ตอนที่แล้วบทที่ 4 ปลาย่างของเขาทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 องค์ชายรองโจว อาหารที่ท่านสั่งมาถึงแล้ว

บทที่ 5 ลูกค้าสาวของผมกำลังตกอยู่ในอันตราย


บทที่ 5 ลูกค้าสาวของผมกำลังตกอยู่ในอันตราย

“ลูกค้ากำลังตกอยู่ในอันตราย!”

หลังจากที่จ้าวซือคิดได้ดังนั้น เขาก็รีบถีบประตูให้เปิดออกและเข้าไปในบ้าน

มีผู้ชายมีกล้ามสามคนอยู่ภายในห้องโถงนั้นกำลังล้อมผู้หญิงคนนั้นที่กำลังถือมีดปอกผลไม้เอาไว้ในมือ และพวกเขาก็กำลังเผชิญหน้ากันอยู่

ในตอนนี้พวกเขาทุกคนต่างก็พากันหันมามองจ้าวซือ

ผู้หญิงที่มีลักษณะและอารมณ์ที่โดดเด่น มีแววตาหวาดกลัวเล็กน้อยน่าจะเป็นฮันไป่เสวี่ย

ชายมีกล้ามทั้งสามคนได้สบตากัน โดยปล่อยให้คนหนึ่งจับตาดูฮันไป่เสวี่ยเอาไว้ ในขณะที่อีกสองคนขยับเข้ามาใกล้จ้าวซือ

“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร อย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า ไม่งั้นล่ะก็...”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภาวะคุกคาม ซึ่งจ้าวซือได้ขัดจังหวะพวกเขาเข้าอย่างจัง

“ผมไม่สนหรอกว่าพวกคุณเป็นใคร แต่ตอนนี้ลูกค้าของผมมีปัญหา ผมคงจะทนดูเฉยๆ ไม่ได้!”

ดวงตาของฮันไป่เสวี่ยเป็นประกายเมื่อเธอได้ยินดังนั้น

เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอสั่งอาหารเดลิเวอรี่ไปและดูเหมือนว่าเขาจะมาถึงแล้ว!

แต่... ในฐานะพนักงานส่งของ เขาจะสามารถช่วยเธอแก้ปัญหาได้จริงหรือ?

เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฮันไป่เสวี่ยก็เผยให้เห็นถึงความกังวล

เมื่อเห็นท่าทางที่แข็งกร้าวของจ้าวซือ ชายมีกล้ามทํ้งสองคนก็มองหน้ากัน แต่เพียงอึดใจต่อมาพวกเขาก็ยิ้มเหยียดและเข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว

คนหนึ่งโจมตีที่จุดหนึ่งและอีกคนโจมตีอีกจุดหนึ่ง เป้าหมายของพวกเขาก็คือที่ใบหน้าและหน้าท้องของจ้าวซือซึ่งเป็นจุดสำคัญทั้งสองที่

ฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่ให้ความร่วมมือแต่พวกเขายังเข้าจู่โจมอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย

ถ้าจ้าวซือเป็นเพียงคนธรรมดา การจู่โจมครั้งนี้อาจทำให้เขาต้องถึงกับได้แผลหรืออาจจะตายเลยก็เป็นได้

แต่น่าเสียดายที่จ้าวซือไม่ใช่แบบนั้น!

จ้าวซือยกมือขึ้นเพื่อป้องไม้พลองที่เล็งมาที่ใบหน้าของเขา ในขณะที่อีกคนที่จู่โจมหน้าท้องของเขา เขากลับไม่ได้สนใจมันเลย!

ลมปราณภูติอุดร!

ปัง!

เสียงกระแทกหนักๆ ดังขึ้นสองครั้ง จากนั้นชายมีกล้ามทั้งสองคนก็ลอยหวือออกไป

ไม้พลองในมือของพวกเขาถูกทำลายในทันที และเนื้อระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของพวกเขาดูเหมือนจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เนื่องจากแรงกระแทกอันมหาศาล

ทั้งสองคนรีบลุกขึ้นจากพื้นด้วยความกลัว และใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือดลงทันทีเหมือนหนูที่เห็นแมว

จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น

“หรือว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หรือผู้มีความสามารถพิเศษหรือเปล่านะ?!”

รวมถึงชายร่างกำยำที่กำลังจับตาดูฮันไป่เสวี่ย หัวใจของเขาก็กำลังสับสนวุ่นวาย

ดวงตาของฮันไป่เสวี่ยเป็นประกายเมื่อเธอมองไปที่จ้าวซือด้วยความชื่นชม

ถ้าเธอยังคงคิดว่าจ้าวซือเป็นแค่พนักงานส่งอาหารธรรมดาๆ อีกก็คงจะคิดช้าไปหน่อย!

“ผมจะให้เวลาคุณห้าวินาที ให้ออกจากบ้านลูกค้าของผมซะ”

จ้าวซือกล่าวด้วยเสียงทุ้ม

"ไปกันเถอะ..."

ชายมีกล้ามทั้งสามคนเดินไปที่ประตู

แต่ไม่ว่าพนักงานส่งอาหารคนนี้จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อาจที่จะใช้ร่างกายของเขาเพื่อป้องกันตัวจากมีดพับถึงสามอันที่เข้าจู่โจมเขาพร้อมกันได้!

"ระวัง!"

ฮันไป่เสวี่ยอุทาน

แต่ในเวลาต่อมาดวงตาของฮันไป่เสวี่ยก็แทบจะเหมือนคนบ้า

มีดถูกฟันเข้าใส่จ้าวซือจากทุกทิศทุกทาง ร่างกายของจ้าวซือแกว่งไปมาและจู่ ๆ ก็กลายเป็นเหมือนผี มีดที่กระหน่ำฟันเข้าใส่ตัวเขาได้ทะลุผ่านร่างกายของเขาไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มันไม่โดนแม้กระทั่งผมของเขาด้วยซ้ำ

ฝ่ามือไร้กังวล!

ในตอนนี้จ้าวซือกำลังใช้วิชาฝ่ามือไร้กังวลที่ได้มาจากการชำระเงินอนันตภพ

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! เคล็ดวิชาฝ่ามือไร้กังวลนี้มีเทคนิคการเคลื่อนไหวเป็นของตัวเอง ทันทีที่ใช้เคล็ดวิชานี้แม้แต่กระสุนปืนก็ไม่อาจที่จะยิงโดนเขาได้ แล้วนับประสาอะไรกับมีดเพียงไม่กี่เล่ม!

ปัง! ปัง!

เสียงกระแทกหนักๆ ดังขึ้นอีกสามครั้ง ในขณะที่ชายมีกล้ามทั้งสามคนถูกซัดจนลอยหวือไปไกลเหมือนว่าวที่เชือกขาด

สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดนั่นก็คือ มีดพับที่เคยอยู่ในมือของพวกเขาตอนนี้ได้ตกไปอยู่ในมือของจ้าวซือแล้ว

นี่เป็นการกำหราบขั้นเด็ดขาด!

ในตอนนี้ทั้งสามคนนอนอยู่บนพื้น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

นี่ขนาดว่าใช้ฝ่ามือเพียงข้างเดียวเท่านั้นก็ยังไม่รู้ว่ากระดูกของคนพวกนั้นหักไปกี่ชิ้นแล้ว ถ้าเขาอยากจะฆ่าพวกนั้นจริงๆ ล่ะก็มันจะไม่ง่ายเพียงแค่พลิกฝ่ามือเท่านั้นหรอกหรือ?

“ไอ้พวกสารเลว!”

จ้าวซือตะโกน

ทั้งสามคนรีบหนีไปด้วยความกลัวจนขนหัวลุก

“ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว” ฮันไป่เสวี่ยเดินมาที่ด้านข้างของจ้าวซืออย่างเขินอาย

เขาได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ อายุยังน้อยเพียงนี้ไม่เพียงแต่เขาจะแข็งแกร่งเท่านั้น แต่รูปลักษณ์และอารมณ์ของเขาก็ไม่เลวเสียด้วย ผู้หญิงคนไหนก็ต้องอยากเป็นของเขา

จ้าวซือยิ้มและหยิบของที่เขาวางไว้บนพื้น "ทานตอนร้อนๆ นะครับ"

ฮันไป่เสวี่ยมองดูจ้าวซือด้วยแววตามที่หลากหลาย

ในเวลานี้จ้าวซือเพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นใบหน้าของฮันไป่เสวี่ยชัดๆ ดูเหมือนเธอจะอายุประมาณ 20 ปี ใบหน้าของเธองดงามและผิวของเธอก็ขาวราวกับหิมะ เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่ดูแลตัวเองดีและมีอารมณ์แปรปรวน

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ” จ้าวซือวางแผนที่จะจากไป

ฮันไป่เสวี่ยกล่าวว่า "ถ้าคุณไม่รังเกียจ นั่งลงและดื่มชาสักถ้วยก่อนสิคะ"

จ้าวซือตกตะลึงและไม่ปฏิเสธ

ประการแรก เนื่องจากนี่ก็ยังหัววันอยู่และน้องสาวของเขาอาจจะยังไม่กลับบ้าน เขาจึงไม่มีอะไรทำเมื่อเขากลับบ้านไป

ประการที่สองก็คือ จ้าวซือเองก็สนใจฮันไป่เสวี่ยด้วยเหมือนกัน

ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮันไป่เสวี่ยเช็ดปากของเธอด้วยความพึงพอใจ “ปลาย่างนี้อร่อยเหลือเกิน แต่ทำไมเมื่อก่อนที่ฉันเคยสั่งไม่เห็นจะอร่อยแบบนี้เลย?”

จ้าวซืออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ก็เพราะว่าผมเป็นคนลงมือทำปลาย่างนี้เองน่ะสิ”

"จริงเหรอ?" ฮันไป่เสวี่ยมองดูจ้าวซือด้วยแววตาที่ต่างออกไป

อายุยังน้อยแต่ยังแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ แถมยังมีฝีมือการทำอาหารอีก...

ผู้ชายแบบนี้เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร!

เมื่อคิดได้ดังนั้นฮันไป่เสวี่ยก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีความคิดแบบนั้น

หลังจากนั้น... ทั้งสองคนก็คุยกันอย่างมีความสุขและแลกไลน์กัน

“ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนเขียนวิทยานิพนธ์ทางการแพทย์ไม่กี่ฉบับที่เพิ่งจะสร้างความฮือฮาเมื่อนานมานี้ จริงๆ แล้วเธอต้องการให้ฉันอยู่ที่บ้านของเธอ ทำงานเป็นบอดี้การ์ดและพาร์ทไทม์เชฟให้เธอด้วย...”

ระหว่างทางกลับบ้านจ้าวซือรู้สึกร่าเริง

เงื่อนไขของฮันไป่เสวี่ยน่าสนใจไม่น้อย ไม่เพียงแต่เขาจะได้กินและอาศัยอยู่กับสาวสวยในคฤหาสน์แห่งนั้นแล้ว แต่เขาจะยังได้รับเงินเดือนที่สูงมากอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นขณะที่เตรียมจะเข้าโรงเรียนแพทย์ เขาก็สามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาทางวิชาการจากฮันไป่เสวี่ยได้อีกด้วย นี่มันเป็นธุรกิจที่ได้กำไรจริงๆ

แค่ก แค่ก แต่เมื่อจ้าวซือคิดว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องดูแล และในอนาคตเขาต้องไปส่งออเดอร์แห่งอนันตภพ ดังนั้นเขาจึงต้องปฏิเสธงานนี้ไป

เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขาจึงฉวยโอกาสในช่วงที่น้องสาวของเขายังไม่กลับมาทำอาหารจานใหญ่จนเต็มโต๊ะ

...

“ว้าว กลิ่นหอมมากเลยพี่ชาย!”

ช่วงเวลาที่จ้าวเมิ่งผลักประตูเข้ามา เธอรู้สึกว่ามีกลิ่นตลบอบอวนจนน่าตกใจกระทบใบหน้าของเธอ

เธอหิวมากจนน้ำลายแทบไหล ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวจากนั้นเธอก็สลัดคราบการเป็นสาวสวยออกไป

“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน พี่กำลังรอเธอกลับบ้านมากินข้าวด้วยกัน” จ้าวซือยิ้มและตักข้าวให้กับจ้าวเมิ่ง

ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน ซุปไข่มะเขือเทศ ซี่โครงหมูสมุนไพร...

ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารประจำบ้านที่คุ้นเคย อาหารแต่ละจานก็มีเสน่ห์ด้วยสีสันและกลิ่นหอม

"ว้าว อร่อยจังเลย!"

"นี่ก็อร่อยเหมือนกัน!"

“ฝีมือของพี่นี่ยอดเยี่ยมแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“พี่ชาย พี่สุดยอดไปเลย ฉันชอบมาก!”

จ้าวเมิ่งเคี้ยวข้าวจนเต็มปาก เฉพาะในบ้านหลังนี้เท่านั้น ที่เธอจะได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด

“ฮ่าฮ่า อย่าพูดเหลวไหลน่า รีบกินเถอะ” จ้าวซืออารมณ์ดี

หลังอาหาร ดูเหมือนว่าจ้าวเมิ่งต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ห้ามปากเอาไว้

“เป็นอะไรไป? มีอะไรในใจหรือเปล่า?” จ้าวซือสังเกตเห็นถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของน้องสาวของเขา

จ้าวเมิ่งถอนหายใจและพูดอย่างลังเลว่า “ระบบที่โรงเรียนได้รับการปรับโครงสร้างใหม่ พวกเราจะต้องจ่ายค่าข้อมูลประจำปีและค่าเทอมในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว...”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจของจ้าวซือก็รู้สึกเหมือนถูกบีบ “เธอต้องการสักเท่าไหร่?”

"สองพันสำหรับค่าข้อมูลและแปดพันสำหรับค่าเทอม" จ้าวเมิ่งกล่าวอ้อมแอ้มและรู้สึกผิด "ตอนนี้ฉันเก็บเงินได้ยังไม่ถึงพันเลย"

จ้าวซือพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโอนเงินในบัญชีของเขาที่เหลืออยู่กว่าหนึ่งพันหยวนให้กับจ้าวเมิ่ง ซึ่งเขาเหลือเงินติดบัญชีไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเพียงแค่หนึ่งร้อยเหรียญ

“เธอเอาไปจ่ายค่าข้อมูลก่อนก็แล้วกัน ที่เหลือก็เอาติดตัวไว้ แล้วอีกสองวันพี่จะหาค่าเทอมมาให้”

จ้าวเมิ่งรีบกล่าวว่า “พี่ชาย พี่ไม่ต้องให้เงินฉันเอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัวหรอกนะ ถ้าค่าเทอมไม่พอ เดี๋ยวฉันจะทำงานพาร์ทไทม์เพิ่มอีกสักสองสามที่…”

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ พวกเราจะต้องมีเงินเร็วๆ นี้แหละ” เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสารและน่ารักของจ้าวเมิ่ง เขาก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เธอตั้งใจเรียนไปเถอะ ถ้าอยากจะเป็นครูสอนพิเศษตามบ้านเธอก็ทำต่อไปได้ เอาไว้พี่มีเงินพี่จะช่วยเธอจ่ายค่าคลาสเรียนเต้นรำที่เธออยากจะเรียนมาตลอดแล้วกันนะ”

“โอเคค่ะ!” เมื่อเห็นว่าจ้าวซือมีท่าทางมั่นใจ จ้าวเมิ่งจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด