ตอนที่แล้วราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 7 : สี่มหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 9 : ศิลปะแมงมุมกระซิบ

ราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 8 : สร้อยคอลึกลับ


ตอนที่ 8 : สร้อยคอลึกลับ

“ขอบคุณค่ะพ่อ ! พรุ่งนี้หนูจะออกจากมหาลัยทันทีเลยค่ะ” เธอตอบอย่างกระตือรือร้น

การพูดคุยกันระหว่างทั้งสองดำเนินต่อไปอีกไม่กี่นาทีก่อนที่ดยุคจะขอตัวเพื่อไปจัดการกับข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่เกิดขึ้นระหว่างผู้อาศัย

เขาบอกให้เธอไปรอที่ประตูมหาวิทยาลัยตอนประมาณเที่ยงๆ ซึ่งจะมีคนมารอรับเธอ

โซฟีเอนศีรษะพิงหมอนและรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้าที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเธอ นี่นับเป็นหนึ่งในวันที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้

ทันใดนั้น การถ่ายโอนที่เกิดขึ้นข้ามขอบเขตห้วงเวลาและอวกาศจากร่างเดิมเข้าสู่ร่างของหญิงสาวคนนี้ก็เกือบจะเหมือนกับความฝันสำหรับซุย เหมิง

เหตุผลสองประการที่เธอคิดว่าเธอไม่ได้บ้านั่นก็คือความจริงที่ว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอดูเหมือนจะทำงานได้ตามปกติและความทรงจำแปลก ๆ ในหัวของเธอถูกทิ้งไว้ให้โดยเจ้าของร่างเดิม

โซฟีถอนหายใจเบาๆ กลิ้งตัวไปรอบๆ เตียงพร้อมกับเพลิดเพลินกับความรู้สึกนุ่มฟู ของที่นอนใต้ร่างเธอ

อาการบาดเจ็บภายในหายไปเป็นปลิดทิ้ง รวมถึงเซลล์ในร่างกายของเธอก็ดูมีพลังขึ้นด้วยเซรั่มพันธุกรรม

ผลการรักษานั้นยอดเยี่ยมมากจนโซฟีถูกทดลองด้วยพลังของมัน เธอค้นหารอบๆ ลิ้นชักข้างเตียงและพบมีดพลังงานเล่มสั้น

ตัวมีดมีความยาวเพียงเจ็ดนิ้ว ด้ามมีดประดับด้วยลวดลายหมาป่าและมีปุ่มสีขาวเล็กๆ อยู่กลางด้าม

นี่คือมีดที่พ่อของเธอมอบให้ เป็นอาวุธที่ซ่อนไว้เพื่อใช้ป้องกันตัวในกรณีฉุกเฉิน โซฟีกดปุ่มนั้นและฮัมเพลงเบาๆ ทันใดนั้นใบมีดสีเหลืองก็โผล่ออกมาจากด้ามจับ

ใบมีดที่ดูเหมือนเครื่องฉายภาพมากกว่าอาวุธ ในขณะที่รูปร่างของมันค่อยๆเปลี่ยนไปมา โซฟีระมัดระวังอย่างมากเมื่อจับดาบ เนื่องจากสัญชาตญาณของเธอกำลังส่งเสียงเตือนทันทีที่เธอหยิบอาวุธขึ้นมา

เธอถืออาวุธโดยหงายมีดขึ้นแล้วใช้ปลายใบมีดทิ่มไปที่นิ้วหัวแม่มือเบาๆ

เกิดบาดแผลขึ้นในทันทีและมีเลือดหยดเล็กๆ หยดลงบนฝ่ามือของเธอราวกับหยดน้ำตาสีแดงสด

โซฟีเก็บใบมีดและเหลือบมองไปที่ปลายนิ้วของเธอ...

แน่นอนว่าผลตกค้างของเซรั่มยังคงอยู่ในระบบร่างกาย เมื่อเลือดของเธอนั้นหยุดไหลภายในสองนาที

ที่ปลายนิ้วหัวแม่มือของเธอเกิดอาการคันขึ้นและพอโซฟีเช็ดเลือดออกกลับพบว่าบนผิวหนังมีรอยประสานบนบาดแผลที่แทบไม่เหลืออะไรเลยนอกจากขีดสีขาวจางๆ

" ฮ่าๆๆๆ ! " เสียงหัวเราะเล็กๆ ดังขึ้นจากริมฝีปากของโซฟี ขณะที่เธอรู้สึกทึ่งกับเทคโนโลยีชีวภาพที่แปลกประหลาดนี้

เธอปัดมือที่เปื้อนเลือดของเธอผ่านลงบนสร้อยคอของเธอโดยไม่รู้ตัวซึ่งตอนนี้มันเริ่มเรืองแสงจางๆ โซฟีไม่ได้สังเกตมันในตอนแรกจนกระทั่งเธอรู้สึกอุ่นๆตรงบริเวณหน้าอกของเธอ

ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนจากอุ่นเล็กน้อยไปเป็นเริ่มร้อน และโซฟีก็อดไม่ได้ที่จะก้มมองลงมา

โซฟีขมวดคิ้วเล็กน้อยและพยายามจะถอดสร้อยคอออกจากร่างกายของเธอ ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าดูจะเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ เนื่องจากสร้อยคอดูเหมือนจะไม่ยอมหลุดไม่ว่าเธอจะใช้กำลังมากแค่ไหนก็ตาม

โซฟีสแกนหาในความทรงจำของเธอเพื่อที่จะพยายามหาคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์นี้ แต่ดันไม่เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย

เจ้าของร่างคนเดิมมีสร้อยคอรูปดาวมานานเท่าที่เธอจำได้และไม่เคยถอดมันออกเลยแม้ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำหรือว่านอน

พ่อของเธอห้ามไม่ให้เธอถอดสร้อยคอออกและบอกว่ามันเป็นของที่ระลึกจากแม่ผู้ล่วงลับของเธอ

ตามปกติแล้ว โซฟีจะเชื่อฟังคำพูดของเขาอย่างดี เนื่องจากแม่ของเธอเป็นบุคคลปริศนาที่อยู่ในใจเสมอมา ซึ่งพ่อของเธอจะไม่มีวันพูดถึงเรื่องแม่ถึงแม้จะมีคำถามมากมายของโซฟีก็ตาม

จากข้อมูลที่เธอได้ยินจากสาวใช้ในปราสาท เธอจึงรู้ได้ว่าไม่มีใครนอกจากพ่อของเธอที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเธอ

‘ เป๊าะ ! ’

โซฟีสะดุ้งถอยหลังด้วยความตกใจเมื่อความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ เธอทรุดตัวลงบนเตียงและพบว่าเธอได้สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกาย

ความกลัวและความตื่นตระหนกเริ่มก่อตัวขึ้น และโซฟีพยายามอย่างยิ่งที่จะเอื้อมมือไปหาแท็บเล็ตของเธอเพื่อติดต่อพ่อของเธอ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว...

“โอ้ย !! เจ็บนะ ! เจ็บ !” โซฟีตะโกนเสียงดัง

ตอนนี้สร้อยคอมีอุณหภูมิสูงจนเดือด และหน้าอกของเธอเริ่มพองเมื่อโดนความร้อน เลือดที่อยู่ในเส้นเลือดของเธอเริ่มไหลเวียนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น และกระดูกของเธอที่รู้สึกเหมือนกำลังถูกบดขยี้

การมองเห็นของเธอเริ่มพร่าเลือน และโซฟีสัมผัสได้ว่าจิตสำนึกของเธอเริ่มที่จางหายไปในความว่างเปล่า

เธอพยายามเอื้อมมือออกไปที่แท็บเล็ตอีกครั้ง แต่ปลายนิ้วที่สั่นเทาของเธอสามารถสัมผัสหน้าจอได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ

ถ้ามีใครเข้ามาในห้องตอนนี้ พวกเขาคงจะตกใจกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า

หญิงสาวที่ดูธรรมดาๆ กำลังนอนอยู่บนเตียง แต่ร่างของเธอเริ่มบิดเบี้ยวและเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างมาก

เส้นผมของหญิงสาวเริ่มยาวขึ้นและพันไปรอบขาของเธอในขณะที่มันค่อยๆครอบคลุมจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง

นิ้วของเธอเริ่มที่จะยาวขึ้นและมันเริ่มดูเหมือนกรงเล็บมากกว่าปลายนิ้วของมนุษย์ แม้ว่าดวงตาของหญิงสาวจะปิดบางส่วน แต่ก็มีแสงสีทองส่องผ่านออกมาอย่างน่าขนลุก

บางทีสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้คืออวัยวะทั้งสี่ที่ปรากฏขึ้นในทันใด

สองส่วนถูกพบอยู่ที่บริเวณสะบัก ในขณะที่ส่วนอื่นๆ ถูกพบที่บริเวณสะโพกของหญิงสาว

แขนขาที่งอกออกมาใหม่เหล่านี้ดูคล้ายกับขาแมงมุมที่มีส่วนแหลมยื่นออกมาตรงปลายของอวัยวะ

โซฟีมีความสุขอย่างไม่รู้ตัวถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และเมื่อเธอลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่า

ในพื้นที่นั้นไม่มีอะไรนอกจากอนุสาวรีย์หินก้อนเดียวที่อยู่กลางห้อง มีเครื่องหมายแปลกๆ ปรากฏอยู่บนโครงสร้างที่โซฟีไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรกับมัน

มันไม่ใช่ภาษาที่ทั้งซุย เหมิงหรือเจ้าของร่างเดิมเคยเห็นมาก่อน

เธอเห็นคำสามคำที่ส่วนท้ายของพระคัมภีร์ขนาดยาวที่เขียนเป็นภาษาสากลและอ่านคำเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วน

' ศิลปะแมงมุมกระซิบ '

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด