ตอนที่แล้วบทที่ 16 ฉันจะซัดลูกบาสให้กระจุยในหมัดเดียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 กล้าดียังไงมาแกล้งฉันในห้องเรียน

บทที่ 17 ฉันจะอัดรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยให้ร่วงลงกับพื้นและลงโทษพวกแกงค์ตบทรัพย์


บทที่ 17 ฉันจะอัดรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยให้ร่วงลงกับพื้นและลงโทษพวกแกงค์ตบทรัพย์

เฉียนเฟิงมองดูจ้าวซืออย่างเยาะเย้ยราวกับเขากำลังพูดว่า นี่แหละเป็นผลกรรมของการเป็นศัตรูกับฉัน

“วางเสื้อผ้าของฉันลงซะ” จ้าวซือกล่าวอย่างเย็นชา

เมื่อสมาชิกในทีมโรงเรียนได้ยินดังนั้น พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก

“ทำไมแกพูดกับรุ่นพี่แบบนี้?”

“นี่แกขู่พวกเราเหรอ?”

"ฮ่าฮ่า น้องปีหนึ่งนี่มันเกรี้ยวกราดจริงโว้ย"

หนึ่งในนั้นหยิบกางเกงของจ้าวซือขึ้นมาและเหวี่ยงมันลงพื้น น้ำเสียงของเขาหยิ่งผยองมาก “ฉันไม่คืนให้แกหรอก มีอะไรไหม? เว้นแกแต่จะยอมโค้งคำนับและยอมรับผิดซะ”

"ฉันทำอะไรผิด?" จ้าวซือแลดูนิ่งจนผิดปกติ นิ่งจนทำให้คนพวกนี้ค่อนข้างไม่สบายใจ

กัปตันทีมกล่าวเยาะ “ก็แกทำลายลูกบาสของเราไง”

“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก จริงไหม? ให้ฉันเดานะ เฉียนเฟิงครอบครัวของนายรวยมากใช่ไหม?” จ้าวซือกวาดตามองไปทั่วฝูงชนและหยุดอยู่ที่เฉียนเฟิงซึ่งสิ่งนี้ทำให้เฉียนเฟิงรู้สึกอึดอัดราวกับว่าเขากำลังถูกสัตว์ร้ายจ้องมอง

“รุ่นพี่ ผมสงสัยว่าคุณเก็บเงินได้เท่าไหร่แล้วถึงได้มาสร้างปัญหาให้ผมด้วยข้อแก้ตัวที่ไร้สาระแบบนี้” จ้าวซือก้าวไปข้างหน้า

รุ่นพี่คนที่กำลังถือกางเกงไม่พอใจกับท่าทางเขาจ้าวซือ เขาชกเข้าไปที่ที่ใบหน้าของจ้าวซือ “ฉันก็อุตส่าห์ว่าจะไม่ทำแกแล้วเชียว แต่แกก็บังคับให้ฉันต้องทำ!”

แต่ทว่าเขาก็เหวี่ยงหมัดไปได้เพียงครึ่งทาง แต่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าถูกกระแทกเข้าที่ท้องอย่างแรง ตัวของเขาลงไปงอเหมือนกุ้งอยู่บนพื้น

“นี่แกกล้าทำร้ายคนเหรอ? อัดมันเลย!”

แล้วเหล่ารุ่นพี่จะทนให้เด็กปีหนึ่งมาเหยียบหน้าได้อย่างไร? พวกเขาก้าวไปข้างหน้าทีละคนๆ และต้องการที่จะสั่งสอนจ้าวซือ

เมื่อเฉียนเฟิงเห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย มันคงจะยากหน่อยที่จะสู้กับคนพวกนั้นด้วยมือเพียงสองมือ ยิ่งไปกว่านั้นรุ่นพี่พวกนั้นก็เป็นทีมนักบาสโรงเรียนเสียด้วยและแต่ละคนก็แข็งแกร่งยิ่งนัก เป็นที่เข้าใจได้ว่าจ้าวซือจะต้องต่อสู้กับคนสามคนและแขนหกข้าง

"นี่มันเป็นไปได้ยังไง!"

เฉียนเฟิงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง จ้าวซือสามาถที่จะต่อสู้กับหัวโจกของโรงเรียนได้อย่างหน้าตาเฉย และภายในพริบตาเดียวรุ่นพี่พวกนั้นก็ลงไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นเสียแล้ว

“ไอ้ตัวประหลาด ไอ้สัตว์ประหลาด!” รุ่นพี่คนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นคนที่มีกำลังมหาศาลในการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน เขารีบเอามืออุดจมูกและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

ซึ่งสิ่งนี้เหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ รุ่นพี่ทีมบาสของโรงเรียนที่เหลือก็ต่างพากันวิ่งกระเจิงไปทางเดียวกัน ทิ้งไว้เพียงคราบเลือดเท่านั้น

จ้าวซือหยิบเสื้อผ้าของเขาขึ้นมาเก็บใส่กระเป๋าและเดินผ่านเฉียนเฟิง “นายจะลองดูอีกครั้งก็ได้นะดูซิว่าฉันจะเอาชนะนายได้ไหม”

หลังจากที่จ้าวซือจากไปได้สักพักใหญ่ๆ ร่างที่แข็งทื่อของเฉียนเฟิงก็ทรุดลงกับพื้น พร้อมกับเหงื่อไหลออกมาทั่วร่างอย่างไม่รู้ตัว

ระหว่างทางที่จ้าวซือกำลังขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอยู่นั้น เขาเห็นลุงวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างถนน

แต่ปฏิกิริยาของจ้าวซือก็รวดเร็วมากและขณะที่เขายังพอมีระยะห่างจากอีกฝ่ายเขาก็ตัดสินใจเบรคทันที

ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ฉวยโอกาสนี้นอนราบลงไปกับพื้นและกลิ้งมาที่ด้านหน้ารถของเขา

"แม่งเอ้ย ฉันเจอพวกแกงค์ตบทรัพย์"

จ้าวซือได้คำนวนทุกอย่างไว้แล้วแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีวันนี้จนได้

ราวกับว่าผู้คนที่อยู่โดยรอบสังเกตเห็นเหตุการณ์นั้น คนประเทศนี้ดูเหมือนจะชอบมุงกันยิ่งนัก

จ้าวซือรู้ดีว่าสิ่งนี้กำลังจะกลายเป็นปัญหา

เขาเห็นลุงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นและยกมือขึ้นเท้าสะเอว ลุงคนนั้นคว้าแขนเสื้อของจ้าวซือเอาไว้และอ้าปากตะโกนให้คนช่วย “ฉันโดนชน ฉันโดนรถชน พนักงานส่งอาหารคนนี้ขับรถชนฉัน! อย่าหนีนะ!”

“ผมไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย” จ้าวซือกล่าวอย่างสงบ แต่เมื่อเขามองดูหน้าอีกฝ่ายเขาก็ต้องรู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย

หญิงชราเดินปลีกตัวออกมาจากฝูงชนและก่นด่าเขาว่า “ทำไมคนหนุ่มสมัยนี้ถึงได้ใจร้ายจังนะ? ชนคนอื่นแล้วยังคิดจะหนีอีกงั้นเหรอ?”

สีหน้าของจ้าวซือหม่นลง คุณยายคนนี้เห็นด้วยตาตัวเองยังงั้นเหรอว่าเขาขับรถชนคน? ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองก็อย่ามาสร้างปัญหาให้เขาเพิ่มอีกเลย…

เมื่อคนที่ผ่านไปผ่านมาได้ยินดังนั้น ทุกคนก็เริ่มจะชี้ไม้ชี้มือและวิพากษ์วิจารย์จ้าวซือ

“คุณคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมไม่ได้คิดจะหนีเลย ผมจะพาเขาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ” ขณะที่เขาพูด จ้าวซือก็เหลือบมองลุงวัยกลางคนคนนั้น “ขึ้นรถสิครับ”

ชายวัยกลางคนตกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดว่าจ้าวซือจะมีปฏิกิริยาเช่นนั้น อย่างไรก็ตามเขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า “คุณแค่จ่ายค่ารักษากับค่าทำขวัญมาให้ผมก็พอแล้ว ผมจะไปโรงพยาบาลเองก็ได้ ผมเห็นว่าคุณกำลังยุ่งกับงานส่งอาหารอยู่เพราะฉะนั้นผมก็เลยไม่อยากจะรั้งคุณไว้นานเกินไป”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวซือก็เกือบจะสบถออกมา ชายคนนี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนักเห็นได้ชัดว่าเขาพยายามรีดไถเงิน แต่เขากลับพูดเหมือนว่าเห็นอกเห็นใจเขา ราวกับว่าเขาได้ทำเพื่อประโยชน์ต่อจ้าวซือ

“ดู ดูสิ พ่อหนุ่ม คนชักมุงกันเยอะแล้วนะ คุณน่าจะจัดการให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปซะ เอาเงินให้เขาแล้วก็แยกย้ายกันอย่างสงบเถอะ” หญิงชรายังคงกล่าวย้ำ

จ้าวซือโบกมือและกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ ในเมื่อผมขับรถชนคนผมก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด ผมต้องพาเขาไปโรงพยาบาล คุณลุงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องส่งอาหารหรอก อย่างมากผมก็แค่ยกเลิกออเดอร์หรือขอให้เพื่อนร่วมงานไปส่งอาหารแทน”

ชายวัยกลางคนต้องตกใจอีกครั้ง เขารู้ว่าเขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก เขาจึงได้เปลี่ยนคำพูดทันที “พ่อหนุ่ม ฉันเห็นว่าในวัยหนุ่มเช่นนี้เธอก็ค่อนข้างเป็นคนฉลาดนะ เอาไว้พวกเราไปถึงที่โรงพยาบาลแล้วเราจะได้พิสูจน์กันว่าใครที่ขับรถชนฉัน? แล้วถ้าเธออยากที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายล่ะก็? ในความคิดของฉันแล้ว เธอจะต้องจ่ายทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญให้ฉันด้วยนะ ฉันว่าพวกเรามาตกลงกันเองดีกว่า ไม่งั้นฉันก็คงจะต้องแจ้งตำรวจนะ”

จ้าวซือหัวเราะเยาะอยู่ในใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรออกทันที “ฮัลโหล? สำนักงานตำรวจจราจรใช่ไหมครับ?  คุณตำรวจครับที่นี่มีพวกแกงค์ตบทรัพย์ ผมต้องรบกวนให้คุณตำรวจมาที่นี่หน่อยครับ ใช่ครับ ที่ถนนสามัคคีครับ...”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายวัยกลางคนและหญิงชราต่างพากันตื่นตระหนก

“นี่พ่อหนุ่ม จะรีบโทรแจ้งตำรวจทำไม!? วันนี้ฉันมีธุระด่วนต้องไปทำ ลืมเรื่องวันนี้ไปซะเถอะนะ ฉันไปก่อนล่ะ!” ชายวัยกลางคนต้องการใช้ข้ออ้างนี้เพื่อที่จะหลบหนี

หญิงชราไม่ได้พูดอะไรและถอยหลังกลับไปทางจีนมุง

จ้าวซือคว้าแขนเขาเอาไว้ “ลุง ไม่มีทางหรอกนะ ผมโทรเรียกตำรวจมาแล้ว ลุงบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากจะแจ้งตำรวจ? แล้วคุณยายคนนั้นละ จะไปไหนงั้นเหรอ?”

“อ่อ ฉันเพิ่งนึกได้ว่าต้องไปซื้อผ้าอ้อมให้หลานชายน่ะ...” หญิงชรารีบเบียดฝูงชนและกำลังจะวิ่งหนีไป

จ้าวซือตะโกนว่า "ทุกคน อย่าปล่อยเธอไปนะ เธอเป็นพวกเดียวกันกับคุณลุงคนนี้!"

หญิงชรายิ้มเยาะในใจ สมัยนี้แล้วใครจะไปกล้ายุ่งเรื่องคนอื่นแล้วกล้าแตะต้องคนแก่อย่างเธอกันล่ะ?

อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิด คนที่อยู่โดยรอบกล่าวว่า “คุณยาย ไม่ต้องรีบซื้อผ้าอ้อมแล้วงั้นเหรอ?”

ชายวัยกลางคนต้องการที่จะสะบัดหนีให้พ้นการจับกุมของจ้าวซือแต่เขาหารู้ไม่ว่าพละกำลังของจ้าวซือนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก เขาขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียวและสีหน้าก็เริ่มซีดเผือด

“น้องชาย ฉันผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ ฉันจะให้เงินคุณนะ แล้วปล่อยฉันไป ตกลงไหม?”

เมื่อเห็นว่าเขาทำอะไรไม่ได้ ชายวัยกลางคนจึงเริ่มอ้อนวอน “แม่กับฉันไม่มีจะกิน พวกเราก็เลยต้องมาทำเรื่องแบลคเมล์คนแบบนี้…”

เมื่อจ้าวซือได้ยินดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เหยียด ที่อีกฝ่ายดูไม่เหมือนก่อนหน้านี้เลย

“นี่แกมันเป็นปีศาจงั้นเหรอ?!” เมื่อชายวัยกลางคนเห็นว่าจ้าวซือไม่แยแสจึงอดไม่ได้ที่จะก่นด่าเขา

จ้าวซือส่ายหัว “พอเข้าคุกไปแล้วก็จะมีอาหารกิน ไม่ต้องกลัวไปหรอกนี่ผมกำลังช่วยคุณอยู่นะ”

"ไอ้บ้า!" ชายวัยกลางคนสาปแช่ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าจ้าวซือจะทำกับเขาเหมือนที่เขาทำกับผู้อื่นเช่นนี้

ไม่นานนักตำรวจจราจรหญิงก็มาถึง เธอรู้ได้ทันทีว่าชายวัยกลางคนและหญิงชราเป็นคนร้ายที่ทำงานร่วมกันเพื่อแบล็กเมล์คนอื่น นอกจากนี้เธอยังยกย่องจ้าวซือด้วย

แต่จนแล้วจนรอดหญิงชราก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมไทยมุงทั้งหลายถึงพยายามหยุดเธอเอาไว้ นั่นก็เพราะเธอไม่รู้ว่าจ้าวซือมีทักษะมหาเสน่ห์ จึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะใช้ประโยชน์จากฝูงชนโดยรอบ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด