ตอนที่แล้วบทที่ 27 มันเป็นเรื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29 ข้าคิดว่าท่านเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ยากจริงๆ

บทที่ 28 เงินต้องไม่น้อยไปกว่านั้น


บทที่ 28

เงินต้องไม่น้อยไปกว่านั้น

ก่อนรุ่งสางหน่อยๆ เซียวหลีก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ววุ่นวายอยู่ในห้องครัว ซึ่งแขกผู้มาเยือนจะทำให้นางไม่ต้องมีปัญหาเรื่องเงินอีกแล้ว

ถ้านางอยากที่จะซื่อที่ดินด้วยเงินของนางเอง ตอนนี้นางก็จำเป็นต้องมีเงินเพื่อยังชีพ

กระดูกกระเดี้ยวของร่างกายนี้ก็ย่ำแย่เกินไป และเรื่องเล่าขานของป่าไร้ผู้คนเองก็ใช่ว่าจะไม่มีมูลความจริงใดๆเลย ถ้าหากนางอยากที่จะเสี่ยงโชคจากที่นั่นแล้ว อย่างน้อยนางก็ต้องรอให้อาการบาดเจ็บของนางหายดีและร่างกายแข็งแรงกว่านี้เสียก่อน

ในขณะที่อาหารกำลังนำมาจัดวาง เซียวเยี่ยนก็ได้ไปเชิญหรงสวินกับเยี่ยเหลียงเฉินให้มาทานด้วยกัน

อยู่ไกลๆ พวกเขาก็ได้กลิ่นของอาหารลอยเข้าจมูกมา เมื่อพวกเขาเข้ามาข้างในพวกเขาก็พบว่าบนโต๊ะนั้นเต็มไปด้วยจานอาหารหลากสีสัน, และเต็มไปด้วยกลิ่นหอม

เซียวเยี่ยนต้องอ้าปากค้างอยู่พักใหญ่ๆ นางนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเซียวหลีมีความสามารถทำอาหารในระดับนี้ ซึ่งสามารถเทียบได้กับพ่อครัวในหอไป่ฮวาในเมืองหลวงเลย

“อาหลี อาหารพวกนี้.....” เซียวเยี่ยนเดินไปหาเซียวหลีแล้วถามด้วยเสียงเบาๆ “เจ้าทำเองทั้งหมดนี่เลยเหรอ?”

สองวันกันก่อนเซียวหลีได้ไปซื้ออาหารจากร้านฉู่ฉู่หลิวเซียงกลับมา เซียวเยี่ยนจึงคิดว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าอาหารเหล่านี้ก็เป็นอาหารซื้อมาจากร้านนั้นด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้ถามออกไป

เซียวเป่าเอ๋อก็ได้กะพริบตาแล้วตอบ “ท่านแม่เป็นคนทำทั้งหมดเอง ข้าเห็นกับตาตัวเองเลยนะ”

เพราะเซียวเป่าเอ๋อนั้นป้วนเปี้ยนอยู่ในห้องครัว เซียวหลีจึงต้องป้อนซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน, หมูสองไฟ และขณะที่กำลังต้มหัวไชเท้ากระดูกหมูอยู่ เขาก็ได้ซดน้ำแกงไปชามใหญ่

เยี่ยเหลียงเฉินก็ได้เข็นรถพาหรงสวินมานั่งที่โต๊ะ เพียงแค่ดมกลิ่นเขาตัวเขาก็ได้รู้สึกหิวขึ้นมา เป็นคนบ้านนอกคอกนาแต่กลับทำอาหารได้น่าทานถึงเพียงนี้ หากจะว่ามีจานไหนที่ดูไม่ดีแล้วก็คงมีเพียงแค่ชามข้าวเท่านั้น

“เจ้าเคยเรียนทำอาหารมาอย่างนั้นเหรอ?” หรงสวินก็ได้ถามด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ไม่เกรงใจ

เซียวหลีก็ได้นิ่งคิดไปชั่วขณะแล้วกล่าว “นี่มันก็แค่อาหารบ้านๆเท่านั้น ทำไมข้าจำเป็นต้องเรียนด้วย? เอาล่ะทุกคน ใช้ตะเกียบทานกันนะ”

ในขณะที่นางกล่าว นางก็ได้จับตะเกียบให้และชามข้าวให้นางหวัง จากประสบการณ์ชีวิตที่ยาวนานของนาง นางหวังก็สามารถกินอาหารได้ไม่ต่างจากคนปกติมากนัก

ทางด้านของหรงสวินกับเยี่ยหลินเฉิงนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเหมือนอย่างพวกคุณชายคนอื่นๆ และตัวเขาก็ไม่ได้รังเกียจเครื่องชามเก่าๆเหล่านี้

“นายท่าน....” เยี่ยเหลียงเฉินได้ทดลองชิมหมูสองไฟแล้วก็ได้จ้องมองอย่างตกตะลึง “รสชาตินี้มัน....”

“มันอร่อยมากใช่ไหมล่ะ?” เซียวเป่าเอ๋อก็ได้มองไปที่   เยี่ยเหลียงเฉินและหรงสวิน

ตัวเขานั้นกล้าพูดเลยว่ารสชาติล้ำเลิศและประณีตกว่าของพ่อครัวฉู่ฉู่หลิวเซียงเสียอีก

“เจ้าทำได้อย่างไรน่ะ? รสชาติอร่อยมาก มันไม่มันจนเกินไป เค็มแต่ไม่จัดจ้านหรือขมเลย”

“อยากจะเรียนงั้นเหรอ?” เซียวหลีก็ได้จ้องมองไปที่       เยี่ยเหลียงเฉิน การถูกจ้องนี้ทำให้เขารู้สึกเขินอายนิดหน่อย

“บุรุษเพศกับการทำครัวนั้นมันเป็นเรื่องห่างไกลนัก ข้าไม่อยากที่จะเรียนหรอก แต่ถ้าหากตระกูลอวี่เหวินรู้เข้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะยอมให้มีข้อยกเว้นรับแม่ครัวหญิงไปทำงานหรือเปล่า?” เขากล่าวโดยไม่ลืมกิน แล้วซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานก็นุ่มและอร่อยมาก และรสชาติของผัดผักกวางตุ้งเองก็สุดยอดเช่นเดียวกันไม่มีรสชาติขมเลย

เซียวหลีก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะนางเองก็พูดอย่างไม่คิดอะไร ส่วนหรงสวินแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ก็ดูเหมือนจะมีความสุขดี จริงๆแล้วนางนั้นไม่ได้มีสูตรลับในการทำอาหารอะไรมากมายนัก ก็แค่เกลือของนางนั้นดีกว่าของคนอื่นๆในยุคนี้เท่านั้น เพราะมีเพียงนางที่รู้วิธีสกัดหินเกลือ

“ท่านแม่ ข้าอิ่มแล้ว”

“ดีมาก ออกไปเล่นข้างนอกซะนะ”

เซียวเป่าเอ๋อก็ได้ทำเสียงในลำคอตอบอย่างยินดี แล้วก็วิ่งออกไปหลังจากที่กินซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานไปอีก 2 ชิ้น

“เป่าเอ๋อ เจ้าจะออกไปไหนน่ะ?” เซียวเยี่ยนก็ได้ถามขึ้นมาเมื่อเห็นเซียวเป่าเอ๋อกำลังจะออกไปเล่นข้างนอก และกังวลว่าเขาอาจจะถูกเด็กคนอื่นรังแก

“จะไปหาหู่จือ, หลานฮวาขอรับ”

“ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าจะไม่ไปเล่นกับพวกเขาแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ที่ข้าบอกครั้งก่อนน่ะคือไม่ไปเล่นกับพวกเสี่ยวเฉียงต่างหาก”

หลังจากนั้นเสี่ยวเป่าเอ๋อก็ได้ออกจากบ้านไปโดยมีรั้วบ้านกั้นสายตาของนาง แล้วเซียวเยี่ยนก็ได้ตะโกนไปที่กำแพง “ถ้าหากว่าพวกเขากล้ารังแกเจ้า กลับมาบอกป้าได้นะ”

“เข้าใจแล้วขอรับ”

เซียวหลีก็ได้ยิ้มออกมา พี่สาวของนางนั้นรัก                เซียวเป่าเอ๋อจริงๆ

แล้วทุกคนก็ได้ค่อยๆผละออกจากโต๊ะอาหาร เหลือเพียงเซียวหลีกับหรงสวินทำตาเล็กตาโตใส่กัน ราวกับต้องการจะบ่งบอกว่าหากศัตรูไม่ขยับ ตัวพวกเขาเองก็ไม่ขยับเช่นกัน

“เจ้าสามารถรักษาขาของข้าได้จริงๆเหรอ?” ในที่สุดหรงสวินก็ได้อดทนไม่ไหวก่อน อย่างไรเสียเขาก็จะขอให้นางช่วยเขาอยู่แล้ว

ส่วนหนึ่งตัวเขานั้นคิดว่าผู้หญิงคนนี้นั้นลึกลับมากเกินไป

เพียงแค่อาหารบนโต๊ะนี้ ทักษะการทำอาหารระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้เลย

เซียวหลีก็ได้ขยับเก้าอี้ไปเข้าใกล้เขาแล้วมองไปที่เขาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้แน่นอน....แต่” แล้วนางก็ได้ถูมือของนาง “ค่ารักษาไม่เบานะ”

“แล้วเจ้าต้องการเท่าไร?” หรงสวินก็ได้ถามกลับไปตรงๆ

“ท่านคงไม่คิดว่าแค่เงิน 1-2 ตำลึงทองจะพอหรอกใช่ไหม?”

ในตอนนั้นเองที่ดวงตาของหรงสวินก็ได้ปลดปล่อยบรรยากาศที่อันตรายออกมา ราวกับเขากำลังหลอกพวกอันธพาลอยู่

เขามองไปที่นางราวกับกำลังพยายามมองหาจุดอ่อนสายตาของนางอยู่ยังไงอย่างงั้น แต่ก็พบว่าตัวนางนั้นสงบนิ่งมากไร้ซึ่งความกลัวใดๆ

“หนึ่งพันตำลึง”

ผู้หญิงคนนี้รักเงินเยี่ยงชีวิตจริงๆ และพูดออกมาด้วยเสียงอันดังราวกับเป็นสิงโต

“ตำลึงทองด้วย” เมื่อเห็นเขามีท่าทีลังเล เซียวหลีก็ได้ลงมือตีเหล็กขณะที่กำลังร้อนทันที โดยไม่รอช้า “ถ้าหากข้ารักษาไม่ได้ ข้าไม่เอาเงิน”

“ฝีมือการฝังเข็มของเจ้าล้ำเลิศมาก ข้าจึงได้ให้หมอที่มีชื่อเสียงเตรียมเข็มเงินไว้ให้แล้วอยู่ในห้องของข้า” หรงสวินก็ได้เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะพูดเบาๆข้างๆหูของนาง “ถ้าหากเจ้ารักษาไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย” แล้วก็ได้ขยับรถเข็นออกไปด้วยตัวเอง

“ตกลงตามนั้น แต่ท่านจะต้องเชื่อฟังข้าที่เป็นหมอ และผู้ป่วยที่ไม่เชื่อฟังหมอน่ะต่อให้เป็นเซียนลงมาก็รักษาไม่ได้”    เซียวหลีตะโกนไล่หลังเขาไป

หรงสวินก็ได้ยกมือขึ้นมาเป็นเชิงบอกว่าเขารู้แล้วโดยไม่หันหน้ากลับมามอง แต่เขาก็ได้คาดหวังมากขึ้นในใจของเขา

“แล้วก็ต่อจากนี้ได้โปรดจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับข้าโดยตรงด้วย ไม่อย่างนั้นข้าก็ไม่อาจรับประกันคุณภาพชีวิตของท่านที่นี่ได้” นางตะโกนไล่หลังเขาไปแต่เขาก็ยังไม่หันหน้ากลับมามองอยู่ดี

เซียวเยี่ยนที่เพิ่งล้างมือเสร็จและกำลังจะไล่หลังหรงสวินไปนั้น แต่เซียวหลีก็ได้เข้ามาขวางนางเสียก่อน

“ท่านพี่ ท่านเอางานไปทำบ้าง ต่อจากนี้ไปข้าจะทำกับข้าวส่วนท่านล้างจาน ยุติธรรมดีไหม?”

เซียวเยี่ยนก็ได้ตกตะลึง เซียวหลีนั้นปีกกล้าขาแข็งมาขึ้นเรื่อยๆจริงๆ

“เจ้าเห็นนิ้วมือที่เรียวงามของข้าเป็นเหมือนคนล้างจานอย่างนั้นเหรอ?” นางยื่นมือมาตรงหน้าของเซียวหลีแล้วส่ายไปมา แต่ไม่คิดว่าเซียวหลีจะใช้ตะเกียบคีบนิ้วของนางเอาไว้ “ท่านพี่ พวกเราไม่ได้มีชีวิตเหมือนพวกองค์หญิงและป่วยเป็นโรคองค์หญิงด้วย ดังนั้นไปล้างจานเสียดีๆไม่อย่างนั้นข้าจะไปบอกคุณชายหรงว่าข้าจะไม่รักษาขาของเขาแล้ว”

แล้วนางก็ได้ยิ้มเหมือนดอกไม้แล้วกอดเซียวเยี่ยน “ขยันทำงานเข้านะท่านพี่ แล้วอย่าได้คิดฉวยโอกาสทำอะไรโง่ๆหลังกินเสร็จอีก”

“นี่เจ้า....เจ้าคือเซียวหลีจริงๆเหรอ?” ตัวนางนั้นรู้สึกสับสนไปหมดแล้ว ทั้งการพูดและการกระทำนั้นราวกับเปลี่ยนไปหมดแล้ว

“ท่านพี่ที่แสนดี ถ้าหากข้าไม่ใช่อาหลีแล้วข้าจะเป็นใครไปได้ล่ะ?” เซียวหลีก็ได้ยิ้มแล้วกล่าว “อ้อ จริงด้วยยาของท่านแม่อยู่ในครัวหมอสีขาว ส่วนยาของคุณชายหรงคือหม้อสีดำอย่าลืมไปเอามาล่ะ”

เซียวหลีพูดอย่างเป็นธรรมชาติไม่มีอะไรติดขัด นางได้สั่งโดยไม่สนใจว่าเซียวเยี่ยนนั้นจะไปทำให้หรือไม่

อย่างไรเสีย สำหรับคนที่ฝึกวิชาแพทย์โดยเฉพาะด้านการฝังเข็มมานั้น พอได้ยินว่ามีชุดเข็มเงินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“เจ้า....คือว่า....เซียวหลีเจ้าเอาจริงเหรอ?” เซียวเยี่ยนก็ได้มองไปที่มือที่ขาวและนุ่มนวลของนางกับกองจานและตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาอย่างมาก

“ท่านพี่ ข้าพูดจริงทำจริง”

โชคยังดีที่พี่สาวคนนี้ของนางยังเห็นแก่เงินอยู่ ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรดีเหมือนกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด