ตอนที่แล้วบทที่ 18 กล้าดียังไงมาแกล้งฉันในห้องเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อท่านขอให้ข้าปกป้องโกว๋ฟู่หรง?

บทที่ 19 แม้แต่มือฝังเข็มทานตะวันก็ไม่อาจหยุดข้าได้


บทที่ 19 แม้แต่มือฝังเข็มทานตะวันก็ไม่อาจหยุดข้าได้

“อาจารย์ จ้าวซือทำร้ายเพื่อนครับ เขาใกล้จะตายแล้ว!” เฉียนเฟิงเป็นคนแรกที่ฟ้องอาจารย์ “เขาก็แค่ทะเลาะกับหูเจียหาว แต่จ้าวซือถึงกับจะฆ่ากันให้ตาย!”

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารซึ่งมีใบหน้าที่สง่างามขมวดคิ้ว "จ้าวซือคือใคร? ออกมานะ! แล้วหูเจียหาวอยู่ที่ไหน? เขาเป็นยังไงบ้างไปดูเขาเร็วเข้า!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น นักเรียนสองสามคนก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อดูอาการของหูเจียหาว

จ้าวซือลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทางที่สงบ “อาจารย์ครับ ผมคือจ้าวซือ”

คนที่อยู่โดยรอบถึงกับกลั้นหายใจเพราะความสงบนิ่งของจ้าวซือ

“เขามันพวกชอบใช้ความรุนแรง ฆาตกรเลือดเย็น ทำอย่างนี้เขาไม่ได้สำนึกผิดเลย!

“อาจารย์ครับผมคิดว่าพวกเราควรจะโทรแจ้งตำรวจทันที!” เฉียนเฟิงกระโดดออกมาและตะคอกใส่จ้าวซือเพราะเขารู้ว่านี่คือ เวลาที่เหมาะที่จะเหยียบจ้าวซือได้

“นักเรียน ใจเย็นๆ ก่อน...” อาจารย์มองเฉียนเฟิงราวกับเขาเป็นคนบ้า

สีหน้าของคนที่อยู่โดยรอบได้เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

เฉียนเฟิงหันไปมองจ้าวซือและอ้าปากค้างราวกับว่าเขาเห็นผี “นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”

เขาตะลึงงันที่เห็นว่าหูเจียหาวที่ถูกเพื่อนนักศึกษาพยุงขึ้นมาแล้ว แต่ที่น่าแปลกก็คือใบหน้าของเขาไม่มีรอยแดงเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เพิ่งจะเกิดขึ้น

“อาจารย์ครับ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อสักครู่นี้หูเจียหาวใช้เท้าเหยียบที่โต๊ะของผม” จ้าวซือชี้ไปที่รอยเท้าบนโต๊ะอย่างใจเย็น “จากนั้นเขาก็ข่มขู่เรื่องครอบครัวของผมและท้าทายให้ผมตบเขา ผมไม่มีทางเลือกจึงตบเขาไปแค่เบาๆ แต่สุดท้ายเขาก็ล้มลงกับพื้น”

“ส่วนนักศึกษาเฉียนเฟิงคนนี้ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร” จ้าวซือกล่าวเสริมด้วยสีหน้าที่ช่วยไม่ได้

เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่า “เบาๆ” ในตอนนี้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกราวว่ามีม้านับหมื่นตัวกำลังควบตะบึงอยู่ในหัวใจของพวกเขา คำว่าตบเบาๆ ของเขานั้นเสียงดังใกล้เคียงกับเสียงเกือกม้าเพียงไม่กี่ก้าว หรืออาจจะเป็นทักษะการต่อสู้อะไรสักอย่าง ว่าแต่เป็นทักษะอะไรกันล่ะ?

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของจ้าวซือด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารก็รับทราบเรื่องรอยเท้าที่อยู่บนโต๊ะของเขาและหูเจียหาวเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ

แม้ว่าสถานการณ์จะดูประหลาดเป็นอย่างมาก แต่สัญญาณทั้งหมดชี้ไปที่ผลลัพธ์เดียว นั่นก็คือจ้าวซือไม่มีความผิด!

“ในเมื่อไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ งั้นก็แล้วไป ส่วนเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ที่พูดจาไร้สาระเรื่องหูเจียหาว วันศุกร์นี้... เขียนคำทบทวนตัวเองมาห้าพันคำ หวังว่าคราวหน้าคงจะไม่มีแบบนี้อีกแล้วนะ!” ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการที่กำลังอารมณ์บูด พอพูดจบเขาก็รีบออกไป

หลี่ซินมองดูหน้าเฉียนเฟิงที่เขาทำหน้าเหมือนกับเพิ่งจะกินอึเข้าไป เธอนอนอยู่ที่โต๊ะและแอบหัวเราะอยู่เงียบๆ

ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมการตบที่รวดเร็วและรุนแรงของจ้าวซือจึงไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้บนใบหน้าของหูเจียหาวเลย

สำหรับคนที่เห็นเหตุการณ์ดูเหมือนว่าหูเจียหาวจะถูกตบจนสลบไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยากที่จะมีปัญหากับจ้าวซือ

ซึ่งแน่นอนจ้าวซือได้ใช้แก่นวิชาฝ่ามือไร้กังวลลและลมปราณภูติอุดรในการตบหูเจียหาว มันดูไม่เหมือนภาพสามมิติและคาดเดาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

แม้ว่าหูเจียหาวจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากการถูกตบครั้งนี้ แต่เขาก็ได้รับการกระแทกอย่างแรงจากการถูกตบนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความแตกต่างถึงความแข็งแกร่งระหว่างเขากับจ้าวซือ เขาสามารถเข้าใจได้โดยสัญชาตญาณว่า ถ้าจ่าวซือต้องการจะฆ่าเขามันคงจะง่ายพอๆ กับการบี้มดให้ตาย

จากแววตาที่ตื่นตระหนกของหูเจียหาวและไหล่ที่สั่นเทาขณะที่มองมาที่เขา เพียงแค่นั้นจ้าวซือก็สามารถที่จะบอกได้ว่าคำเตือนที่เขาต้องการนั้นสำเร็จแล้ว

แต่ทว่าหูเจียหาวนั่นแค่พูดพล่อยๆ หรือเขามีข้อมูลเกี่ยวกับน้องสาวของเขาจริงๆ กันนะ?

หลังเลิกเรียนจ้าวซือจึงไปดักเจอหูเจียหาวในทันที อีกฝ่ายยืนกรานว่าเขาก็แค่สร้างเรื่องขึ้นมา เขาแค่ต้องการที่จะหาเรื่องจ้าวซือเพื่อที่จะทำให้ตัวเขาเองดูมีบทบาทในห้องเรียน

หลังจากที่ปล่อยหูเจียหาวไปแล้ว จ้าวซือก็คิดกับตัวเองว่าตัวเขาไม่นั้นรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาและไม่รู้วิธีอ่านใจคน ในตอนนั้นเขาไม่อาจที่จะบอกได้ว่าหูเจียหาวกำลังพูดความจริงอยู่หรือไม่ ถ้าหากว่าเขาไดัรับทักษะนี้จากระบบก็คงจะดีไม่น้อย

“แต่... ถ้ามีคนมาแตะต้องน้องสาวของฉันจริงๆ ฉันจะทำให้มันได้เข้าใจว่านรกคืออะไร!”

ระหว่างทางกลับบ้าน การแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหูของ จ้าวซือ “มีออเดอร์ส่งอาหารจาก”นักดาบของฉัน“ที่โรงเตี๊ยมถงฟู่เจ้าของร้าน ถงเซียงหยู ที่กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับปรมาจารย์ตัวร้ายที่กำลังตามล่าโกว๋ฟู่หรง ในตอนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาอยู่ในสภาพที่แย่มากและเขาต้องการการจัดส่งอย่างเร่งด่วนเพื่อมาเติมพลังขอเขาในตอนนี้ คุณจะรับออเดอร์ตอนนี้ไหม?”

โรงเตี๊ยมถงฟู่!

จ้าวซือกำลังฝันหวานเลยทีเดียว  โรงเตี๊ยมถงฟู่เป็นหนึ่งในซีรีส์หนังตลกย้อนยุคของจีนที่ครองใจผู้คนมากมาย และเขาได้ดูซีรีส์เรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เขาได้มีโอกาสไปสู่โลกของ โรงเตี๊ยมถงฟู่แล้ว เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะยอมรับออเดอร์นี้

"บี๊บ! บี๊บ! คำสั่งได้รับการยอมรับแล้ว [เซตข้าวกุ้ยช่ายผัดไข่]  ถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติแล้วที่กระเป๋าท้ายรถ!

"บี๊บ! บี๊บ! อุโมงค์อนันตภพจะเปิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาที โฮสต์ได้โปรดเข้าไปให้ทันเวลา..."

หลังจากที่ระบบเตือน จ้าวซือก็บิดคันเร่งและเร่งความเร็วพุ่งเข้าไปในกระแสน้ำวนสีม่วง-อมฟ้า เข้าสู่ทางเดินลึกลับของอนันตภพ

เมื่อรู้สึกว่าได้ร่อนลงที่พื้นด้านล่างแล้ว จ้าวซือก็รู้ทันทีว่าเขาได้มาถึงจุดหมายแล้ว

“ที่นี่คือโรงเตี๊ยมถงฟู่งั้นเหรอ?”

นี่ก็เกือบจะมืดแล้ว ตัวอักษรขนาดใหญ่สี่พยางค์บนป้ายนั้นค่อนข้างจะเตะตา จุดหมายของจ้าวซือบังเอิญว่าอยู่ที่ประตูทางเข้าของโรงเตี๊ยมถงฟู่

โรงเตี๊ยมสไตล์โบราณทำให้ดูเหมือนกับว่าปลูกสร้างมานานแล้ นั่นคือสิ่งที่จ้าวซือจำได้ แต่ทว่าประตูนั้นถูกปิดแน่นหนาราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ

“ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับยอดฝีมือจากโลกใต้พิภพอยู่นะ” จ้าวซือรู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้งกับโครงเรื่องนี้

สองพี่น้องซิลเวอร์โกลด์จากลัทธิห้าพิษ หยุนตุ้นจากสำนักพิการเซน และสาวงามจากสำนักดาบบินล้วนแต่ได้รับการดูแลอย่างตลกขบขัน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จ้าวซือก็เดินไปข้างหน้าและเคาะประตู แต่เขาก็ยังคงระมัดระวังตัว

แต่เนื่องจากว่าโลกที่เขาอยู่ตอนนี้เป็นของจริง ทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นไปตามบทที่เขาเคยรู้มา ถ้าหากเขาต้องตายอย่างไม่ตั้งใจจากการลอบโจมตีของปรมาจารย์ มันก็คงน่าหดหู่ใจเกินไป

"นั่นใครน่ะ?"

เมื่อได้ยินเสียงของไป่จางถัง จ้าวซือก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ "ข้าเป็นพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพ ข้ามาส่งอาหารตามออเดอร์พิเศษให้เจ้าของร้านถง"

ประตูถูกเปิดออก แต่สิ่งที่ยื่นออกมาต้อนรับจ้าวซือก็คือนิ้วของไป่จางถังที่กำลังกระพือ

“หัตถ์ฝังเข็มทานตะวัน!”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ การเคลื่อนไหวของไป่จางถังก็รวดเร็วราวกับเสียงฟ้าร้องอย่างฉับพลัน แล่นเข้าที่หน้าอกของจ้าวซือ

นี่เป็นเคล็ดวิชาที่เขาชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้อันกว้างใหญ่ มีคนเพียงไม่เกินห้าคนที่สามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้!

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาสีหน้าของไป่จางถังก็ต้องเปลี่ยนไป เขาเห็นจ้าวซือก้าวถอยหลังอย่างสงบ และปล่อยให้นิ้วของเขาปัดผ่านเสื้อผ้าเขาไป

จ้าวซือยิ้ม “หัตถ์ฝังเข็มทานตะวัน เป็นไปอย่างที่คาดไว้เลย ชื่อนี้ฉันจินตนาการไม่ออกเลยหลังจากที่ดูทางทีวีมาเป็นหมื่นครั้งแล้ว คราวฉันก็จะได้สัมผัสด้วยตัวเองซะที”

อันที่จริงจ้าวซือเองก็ประหม่าเล็กน้อยเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะสะท้อนกลับของโจวซิงฉือ เขาก็คงจะไม่สามารถหลบหลีกได้ง่ายๆ

“เขาเป็นยอดฝีมือจริงๆ ด้วย! แต่ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพเลยนะ เจ้าเป็นยอดฝีมือจากสำนักไหน!?”

เสียงของไป่จางถังเริ่มหม่นลง

โกว๋ฝู๋หรงเองก็ยังสาวเท้าไปข้างหน้าและพร้อมที่จะใช้ฝ่ามือล้นหลามได้ทุกขณะ ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนของโรงเตี๊ยมถงฟู่กำลังรอจ้าวซืออยู่ พวกเขาต่างก็พากันเกร็งต่อหน้าจ้าวซือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด