ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 132
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 134

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 133


ตอนที่ 133

ทว่า ท้ายที่สุดแล้ว ความปั่นป่วนอันรุนแรงและน่าหวาดหวั่นนั้นก็หยุดลงเบื้องหน้าของหลินซวน

สายลมกระหน่ำจนเสื้อผ้าของเขาปลิวไสว แต่หลินซวนตัวน้อยกลับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นมิได้ขยับกาย ไม่แม้แต่จะกะพริบตาเสียด้วยซ้ำไป

ราวกับว่าเป็นเขาเองที่ใช้พลังอันยิ่งใหญ่หยุดความปั่นป่วนเบื้องหน้าของตนเอาไว้!

“เจ้ากล้ามาตัวคนเดียวจริงๆ ด้วย”

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงลุ่มลึกสายหนึ่งก็ดังออกมาจากส่วนลึกของห้วงเหว

หุบเหวลึกแห่งนี้คือสถานที่เช่นไร? มันคือหนึ่งในเขตต้องห้ามของแดนรกร้างโบราณ ในนิทานทั้งหลาย มันอาจจะเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งเหล่าอัจฉริยะเข้ามาท้าทายความสามารถ ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าหาญพอจะยั่วยุที่แห่งนี้

ยังมิได้กล่าวถึงตัวตนที่น่าหวาดผวามากมายซึ่งอาศัยอยู่ในหุบเหวลึกแห่งนี้ และต่อให้มีคนหาญกล้ามากพอจะเข้ามา ปัญหาหลักที่พวกเขาต้องเผชิญคือความคับแคบและน่าสยองขวัญ

อย่างไรก็ตาม หลินซวนนั้นแตกต่างออกไป ไม่เพียงเขาจะใจกล้ามากพอลงมายังก้นเหวแห่งนี้ เขาถึงขั้นเคยต่อสู้กับจ้าวห้วงเหวมาแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

“ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ทว่าต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมเพียงพอ”

น้ำเสียงที่สูงศักดิ์นั้นดังสะท้อนไปทั่วทั้งความว่างเปล่าในห้วงเหว

หลินซวนมิได้กล่าวอันใด เขาเพียงดึงเอากลุ่มก้อนพลังงานห้าสีเข้มข้นออกมาจากร่างกายของตน

แม้ว่าก้อนพลังงานเหล่านั้นจะมีขนาดที่แตกต่างกันไป แต่พลังงานและกลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมานั้นช่างล้ำลึกและเต็มไปด้วยปริศนา

แท่นบูชาห้าสีนั้นกล่าวได้ว่าเป็นตัวจุดชนวนความบาดหมางระหว่างหลินซวนและจ้าวหุบเหวขึ้น

มันย่อมเป็นสมบัติล้ำค่า ก่อนหน้านี้ ในตอนที่จ้าวหุบเหวได้รับแท่นบูชา เขายังมิอาจจะดูดซับมันได้ทันที ทำได้เพียงปิดผนึกมันไว้ก่อน จากนั้นเขาก็เตรียมการเพื่อหาวิธีสกัดเอาแก่นพลังของมันออกมา

บัดนี้ ไม่เพียงหลินซวนจะนำมันกลับคืนมาให้เขา ทารกนั้นยังสกัดเอาพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุดของมันออกมาและวางเอาไว้เบื้องหน้าของเจ้าห้วงเหวด้วยตนเอง

เสียงระเบิดดังขึ้น หมอกทมิฬปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว กวาดผ่านก้อนพลังงานห้าสีนั้นที่อยู่ตรงหน้าของหลินซวน

ทันใดนั้นเอง ปราณวิญญาณบริสุทธิ์นับไม่ถ้วนก็ทะลักทลายออกมาทั่วทั้งห้วงอากาศ ก่อนที่มันจะมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของห้วงเหวตรงไปยังที่ซึ่งนายเหนือของสถานที่แห่งนี้พำนักอยู่!

ราวกับว่าจ้าวหุบเหวกำลังใช้พลังงานนี้ในการเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตนเอง

กลุ่มก้อนพลังงานห้าสีนี้มีสรรพคุณมากมายมหาศาลจนแม้กระทั่งตัวของจ้าวหุบเหวเองยังมีอาจรับรู้ถึงมันได้ทั้งหมด! เหม่อมองฉากที่เกิดขึ้นด้านหน้าของตน หลินซวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย อาศัยเพียงก้อนปราณห้าสีไม่กี่ก้อน กลิ่นอายของจ้าวห้วงเหวก็แข็งแกร่งขึ้น ยิ่งกว่านั้น อาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ในร่างหาวของจ้าวหุบเหวเองก็เริ่มทุเลาลง

ไม่นานหลังจากนั้น จ้าวห้วงเหวก็เริ่มเอ่ยอีกครั้ง

“เจ้าเพียงส่งคืนสิ่งที่เป็นของข้า นี่ยังมิใช่เหตุผลที่ข้าจะยกโทษให้แก่ตระกูลหลินของเจ้า”

แม้ว่าน้ำเสียงของจ้าวหุบเหวจะยังเย็นชาและดูห่างเหินเช่นเดิม ทว่าหลินซวนกลับสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่ลดน้อยถอยลงไปบ้างแล้ว

“ก่อนหน้านี้ ในตอนที่ผู้อาวุโสต่อสู้กันตระกูลหลินของข้า ตระกูลหลินเองก็มิได้รับผลประโยชน์ใดมากมายนัก ผู้อาวุโสในตระกูลบางส่วนยังคงบาดเจ็บสาหัสและมิได้ฟื้นฟูร่างกายอย่างสมบูรณ์จนถึงตอนนี้” หลินซวนกล่าวตอบ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงทารกน้อยวัยครึ่งปีผู้หนึ่ง ทว่าน้ำเสียงของเขาก็จริงจังยิ่งนัก

“ยิ่งกว่านั้น กลุ่มก้อนพลังงานห้าสีที่เจ้าดูดซับไปก่อนหน้านี้ก็มิได้มาจากแท่นบูชาเพียงแท่นเดียว ทว่ากลับมากถึงสองแท่นด้วยกัน”

หมอกทมิฬเจือจางลง และอารมณ์ของจ้าวห้วงเหวเองก็ปั่นป่วน เสียงของเขาดังออกมาจากส่วนลึกด้านใน

“จากที่เจ้าเอ่ยมา ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีแท่นบูชาห้าสีจำนวนมากในมือ?”

“เจ้าใช้ไปสองแล้ว ตัวข้าเหลือแท่นบูชาอีกเพียงสามแท่นเท่านั้น” หลินซวนโกหกใส่อีกฝ่าย

“ส่งมันมา ข้าจำเป็นต้องใช้มันในการรักษาตัว”

“ข้ามอบทั้งหมดให้เจ้าก็ย่อมได้ตาแก่ ทว่าข้าต้องการจะเจรจาบางสิ่งกับเจ้าเช่นกัน ถ้าหากข้อตกลงของเราบรรลุผล ข้าก็มิได้ขัดข้องจะมอบแท่นบูชาทั้งหมดให้เจ้าตามที่พูดไว้”

จ้าวห้วงเหวเงียบไปเป็นเวลานาน ก่อนที่ท้ายที่สุดเขาจะเอ่ย

“ตกลง”

ได้ยินประโยคนั้นของจ้าวหุบเหว หินก้อนใหญ่ที่ถ่วงอยู่ในใจของหลินซวนดูเหมือนจะผ่อนคลายลงบ้างแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตเช่นจ้าวหุบเหว ต่อให้หลินซวนเองจะมีสิ่งที่สามารถใช้เจรจาต่อรองกับอีกฝ่าย และมีผู้พิทักษ์วิญญาณคอยช่วยเหลือในการหลบหนี ทว่าเขาเองก็ยังมิได้วางใจเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามนิสัยของจ้าวหุบเหวนั้นแปลกประหลาดยิ่ง ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ความคิดของเขาได้

ทันใดนั้น สายลมหนาวก็พัดผ่าน และร่างชายชราในชุดสีดำก็เดินออกมาจากความมืดมิดด้วยใบหน้ามืดมน

ชายผู้นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของจ้าวหุบเหวที่ถูกส่งไปยังตระกูลหลินเพื่อส่งสาส์นก่อนหน้านี้ และถูกพวกเขาทุบตีกลับมาจนแทบจะสิ้นชีวิต

“เจ้าหนู ตามมาทางนี้ ข้าจะพาเจ้าไปพบกับนายท่านแห่งหุบเหว”

ตาแก่ในชุดสีดำมองหลินซวนพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแปลกประหลาด

“เจ้านี่ก็กล้าหาญไม่เลว การเดินทางไปทั่วเช่นนี้จะดีหรือ? ราชวงศ์อมตะกำลังจะมาถึงประตูบ้านของเจ้าอยู่แล้วมิใช่หรือไร?”

หลินซวนยิ้มและโค้งตัวลงเล็กน้อย

“ขอบพระคุณในความเป็นห่วง อาวุโสซวนหนี มิใช่ว่าข้ามาที่นี่เพื่อค้นหาความช่วยเหลือหรอกหรือ? ในอนาคต เจ้าสามารถมาเยือนที่ตระกูลหลินได้ทุกเมื่อ ตระกูลหลินจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวล”

เมื่อซวนหนีได้ยินคำพูดของหลินซวน สีหน้าของมันยิ่งมืดครึ้มขึ้นไปอีกระดับ

เจ้าเด็กบัดซบนี่ มันกล้าแตะต้องแผลในใจของเขา! มันถึงขั้นกล้าบอกว่ามาที่นี่เพื่อหาความช่วยเหลือ ใครบอกมันว่านายเหนือต้องการจะช่วยเหลือตระกูลหลินของมัน!

ตาแก่ชุดดำผู้นั้นสะบัดแขนเสื้อของตนเล็กน้อย ก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้น ทันใดนั้นเปลวไฟสีดำทองก็ลุกไหม้บนผืนดิน หลินซวนสามารถเห็นเพลิงแห่งซวนหนีในตำนานได้ชัดเจน เขาค้นพบว่าแก่นกลางของเปลวไฟนี้คือทองคำบริสุทธิ์ที่แฝงกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ แม้มันจะเปล่งประกายสวยงาม ทว่าเมื่อถูกล้อมรอบด้วยหมอกทมิฬกลับให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดยิ่งนัก

หลินซวนเองก็อดมิได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย

“แม้ว่าเจ้าซวนหนีตัวนี้ร่างกายจะเริ่มเน่าเปื่อยผุพัง ทว่าเปลวเพลิงสีดำทองของมันก็ยังพอมีพลังอยู่บ้าง หรือว่าสายเลือดของมันมีบางผิดปกติ?”

เมื่อซวนหนีได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากของหลินซวน มุมปากของเขาก็อดมิได้ที่จะกระตุกไม่เป็นจังหวะ เจ้าเด็กบัดซบนี่ ไม่คิดจะพูดสิ่งใดที่มันดีกว่านั้นหน่อยหรือ?

ซวนหนีไม่ได้โต้ตอบใดๆ และสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง ทันใดนั้น หมอกทมิฬโดยรอบก็จางหายไป เมื่อทัศนวิสัยชัดเจนขึ้น พวกเขาทั้งสองก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าจ้าวห้วงเหวแล้ว

ตาแก่ในชุดดำที่เป็นร่างจำแลงของซวนหนีเพียงถอยออกไปอย่างเงียบงัน

ทางด้านหลินซวนที่มองไปจังจ้าวหุบเหวนั้น เขาก็เปิดเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา

นี่มันคืออสูรประเภทใดกันที่อยู่เบื้องหน้าเขา มันมีขนาดใหญ่เท่าเกาะทั้งเกาะ ใบหน้ามิอาจมองเห็นได้ชัดเจน สัมผัสได้เพียงความยิ่งใหญ่ไร้จุดสิ้นสุด เหนือศีรษะของมันสามารถมองเห็นเมืองที่ถูกทำลายลงทว่ายังคงปล่อยกลิ่นอายเก่าแก่ออกมา

ใจกลางเมืองแห่งนั้น ปรากฏเป็นบัลลังก์ที่สูงราวพันฉื่อ.. มันถูกสร้างมาจากศิลาบางชนิดที่บ้างก็ดูไม่ธรรมดาบ้างก็เป็นเพียงหินสามัญ ทว่าแฝงไว้ด้วยสัมผัสแห่งกาลเวลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด