ตอนที่แล้ว603 - กลับสู่โลกภายนอก 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป605 - กวาดล้างลูกหลานตระกูลจี้ 

604 - สั่นสะเทือน


กำลังโหลดไฟล์

604 - สั่นสะเทือน

โรงเตี๊ยมร้างมาก ไม่มีแขกคนอื่น จางเหวินชางเป็นคนแก่อย่างสมบูรณ์ เขายืนแข็งทื่อราวกับหุ่นไล่กาที่ไร้หัวใจ

อารมณ์ของเขาบูดบึ้ง ไม่มีประกายในดวงตา ในชีวิตของเขามักจะถูกคนอื่นรังแกอยู่เสมอ จิตใจอันห่อเหี่ยวนี้ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ไอ้แก่ สหายของเจ้ายังไม่มาอีกหรือ” ชายหนุ่มคนหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ข้าไม่เห็นเขามาหลายปีแล้ว”

จางเหวินชางตอบอย่างเฉยเมย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า และก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป

“เป็นไปได้ไหมว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ เด็กน้อยคนนั้นไม่ควรตายง่ายๆแบบนี้ เขายังไม่ได้รับกรรมที่เขาสร้างขึ้นเลย”

ชายหนุ่มอีกคนในวันนี้ไม่พอใจอย่างมาก เขาจ้องไปที่จางเหวินชางและกล่าวว่า

“ถ้าเจ้ากล้าที่จะหลอกลวงเรา เจ้าคงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น!”

“ไม่กี่เดือนก่อน เขาต่อสู้กับราชาหนุ่มแห่งภาคกลาง แต่เขาไม่ปรากฏตัวมาสามเดือนแล้ว บางทีเขาอาจจะตายไปแล้วจริง”

จี้ฮุยเยาะเย้ย “เขายังไม่ตายแน่นอน เมื่อสามเดือนที่แล้วเขาปรากฏตัวที่ภาคกลาง แต่ข้าเชื่อว่าในเมื่อเขาใกล้จะตายเต็มทนเขาก็ต้องมาลาเพื่อนของเขาอย่างแน่นอน”

จี้ฮุยค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้ นางคิดว่าตัวเองมีความเข้าใจต่อเย่ฟ่านมากกว่าคนอื่นอยู่บ้าง เด็กน้อยคนนี้มักจะคำนึงถึงสหายอยู่เสมอ

ยกตัวอย่างเช่นการที่เขาพาจื้อจื่อเยว่มาส่งให้กับตระกูลจี้โดยไม่หวังผลตอบแทน นางไม่เชื่อว่าเขาจะปล่อยให้สหายของตัวเองต้องรับชะตากรรมอันโหดร้ายในภาคใต้

“ข้าเชื่อว่าเขากลับมาแล้ว เพียงแต่ว่าเขาอาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่เท่านั้น” จี้ฮุยจ้องที่จางเหวินชางด้วยสายตาที่เฉียบคม

“ยังไงก็ตาม เขาจะต้องตาย แล้วทำไมเราต้องระดมคนมาที่นี่ด้วยล่ะ? เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อคนตายเพียงคนเดียว” หลานชายของจี้ฮุยกล่าว

“สัตว์ร้ายตัวน้อยตัวนี้เผาร่างกายของข้าครึ่งหนึ่งด้วยไฟ และมันต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นเป็นปกติ หากข้าไม่ถลกหนังเลาะกระดูกของมันด้วยตัวเอง ข้าจะพอใจได้อย่างไร”

จี้ฮุยขว้างไม้เท้าหัวมังกรลงบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

"เด็กน้อยนั่นมาจากอารยธรรมที่แตกต่าง หากจับตัวเขาได้พวกเราจะค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน”

" ท่านย่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?” จี้จินหลานชายของจี้ฮุยถามด้วยความสงสัย

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าสมควรรู้!” ใบหน้าของจี้ฮุยเปลี่ยนเป็นเย็นชา และนางไม่ได้พูดอะไรอีก

ไม่ไกลนักหัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้านด้วยคลื่นความโกรธขนาดใหญ่ แม้ว่าเขาจะได้รับการคุ้มครองจากราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้อาวุโส แต่ดูเหมือนตระกูลจี้จะยังคงพยายามค้นหาความลับจากอีกฟากหนึ่งของดวงดาวอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเขาอยู่ในดินแดนทางเหนือ จี้ฮ่าวเยว่ได้เปิดเผยข่าวที่คล้ายกันและตั้งสมมติฐานว่าหากร่างกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มาจากโลกนี้ คำสาปอาจจะถูกทำลายได้

“แต่ถ้าเราฆ่าเขา ครึ่งเซียนของตระกูลเจียงจะว่าอย่างไร แม้แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราก็ไม่สามารถตอแยชายชราคนนั้นได้” ชายวัยกลางคนพูดด้วยท่าทางกังวล

“ใครบอกว่าข้าจะฆ่าเขา” จี้ฮุยพูดด้วยใบหน้ามืดมนและยิ้มอย่างเย็นชา

“เขากำลังจะตาย พวกเราก็แค่จับตัวเขาไว้ปล่อยให้เขาตายช้าๆ หลังจากนั้นร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะกลายเป็นสมบัติของพวกเรา”

“มาดูกันว่าใครจะเป็นคนตายก่อน!” เย่ฟ่านเยาะเย้ยอยู่ไกลๆ

“ถึงอย่างนั้น หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นทางตระกูลจะสลัดพวกเราออกไปอย่างไม่แยแส เรื่องนี้เจ้าควรวางแผนให้ดี” ชายวัยกลางคนยังพยายามหว่านล้อมจี้ฮุย

“ข้าจะเป็นคนลงมือเองพวกท่านไม่ต้องกังวล หากเกิดความผิดพลาดขึ้นเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับตระกูล ข้าจะรับทุกอย่างไว้เอง” จี้ฮุยดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความโกรธไม่สิ้นสุด

ชายวัยกลางคนหยุดพูดเพียงแค่นั้น พ่อของจี้ฮุยเป็นผู้อาวุโสสูงสุดที่ทรงอานุภาพ แม้แต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้ก็ยังให้ความเกรงใจต่อเขา

"บางทีราชาสวรรค์แห่งตระกูลเจียงอาจไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้วก็ได้..." ชายหนุ่มเยาะเย้ยปราศจากความเกรงกลัว

"หุบปาก เรื่องนี้คนเช่นเจ้าสามารถเอามาพูดเล่นได้หรือ!” ชายวัยกลางตะคอกชายหนุ่มคนนั้น

แม้ว่าผู้คนมากมายจะเชื่อว่าเจียงไท่ซูไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน แต่ก็ไม่มีใครต้องการที่จะยั่วยุเขา ท้ายที่สุดทั่วทั้งโลกนี้คนที่อยู่ในอาณาจักรครึ่งเซียนได้ก็มีจำนวนน้อยนิดเท่านั้น

“ไอ้แก่นี้ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว มีความจำเป็นอะไรที่พวกเราต้องรออยู่ที่นี่” ชายหนุ่มเหลือบมองจางเหวินชางก่อนจะผลักเขาให้ล้มบนพื้น

“ไอ้สาระเลว เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำให้พวกเราเสียเวลามากแค่ไหน”

จางเหวินชางสะดุดล้มโดยไม่สามารถต่อต้านได้ ขมับของเขาเป็นสีขาว ตีนกาที่หางตาซ้อนขึ้น ร่างกายของเขาบางมาก และเขาพยายามประคองตัวเองให้ยืนขึ้นอีกครั้ง

เขายืนอยู่ข้างๆอย่างงุนงง ไม่พูดอะไร สภาพจิตใจของเขาตอนนี้หดหู่อย่างยิ่ง นัยน์ตาของเขาเศร้าเล็กน้อย แต่เขาก็ยังอดทนกับสถานการณ์เบื้องหน้าอย่างเงียบๆ

จี้ฮุยไม่แยแสและพูดว่า

"เด็กน้อยคนนี้มีความลุ่มลึกในศิลปะต้นกำเนิด เขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นใครก็ได้ บางทีเขาอาจจะนั่งอยู่ในร้านด้วยซ้ำ”

“หากเขามีความสามารถที่จะจัดการเราเขาคงปรากฏตัวไปแล้ว” ชายหนุ่มพึมพำอย่างไม่พอใจ

จี้ฮุยเหลือบมองจางเหวินชางอย่างดูถูกและพูดกับชายหนุ่มจี้จิน

“ตัดแขนข้างหนึ่งของเขาออก แต่อย่าทำร้ายชีวิตของเขา มาดูกันว่าไอ้สาระเลวน้อยนั่นจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อไหร่ หากมันยังคงซ่อนตัวอยู่ ข้าจะเริ่มตัดชิ้นส่วนร่างกายของไอ้สาระเลวเฒ่าคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ”

ในชีวิตของเย่ฟ่านไม่เคยเกลียดใครมากเท่านี้มาก่อน เขาต้องการตัดจี้ฮุยออกเป็นแปดส่วนแล้วตอกเข้าไปในประตูเมืองเพื่อให้ทุกคนได้มองเห็น

อารมณ์ของเขาแข็งแกร่งพอสมควร แต่ในขณะนี้ไฟแห่งความแค้นยังคงสุมทรวงของเขา ฟันของเขาขบเข้าหากันจนแทบจะปริแตก

“นางเฒ่าจี้ฮุย ดูเหมือนเจ้าเตรียมตัวที่จะตายแล้วสินะ!” เสียงของเย่ฟ่านดังก้องไปทั่วทั้งเมือง

ทุกคนรู้สึกว่าอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว และไอสังหารก็ครอบคลุมไปทั่วบริเวณทำให้ผู้บ่มเพาะและระดับต่ำหนาวสั่นด้วยความกลัว

“เจ้าสัตว์ร้าย ในที่สุดเจ้าก็กล้าเสนอหน้าออกมา หากข้าไม่ทำแบบนี้เจ้าคงไม่ปรากฏตัวสินะ” ดวงตาของจี้ฮุยเย็นชา นางใช้ไม้เท้าหัวมังกรประคองร่างกายของตัวเองยืนขึ้น

เด็กรุ่นหลังของตระกูลจี้ต่างแสดงท่าทีตกใจ นี่คือร่างเซียนโบราณในตำนาน? หลายคนเพิ่งเคยเห็นเขาเป็นครั้งแรก

แม้ว่าพวกเขาจะเกิดความแปลกใจอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่ละเลยภารกิจของตัวเองพวกเขารีบวิ่งไปล้อมเย่ฟ่านในทันที

  

“ร่างเซียนยังไม่ตาย! ไอ้บ้าคนไหนบอกว่าเขาตายไปตั้งแต่เมื่อสามดือนก่อน?”

ทุกคนตกใจมาก นี่เป็นข่าวที่น่าเหลือเชื่อ เมืองเอี๋ยนไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก เมื่อทุกคนทราบข่าวต่างก็รีบวิ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

ไม่นานนักก่อนที่ผู้ฝึกฝนที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะมาถึง

"เขาคือร่างเซียนจริงๆ? คนที่สามารถเอาชนะราชาหนุ่มแห่งภาคกลางกลับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง!”

“ว่ากันว่าเจ้าเด็กแซ่เย่ตายไปสามเดือนแล้ว ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวอีกล่ะ?”

ผู้คนมากมายต่างเริ่มพูดคุยในเรื่องนี้ เย่ฟ่านสวมชุดนักพรตสีดำ ท่าทางของเขาสงบนิ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการสนทนาของผู้คนที่อยู่ด้านข้าง

ข่าวลือว่าเขามีโลหิตสีทองอยู่เต็มร่างกาย และร่างของเขาเปรียบได้กับมังกรที่แท้จริงทำให้ผู้คนมากมายเกิดความโลภต้องการนำเอาร่างของเย่ฟ่าไปทำเม็ดยา

ดวงตาสลัวของจางเหวินชางสั่นสะท้าน จิตใจของเขากังวลต่อความปลอดภัยของเย่ฟ่านเป็นอย่างมากเขาจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนจนสุดชีวิต

"รีบหนีไป!”

" เจ้าจะโวยวายอะไร ไอ้สารเลว!” ชายหนุ่มจากตระกูลจี้เตะจางเหวินชางล้มลง

สีหน้าของเย่ฟ่านกลายเป็นเย็นชาทันที เขาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นและพูดว่า

"ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน"

"น้ำเสียงใหญ่โตอะไรเช่นนี้ ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว ก็อย่าคิดว่าจะจากไปได้อีกเลย! " จี้ฮุยมีใบหน้าที่มืดมนอย่างยิ่ง

“เฮอะ!”

เย่ฟ่านแค่นเสียงก่อนจะหายตัวไปในความว่างเปล่าและปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของจางเหวินชาง

“พลั่ก”

นิ้วของเขาแทงเข้าไปในหน้าผากของจี้จินท่ามกลางสายตาตกใจของผู้คนมากมาย

เขาบอกแล้วว่าจี้จินจะเป็นคนแรกที่ตายในวันนี้ และการลงมือของเขาก็ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!

  

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด