ตอนที่แล้วCD บทที่ 35 คุณจะแทงพลูกี่รอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 37 ข้อห้าม

CD บทที่ 36 ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?


“จ้าวหยู่!!” จางจิงเฟิงลุกขึ้นยืนพร้อมปัดฝุ่นออกตามตัว ตามด้วยคำต่อว่า “นายแม่งบ้าไปแล้ว!!”

“ว่าไงนะ” จ้าวหยู่ก้มหยิบไม้คิวหัก ๆ จากบนพื้น เขาก้าวเท้าตรงไปข้างหน้าจางจิงเฟิง ราวกับเขาจะใช้ไม้คิวหัก ๆ นั่นแทงจางจิงเฟิงให้ตายซะอย่างนั้น

“เดี๋ยวฉันไปตรวจสอบให้ เดี๋ยวทำให้เลย! โอเคนะ ใจเย็น ๆ!” จางจิงเฟิงโบกมือส่ายไปมาอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ “แค่ต้องไปตรวจสอบคนแค่นี้ นายต้องทำถึงขนาดนี้เลย?”

“มันต้องเป็นฉันมากกว่าไหมที่ต้องถาม! แค่ไปตรวจสอบคนให้แค่เนี้ยต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ!?” จ้าวหยู่โต้กลับ

“โอเค โอเคพวก ฉันกลัวนายแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปทำเดี๋ยวนี้เลย โอเคไหม?” จางจิงเฟิงยอมแพ้อย่างราบคาบ ความไร้ยางอายของเขาต้องยอมสยบให้กับความบ้าบิ่นและน่ากลัวของจ้าวหยู่

“เดี๋ยวก่อน!” ถึงแม้ว่าตอนนี้จ้าวหยู่จะบรรลุเป้าหมายแรกของเขาได้สำเร็จแล้วแต่เขายังไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายไปได้ง่าย ๆ เขาชี้มือไปตามเศษซากไม้คิวที่หักกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ฉันใช้ไม้คิวไปตั้งหลายอันแต่คุณยังไม่ได้จ่ายเงินคืนฉันมาเลย!”

“อะไรนะ?!” จางจิงเฟิงอึ้งจนหมดคำจะพูด

“เดี๋ยวฉันคำนวณทั้งหมดนี้ก่อนนะ” จ้าวหยู่เริ่มคำนวณเงิน “ไม้คิวครั้งละห้าสิบ ฉันใช้มันไปสี่รอบก็จะเท่ากับสองร้อย โอ้ เกือบลืม มีลูกพูลด้วย ลูกละยี่สิบ ฉันปาไปทั้งหมดเจ็ดครั้ง ก็จะเป็น…หนึ่งร้อยสี่สิบ!! บวกกับสองร้อยก่อนหน้านี้ก็เท่ากับว่าคุณต้องจ่ายให้ฉันทั้งหมดสามร้อยสี่สิบหยวน!! ไม่มีส่วนลดให้นะ ไม่ต้องต่อรอง”

“อะไรของแกวะเนี่ย!!” จางจิงเฟิงแทบจะเป็นบ้ากับท่าทางของจ้าวหยู่ นี่มันตรรกะอะไรกัน?

‘เราต้องแทงลูกกันสิเว้ย!! ใครเขาเล่นกันแบบนี้ แทงด้วยไม้คิวสิวะไม่ใช่หักไม้คิว!!’ จางจิงเฟิงแค่คิดอยู่ภายในใจกับตัวเองเท่านั้น

“อะไรนะ?” จ้าวหยู่กรอกตามองกลับ “ก็เราตกลงกันแบบนั้นไว้ไม่ใช่หรือไง? นี่แกจะโกงกันเหรอ? หรืออยากให้ฉันเล่นเกมให้มันนานมากกว่านี้?” จ้าวหยู่ไม่พูดเปล่า เขารีบมองหาไม้คิวมาไว้ในมือตัวเองทันที

“ไม่ ไม่ ไม่ต้องเล่นแล้ว!” ตำรวจหนุ่มอีกคนพูดขึ้นแทน “พวกเราแพ้แล้ว เดี๋ยวผมจะจ่ายเงินให้!” ตำรวจหนุ่มรีบหยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว มองหาแบงค์ร้อยหยวนยื่นให้จ้าวหยู่ “สาม สี่ ห้า… อ่ะ นี่ ห้าร้อยหยวนครับ ไม่ต้องทอน!”

จ้าวหยู่ค่อย ๆ ยื่นมือไปรับเงินนั้นอย่างช้า ๆ พลางจ้องมองไปที่ตำรวจหนุ่มคนนั้น “ดีมาก! นายมีไหวพริบที่ดีนะ อนาคตนายจะต้องสดใสแน่!”

เมื่อจ้าวหยู่รับเงินเสร็จ เขาหมุนตัวกลับไปอีกด้านพร้อมใช้เท้าสะกิดเถ้าแก่ของร้านที่นอนสลบอยู่บนพื้น เขาใช้เงินห้าร้อยหยวนนั้นตีไปที่หน้าเถ้าแก่เบา ๆ

“เถ้าแก่ ตายแล้วหรือไง? รับเงินนี่ไปซื้อลูกอมหวาน ๆ กินซะ แล้วถ้านายไม่หาอะไรหวาน ๆ กิน แล้วเผลอไปรายงานเรื่องฉันที่สถานีตำรวจเข้าล่ะก็ เตรียมตัวร้านพังได้เลย ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็หุบปากไปซะ เข้าใจที่พูดใช่ไหม?”

เถ้าแก่เริ่มได้สติคืนมาช้า ๆ เขาเห็นสีหน้าจ้าวหยู่ที่น่ากลัวจึงได้แต่พยักหน้ารับเบา ๆ

“ผม...ผมจะไม่พูดอะไรแน่นอน ผมสัญญา!”

“เห้ย จาง! ทำไมแกยังไม่เริ่มขยับตัวกันอีก?” จ้าวหยู่เริ่มออกคำสั่ง

เมื่อไม่มีตัวเลือกใด ๆ ให้จางจิงเฟิง เขาจึงแต่เดินออกไปจากพูลบาร์พร้อมกับจ้าวหยู่ในทันที

การพังข้าวของทำลายร้านแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของจ้าวหยู่ในอดีต เขาคิดถึงชีวิตเก่า ๆ  เขาคิดถึงพวกลูกน้องห้าสิบ หกสิบกว่าชีวิตที่เขาเคยดูแล ในฐานะนักสู้ตัวฉกาจ จ้าวหยู่มีคำพูดที่มักจะพูดว่า

‘ถ้าเรื่องมันสามารถถูกตัดสินโดยวิธีการบังคับได้ ก็ไม่ต้องพิจารณาวิธีอื่น’

ซึ่งมันเป็นวิธีที่ดีกว่าหากเลือกลงมือบังคับทรมานแทนที่ที่จะลงมือฆ่าแกงกัน

หลังได้เห็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างขาดสติและบ้าบิ่นของจ้าวหยู่แล้ว ทั้งเจ้าของร้านและจางจิงเฟิงเหมือนกับถูกจ้าวหยู่กำราบจนหมดคาบ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะทำตัวหยาบคายใด ๆ ต่อหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย

จางจิงเฟิงเดินตามเขากลับไปที่สถานีตำรวจเพื่อตรวจสอบเรื่องของครอบครัวเด็กอัจฉริยะคนนั้นด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่เขามีและเขาไม่ต้องการให้จ้าวหยู่ได้เห็นมันว่าเขาใช้วิธีการอะไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่กลัวว่จางจิงเฟิงจะทำแบบส่งเดชให้และไม่ยอมให้เขาทำอะไรตุกติก เขาเลยดึงเก้าอี้มาไว้ข้าง ๆ พลางจ้องมองวิธีการของจางจิงเฟิงอย่างระมัดระวัง

จางจิงเฟิงรู้สึกโกรธมากเพราะจ้าวหยู่ไม่มียางอายใด ๆ แถมยังวางอำนาจเหนือเขาอีก! ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารตอบโต้อะไรจ้าวหยู่ได้เลยและจ้าวหยู่ไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้น จ้าวหยู่ไล่สายตามองตามนิ้วของจางจิงเฟิงที่กำลังคีย์ข้อมูลตามหาคนแล้วพบว่านี่ไม่ใช่วิธีการแบบปกติทั่วไป เช่นการค้นหาจาก เลขประจำตัวประชาชน, เลขทะเบียนบ้าน, บัตรธนาคารหรือพวกข้อมูลอื่น ๆ แต่เขาลงชื่อเข้าใช้ฐานข้อมูลทางการแพทย์ของโรงพยาบาลหลัก ๆ เพื่อค้นหาเวชระเบียนที่ตรงกันกับเป้าหมายที่ต้องหารสืบหาตัว

‘หลักแหลมมาก!’ จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะชื่นชม

มันเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ แม้ว่าตัวบุคคลนั้นจะเปลี่ยนชื่อไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเวชระเบียนของตัวเองได้ เว้นแต่ว่าพวกเขาจะไม่ย่างกายเข้าโรงพยาบาลเลยสักครั้งในชีวิต!

ต่อมาไม่นาน จางจิงเฟิงก็พบข้อมูลเอกสารทางการแพทย์เข้าจำนวนหกถึงเจ็ดฉบับที่ตรงกับข้อมูลครอบครัวของเด็กสาวคนนั้น

“ฉันสามารถย้อนข้อมูลย้อนหลังได้แค่สิบห้าปีเท่านั้น” จางจิงเฟิงไล่นิ้วมือชี้ตามข้อมูลที่ปรากฏ “หลี่ชูซุน จากเมืองเฟิงหลิง พบหมายเลขบัตรประชาชนตรงกับหมายเลขที่เวชระเบียนไว้พอดี เขาเข้ารับการรักษาตัวที่แผนกโรคหัวใจในโรงพยาบาลเมืองเนื่องจากมีภาวะเป็นโรคหัวใจ หลังจากนั้นเขาก็เข้ารับการรักษาอีกสองรอบในสภาพเดียวกัน แล้วนี่ก็…” จางจิงเฟิงชี้ไปที่อีกทาง “นี่เป็นข้อมูลล่าสุดทางการแพทย์ ได้รับการลงทะเบียนไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม วันที่ 5 ที่แผนกรักษาโรคมะเร็ง ผู้ป่วยชื่อ เฮาเฟิงเหลียน จากเมืองเฟิงหลิง เลขบัตรประจำตัวตรงกันกับของอันเดิมแม้จะหมดอายุไปแล้วก็ตามแต่เนื่องจากเธอจ่ายค่ารักษาเอง ทางโรงพยาบาลเลยยังใช้หมายเลขจากบัตรอันเก่าในฐานข้อมูล”

หลี่ชูซุนเป็นชื่อของพ่อหลี่ดัน ส่วนเฮาเฟิงเหลียนคือชื่อของแม่ การได้ยินเช่นนี้เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าครอบครัวนี้ยังไม่ได้สูญหายไปจากบนโลกแต่อย่างใด เพียงแค่อาศัยอยู่ในเมืองโดยไม่มีใครรู้ก็เท่านั้น

“เดี๋ยวนะ? มันยังมีอะไรแปลก ๆ อยู่” จ้าวหยู่ครุ่นคิด “พวกเขายังคงอาศัยกันอยู่ในตัวเมืองแต่ทำไมถึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ได้กัน?” จ้าวหยู่เอ่ยถาม “จาง เป็นไปได้ไหมว่าเราจะสามารถค้นหาที่อยู่ได้ด้วย?” จ้าวหยู่ถามอย่างเร่าเร้า “ฉันต้องการรู้พวกข้อมูลล่าสุด!”

“ได้อยู่แล้ว!” จางจิงเฟิงตอบขณะพิมพ์ข้อมูล “แต่ถ้าหากเธอตั้งใจที่จะซ่อนข้อมูลที่อยู่และบอกที่อยู่มาผิด ๆ ก็จบ” จางจิงเฟิงกล่าวอย่างผู้เชี่ยวชาญ ไม่นานผลก็ปรากฏออกมาในทันที “นี่ไง! เอาไปสิ”

จ้าวหยู่รีบอ่านข้อมูลที่ได้รับมาอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเพียงแค่เหลือบสายตาอ่านมัน เขารีบพิมพ์ที่อยู่นั้นลงไปในแอพแผนที่ ทันทีที่แผนที่นั้นปรากฏ เขาเผลออุทานออกมาอย่างเสียงดัง

“เชี่ย!!!”

“เป็นอะไร?” จางจิงเฟิงมองดูจ้าวหยู่ที่มีท่าทางผิดแปลกไปจากเดิมและต้องการอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ถูกบังด้วยตัวของจ้าวหยู่

“เร็วเข้า!!” จ้าวหยู่แสดงสีหน้ากังวล “ส่งข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดมาให้ฉันที่โทรศัพท์ ห้ามตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรเดียว! ฉัน...ฉันต้องรีบไปแล้ว!”

“ก็ได้ ๆ” จางจิงเฟิงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็รับปากเออออตามคำสั่งของจ้าวหยู่ไป

จ้าวหยู่รีบออกจากตัวสถานีตำรวจด้วยความเร่งรีบและใช้รถตำรวจเพื่อขับไปตามสถานที่ที่ได้รับมาจากจางจิงเฟิง ขณะที่เขากำลังขับรถอยู่นั้น เขารู้สึกกังวลมากจนเหงื่อไหลท่วมเต็มฝ่ามือ

แม้เขาจะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนนักเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ของคดีมือที่หายไป แต่จากข้อมูลใหม่ที่เขาได้รับมา มันกำลังแสดงให้เขาเห็นว่าตอนนี้เขามาถูกทางแล้ว!

“ฉันจะไม่ยอมให้เหยื่อรายต่อไปเกิดขึ้นอีก คราวนนี้ฉันจะจับตัวแกให้ได้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด