไรเฟิลอัตโนมัติไว้ในมือ และมุ่งตรงไปยังตำแหน่งเป้าหมายที่แสดงอยู่บนนาฬิกาอย่างรวดเร็ว

ทุกคนที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ มีนาฬิกาทหารมัลติฟังก์ชันที่หน้าจอเท่ากับครึ่งหนึ่งของขนาดฝ่ามือ ในนาฬิกานี้ยังบอกตำแหน่งดาวเทียม การติดตามสัญญาณ การสื่อสารระยะสั้นและการทำงานอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถป้อนแผนที่อิเล็กทรอนิกส์และกำหนดเป้าหมายได้ และระบบนำทางด้วยดาวเทียมจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเพื่อนำทางเจ้าของไปยังเป้าหมาย

“ไป!” กู่เฉาโบกมือแล้วรีบวิ่งออกไป

การเคลื่อนไหวของจี้เฟิงนั้นเงียบเชียบแต่รวดเร็วมาก เขาเข้าใกล้เป้าหมายไปตามหินผุกร่อนก้อนใหญ่ในทะเลทรายโกบี ห่างจากเขาไปไม่ไกล กู่เฉา หลิวซิ่นและคนอื่นๆตามเขามาอยู่ด้านหลัง แต่ละคนคอยสอดส่ายสายตาไปรอบๆคอยเฝ้าระวัง

เมื่อจี้เฟิงและคนอื่นๆเดินลึกเข้าไปมากขึ้น สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไป และดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้น

ท่ามกลางทะเลทรายโกบีที่แห้งแล้ง จู่ๆกลับมีกำแพงสูงใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้าจี้เฟิงและคนอื่นๆ

ความรู้สึกนี้มันราวกับว่า กำลังเดินเลาะตามก้อนหินผุกร่อนน้อยใหญ่ไปเรื่อยๆท่ามกลางทะเลทราย แต่ทันใดนั้นก็มีหน้าผาปรากฏขึ้นตรงหน้า

แม้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจี้เฟิงและคนอื่นๆจะไม่ใช่หน้าผาจริงๆ แต่มันเหมือนกับเกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นบนแผ่นดินนี้ อาจเป็นแผ่นดินไหวที่ทำให้ครึ่งหนึ่งของแผ่นดินเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างกะทันหัน เกิดเป็นรอยเลื่อนที่มีความสูงถึงสิบเมตร!

ก่อนหน้านี้การตรวจสอบภูมิประเทศของจี้เฟิงและคนอื่นๆไม่ได้พบรอยเลื่อนนี้จากระยะไกล และรอยเลื่อนนี้ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเดินทางไปด้านหน้าของพวกเขา

“เหล่าซือครับ เราอ้อมไปกันดีมั้ยครับ!” กู่เฉาวิ่งเข้ามาหาจี้เฟิงและพูดด้วยเสียงต่ำ “เราไม่มีเครื่องมือสำหรับปีนเขา มันสูงเกินไปพวกเราไม่น่าจะปืนขึ้นไปได้นะครับ!”

จี้เฟิงมองไปรอบๆ รอยเลื่อนที่สูงเหมือนกับหน้าผานี้ ดูเหมือนว่าอย่างน้อยๆมันน่าจะยาวออกไปสองสามกิโลเมตร และจะใช้เวลานานเกินไปหากเลือกที่จะเดินอ้อมไป

“ปัง—!”

“เดี๋ยวนะ!”

ทันใดนั้นจี้เฟิงก็ตัวแข็งทื่อ ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงของการต่อสู้

สายตาของจี้เฟิงหันกลับมาจ้องมองหน้ารอยเลื่อนสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เขามองมันด้วยความตกใจ คิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้น

“เสียงนี้ดูเหมือน... ดังออกมาจากข้างในรอยเลื่อนนี้?” จี้เฟิงเอ่ยถามออกมาอย่างลังเล

…จบบทที่ 658~❤️

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด