ตอนที่แล้วบทที่ 32 ทั้งรวยและขี้เหนียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมมาก

บทที่ 33 ข้าไม่ใช่ยักษ์


บทที่ 33

ข้าไม่ใช่ยักษ์

“แต่ถ้าท่านไม่ช่วยข้าข้าก็จะซื้อที่ดินไม่ได้ และเมื่อข้าซื้อที่ไม่ได้ข้าก็จะอารมณ์ไม่ดี และบางทีข้าจะไม่รับรักษาขาของท่านก็ได้นะ”

นางกล่าวพลางกับมองดูสีหน้าของหรงสวิน แต่ก็ผิดน่าเสียดายที่ไม่มีการเคลื่อนไหวบนใบหน้าของหรงสวินเลยแม้แต่น้อย

หรือนางควรจะทำอย่างไรกับเขาดี? จะยั่วยวนหรือหลอกลวงดี?

เพื่อที่จะขจัดความจนให้ได้ เซียวหลีก็ได้พูดในใจ “เก็บเอาเรื่องมารยาท, ศีลธรรมและความอายเก็บเอาไว้ก่อนแล้วกัน”

“นี่พี่ชาย ท่านช่วยจ่ายค่ารักษามาก่อนได้ไหม? ไม่มากหรอกนักก็แค่ 20 ตำลึงเท่านั้นเอง” เซียวหลีก็ได้ส่งสายตายั่วยวนไปที่เขา แต่ก็เขากลับเมินเฉยอย่างรวดเร็ว

“นี่เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถยั่วยวนข้าได้อย่างนั้นเหรอ?” หรงสวินก็ได้ถามกลับอย่างเย็นชา “นอกจากนี้เจ้าคิดว่าข้านั้นเป็นคนที่หมกมุ่นในเรื่องอย่างว่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เซียวหลีก็ได้ตกใจ “ท่านไม่ใช่คนแบบนั้นเหรอ?”

หรงสวินก็ได้ทำสีหน้าประชดประชันแล้วในมือของเขาที่มีกระจกทองแดงตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ก็ได้ยื่นให้เซียวหลี “เจ้าดูเองละกันว่าเจ้ามีค่าพอไหม? ยัยผู้หญิงหน้าเหลือง?”

คำพูดเหล่านี้แม้จะเจ็บปวดมาก แต่พอนางเห็นใบหน้าของตัวเองบนกระจกแล้วก็พบว่านางมีใบหน้าบ้านๆและมีผิวเหลืองและซูบผอม....

“แต่ถ้าเป็นในฐานะเพื่อนแล้ว เจ้าก็ย่อมจะช่วยข้าได้ใช่ไหม?”

“แม่ของเจ้าก็บอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าเอาแค่ที่ไร่สองแปลงก็ได้น่ะ”

“ก็ข้าอยากที่จะทำนานี่นา เพื่อที่ข้าจะได้หาเลี้ยงครอบครัวของข้าตลอดทั้งปี เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรถ้าข้าไม่สามารถหาเลี้ยงครอบครัวของข้าตลอดทั้งปีได้น่ะ?”

หรงสวินก็รู้สึกได้ว่ามันเหลวไหลเอามากๆ “นี่เจ้ารู้ไหมว่าต้องใช้ที่ไร่มากขนาดไหนถึงจะหาเลี้ยงทั้งปีได้น่ะ?”

“ครอบครัวของข้านั้นมีแต่ผู้หญิง ดังนั้นพวกเรากินกันไม่มากนักหรอก ดังนั้นพวกเราสามารถใช้หากินได้ทั้งปีแน่นอน”

มีบ้านอื่นที่มีพื้นที่น่าตั้งหลายหมู่แต่ก็ยังหาเลี้ยงคนในครอบครัวตลอดปีไม่ได้เลย ช่างไร้ยางอายเสียจริงๆ

“ท่านไม่เชื่อข้าอย่างนั้นเหรอ?”

หรงสวินได้ตอบรับเป็นนัยๆ

“ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็มาพนันกันดีกว่าท่านให้ข้ายืม 20 ตำลึงเพื่อไปซื้อที่ก่อน แล้วข้าก็จะใช้ที่ดินนั้นปลูกข้าว นอกจากภัยธรรมชาติและที่คนทำขึ้นมาแล้ว ถ้าหากข้าไม่สามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ถึง 500 ชั่งแล้วจะถือว่าข้าแพ้ และข้าจะลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าหากข้าชนะข้าก็จะคิดเพิ่ม 50 ตำลึงว่ายังไง?”

“เจ้ามั่นใจแล้วเหรอ?” หรงสวินก็ได้มองไปที่เซียวหลีที่มีสีหน้าจริงจังมาก แต่ก็ยังเชื่อไม่ลงอยู่ดี

การเก็บเกี่ยวข้าวนั้นก็มีแต่จะลดลงเรื่อยๆนับตั้งแต่มีการปลูกข้าวมา ดังนั้นเขาจึงชนะใสๆอยู่แล้ว

“แล้วทำไมข้าจะต้องพนันกับเจ้าด้วย?”

“ท่านคิดจะต่อรองเหรอ?” เซียวหลีถามกลับ นางนั้นรู้ดีว่าที่ไร่ทางตะวันออกนั้นอุดมสมบูรณ์และมีน้ำไหลผ่านอย่างพอเพียง ถึงแม้ว่าการเก็บเกี่ยวนั้นจะสู้กับข้าวที่ดัดแปลงพันธุกรรมแล้วไม่ได้ แต่ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดกับการเก็บเกี่ยวข้าวให้ได้ 500 ชั่งด้วยการใช้เทคนิคการปลูกข้าวในปัจจุบัน

นอกจากนี้ทักษะชีววิทยาของนางเองก็ดีด้วย เมื่อข้าวโตขึ้นมานางก็จะใช้เทคนิคที่ได้มาจากบิดาแห่งข้าวลูกผสมมาผสมเอาพันธุกรรมข้าวธรรมดานี้ผสมเข้ากับข้าวที่เกสรเพศผู้เป็นหมัน แล้วจากนั้น......

ฮ่าๆ แทบไม่อยากจะคิดเลยว่า นางจะต้องกลายเป็นวีรบุรุษของโลกนี้แน่....

หรงสวินก็ได้ปฏิเสธ “เจ้าคิดว่าข้าดูเหมือนคนชอบต่อรองนักรึไง?”

เซียวหลีก็ได้ยิ้มกริ่ม “ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จ่ายเงินมา ท่านจะต้องแพ้หมดตัวอย่างแน่นอน”

หรงสวินนั้นคิดที่จะปฏิเสธ แต่หลังจากที่คิดดูแล้วค่ารักษาลดลงครึ่งนึงและอย่างนางคงปลูกข้าวได้อย่างมากก็แค่ 200 ชั่งด้วยพื้นที่เท่านั้นแน่ๆ

เมื่อนึกถึงใบหน้าที่เจ็บปวดของนางยามที่นางพ่ายแพ้แล้ว เขาก็ได้หยิบเอาตำลึงทองออกมา “ถ้าหากว่าเจ้าแพ้พนันหรือรักษาข้าไม่ได้ล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงค่ารักษาเลย....”

“ข้ารู้แล้ว ท่านจะเอาชีวิตน้อยๆของข้าใช่ไหม?” เซียวหลีนั้นไม่รอให้เขาพูดจบ และชิงเอาคำพูดของเขาแล้วคว้าเอาตำลึงทองในมือเขามาด้วย “ขอบพระคุณมาก ท่านเทพแห่งโชคลาภ ข้ารักเจ้าจริงๆ”

ขอบคุณเทพแห่งโชคลาภแต่พูดกับหรงสวิน และบอกว่าข้ารักเจ้าแต่พูดกับตำลึงทอง แต่ทว่ากลับมีบางคนที่มีใบหน้าแดงขึ้นมาเมื่อได้ยินและแอบด่าทอเซียวหลีอยู่หลายหน ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายเสียจริงๆ และก็เป็นอีกครั้งที่ตัวเขารู้สึกเหมือนถูกหลอกอีกแล้ว

“นายท่าน....ท่านเลิกสงสัยผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอขอรับ?” เยี่ยเหลียงเฉินที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ก็ได้พูดขึ้นมา

หรงสวินก็ได้ตอบกลับไป “ข้าไม่ใช่ยักษ์ใช่มารที่ไหนนี่”

“นายท่านเปลี่ยนไปนะขอรับ”

หรงสวินก็ได้มองไปที่เยี่ยเหลียงเฉิน เขาเปลี่ยนไปตรงไหนกัน?

“ท่านไม่เคยคิดที่จะพนันไร้สาระเช่นนี้มาก่อนเลย”

หรงสวินก็ได้ครุ่นคิดดู แล้วเมื่อก่อนที่ว่า.....มันนานขนาดไหนกันนะ? เขานึกถึงตัวเขาเมื่อก่อนที่ว่าไม่ออกเลย

เซียวหลีที่ได้เงินมาก็ได้ตกลงเซ็นต์สัญญาบนโฉนดแล้วส่งให้ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทุกอย่างก็สำเร็จเรียบร้อยดี

แล้วทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านจากไป เซียวเยี่ยนก็ได้เดินบิดสะโพกออกมา นางจ้องไปที่โฉนดในมือของเซียวหลีอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อาหลี? ร่างกายของเจ้าทำนาไหวเหรอ?”                     เซียวเยี่ยนถามอย่างติดตลก

เซียวหลีก็ได้ผงกหัว

เซียวจิ้งถิงกลับมาแล้วนะ เจ้ารู้แล้วหรือยัง?”

เซียวจิ้งถิงนั้นคือคนที่นางพบเมื่อสองวันก่อน ซึ่งแน่นอนว่านางย่อมไม่รู้ว่าพวกเขากลับมากันแล้วหรือยัง?

“มันมีทางออกสำหรับปัญหาอยู่เสมอนั่นแหละ”

ถ้าหากคนคนนี้เป็นเจ้าของร่างเดิม ก็คงจะต้องหวาดกลัวและรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน แต่ในเวลานี้ตัวนางหาได้กลัวไม่

เซียวเยี่ยนนั้นไม่รู้ว่าคราวนี้เซียวจิ้งถิงนั้นจะแอบมาจัดการกับพวกนางยังไง ตัวนางนั้นเกลียดการที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านนาและไร้พลังจะต่อต้านเช่นนี้ ในคราวนี้นางนั้นหวังให้หรงสวินที่เป็นชนชั้นสูงสามารถขู่ให้พวกเขากลัวได้

ที่ห้องนอนของนางหวัง

เซียวเป่าเอ๋อก็ได้กินหมั่นโถวอยู่นั้นก็ได้มองดูเซียวหลีที่กำลังใช้เข็มเงินฝังไปที่นางหวังแล้วจากนั้นก็ได้บีบนวดหัวของนาง

“ท่านแม่ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาด้วยเหรอขอรับ?” เซียวเป่าเอ๋อถาม

“ใช่แล้ว เป่าเอ๋อต้องศึกษาให้มากแล้วก็สืบทอดเอาวิชาของแม่ไปใช้นะ”

“ขอรับ เป่าเอ๋อจะต้องเหนือกว่าท่านแม่ให้ได้ด้วย”     เซียวเป่าเอ๋อกล่าวอย่างโอ้อวด

เซียวหลีก็ได้พยักหน้าอย่างพอเป็นพิธี

“ท่านยาย ดูท่านแม่สิขอรับ ท่านแม่ไม่ยอมเชื่อข้าเลยสักนิดเดียว” เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ขอให้หวังซื่อช่วย และนางก็ช่วยเขาอย่างทุกที

“ยายเชื่อว่าเป่าเอ๋อนั้นจะต้องเก่งกว่าอาหลีได้ในอนาคตแน่ๆ” นางหวังกล่าว และในชั่วขณะนั้นก็เหมือนกับว่านางสัมผัสได้ถึงแสงสว่างตรงหน้านาง แต่นางก็ไม่ได้พูดออกมาเพราะนางนั้นตื่นเต้นมากเกินไปและไม่รู้สึกถึงมันอีก

เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ยิ้มอย่างภูมิใจ และหมั่นโถวนี้ก็อร่อยมากด้วย

“อาหลี? คนที่สอนวิชานวดและการฝังเข็มนั้นเป็นหมอประจำหมู่บ้านจริงๆเหรอ?” นางหวังถาม

“ข้าเรียนมาจากเขาก็จริง แต่ข้าได้เพิ่มเติมไปนิดหน่อยจากความคิดของข้าเอง ทำให้วิชาของข้านั้นต่างจากที่ท่านอาจารย์สอนเจ้าค่ะ” เซียวหลีที่หาเหตุผลที่เหมาะสมได้แล้วก็ได้ตอบกลับไป

อย่างไรก็ดีนางหวังนั้นก็ได้ยินเรื่องที่วันนี้นางไปช่วยคนมาด้วย

“ลูกสาวข้า จู่ๆก็กลายเป็นคนมีความสามารถขึ้นมา” นางหวังพูดพึมพำและมีความสงสัยอยู่ในใจของนางแต่ทว่า....

ยังไงลูกสาวของนางก็เป็นลูกสาวของนางอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่านางจะลูบสัมผัสนางยังไง นางก็รู้ว่านางคือเซียวหลีไม่ผิดเพี้ยน

แล้วเซียวหลีก็ได้พูดขึ้นมา “ท่านแม่เดี๋ยวข้าจะไปนวดรักษาคุณชายหรงหลังการฝังเข็มก่อนนะเจ้าคะ”

แล้วนางหวังก็ได้จับมือของเซียวหลีแล้วลูบไปมาอย่างรักใคร่ ภาระของครอบครัวนี้ช่างหนักหนานัก จนบางครั้งนางก็อยากจะตายไปเสียให้พ้นๆแต่ก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นอะไรที่โหดร้ายเกินไป

“ข้าจะไปด้วย” เซียวเป่าเอ๋อก็ได้กระโดดลงจากเก้าอี้ แต่นางหวังก็ได้คว้าตัวเขาเอาไว้ “ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าจะมาเล่าเรื่องเจ้าชายกบให้ยายฟังหรอกเหรอ?”

“เอาไว้เล่าทีหลังก็ได้ขอรับ” เรื่องนี้เป็นเรื่องท่านแม่เล่าให้เขาฟัง และเขาก็ได้นำมาเล่าให้นางหวังฟังต่อ

“ไม่ได้ ยายอยากที่จะฟังตอนนี้” นางหวังก็ได้พูดห้าม เซียวหลีที่ดึงเอาเข็มเงินเสร็จก็ได้เดินออกจากบ้านไป

เมื่อเยี่ยเหลียงเฉินเห็นเซียวหลีเดินมา เขาก็ได้ฉวยโอกาสเดินออกไป ซึ่งเซียวหลีนั้นไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่นางก็ได้บอกให้หรงสวินนั้นถอดเสื้อออก

หรงสวินก็ได้มองไปที่นาง ตอนนี้นางนั้นดูเหนื่อยๆ แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกถึงความอายหรือความหลงใหลอะไรเช่นเคย และตัวเขาเองก็ดูเหมือนจะเคยชินกับการทำอะไรคลุมเครือเช่นนี้แล้วด้วย

“ข้ามีงานเยอะแยะที่ต้องทำ เมื่อใดที่ข้าว่างท่านช่วยบอกให้พี่เยี่ยมาเรียนวิชานวดกล้ามเนื้อและกระดูกให้ท่านก็ดีนะ มันมีประโยชน์มากและไม่มีข้อเสียอะไรเลยด้วย” เซียวหลีกล่าวขณะที่หาว และนวดให้เขาอย่างชำนาญ

“ถ้าข้าบอกว่าข้าอยากให้เจ้านวดให้ข้าล่ะ?” หรงสวินนั้นก็ยอมรับว่าการนวดของเซียวหลีช่างสบายตัวดีจริงๆ และน้ำหนักก็กำลังดีเลยด้วย

“ถ้าอย่างนั้นข้าคิดเงินเพิ่ม”

“ก็รวมไปกับค่ารักษาแล้วไง”

“นั่นมันคนละอย่างกันนะ”

“แม่นางเซียว เจ้าเพิ่งจะเริ่มรักษาขาให้ข้าเองนะ แล้วก็ยังไม่ได้แสดงผลของมันออกมาเลย แต่เจ้ากลับเอาเงินทองของข้าไปแล้วบางส่วน แล้วไหนจะ 20 ตำลึงเงินนั่นอีก”

เซียวหลีก็ยิ้มขึ้นมา “นั่นมันเงินพนันไม่ใช่เหรอ?”

หรงสวินก็ไม่สนใจที่นางพูดแล้วชี้ไปที่บนหลังของเขา “ข้าคิดว่าเจ้าควรจะนวดตรงนี้สักหน่อยนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด