ตอนที่แล้วบทที่ 39 สิ่งที่แย่คือความคิดเห็นส่วนรวม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 นี่คือเล้าหมูจริงๆเหรอ?

บทที่ 40 เจ้าคนเย็นชา


บทที่ 40

เจ้าคนเย็นชา

ในตอนเที่ยง เซียวหลีก็ได้นำลูกบดมาทุบบดแกลบอยู่สักพักหนึ่ง แต่กลับทำให้นางเหนื่อยและเหงื่อท่วมอย่างมาก

“อ๊ะ พี่เยี่ย....” พอดีเห็นเยี่ยเหลียงเฉินที่กำลังจูงม้าออกไป นางจึงได้เรียกเขา

แต่เยี่ยเหลียงเฉินนั้นกลับตัวสั่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงของนาง เพราะการถูกผู้หญิงคนนี้เรียกนั้นไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขา อย่างไรเสียก็ดูเหมือนว่านายท่านนั้นจะไม่ชอบที่เขาไปสนิทสนมกับนางมากนัก

ด้วยความที่เขาอาศัยอยู่ห้องข้างๆนั้นและยังมีหูที่ดี ทำให้เขาได้ยินคร่าวๆว่านายท่านของเขานั้นคิดที่จะพาผู้หญิงคนนี้กลับไปที่ตำหนักของเขาด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหรงสวินนั้นเห็นในความสามารถด้านการแพทย์ของนางหรือว่ามีแผนอื่นอยู่ในใจกันแน่

ตัวเขานั้นไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องของนายท่าน และไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปยุ่งด้วยหลังจากที่ถูกเตือนเมื่อคืนนี้

“พี่เยี่ย อย่าเพิ่งไปสิ” เซียวหลีเรียกเขาแต่ก็เหมือนกับเขาไม่ได้ยินและเดินหนีไปจึงได้คว้าเขาเอาไว้ “พี่เยี่ย ช่วยอะไรข้าหน่อยสิ....”

“แม่นางเซียว ข้าขอโทษด้วยข้ามีธุระอื่นต้องทำ ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้จริงๆ” เขานั้นคิดที่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นแล้วเดินจากไป แต่ผิดคาดที่ผู้หญิงคนนี้ดันมาคว้าตัวเขาเอาไว้ แต่จะไปว่านางก็ไม่ได้เพราะอย่างไรเสียนางก็ไม่ใช่หญิงที่มีสามีแล้วที่คอยโปรยเสน่ห์แก่ชายอื่นที่จะทำให้ตัวเขาต้องรังเกียจนางเสียเมื่อไหร่

เซียวหลีที่ก็ตอบกลับมาอย่างไม่เชื่อ “ก็แค่ปล่อยม้าไปกินหญ้าไม่ใช่รึไง?”

“นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันนะ”

เซียวหลีก็ได้ยิ้ม “พี่เยี่ย ข้าเห็นว่าท่านเป็นชายที่ทรงพลังกล้ามโต ท่านพอจะช่วยขาทุบแกลบพวกนี้ได้หรือไม่? อย่างที่เห็นมือของข้ามันพังไปหมดแล้ว”

นางแบมือออกมาตรงหน้าเขาทั้งแดงและพุพอง ถึงนางจะไม่ได้หลั่งน้ำตาออกมา แต่นางก็ดูน่าสงสารมากจนยากที่จะปฏิเสธไหว

เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้มองไปที่กองแกลบอย่างไม่มีเหตุผล แล้วสงสัยว่ามีประโยชน์อะไรที่จะต้องบดแกลบพวกนี้ให้เป็นผงด้วย? จะต้องมีอะไรผิดปกติกับหัวของนางเป็นแน่

เขาจึงได้คิดที่จะปฏิเสธอย่างโหดเหี้ยม

“ก็ดีนะ เจ้าก็รับทำให้นางซะสิ”

ด้านหลังของเขา หรงสวินที่ออกมาจัดการธุระของตัวเองก็ได้เข็นรถเข็นออกมา แล้วเขาก็บังเอิญได้ยินที่เซียวหลีกำลังออดอ้อนเข้า

“ขอรับนายท่าน” เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้ตอบอย่างช่วยไม่ได้ ในเวลานี้เขาเหมือนถือมีดด้วยสองมือ

เขาไม่รู้เลยว่านายท่านนั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

ในขณะที่เซียวหลีกำลังยินดีอยู่นั้น นางก็แอบประหลาดใจที่เจ้าผีเลือดเย็นคนนั้นนึกยังไงถึงได้ช่วยนางกัน?

“ขอบคุณ พี่เยี่ยมากๆ”

เยี่ยเหลียงเฉิงก็ได้ผงกหัวตอบอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็ได้รับงานของเซียวหลีมาและบดต่อให้

เขานั้นตั้งมั่นในใจไว้แล้วแท้ๆว่า มันจะเป็นการฉลาดกว่าที่จะอยู่ให้ห่างๆเซียวหลี แต่สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้น

“ขอบคุณคุณชายด้วย”

หรงสวินได้เดินมาใกล้ๆนาง นางจึงได้ขอบคุณเขาอย่างเย็นชา

มือของนางนั้นเคยจับแต่ยา, เข็มเงินและมีดผ่าตัด นอกจากนี้แผลของนางก็ยังไม่หายดีมันรู้สึกเจ็บปวดไปหมดยามที่ต้องทำอะไร

“เจ้าจะทำอะไรไร้ประโยชน์เช่นนี้ไปทำไม?” หรงสวินก็ได้ถามอย่างไม่ใช่ และมองไปที่ครกเก่าๆใส่แกลบที่เยี่ยเหลียงเฉินกำลังทุบ

เซียวหลีก็ได้มองไปที่หรงสวินแล้วกล่าว “ข้าบอกท่านไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร? ทำไมข้าต้องบอกท่านด้วย?”

“อ้อเหรอ?” หรงสวินก็ได้มองไปที่เยี่ยเหลียงเฉินและคิดที่จะเปิดปากขึ้นมา แต่เซียวหลีก็ได้รีบพูดขึ้นมาก่อน “มันเป็นการพนันกันระหว่างท่านกับข้าไม่ใช่รึไง?”

นาข้าว 1 หมู่จะต้องได้ข้าว 500 ชั่ง

“ด้วยวิธีนี้จะสามารถทำให้เจ้าได้ข้าวจาก 145 ชั่งต่อหมู่ เป็น 500 ชั่งต่อหมู่อย่างนั้นเหรอ?” หรงสวินก็ได้ยิ้มสดใส

ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเซียวหลีนั้นยังไงก็แพ้ แต่เขาก็ยังรู้สึกสงสัยกับสิ่งแปลกๆที่อยู่ในหัวของนางอยู่ดี

“ใช่ นอกจากภัยธรรมชาติและภัยที่มนุษย์ทำแล้ว นาของข้าก็จะปลูกข้าวได้ 500 ชั่งต่อหมู่ในปีนี้” เซียวหลียิ้มให้หรงสวิน “ว่าแต่พี่เยี่ยนี่เป็นคนคุ้มกันส่วนตัวของท่านเหรอ?”

หรงสวินไม่ตอบคำถาม และสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดทำอะไรอยู่กันแน่?

“ถ้าหากคิดจะช่วยคนแล้วก็ควรช่วยให้ถึงที่สุดว่ายังไง?”

หรงสวินก็ได้มองไปที่นาง “เจ้ามั่นใจเหลือเกินนะว่าข้าจะช่วยเจ้าน่ะ?”

เซียวหลีก็ได้มองไปที่เยี่ยเหลียงเฉินเป็นเชิงบอกว่า: นางกำลังขอให้เยี่ยเหลียงเฉินช่วยอยู่ไม่ใช่รึไง?

“ช่วยข้าขุดหลุมใหญ่ๆตรงนั้นแล้วก็ทำเล้าหมูให้ข้าทีสิ”

“แค่ทำเป็นเล้าก็น่าจะพอ ทำไมจะต้องขุดเป็นหลุมด้วย?”

“เอาน่า”

“เยี่ยเหลียงเฉินเป็นเหมือนพี่น้องของข้านะ ไม่ใช่ข้ารับใช้ธรรมดาๆ”

เซียวหลีก็ได้ยิ้มแล้วผงกหัว “รู้แล้วๆ”

หรงสวินก็ยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “ข้าคิดว่าเห็นข้าเป็นเหมือนตัวทำเงินตั้งแต่ที่ข้ามาที่บ้านของเจ้า แล้วตอนนี้ยังจะใช้คนของข้าด้วยอีกเหรอ? มันจะไม่สะดวกสบายไปหน่อยรึไง?”

เซียวหลีก็ได้ไม่เห็นด้วยแล้วกล่าว “อย่างแรกเลยนะเจ้ามาที่นี่ก็เพื่อรักษาขาของเจ้า ซึ่งไม่ว่ามันจะรักษาหายหรือไม่ค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ก็สมควรต้องจ่ายอยู่แล้ว และยิ่งไม่ต้องพูดถึงค่ายาและค่ารักษา สองเจ้าอยู่ที่นี่ด้วยกัน ข้ารักษาขาของเจ้าก็ไม่ได้หมายความว่าข้าเป็นผู้ติดตามหรือข้ารับใช้ของเจ้า หากมีบางอย่างที่ช่วยได้ก็ควรจะช่วยเหลือกันสิ”

“แต่ข้าจ่ายเงินให้นะ”

“เงินที่ท่านจ่ายมันเป็นแค่ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเท่านั้น ไม่ใช้ค่าที่ข้าต้องคอยดูแลท่าน ท่านก็เห็นแล้วนี่ที่ท่านกิน, ดื่มและนอนตลอดวันนี้ ก็เป็นที่ทางครอบครัวของข้าจัดหามาให้ เงินน้อยนิดแค่นั้นจะไปพอได้อย่างไร?”

“ครอบครัวอื่นๆเขามีรายได้แค่ 4-5 ตำลึงต่อปีเท่านั้น แต่ข้าให้เจ้าไปตั้ง 10 ตำลึงทองเลยนะ!”

“แต่ทั้งปลาทั้งเนื้อที่ท่านกินทุกวันนี้ ท่านกล้าพูดไหมว่ามันแย่กว่าที่ร้านฉู่ฉู่หลิวเซียงน่ะ? การบริการต่างกันค่าใช้จ่ายก็ต้องต่างกันสิ”

“พูดอะไรไร้เหตุผลสิ้นดี....”

จริงๆนี่ยังแค่เล็กน้อย การบริการในยุคปัจจุบันนั้น, หากโดนติหรือให้ความเห็นในแง่ลบเมื่อไร ก็เตรียมตัวตกงานได้เลย

“เอาอย่างนี้ไหม? ท่านไปที่ตลาดพรุ่งนี้แล้วไปซื้อวัตถุดิบทำกับข้าวมาเอง หรือไม่งั้นก็ให้ทุกคนกินกันแต่ผักกาดขาวว่ายังไง?”

“เจ้า  เจ้ายังเป็นผู้หญิงอยู่ไหมเนี่ย?”

“ท่านจะลองแตะตัวข้าดูก็ได้นะว่าข้าเป็นผู้หญิงหรือเปล่า?”

“ช่างไร้ยางอายจริงๆ เจ้าไม่กลัวบ้างหรือไงว่าถ้าเกิดข้าแข็งขืนขึ้นมาและไม่ต้องการการรักษาจากเจ้า เจ้าก็จะต้องใช้ชีวิตที่ยากจนโดยปราศจากตัวทำเงินอย่างข้าน่ะ?”

“ตายจริง ท่านพูดออกมาเองแล้วนะว่าท่านเป็นตัวทำเงินน่ะ”

...........

“เมื่อสักครู่พวกเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่นะ?” หรงสวินที่เกือบจะโมโหใส่เซียวหลีนั้น ก็ได้สงสัยขึ้นมาว่าทำไมเขาถึงทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้กันนะ? เหมือนเอาหัวของเขาจุ่มลงน้ำมาไม่มีผิด?

“ข้ากำลังบอกให้พี่เยี่ยขุดหลุมให้ข้า”

“เหมือนคิดอะไรสวยหรู แต่กลับพูดอะไรโง่....” แต่เขาพูดออกมายังไม่ทันจบ

“นายท่าน....” เยี่ยเหลียงเฉินที่อยู่ไกลออกไปก็เริ่มทนฟังทั้งสองคนทะเลาะกันต่อไปไม่ไหวจึงต้องพูดขัดขึ้นมา “นายท่าน ข้ามีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ ตราบเท่าที่แม่นางเซียวช่วยรักษาขาให้ท่าน ถ้าหากข้าช่วยนางได้ข้าก็ยินดีช่วย”

ดวงตาของหรงสวินก็ได้เบิกกว้างขึ้นมา หรือว่า              เยี่ยเหลียงเฉินเห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่งั้นเหรอ?

ถ้าเช่นนั้น....

“ก็ได้ ข้าขอสั่งให้เจ้าทำทั้งหมดให้เสร็จพรุ่งนี้เช้าตามที่แม่....หมาเซียวสั่งก็แล้วกัน” หรงสวินกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา

“เจ้าว่าใครเป็นหมากัน? เจ้าคนเย็นชานี่”

“ใครก็ได้ที่เห่าน่ะ” หรงสวินกล่าวด้วยความโมโหแล้วก็เข็นรถเข็นตัวเองกลับเข้าไปในบ้านของเซียวเยี่ยน

“เจ้า....โอ๊ย!” เซียวหลีที่เตรียมจะไปทะเลาะด้วยต่อนั้น ก็ไม่รู้ว่าโดนอาวุธลับอะไรของหรงสวินพุ่งมาโดนที่ขาของนาง จนนางนั้นเกือบจะน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บ นางจึงได้ฝืนทนและต่อว่าเขา “เจ้าคนเย็นชา!”

“นายท่าน....” เยี่ยเหลียงเฉินนั้นไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อน นายท่านของเขาโกรธจัดเช่นนี้แต่กลับปล่อยนางไปง่ายๆ แต่อย่างไรก็ได้เขาก็เห็นเซียวหลีนั้นเอามือกุมขาของนางข้างหนึ่งอยู่

เอาเถอะ อย่างไรเสียนางก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมจะต้องไปใส่ใจอะไรมากกับผู้หญิงคนเดียวกัน?

เพียงแต่....

รีบจัดการทุบแกลบนี่ให้เสร็จดีกว่า ยังมีเล้าต้องทำและหลุมที่ยังไม่ได้ขุดอีก

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เขาก็บังเอิญไปเห็นเซียวหลีที่ถกขากางเกงขึ้นมาและเผยขาและเท้าขาวๆของนางกลางวันแสกๆท่ามกลางแสงตะวัน

ถึงแม้ว่าจารีตของรัฐต้าฉู่นั้นจะเปิดกว้างกว่าที่อื่น แต่ก็ไม่มีใครที่กล้าถกขากางเกงขึ้นมาต่อหน้าผู้ชายเช่นนี้ หัวใจของเยี่ยเหลียงเฉินก็ได้เต้นเร็วขึ้นมาทันที แล้วรีบเดินหนีไปราวกับกระต่ายวิ่ง

เซียวหลีที่เงยหน้าขึ้นมามองเมื่อนางได้ยินเสียงเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้แต่คิดว่าคนโบราณนี่ทำตัวแปลกๆกันจริงๆ

หรงสวินก็ทำไว้เจ็บแสบจริงๆ เขาของนางนั้นแดงขึ้นมาเพราะก้อนหิน ซึ่งขาไม่หักหรือเลือดออกแต่อย่างใด และนางก็ยังพอเดินได้

แต่นางก็ได้จดจำแค้นนี้เอาไว้ สิบปีก็ยังไม่สายสำหรับนางที่จะล้างแค้น และเอาไว้รอตอนฝังเข็มในคืนนี้เถอะ

ในเวลานี้เซียวหลีได้หยิบเอากิ่งไม้ขึ้นมาแล้วขีดเขี่ยลงไปที่พื้นแล้ววาดเป็นภาพร่างออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด