ตอนที่แล้วCD บทที่ 32 บางผิดปกติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 34 ผู้เชี่ยวชาญการตามหาคน

CD บทที่ 33 เด็กอัจฉริยะ


“คุณหมายถึงอะไร?”

เมื่อได้ยินหยางฮงบอกว่าเธอจำเรื่องแปลก ๆ ในตอนนั้นได้ ทำให้จ้าวหยู่อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที

“อืม” หยางฮงเริ่มทบทวนเหตุการณ์ในครั้งนั้น “ฉันจำได้ว่าระหว่างการแข่งขันในช่วงแรก ๆ ที่เมืองเฟิงหลิงมีเด็กมหัศจรรย์อยู่คนหนึ่ง ฉันจำชื่อเด็กคนนั้นไม่ได้แต่ฉันมั่นใจว่าเป็นเด็กผู้หญิงแน่นอน ช่วงตอนนั้นเธอมีชื่อเสียงในหมู่พวกเราอย่างมาก เธอสามารถผ่านระดับสิบมาได้ในวัยเพียง 12 ปี เท่านั้น โดยคุณครูที่ดีที่สุดจากเมืองหลวง จัดได้ว่าเธอเป็นเด็กที่พิเศษมาก ๆ คนหนึ่งเลยแหละค่ะ”

หยางฮงเว้นพักหายใจ ก่อนจะเริ่มพูดต่อ

“เท่าที่ฉันจำได้ ฉันมักจะเห็นเธอสวมใส่แต่เสื้อผ้าเก่า ๆ อยู่ตลอด ฉันเดาว่าทางบ้านเธอคงไม่มีเงินมากสักเท่าไหร่แต่ทักษะเปียโนของเธอเข้าขั้นสุดยอดมาก! แม้ว่าตอนนั้นพวกเราจะอยู่ในระดับสิบเช่นเดียวกันกับเธอ แต่ทักษะของเธอเหนือกว่าพวกเราอย่างเห็นได้ชัด”

ขณะที่หยางฮงเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างได้ เธอรีบพูดต่อในทันที

“ใช่แล้ว! เรื่องแปลก ๆ ที่ฉันว่า เกิดขึ้นที่เมืองฉินชานนี่แหละ ด้วยทักษะของเด็กผู้หญิงคนนั้นทำให้คะแนนของเธอสูงต่างจากคนอื่น ๆ แต่เธอกลับไม่ติดอยู่ในรอบการแข่งคนสุดท้าย คนอื่นเขาก็พูดกันว่าเธอขอสละสิทธิ์ในคืนก่อนกลางแข่งขัน คุณว่ามันแปลกไหมล่ะ!”

จ้าวหยู่พยายามคิดตามสิ่งที่หยางฮงพูดอย่างถี่ถ้วน เขาเองก็รู้สึกได้ว่ามันแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน “คุณมั่นใจนะ ว่าคะแนนของเด็กผู้หญิงคนนั้นสูงพอเข้ารอบสุดท้ายได้?”

“อืม ฉันมั่นใจ” หยางฮงเกาหัวของเธอด้วยมือทั้งสองข้างจนผมเกือบยุ่งไปหมด “ฉันไม่แน่ใจเท่าไหร่ มันอาจจะเป็นสิ่งที่ฉันได้ยินมาจากผู้ปกครองนักเรียนคนอื่นหรือไม่ก็จากแม่ของฉันเอง โอ้ใช่! ฉันลืมไปเลย เรื่องนี้ถ้าจะให้ชัวร์ให้ฉันโทรไปถามจากแม่เลยดีกว่า ต่อให้มันจะผ่านไปเกือบยี่สิบปีแต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเปียโน ยังไงแม่ของฉันก็ต้องจำได้แน่นอน!”

หยางฮงดูจะใส่ใจในเรื่องคดีนี้มากกว่าจ้าวหยู่ที่เป็นคนรับผิดชอบคดีเสียอีก

หยางฮงโทรไปหาหญิงชราโดยไม่สนว่าจะรบกวนเธอรึเปล่า? และยิ่งเป็นตอนช่วงเช้าแบบนี้ด้วย เธอได้เปิดโหมดลำโพงเพื่อให้จ้าวหยู่สามารถได้ยินบทสนาอย่างชัดเจนด้วย

ไม่นานนักเสียงหญิงชราก็ดังขึ้น หยางฮงพยายามอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ให้แม่ของเธอฟังอย่างรวดเร็วและเพื่อให้มั่นใจว่าแม่ของเธอจะยอมร่วมมือด้วย เธออ้างว่าตอนนี้เธอถูกทางตำรวจจับตัวมาเพื่อสอบปากคำ หญิงชรากลัวลูกสาวตัวเองจะเป็นอะไรไป เลยรีบบอกข้อมูลทุกอย่างที่ตัวเองจำได้มาจนหมด ถึงแม้เรื่องราวจะไม่ต่างอะไรกับที่หยางฮงเล่าไปก่อนหน้านี้มากนัก แต่บางจุดก็ค่อนข้างจะละเอียดกว่าของหยางฮงพอสมควร

ข้อมูลที่ได้มาเพิ่มเติมบอกว่า ในปีนั้นที่เมืองเฟิงหลิงมีนักแข่งตัวจริงเอาไว้แล้ว เธอมีใบสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ แม้ว่าครอบครัวของเธอจะมีฐานะที่ค่อนข้างยากจนก็จริงแต่พ่อแม่ของเธอยอมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะส่งเธอเรียนเปียโน

ตามที่คนแถวนั้นได้ลือกัน พวกเขาเล่าว่าพ่อแม่ของเธอยอมขายกระทั่งทุกอย่างที่มีแต่เด็กอัจฉริยะคนนั้นไม่ยอมให้พ่อแม่ของเธอตกต่ำลงกว่าที่เป็นได้อีก

เธอชนะการแข่งขันจนได้รางวัลมากมายและได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองเฟิงหลิง

ก่อนที่เธอจะมาเข้าร่วมการแข่งขันเปียโนที่เมืองฉินชาน ทุกคนต่างคาดหวังในตัวเธอกันไว้สูง พวกเขาต่างมั่นใจว่าอย่างน้อยเธอจะต้องติดอยู่ในรายชื่อสามอันดับแรกแน่ ๆ หนึ่งในวิทยาลัยที่เข้าร่วมก็เล็งตัวเธอมาศึกษาต่อ เด็กคนนั้นสามารถเลือกทางเดินในชีวิตของเธอได้อย่างอิสระ เส้นทางอนาคตของเธอเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ

ช่วงเวลาตอนนั้น เธอมีอายุเท่า ๆ กันกับหยางฮง แม่ของหยางฮงใช้ความสำเร็จต่าง ๆ ของเธอมาพูดเปรียบเทียบหยางฮงอยู่บ่อย ๆ เธอมักจะพูดอยู่เสมอว่า

“พวกเธอทั้งคู่ต่างก็เรียนเปียโนมาเท่า ๆ กัน แต่เห็นเด็กคนนั้นไหม เห็นไหมว่าเธอทำได้ดีกว่าลูกมากแค่ไหน?”

แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เด็กอัจฉริยะที่ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเธอจะต้องเข้ารอบสุดท้ายแน่ ๆ จู่ ๆ เธอกลับมาขอสละสิทธิ์ออกจากการแข่งไปในคืนก่อนเริ่มการแข่งขันใหญ่

ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงของเธอแต่กลับมีข่าวลือมากมายเกิดขึ้นมา บ้างก็ว่าเธอซ้อมหนักจนเสียเลือดมากเกินไป บ้างก็ว่าเธอหนีไปกับเด็กผู้ชายคนอื่นก่อนวันแข่ง บ้างก็ว่าเธอโดนลักพาตัว หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ไม่มีใครพบเจอเด็กคนนั้นอีกเลย รวมถึงพ่อแม่ของเธอด้วยและเนื่องจากเป็นสถานการ์ฉุกเฉิน ทางผู้จัดการแข่งขันเลยเปลี่ยนลำดับตำแหน่งของเธอไปไว้ที่ 11 จึงทำให้เธอไม่มีชื่อติดอยู่ในรอบสุดท้าย

หลังจากการแข่งขันจบลง เรื่องราวของเธอยังคงถูกพูดถึงอยู่เรื่อย ๆ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป เด็กอัจฉริยะและครอบครัวของเธอต่างก็ถูกลืมเลือนไปจากจิตใจของทุกคนไปโดยปริยาย

“เด็กผู้หญิงผู้เป็นอัจฉริยะสินะ?”

เกิดอะไรขึ้นกับเธอในคืนก่อนการแข่งกัน? หลังจากเธอขอสละสิทธิ์เธอหายตัวไปไหน? แล้วครอบครัวของเธอทำไมต้องหายตามไปด้วย?

จ้าวหยู่ไม่ได้สนใจเรื่องราวทั้งหมดแค่เพราะความสงสัยของตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีมือที่ไปหายไปเข้าจริง ๆ มันช่างดูเป็นเรื่องที่น่ากลัวเสียเหลือเกินและด้วยสัญชาตญาณของเขา เขามั่นใจว่าเรื่องของเด็กคนนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีด้วยอย่างแน่นอน ถ้าเขาสามารถหาตัวเธอเจอได้ เขาก็อาจจะได้รับเบาะแสข้อมูลใหม่ ๆ เพิ่มเติม!

“แม่!!” หยางฮงยังคงให้ความสนใจในคดี เธอเอ่ยถามกับแม่ของเธอทางโทรศัพท์ต่อว่า “แม่จำชื่อเด็กอัจฉริยะคนนั้นได้หรือเปล่า?”

“หลี่ดัน!!” หญิงชราพูดออกมาโดยไม่ลังเลนึกคิดเลยสักนิด “ครอบครัวหลี่จากเมืองเฟิงหลิง! ไม่ใช่แค่ว่าเธอมาจากเมืองเดียวกันเท่านั้นนะ ชื่อของเธอยังเหมือนกับป้าของลูกด้วย ลูกรัก ถ้าตำรวจเขาต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็ให้มาถามแม่ได้เลย แม่จะสารภาพทุกอย่างที่แม่รู้ให้เอง ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นก็อย่าไปอยู่โรงพักนานให้มากนัก! เดี๋ยวคนอื่นจะคิดว่าลูกไปทำอะไรไม่ดีมา”

“ได้เลย แม่ งั้นหนูวางสายนี้ก่อนนะ!” หยางฮงทำท่างุ่มง่ามเล็กน้อยและรีบวางสายไปในทันที

คำพูดของหญิงชราที่ว่า ‘แม่จะสารภาพให้เอง’ ฟังดูเหมือนเธอทั้งคู่ไปก่อคดีอาชญากรรมอะไรแบบนั้นมาซะอย่างนั้น

“นี่แหละแม่ฉัน เมื่อเธอได้เริ่มพูด เธอก็จะพูดไม่หยุดแบบนี้แหละ” หยางฮงพูดพลางยกศีรษะขึ้นมา “เป็นไงบ้างคุณตำรวจพอจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม?”

“เมืองเฟิงหลิง ครอบครัวหลี่!!” จ้าวหยู่ทวนข้อมูลนั้นอีกครั้ง “ผมจะต้องไปสืบเรื่องนี้ต่อ ถ้าเรื่องนี้สามารถช่วยผมได้จริง ๆ ผมจะมอบรางวัลพลเมืองดีเด่นให้คุณเลย!”

“เก็บรางวัลนั้นไว้เถอะ ถือว่าคุณติดหนี้ฉันแล้วนะคะคุณตำรวจ!” หยางฮงกล่าวติดตลก “ครั้งหน้าถ้าคุณจะกระโดดข้ามระเบียงมาอีกก็บอกฉันก่อนแล้วกันนะคะ”

“ไม่มีครั้งหน้าหรอก” จ้าวหยู่ให้สัญญา หลังจากการให้สัญญาพวกเขาทั้งคู่เผลอจ้องตาไปชั่วครู่ บรรยากาศรอบตัวกลับมาอึดอัดอีกครั้ง

“เอ่อ ถ้างั้น เรา” จ้าวหยู่ชี้ไปที่หยางฮงเหมือนกับว่าเขามีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดออกมาแต่ไม่สามารถพูดออกไปได้

“ไม่เป็นไร! ฉันเข้าใจคุณค่ะ!” หยางฮงเข้าใจความหมายของจ้าวหยู่ดี “คดีนี้เป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ คุณคงมีเรื่องอะไรมากมายในหัวสินะ ไม่เป็นหรอก ถึงเราจะไม่ได้สนุกกันต่อแต่จุดสำคัญมันอยู่ที่ฉันจะไม่มีทางลืมว่าคุณเคยช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ส่วนเรื่องบริการฟรีนั้น ถือว่าเป็นสัญญาระยะยาวก็แล้วกันนะคะ”

“สุดยอด!” จ้าวหยู่ยกนิ้วโป้งส่งให้เธอ มืออีกข้างก็คว้าโทรศัพท์ของหยางฮงมาไว้กับตัวเอง

“ผมใช้มือถือของยิงไปมือถือของผมแล้ว นั่นเบอร์ผมนะ ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมจับคนร้ายและไขคดีได้ล่ะก็ ตอนนั้นผมจะพาคุณไปโรงแรมสี่ดาวเลย!” จ้าวหยู่ก้มหัวคำนับให้เธอ แล้วออกจากห้องไป

“เดี๋ยวก่อน คุณจะไปแล้วเหรอ แล้วคุณจะกลับเข้าห้องได้ยังไง?” หยางฮงถามอย่างเป็นห่วง “คุณคงจะไม่ไปสถานีตำรวจด้วยสภาพแบบนี้หรอกใช่ไหม ให้ฉันได้หาอะไรให้คุณใส่ก่อนไปเถอะ…”

หยางฮงยังไม่ทันได้พูดจบ เธอก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้องไปซะแล้ว

“จะรีบอะไรกันขนาดนั้นนะผู้ชายคนนี้”

หยางฮงมองตามไปยังพื้นที่ที่ว่างเปล่าเธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเธอนึกถึงคดีที่จ้าวหยู่เล่าให้ฟัง เธอไม่สามารถหยุดจินตนาการภาพว่าเธอกำลังถูกตัดมือออกไปจากหัวได้เลย

ตอนนี้เธอรู้สึกขนลุกด้วยความกลัว ตัวสั่นเทาเล็กน้อย เธอรีบไปหาเสื้อผ้ามาใส่อย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด