ตอนที่แล้วCD บทที่ 40 ทำไมคุณไม่สวมถุงมือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 42 หลุมในสุสาน

CD บทที่ 41 อาชญกรรมที่สมบูรณ์แบบ


“ผมมาที่นี่เพื่อตรวจสอบ ไม่ได้มาเก็บหลักฐานนะครับ” จ้าวหยู่แถไปมั่ว ๆ “ทำไมผมต้องใส่ถุงมือกันด้วย? ไม่ต้องห่วง ลูกสาวคุณไม่ใช่เชอร์ล็อคโฮมซะหน่อย เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นอะไรหรอกครับ!”

เมื่อพูดจบเขาก็เข้าไปในห้องโดยไม่สนใจคำเตือนของหญิงชราแล้วหันกลับมาสนใจกองหนังสือตรงหน้านี้อีกครั้ง จ้าวหยู่สุ่มเลือกหยิบขึ้นมาเล่มหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก ขณะที่จ้าวหยู่พลิกหน้ากระดาษไปมาเขาพบว่าด้านในมีการจดโน้ตเอาไว้อยู่มากมาย ลายมือของหลี่แดนทั้งสะอาดและเขียนได้อย่างเป็นระเบียบ การมองผ่านแค่แปบเดียวก็สามารถบอกได้ทันทีว่าเธอเป็นคนที่ละเอียดอ่อนและใส่ใจในทุก ๆ อย่างมากขนาดไหน

จ้าวหยู่เปิดหนังสืออีกสองสามเล่มดูเพิ่มเติม ทั้งหมดต่างถูกเน้นด้วยปากกาเน้นข้อความไว้เหมือน ๆ กัน เขาเอ่ยถามข้อมูลกับหญิงชราที่อยู่ตรงหน้าประตูว่า

“ลูกสาวของคุณเรียนเภสัชมาหรือครับ? ทำไมมีหนังสือพวกเภสัชพวกยาแบบนี้เยอะจัง?”

“ไม่จ๊ะ เธอไม่ได้เรียนด้านนี้เลย” เธอตอบอย่างมั่นใจ “แต่เมื่อหลายปีก่อน เธอทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ที่ค่อนข้างมีชื่อมากแห่งหนึ่ง ดันดันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหมอน่ะจ๊ะ ดังนั้นเธอคงมีหนังสือพวกนั้นเอาไว้เรียนรู้ด้วยตัวเองล่ะมั้ง”

‘อะไรนะ?! โรงพยาบาลสัตว์?!’ จ้าวหยู่ตะโกนร้องตกใจอยู่ภายในหัวเขาเอง เขาตกใจกับการค้นพบใหม่ทุกครั้งที่เขาทำ ยาระงับความรู้สึกที่คนร้ายใช้ในคดีคือยาชนิดเดียวกันกับที่ใช้กับสัตว์และแหล่งที่มาของยานั้นก็มาจากโรงพยาบาลสัตว์อีกด้วย!

‘นี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแล้ว?! หลี่ดันนี่แหละ…เธอต้องเป็นคนร้ายอย่างแน่นอน’ จ้าวหยู่คิด เขาวางหนังสือกลับที่เดิมและลอบมองสังเกตไปทั่วห้อง ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขามีข้อสงสัยอะไรบางจุดที่สำคัญมากภายในห้องนี้

“คุณป้าครับ!” จ้าวหยู่คิดไม่ทันไรเขาก็เอ่ยถามหญิงชราอีกครั้ง “บ้านของคุณมีอินเตอร์เน็ตติดตั้งไว้ด้วยไหมครับ?”

“โอ้ มีสิจ๊ะแต่ฉันไม่ได้ใช้หรอกนะ มีแต่ลูกสาวฉันเท่านั้นแหละที่ใช้มัน” เธอตอบกลับ

“แล้วคอมพิวเตอร์ล่ะครับ? คุณมีหรือเปล่า?”

“รู้สึกว่าลูกสาวฉันจะมีแล็ปท็อบอยู่เครื่องหนึ่งนะ เธอจะพกติดตัวไปไหนมาไหนเสมอ มันเลยไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะ”

“ถ้างั้น…” จ้าวหยู่ชี้ไปที่ห้อง “เธอไม่มีโต๊ะเขียนหนังสือตั้งอยู่ที่ห้องด้วย แล้วเธอจะใช้แล็ปท็อปยังไงกัน? หรือเธอใช้ขณะนอนอยู่บนเตียง?”

“ใช่แล้วจ๊ะ เธอใช้มันบนเตียงเป็นประจำ” หญิงชราตอบแบบไม่ปิดบังอะไร “ไม่แค่เฉพาะตอนใช้แล็ปท็อปนะ ไม่ว่าจะเป็นตอนอ่านหนังสือหรือเขียนหนังสือ เธอมักทำขณะนอนอยู่บนเตียงทั้งนั้นแหละจ๊ะ โอ้ เกือบลืมไป ที่ใต้เตียงของเธอมีเอกสารกอง ๆ อยู่เยอะมาก ฉันมักจะเห็นเธอขีดเขียนอะไรเป็นประจำ แล้วก็ยังมีพวกรูปถ่ายด้วยนะ”

“โอ้ งั้นหรือครับ” จ้าวหยู่พยักหน้ารับตาม ไม่กี่นาทีต่อมาเขาถึงเข้าใจความหมายของเธอ “อะไรนะ! เมื่อกี๊คุณพูดว่าอะไรนะครับ? ที่ใต้เตียงงั้นหรือ?” จ้าวหยู่ตกใจจนเผลอทำตาโต เขาเอ่ยถามออกไปว่า “เธอเขียนว่าอะไรครับ?”

“เอ่อ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ฉันแค่บังเอิญเดินผ่านแล้วเห็นก็เท่านั้นเอง เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเดินผ่าน เธอมักจะคุกเข่าอยู่บนเตียงแล้วก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าที่จริงจังตลอด ฉันเห็นผ่านช่องประตูแตก ๆ นั่นแหละจ๊ะ” หญิงชราพูดตะกุกตะกักไปหมด เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังพูดอะไรออกไปกันแน่

“อ่า...” จ้าวหยู่ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปใกล้เตียงนอนมากขึ้น เขาพยายามยกที่นอนขึ้นแล้วดูสิ่งของใต้เตียง

“คุณตำรวจ!!” หญิงชราตกตะลึง เธอรีบเข้าไปขวางทางจ้าวหยู่เอาไว้ทันที “ลูกสาวฉันเธอมีสายตาที่ดีมาก! ได้โปรดอย่าเคลื่อนย้ายเตียงเลยนะ เธอจะสังเกตเห็นมันได้อย่างแน่นอน!”

“คุณครับ!!” จ้าวหยู่ตะโกนใส่เธอด้วยความไม่สบายใจ “นี่คุณไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่หรือครับ? คุณยังคงคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่อีกหรือ? สิ่งที่ลูกสาวคุณเขียนเอาไว้อาจส่งผลกระทบทั้งตัวคุณเองและลูกสาวคุณก็ได้ คุณยังต้องการหยุดผมต่ออีกงั้นหรือครับ?”

เมื่อเห็นท่าทางของจ้าวหยู่ที่กระวนกระวายใจ ในที่สุดหญิงชราก็ตระหนักได้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญไปกว่ากัน เธอผละออกจากจ้าวหยู่แล้วเดินกลับไปที่หน้าประตูห้องตามเดิม

จ้าวหยู่คว้ามุมของฝาครอบเตียงเอาไว้แล้วพลิกมันขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อยกเสร็จจ้าวหยู่ต้องตกใจกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็น ข้างใต้นั้นมีกระดาษเอกสารที่ถูกเขียนเอาไว้มากมายอยู่รวมกันมีทั้งแผ่นที่ถูกเขียนเอาไว้ แผ่นที่มีรูปประกอบมีแม้กระทั่งเอกสารที่คัดลอกต้นฉบับไว้อีกด้วย!

สิ่งที่เขาเห็นมันเหมือนกับไวท์บอร์ดที่ทางตำรวจใช้วิเคราะห์ข้อมูลคดีที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ แต่มันมีข้อมูลและรายละเอียดที่ยิบย่อยมากยิ่งกว่า ปริมาณข้อมูลของหลี่ดันมีมากกว่าทางตำรวจในตอนนี้เสียอีก!!

‘เชี่ย!’ ในขณะนั้น จ้าวหยู่รู้สึกได้ว่าหัวใจเขากำลังเต้นด้วยความบ้าคลั่งมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาสามารถรับรู้ได้ว่าอะดรีนาลีนภายในตัวเขากำลังทำงานอย่างเต็มที่ขนาดไหน แม้จะไม่ได้มองอย่างใกล้ชิดแต่เพียงแค่เห็นรูปจากกองกระดาษเหล่านั้นเขาก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเธอเป็นเด็กอัจฉริยะที่แท้จริง!

หลี่ดันคือคนร้ายในคดีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!!

ในกระดาษนั้นมีภาพของเกาเทียน หยวนหลี่ลี่และหลัวเหม่ยนา ข้างภาพพวกเธอมีข้อมูลระบุไว้พร้อมทำเครื่องหมายสีดำเห็นได้ชัดว่าหลี่แดนทำการค้นข้อมูลพวกเธออย่างระเอียดเป็นอย่างดี

จ้าวหยู่ดันฝาครอบเตียงออกไปไว้ด้านข้าง เพื่อจะได้มองกระดาษเหล่านั้นได้ชัด ๆ เขาเห็นว่าภายใต้รูปของเกาเทียนถูกพิมพ์ออกมาด้วยภาพขาว–ดำเป็นรูปช่องระบายอากาศ ในใต้รูปนั้นก็จะมีข้อมูลที่อธิบายถึงวันที่และตำแหน่งเพิ่มเติม ข้อมูลทั้งหมดตรงกับข้อมูลคดีของเกาเทียนไม่มีผิด ใครพบเห็นก็สามารถบอกได้เลยว่าหลี่ดันนี่แหละคือคนที่ตัดมือเธอไป!

“พระเจ้า!”

เข้าพลิกข้อมูลดูและตระหนักได้ว่าเขาได้จุดเชื่อมต่อทุกจุดในคดีมือที่หายไปแล้วเรียบร้อยแล้ว! เมื่อเขาเข้าใจกลไกวิธีการของหลี่ดันเขาก็ต้องตกตะลึงกับมันเข้าอีกครั้ง แผนของหลี่ดันมีรายละเอียดที่ค่อนข้างจะบ้ามาก เรียกได้ว่าเธอสามารถสร้างอาชญากรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ!

เธอใช้เวลาวางแผนเอาไว้หลายเดือนก่อนที่เธอจะเริ่มดำเนินตามแผน ดูได้จากกรณีของเกาเทียนเป็นตัวอย่าง หลี่ดันรู้ว่าเธอจะต้องเข้าร่วมงานดนตรีที่ฉินชานนี้ รู้แม้กระทั่งหมายเลขที่นั่งของเธอ เธอรู้ดีว่าเมื่องานจบลงก้าวเทียนจะต้องใช้เส้นทางอุโมงค์ใต้ดินและเส้นนั้นก็ไม่มีกล้องวงจรปิด เนื่องจากเธอนั่งใกล้กับหน้า

เวทีมาก เธอเลยเดินออกมาเป็นคนท้าย ๆ จากกลุ่มผู้ชมที่ไปชมงานนั้น

จ้าวหยู่คาดว่าหลี่ดันเองก็ซื้อตั๋วเข้าชมตามเกาเทียนไป เมื่องานจบลง ขณะที่ก้าวเทียนเดินไปทางอุโมงค์ใต้ดิน หลี่ดันก็ทำให้เธอหมดสติไปโดยที่ไม่ทันมีใครได้สังเกตเห็น เธอลากเกาเทียนไปที่ห้องควบคุมก่อนจะลงมือฉีดยาชาแล้วทำการตัดมือของก้าวเทียนออก!

สิ่งที่บ้าที่สุดคือหลี่ดันไม่ได้รีบทำการหลบหนีแต่อย่างใด แต่เธอเลือกเดินไปที่ช่องระบายอากาศของอีกฟากหนึ่งแทน หลี่ดันรอจนกระทั่งรุ่งสางแล้วคลานตามช่องกลับไปที่อุโมงค์อีกครั้งเพื่อทำการหลบหนีไปยังตึกใกล้ ๆ ทางออก

เธอทำตัวเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่กำลังจะออกไปทำงาน เธอเตรียมเครื่องแบบมาไว้เป็นอย่างดี เมื่อเธอเดินออกไปรวมกับกลุ่มฝูงชนจึงไม่มีความแปลกแยกใด ๆ ถ้าทางตำรวจไม่ได้สังเกตให้ดีจะไม่มีทางเห็นคนน่าสงสัยใด ๆ ได้เลย

และยิ่งกว่าการหลบหนีจากกล้องวงจรปิดได้คือการที่เธอนำภาชนะและสารกันบูดมาเพื่อซ่อนมือขวาของก้าวเทียนเอาไว้ สองเดือนให้หลังเธอถึงค่อยกลับไปตามหามัน

ขั้นต้นคูปิงสรุปว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางสำรองเพื่อหลบหนี แต่เนื่องจากห้องระบายอากาศถูกปิดล็อคเอาไว้เธอเลยไม่ได้ไปตรวจสอบที่นั่นด้วย

แค่กรณีของเกาเทียนจ้าวหยู่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันเหลือเชื่อเกินกว่ารับได้ไปมากแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นข้อมูลของเหยื่ออีกราย หยวนหลีลี่ ยิ่งทำให้เขาต้องตกใจมากยิ่งกว่าเดิม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด