บทที่ 6 องค์ชายรองโจว อาหารที่ท่านสั่งมาถึงแล้ว
บทที่ 6 องค์ชายรองโจว อาหารที่ท่านสั่งมาถึงแล้ว
“พี่ชาย ดูวิดีโอนี่สิ น่าสนใจดีนะ…”
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ จ้าวเมิ่งก็เอาโทรศัพท์ให้จ้าวซือดู
เมื่อจ้าวซือหยิบมือถือมาดู นี่มันเป็นวิดีโอที่เขากำลังย่างปลาอยู่ที่ร้านปลาย่างจางเฟยและกำลังถูกเถ้าแก่ไล่ตามตื๊ออยู่ใช่ไหม?
“พี่ชาย จะว่าไปนะ คนๆ นี้ดูคล้ายๆ พี่เลยนะ…” จ้าวเมิ่งเบิกตากว้างและพินิจพิเคราะห์ดูคนที่อยู่ในคลิปวิดีโอนั้น
เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของจ้าวซือก็เต้นระรัว นี่น้องสาวจะจำเขาได้หรือเปล่านะ?
“น่าเสียดายจัง” จ้าวเมิ่งรู้สึกเสียใจเล็กน้อย “ถ้าเป็นพี่จริงๆ ก็น่าจะเยี่ยมไปเลยนะ ฉันจะได้เอาไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนซะหน่อย”
จ้าวซือแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกและเขกหัวของจ้าวเมิ่งเบาๆ “นี่เธอลืมที่พี่พูดไปแล้วเหรอ เธอต้องไม่ทำตัวเด่น!”
“แต่เอาเข้าจริงนะ พนักงานส่งอาหารลึกลับคนนี้ตอนนี้ดังมากเลยนะ วิดีโอนี้ถูกโพสต์แค่ไม่กี่วินาทีก็กลายเป็นไวรัลไปทั่วอินเตอร์เน็ตเลย เพื่อนที่โรงเรียนของฉันก็เป็นไปกับเขาด้วย…”
เมื่อได้ยินดังนั้นจ้าวซือก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ดูเหมือนว่าตอนที่เขาย่างปลาที่ร้านปลาย่างวันนี้จะถูกอัดคลิปเอาไว้และถูกอัพโหลดขึ้นไปบนโลกโซเชียล
ในที่สุด มันก็กลายเป็นประเด็นร้อนในทันที่
พนักงานส่งอาหารที่ถูกเรียกว่าเป็นคนใจร้อนและตรงเข้าไปในร้านเพื่อทำอาหาร กลายเป็นเรื่องตลกที่ถูกกล่าวขวัญถึง
โชคดีที่วิดีโอนั้นค่อนข้างเบลอ แม้แต่จ้าวเมิ่งเองก็ยังไม่มั่นใจว่าคนในวิดีโอนั้นก็คือเขานั่นเอง
บางคนก็คิดว่ามันเป็นภาพตัดต่อ ดังนั้นจ้าวซือจึงไม่ได้กลัวว่าวิดีโอนี้จะทำให้เขามีปัญหา
"แต่ถ้าฉันสามารถเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ล่ะก็..." เมื่อดูวิดีโอคลิปที่ส่งต่อกันไปนับล้าน จ้าวซือก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
ตั้งแต่เขาจะได้รับ ‘ระบบ’ มา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านปลาย่างหรือหมอฮันไป่เสวี่ย พวกเขาทั้งหมดต่างก็เสนอเงินเดือนให้เขาสูงๆ ทั้งนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วในตอนนี้เขาก็ยังไม่มีเงินแม้แต่หยวนเดียว
ค่าเทอมของน้องสาว ค่าเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหน้า และค่าธรรมเนียมต่างๆ สำหรับการเริ่มเรียนที่เขาต้องจ่ายเร็วๆ นี้...
"หาเงินสิ!"
จ้าวซือแอบตัดสินใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ส่งจ้าวเมิ่งไปโรงเรียนแล้ว จ้าวซือก็เริ่มเปิดรับออเดอร์คำสั่งซื้อ
ตามข้อความที่แจ้งเตือนของระบบ เขาสามารถรับออเดอร์อนันตภพใหม่ได้ทุกเมื่อ แต่ในกระบวนการการกระจายสินค้า ความน่าจะเป็นจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
นี่เป็นเหตุผลที่จ้าวซือไม่ยอมเลิกทำงานส่งอาหารเดลิเวอรี่
“บี๊บ! บี๊บ! มีคำสั่งซื้อจากเมืองทองคำ องค์ชายรองหยวนเจี๋ยกำลังถูกล้อมไว้โดยทหารรักษาการณ์วังหลวง เขากำลังเหน็ดเหนื่อยและต้องการการจัดส่งอย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มพลังให้เขา คุณจะยอมรับออเดอร์นี้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือนของระบบ จ้าวซือก็ตื่นตัวทันที
ทั้งเมืองที่ประดับไปด้วยทองคำ? องค์ชายรองหยวนเจี๋ย?
จ้าวซือเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อน และความประทับใจของเขาที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ค่อนข้างจะลึกซึ้ง สำหรับตัวละครหลักขององค์ชายรองหยวนเจี๋ย... นั่นคือ โจวเจี๋ยเหริน!
ยอมรับ!
เบื้องหลังการถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความฟุ่มเฟือยเป็นอย่างยิ่งในพระราชวังหลวง สิ่งที่เห็นอยู่ดาดดื่นก็คือทองคำ เงิน และเครื่องประดับต่างๆ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่แจกันสั่วๆ แต่มันก็อาจจะเป็นสมบัติล้ำค่าก็เป็นได้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้จ้าวซือจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธออเดอร์นี้
"บี๊บ! บี๊บ! คำสั่งได้รับการตอบรับแล้ว [ข้าวผัดราชาวัวอสูร] ถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติแล้วที่ท้ายรถ!"
"บี๊บ! บี๊บ! คำสั่งนี้อาจมีอันตรายในระหว่างขั้นตอนการจัดส่ง ระบบจะไม่ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม โฮสต์ โปรดดำเนินการตามความสามารถของตัวท่านเอง!"
พร้อมกับเสียงเตือนของระบบ อุโมงค์อนันตภพก็ค่อยๆ เปิดออกห่างออกไปไม่ไกลนัก
จ้าวซือเหยียบคันเร่งจนสุดและพุ่งเข้าไปในอุโมงอนันตภพทันที
ทันทีที่เขาบึ่งรถออกมาจากอุโมงอนันตภพ จ้าวซือก็ได้ยินเสียงอาวุธกระทบกันเสียงเซ็งแซ่
รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตกลงบนพื้น ด้านหน้าของเขาคือพระราชวังหลวง ฉากนี้ดูเหมือนจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านหนึ่งเป็นทหารรักษาการณ์วังหลวงที่กำลังซุ่มโจมตีอยู่ และอีกด้านหนึ่งเป็นนักรบชุดเกราะทองคำที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
และในตอนนี้จ้าวซือกำลังอยู่ในใจกลางสนามรบ!
ช่วงเวลาที่จ้าวซือลงจอดบนพื้น มีมีดดาบและลูกศรหลายลูกที่เล็งมาที่เขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อการโจมตีเหล่านี้กระทบเข้ากับยูนิฟอร์มของเขา มันก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนปรากฏขึ้น
"มันเป็นใครกัน!?"
ไม่ว่าจะเป็นทหารรักษาการณ์วังหลวงหรือนักรบชุดเกราะทองคำ พวกเขาต่างก็พากันตกตะลึงกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจ้าวซือ
“องค์ชายรองหยวนเจี๋ยอยู่ที่ไหน?!”
ท่ามกลางความสับสนอลหม่าน จ้าวซือได้ปลดปล่อยกำลังภายในและคำรามออกมา
“เจ้าเป็นใครมาตามหาข้า?!!”
ณ ใจกลางของสนามรบที่วุ่นวาย นักรบชุดเกราะทองคำที่ถือดาบอยู่ในมือกล่าวตอบ
จ้าวซือมองดูใกล้ๆ ก็พบว่าชุดเกราะของนักรบชุดเกราะทองคำคนนี้ดูงดงามกว่าของคนอื่นเล็กน้อย และดาบในมือของเขาก็มีความพิเศษมากทีเดียว
เมื่อเขาได้เห็นหน้าของอีกฝ่าย จ้าวซือก็ต้องรู้สึกขบขัน
นี่คือโจวเจี๋ยเหรินอย่างแน่นอน เขาดูคล้ายกับคนที่แสดงในภาพยนตร์มากเลย!
“องค์ชายรองหยวนเจี๋ย ของที่พระองค์สั่งมาถึงแล้ว!”
จ้าวซือขี่รถพลังงานไฟฟ้าของเขาผ่านกองทัพทหาร มาจนถึงตรงหน้าของหยวนเจี๋ย
"อะไรนะ?" หยวนเจี๋ยตกตะลึง
จ้าวซือหยิบข้าวผัดไข่ราชาวัวอสูรออกจากท้ายรถ "ข้าวผัดไข่หนึ่งกล่องขอรับ!"
“ข้าวผัดไข่งั้นเหรอ? ตอนนี้ข้าไม่มีเวลากินหรอกนะ!” หยวนเจี๋ยคำราม แม้ว่าตอนนี้เขาจะเหนื่อยอ่อนและหิวโหย แต่เขาก็ถูกซุ่มโจมตีและนักรบเกราะทองคำรอบตัวเขาก็กำลังล้มตายลงเรื่อยๆ แล้วเขาจะไปมีเวลากินข้าวได้อย่างไรกัน?
เมื่อได้ยินเช่นนี้จ้าวซือก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังช่วยเตะทหารรักษาการณ์วังหลวงที่กำลังเข้ามาจู่โจมไปด้วย
“ดูสภาพของพระองค์ตอนนี้สิ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝ่าวงล้อมออกไปได้ ข้ารับรองได้ว่าตราบใดที่พระองค์กินข้าวผัดไข่นี้แล้ว พระองค์จะสามารถเปิดทางไปยังลานเบญจมาศได้อย่างแน่นอน!”
จ้าวซือกล่าวแนะนำ ในขณะเดียวกันเขาก็เข้าโจมตีและขับไล่ทหารรักษาการณ์วังหลวงสองสามคนที่พุ่งเข้าหาองค์ชายรองหยวนเจี๋ยในทันที
"นั่นก็จริง!"
อันที่จริงหยวนเจี๋ยคิดว่าเขาเกือบจะตายอยู่แล้ว
เป็นดังเช่นที่จ้าวซือได้กล่าวเอาไว้ ด้วยสภาพในปัจจุบันของเขาและนักรบชุดเกราะทองคำที่เหลืออยู่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเปิดทางไปหาองค์จักรพรรดิได้
ในเวลานั้นไม่เพียงแต่เขาจะต้องเสียสละชีวิตของนักรบเกราะทองคำเหล่านี้ แต่เขาก็ยังไม่อาจที่จะช่วยแม่ของเขาได้!
คำพูดของจ้าวซือกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตของหยวนเจี๋ยเอาไว้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่จ้าวซือขับไล่ทหารรักษาการณ์วังหลวงที่อยู่รอบๆ เขาและเคลื่อนตัวไปมาในสนามรบราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ หยวนเจี๋ยก็ต้องรู้สึกตกใจและรู้สึกคล้อยตามคำพูดของเขาเป็นอย่างมาก
“ก็ได้ ข้าจะกิน!”
หยวนเจี๋ยตกลงอย่างง่ายดาย
ในเวลานี้จ้าวซือได้นำข้าวผัดไข่ราชาวัวอสูรมาให้หยวนเจี๋ยแล้ว
“พระองค์กินเสียสิ ข้าจะรับประกันความปลอดภัยให้พระองค์เอง!”
จ้าวซือส่งข้าวผัดไข่ราชาวัวอสูรให้แก่หยวนเจี๋ยและยืนอยู่เคียงข้างเขา
หยวนเจี๋ยพยักหน้าอย่างแรงและเริ่มกินข้าวคำโต
"อร่อยจัง! "
แม้ว่าจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่หยวนเจี๋ยก็ยังอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความชื่นชม
เนื้อวัวชิ้นโตเต็มปากเต็มคำและเนื้อสัมผัสก็ชุ่มฉ่ำ เกือบทุกคำที่กินเข้าไปเป็นสัดส่วนที่ลงตัวกับข้าวที่ผัดจนเป็นสีทอง กลิ่นหอมของหัวหอมที่เข้มข้นและรสเผ็ดร้อน ข้าวผัดเนื้อแบบนี้ แม้ในฐานะองค์ชายนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของหยวนเจี๋ยที่ได้กินข้าวผัดเนื้ออร่อยแบบนี้
“ข้าวผัดอะไรเนี่ย! เจ้าเป็นใครกันแน่!”
หยวนเจี๋ยอดไม่ได้ที่จะถาม
"ข้าวผัดไข่ราชาวัวอสูร" จ้าวซือตอบอย่างแผ่วเบา “ส่วนข้านั้นเป็นพนักงานส่งอาหารแห่งอนันตภพ ข้าได้เดินทางข้ามอนันตภพเพื่อมาช่วยท่าน คนที่ต้องการความช่วยเหลือ”
"พนักงานส่งอาหารแห่งอนันตภพ!" แม้ว่าหยวนเจี๋ยจะไม่เข้าใจสิ่งที่จ้าวซือพูด แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังของจ้าวซือ
ในเวลานี้ หลังจากที่เขาได้กินข้าวผัดไข่ราชาวัวอสูรจนอิ่มแล้ว เขาก็รู้สึกว่าความหิวและความเหนื่อยล้าของเขาได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าจะมีพลังลึกลับพุ่งออกมาจากส่วนลึกในร่างกายของเขาอีกด้วย
“นักรบชุดเกราะทองคำ จงตามข้ามา!”
หยวนเจี๋ยส่งเสียงเรียกไพร่พลออกมา พลังทั้งหมดของผู้บัญชาการกองทัพได้ถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์แล้ว!