ตอนที่แล้วระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 155 วางยาสำเร็จ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 157 นักสร้างฝัน

ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 156 ฉันอยู่นี่แล้ว(ฟรี)


ยานอวกาศเปิดโหมดพรางตัวและบินออกจากออฟฟิศและออกจากบ้านของไมเคิล

คนรับใช้ที่ทำงานในบ้านพร้อมกับพ่อบ้านไม่ได้สังเกตเห็นอะไรแปลกๆเลยสักนิด

ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาเที่ยงคืนที่มีนัดการประชุมแล้วซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังยุ่งอย่างมากเพราะมีจำนวนคนไม่เพียงพอ

ในลานหลักแห่งหนึ่ง พ่อบ้านชั้นสองต่างเร่งรีบเพื่อที่จะทำให้การประชุมนั่นพร้อมให้ได้มากที่สุด

ถ้ามีคำพูดที่เหมาะกับการจัดประชุมงานนี้มีคำนึงที่เหมาะมากๆนั่นคือ 'ฟุ่มเฟือย'

เก้าอี้และโต๊ะทำจากไม้กรีนวูด ค่าใช้จ่ายของเก้าอี้ตัวเดียวก็เพียงพอสำหรับครอบครัวสี่คนที่จะอยู่อย่างสบายเป็นเวลาสามเดือน+

อาหารแต่ละจานถูกปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟผู้ปลุกพลังไฟ

อาหารถูกทำมาจากเนื้อของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 7 มีแม้กระทั่งเนื้อของสัตว์เวทมนตร์ระดับ 8 สมุนไพรอันล้ำค่าที่จะรักษาบาดแผลฉกรรจ์ให้หายได้ในเวลาไม่นาน

ไวน์ชนิดพิเศษหรือที่เรียกกันว่าไวน์แอมโบรเซีย จริงๆแล้วมันคือการจำลองแอมโบรเซียขึ้นมาโดยทำให้อยู่ในรูปแบบไวน์

การกินอาหารมื้อนี้เพียงมื้อเดียวถ้าเป็นผู้ปลุกพลังระดับต่ำจะเทียบเท่ากับการฝึกฝนเป็นเวลาครึ่งปี

แต่แน่นอนว่านั่นคงเป็นเพียงจินตนาการของผู้ปลุกพลังระดับต่ำ

การรักษาความปลอดภัยของที่นี่แม้แต่ผู้ปลุกพลังระดับสูงยังยากที่จะบุกเข้ามาได้

นอกจากสมบัติดวงดาวที่ฉายม่านกั้นหลายชั้นแล้ว ยังมีคนคอยเฝ้าระวังระดับสูงอีกร้อยคนที่ดูแลพื้นที่รอบๆอีกด้วย

คนที่คอยเฝ้าระวังส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปลุกพลังระดับ 6

ท่ามกลางความวุ่นวาย รองหัวหน้าตระกูลแอสเตอร์ไดยูลูบหน้าผากของเธอ

เสียงที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังของเธอดังไปทั่วลานที่จะมีการประชุม “ถ้ามีใครทำอะไรผิดไป คนคนนั้นจะต้องถูกแขวนคอ”

พ่อบ้านชั้นสองที่รับผิดชอบดูแลการจัดเตรียมต่างรู้สึกเหนื่อยใจกับคำพูดที่สงบแต่จริงจังของเธอ

“เกิดอะไรขึ้นกับไมเคิล” ไดยูขมวดคิ้วและหันไปหาพ่อบ้านส่วนตัวของเธอ

“เขาขอให้เราไม่รบกวนเขา ข่าวการโกงเงินของเจ้าหน้าที่คลัสเตอร์คงมากเกินกว่าที่เขาจะรับไหว” พ่อบ้านส่วนตัวของเธอตอบ

"...ถ้าไม่มีอะไรที่จะหยุดข่าวพวกนี้ได้ ความรุนแรงคือคำตอบสุดท้าย" ไดยูพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ

การจัดการเรื่องการประชุมไม่ใช่เรื่องที่เธอชอบสักเท่าไร เธอชอบที่จะฆ่าคนมากกว่า

นั่นคือเหตุผลที่เธอได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้ เพราะจะทำให้ผู้ที่มาเข้าร่วมการประชุมนั่นมีความสุภาพและไม่มีใครกล้าทะเลาะกัน

การประชุมครั้งนี้ถ้ามองอย่างผิวเผินก็คงจะเหมือนกับการประชุมทั่วไป

แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการประชุมคือ...

****

“คุณหนูระบบรักษาความปลอดภัยต่ำกว่าที่คาดไว้ซะอีก” แอนนาพูดกับซาร่าห์

ซาร่าห์เหลือบมองที่อาคารที่สูงที่สุดของตระกูลแอสเตอร์ อาคารของพวกผู้บริหาร

เป้าหมายของเธอคือการหาหลักฐานของการสมรู้ร่วมคิดของตระกูลแอสเตอร์กับพวกกลุ่มเงาและอะบิซอล

"ไปกันเถอะ" ซาร่าห์พูดแล้วทุบคริสตัลสีแดงให้แตก

ออร่าของเธฮหายไปและเธอก็ล่องหนในทันที

มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่พบได้ในรูนเท่านั่น ซึ่งสิ่งนี้ไม่สามารถผลิตได้จากฝีมือมนุษย์

มันเป็นสมบัติที่มีค่ามากซาร่าห์ได้รับมันมาแค่ไม่กี่อันเป็นมรดกเพียงไม่กี่อย่างที่แม่ที่จากไปของเธอมอบให้เธอ

แอนนาทุบคริสตัลที่คล้ายกันและเดินตามซาร่าห์ไป

แผนในตอนแรกคือให้แอนนาเข้าไปในขณะที่ซาร่าห์รออยู่ในสถานที่ปลอดภัย ในกรณีที่เกิดอันตรายแอนนาจะสามารถวาร์ปไปหาซาร่าห์ได้และพวกเขาจะนั่งยานอวกาศส่วนตัวของเธอออกไป

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างการรักษาความปลอดภัยรอบๆอาคารจึงต่ำกว่าปกติมาก

หลังจากที่พวกเธอทั่งสองคนวางยาคนที่เฝ้ายามอยู่เสร็จแล้ว พวกเธอก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

พวกผู้ปลุกพลังระดับสูงถูกย้ายไปอยู่ที่ไหนสักที่นึงเพื่อทำอะไรบางอย่าง ทำให้แทบไม่มีใครที่เป็นผู้ปลุกพลังระดับสูงเฝ้าระวังอยู๋เลย

ดังนั้นซาร่าห์จึงต้องการที่จะเข้ามาช่วยแอนนาค้นหาหลักฐานด้วย

พวกเธอคิดว่าการที่แทบไม่มีใครเฝ้าอยู่นั่นน่าจะเป็นเพราะการประชุมกำลังจะจัดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

'พวกเขากำลังประชุมกันเพื่อที่จะหาทางแก้ไขข่าวที่ถูกปล่อยออกมาอย่างไม่หยุดงั้นหรอ' แอนนาถือลูกแก้วเล็กๆในมือของเธอเพื่อสแกนข้อมูลในห้องที่เธออยู่

คนที่เดินเข้าออกไปมาและคนที่มีหน้าที่เฝ้าระวังดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรเลย

สมบัติที่พวกเธอใช้เพื่อหายตัวนั่นมีขีดจำกัดและเวลาในการใช้อยู่ ถ้าหากว่าเป็นระดับ 9 ก็จะสามารถสัมผัสได้อย่างง่ายดายว่ามีใครบางคนอยู่ แต่อันนาค่อนข้างมั่นใจว่าหัวหน้าตระกูลของแอสเตอร์จะไม่อยู่ในอาคารนี้ตอนเที่ยงคืน

“คุณหนู ถ้าคุณหนูไม่ใช่ผู้ปลุกพลังคู่ อีแวนเดอร์คงจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจแน่” แอนนายิ้มอย่างขมขื่นขณะที่ร่างของเธอกำลังกระพริบและเธอก็ออกจากห้องเพื่อไปห้องต่อไป

อย่างที่เธอคาดไว้ ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มเงาในห้องที่เธอตรวจสอบมาทั้งหมด

ซาร่าห์จึงเข้าไปในห้องที่ลึกกว่านั่น

“แต่แม้ว่าคุณหนูจะไม่ได้ถูกลิขิตมาให้เป็นจักรพรรดิ แต่ฉันเชื่อว่าคุณหนูจะแข็งแกร่งที่สุดในระดับ 9” แอนนากำหมัดของเธอและเข้าไปในห้องออฟฟิศห้องนึงที่ใหญ่มาก

ในออฟฟิศที่หรูหราและใหญ่ลูกแก้วในมือของซาร่าห์เปลี่ยนเป็นสีแดง

'ที่นี่แหละ' เธอมองไปรอบๆและเห็นผู้ปลุกพลังระดับ 6 ในออฟฟิศ เขาไม่ใช่คนที่ต้องทำงานในห้องนี้แต่เป็นเพียงคนเฝ้าระวังเท่านั้น มันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของห้องนี้

เธอเคาะแหวนและแอนนาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเธอในทันที

ไม่จำเป็นที่ต้องพูดคุยกันแอนนาจัดการชายคนนั่นในทันทีและแอนนาก็ใช้ลูกแก้วเพื่อหาสวิตช์ลับ

ด้วยการแตะที่สวิตช์ทำให้มีประตูลับโผล่ออกมาและเธอก็รีบเข้าไปก่อนที่ซาร่าห์จะเข้าไปในทันที

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็โผล่หัวออกมาและพยักหน้าให้ซาร่าห์

ข้อมูลที่จะใช้ทำลายตระกูลแอสเตอร์อยู๋ข้างในนี่อย่างแน่นอน

ในเวลาเดียวกัน ณ สถานที่จัดประชุม:

ยานอวกาศสีดำลงจอดในลานและชายชุดดำสามคนก็ลงมาจากยานอวกาศ

มีสัญลักษณ์รูปหน้าคนสวมหน้ากากอยู่ในชุดของพวกเขา ส่วนใบหน้าแถวหน้ากากเป็นสีดำทั่งหมดและมีรอยยิ้มที่ปรากฎขึ้นทับกับหน้ากากเป็นรอยเลือดสีแดงที่กำลังยิ้มอยู่

พวกเขาคือคนจากกลุ่มเงา!

ไดยูยิ้มให้แขกที่มาเยือน

ชายที่เดินนำมาก่อนเป็นรองหัวหน้าของกลุ่มเงา เขาหันหลังกลับไปและพยักหน้าให้กับใครบางคน

หลังจากที่ชายคนนั่นพยักหน้ามีอะบิซอลเดินลงมาจากยานเช่นกัน

อะบิซอลที่เป็นผู้หญิงในชุดสีแดงเดินนำอะบิซอลที่เหลือออกมาจากยาน

รุสลานา เจ้าหญิงแห่งเดม่อนอะบิสระดับ 8 ลูกสาวของราชาเดม่อนอะบิส พยักหน้าเบาๆให้กับมนุษย์

ผิวสีเทาของเธอตรงกันข้ามกับชุดสีแดงของเธอ แต่อย่างใดเธอก็แสดงออกถึงความสง่างามที่แปลกประหลาด

"เรามาเริ่มกันเลย"

ในไม่ช้ารองหัวหน้าตระกูลแอสเตอร์และกลุ่มเงาก็เริ่มการประชุมกับเจ้าหญิงอะบิซอล

สมาชิกของตระกูลแอสเตอร์เดินอย่างเหม่อลอยและเหมือนกับไม่มีสติ

คนรับใช้เดินไปรอบๆด้วยดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวา นั่นแสดงให้เห็นว่ามีผู้ปลุกพลังจิตระดับสูงควบคุมพวกเขาอยู่

พ่อบ้านชั้นสองเริ่มทักทายอะบิซอลและคนจากกลุ่มเงาที่คุ้นเคย

พ่อบ้านชั้นสามพยายามที่จะประจบประแจงและทำให้ความสัมพันธ์ของเขาแน่นแฟ้นขึ้น

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการจัดการประชุมแบบนี้

ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีพ่อบ้านที่เคยไม่เห็นด้วยซึ่งคนพวกนั่นได้พยายามเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผยต่อสาธรณะชน

แต่ว่าพ่อบ้านพวกนั่นไม่เหลืออยู่อีกต่อไปแล้วและไม่ใช่แค่ตัวพวกเขาที่หายไป ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง และญาติๆ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาหายตัวไปจนหมด

ส่วนคนที่เหลืออยู่นั่นเป็นเพียงคนที่ยอมปริปากพูดอะไรทั่งนั่น

“ดูเหมือนเธอจะดูอึดอัดนะ” รุสลานาจิบไวน์และยิ้มให้ไดยู

"เหมือนกับเธอนั่นแหละ" มันดลารองหัวหน้ากลุ่มเงาพูดแทรก

สายลับของอะบิซอลถูกเปิดเผยและถูกกำจัด ข่าวเรื่องการโกงเงินและเรื่องต่างๆที่เป็นด้านลบของแอสเตอร์ถูกเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง

นั่นถือเป็นความอับอายอย่างมาก

บรรยากาศนิ่งสงบไปครู่นึง

"เราทุกคนต่างมีศัตรูร่วมกัน" รุสลานาทนความอับอายที่ต้องนั่งอยู๋กับเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่าไม่ไหวและพูดออกมาเพื่อทำลายความเงียบ

"อีนิกม่า"

ชื่อนั้นเหมือนกับระเบิดเวลาเมื่อมีใครพูดถึงชื่อนั่นที่อยู่ที่นี่ทุกคนต่างรู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที

แม้แต่ไดยูที่เย็นชาก็ยังทนไม่ไหว

รุสลานายิ้มและพูดต่อ “ตระกูลแอสเตอร์จะบังคับไม่ให้พวกอัจฉริยะของเธอออกไปได้นานแค่ไหน”

ไดยูกัดฟันของเธอ ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้

“ไม่มีใครจับเธอได้ ไม่มีใครทำร้ายเธอได้ ความแข็งแกร่งของเธอเพียงพอที่จะเอาชนะระดับ 8 ทุกคนที่เธอต้องการ อัจฉริยะทั้งหมดในตระกูลแอสเตอร์จะถูกฆ่า” รุสลานากล่าวขณะที่มองใบหน้าของไดยูที่กำลังโกรธจัดอย่างเพลิดเพลิน

“เช่นเดียวกับตระกูลมาร์ตินและกันโบลด์ พวกอัจฉริยะของพวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าเหมือนกัน แม้ว่าเราจะสูญเสียอัจฉริยะที่ดีที่สุดของเราไปแล้วก็ตาม อย่างน้อยเราก็ยังมีรุ่นต่อไปที่จะเป็นอัจฉริยะอยู่” ไดยูถอนหายใจก่อนจะจ้องไปที่รุสลานา

“มันรู้แผนการณ์ของเราล่วงหน้าอยู่หนึ่งก้าวเสมอ แถมมันยังโฟกัสเธอเป็นพิเศษอีก นี่มันหมายความว่าไง?” ไดยูตะคอกใส่เจ้าหญิงผู้จองหอง

รุสลานาไม่ตอบแต่กลับตักออาหารเข้าปากแทน

มันดลาเหลือบมองไดยูที่โกรธจัดและถอนหายใจ “มันไม่สำคัญหรอกว่าแผนนี้จะสมบูรณ์แบบไหม ใช่ไหม?”

ไดยูซึ่งดูโกรธจัดก็หัวเราะออกมาดังๆ "ฉันก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน"

รุสลานากล่าว "มาร์ติน, กันโบลต์ เป็นข้าราชบริพารของแซนเดอร์ส พวกเธอระวังตัวเอาไว้เถอะ ตอนนี้พูดไปก็เปล่าประโยชน์รอจนกว่าเธอคนนั่นจะมาดีกว่า"

"ฉันอยู่นี่แล้ว" เสียงสุดเย็นชาดังขึ้นมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด