ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 111
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 113

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 112


ตอนที่ 112

“ตระกูลหลินของเราจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปก็ย่อมได้ ยู่ตู่เฟย อย่าลืมว่าดวงวิญญาณสามในสิบส่วนของท่านยังอยู่ในเงื้อมมือของสกุลหลิน หากท่านปล่อยพวกเราไป ท่านย่อมได้รับมันคืนแบบครบสมบูรณ์ ยิ่งกว่านั้น พวกเราจะไม่แพร่งพรายเรื่องในวันนี้แก่ตระกูลอื่นๆ ในอาณาเขตเหนือคราม!” ซวนยู่ใช่คนโง่งม นางกอดหลินซวนและพยายามเจรจาต่อรองกับยู่ตู่เฟย

ซวนยู่เป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอผู้หนึ่ง เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์สังหารหมู่อันโหดเหี้ยมและถูกล้อมรอบด้วยศัตรูทุกทิศทางเช่นนี้ นางยังสามารถคงความสุขุมและกล้าเอ่ยต่อรองได้ก็นับว่าเก่งกาจมากแล้ว กระทั่งราชวงศ์อมตะในเวลานี้ก็มองนางสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

ทว่า ประโยคต่อมาของยู่ตู่เฟยก็ทำให้หัวใจของนางหนาวสะท้าน

“อย่างไรข้าก็จับกุมพวกเจ้าได้แล้ว เหตุใดต้องยอมปล่อยไปเล่า?” ยู่ตู่เฟยหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงเย็นชาจับจิต

“เจ้าทารกผู้นั้นเป็นทรัพยากรอันล้ำค่า! ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะได้มันมา แล้วเจ้าคิดหรือว่าข้าจะยอมปล่อยไปง่ายๆ?”

“เพียงดวงวิญญาณสามในสิบส่วนเท่านั้น หากข้าจะยอมละทิ้งมันแล้วอย่างไร?”

“สังหารพวกมันให้หมดและจับเจ้าทารกนั่นไปสังเวยแก่หม้อสามขาทมิฬเสีย!”

ทางด้านชายหนุ่มผมทองคนนั้น แม้ระดับการบ่มเพาะของมันจะมิได้สูงส่งเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ยินคำสั่ง มันก็ตัดสินใจพุ่งเข้าโจมตีทันที มันดึงกระบี่ของตนออกและกวัดแกว่งไปมา ประกายเย็นยะเยือกคล้ายจันทร์เสี้ยวปรากฏขึ้นด้านหลังของมันก่อนจะฟาดฟันเข้าใส่ซวนยู่!

แกร๊ก!

ประกายแสงเกิดขึ้น และก้อนเมฆบนฟ้าก็สูญสลายไป เสียงดังสนั่นระเบิดออก ราวกับเป็นภูตผีจากขุมนรกที่กำลังมุ่งตรงมายังศีรษะของนาง!

เจ้าหนุ่มผมทองคนนั้นนับว่ามีระดับพลังที่ไม่เลวทราม มันเล็งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และคมมีดปราณทั้งหมดของมันเล็งไปยังศีรษะของซวนยู่ทั้งสิ้น หลบเลี่ยงหลินซวนในอ้อมแขนของนางได้อย่างไม่มีที่ติ มันหวังจะสังหารนางลงในกระบวนท่าเดียว!

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน เสียงกรีดร้องของสายลมก็ปะทุขึ้น ด้านหลังของซวนยู่ปรากฏเป็นวังวนแห่งพลังดูดกลืน นางเพียงสะบัดมือเบาๆ วังวนนั้นก็ขยายขึ้นและดูดกลืนคมดาบปราณทั้งหมดเข้าไป!

คนจากราชวงศ์กำลังตกตะลึง นี่มันเป็นพลังดูดกลืนแบบใดกัน? เหตุใดวังวนของมันสามารถดูดกลืนกระบวนท่าที่หมายเอาชีวิตได้ในคราวเดียวอย่างง่ายดายเช่นนี้?

“ราชวงศ์อมตะช่างทำตัวน่ารังเกียจยิ่งนัก คิดว่าตระกูลหลินของข้าเป็นลูกพลับนิ่มให้บีบเล่นเช่นนั้นหรือ? สกุลหลินเรามิได้เหมือนกับสกุลอื่น ใช่ใครจะสามารถเทียบกับพวกเราได้!” หลินเฮ่าที่ทั้งกระวนกระวายและเกรี้ยวกราดตะโกนขึ้น เขานำเอาไข่มุกที่เปล่งประกายบางอย่างออกมาจากกระเป๋าที่เอวของตน ด้านในของมันมีกลุ่มหมอกม้วนตัวไปมา นั่นย่อมเป็นดวงวิญญาณสามในสิบส่วนของยู่ตู่เฟยอย่างแน่นอน!

ในความเป็นจริงแล้ว ดวงวิญญาณส่วนนั้นของยู่ตู่เฟยมิได้อยู่ในมือของบรรพชนหลินแต่อย่างใด มันถูกนำติดตัวหลินเฮ่ามาด้วย

“อย่าได้บังอาจ!” ยู่ตู่เฟยที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศนิ่งค้างไปก่อนจะตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง

ดวงตาของเขาเป็นประกายแหลมคม ก่อนจะก้าวไปด้านหน้าด้วยต้องการจะโจมตีหลินเฮ่าและเอาดวงวิญญาณของตนคืนมา!

ทว่า หลินเฮ่ามิได้ให้เวลามากพอที่ยู่ตู่เฟยจะทันมีปฏิกิริยาใดๆ เขากำอุ้งมือของตนแน่น ตามมาด้วยเสียงคล้ายแก้วแตก ก่อนที่แสงสว่างเจิดจ้าจะระเบิดขึ้น ไข่มุกเม็ดนั้นแตกกระจายเป็นชิ้นๆ ปราณวิญญาณหยางสุดขั้วสายหนึ่งปรากฏออกมาก่อนจะบดดวงวิญญาณด้านในไข่มุกจนแหลกสลาย!

อ่อก!

ในเวลาเดียวกันกับที่ดวงวิญญาณถูกทำลาย ยู่ตู่เฟยก็กระอักเลือดออกมา ใบหน้าขาวซีด ปราณชีวิตในร่างปั่นป่วน และเขาไม่สามารถยืนบนอากาศได้อย่างมั่นคงจนเกือบจะร่วงหล่นลงไปยังพื้นเบื้องล่าง!

ทว่าเขาเองก็มีแผนสำรองไว้เช่นกัน! ต่อให้หลินเฮ่าทำลายดวงวิญญาณส่วนนั้นของเขาทิ้ง ยู่ตู่เฟยก็ยังคงไม่เป็นอะไรมากนัก เขาเพียงบาดเจ็บหนักแต่มิได้ถึงตาย แม้ว่าเส้นทางการบ่มเพาะของเขาจะต้องจบลงก็ตามที!

“บังอาจ! นั่นมันส่วนหนึ่งของดวงวิญญาณข้า! เจ้ากลับกล้าที่จะทำลายมัน! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าต้องใช้เวลาอีกมากเพียงได้เพื่อฟื้นฟูดวงวิญญาณกลับมาให้ครบสมบูรณ์อีกครั้ง!?”

ยู่ตู่เฟยที่ยืนอยู่บนความว่างเปล่ากลางอากาศคำรามออกมาด้วยโทสะถึงขีดสุด สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ความมั่นใจของเขาทำเอาหลินเฮ่าและซวนยู่เองก็อดมิได้ที่จะรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาเช่นกัน พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าจะพบเจอคนหน้าไม่อายเช่นนี้ ทั้งที่ต้องการจะเอาตัวซวนเอ๋อร์ของพวกเขาไปสังเวยโลหิต แต่ยังมีหน้ามาทำราวกับนี่เป็นเรื่องสามัญที่ใครๆ ก็ต้องยอมรับเสียอย่างนั้น

“ตกตายไปซะ!”

ผมเผ้าหนวดเคราของหลินเฮ่าสะบัดตามแรงปะทุของลมปราณ เขามิได้เกรงกลัวยู่ตู่เฟยในตอนนี้แต่อย่างใด หลินเฮ่าพุ่งเข้าใส่อีกฝ่าย ต้องการจะสังหารศัตรูลงก่อนที่มันจะได้ทันฟื้นฟูตนเอง

ในตอนนั้นเอง ยู่ตู่เฟยก็ลืมตาขึ้น และมีอีกาทองคำสองตัวปรากฏออกมา แสงสีทองทอประกายเจิดจ้า พร้อมทั้งเสียงระเบิดดังราวกับฟ้าผ่าที่สั่นสะเทือนไปถึงจิตวิญญาณ

“เจ้ากล้าจะโจมตีเชื้อพระวงศ์ผู้นี้?”

ความว่างเปล่ารอบด้านแตกออก ร่างชรามากมายปรากฏขึ้นก่อนจะพุ่งเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง!

พวกมันล้วนแล้วแต่เป็นผู้บ่มเพาะในระดับอาณาเขตม่วงขึ้นไป มีสองคนที่อยู่ในระดับขั้นที่สองของแดนแก่นทองคำ สองคนนั้นตรงเข้ามาขัดขวางหลินเฮ่า และคนที่เหลือมุ่งหน้าไปยังซวนยู่ที่อยู่ด้านหลัง!

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกมันก็ต้องจับตัวเซียนน้อยตระกูลหลินให้ได้!

พวกลูกกำพร้าบัดซบ!” เมื่อหลินเฮ่าได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาก็เปิดกว้างขึ้น เส้นผมตั้งชัน ง้าวทองคำในมือระเบิดแสงสว่างออกมา และทั่วร่างของรายล้อมไปด้วยอักขระมากมายร้อยเรียงกันเป็นสายยาว จิตสังหารพุ่งสูงเสียดฟ้า พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้น แสงเจิดจ้าปะทุขึ้นรอบด้าน เพียงกวาดง้าวในมือคราเดียว ส่งยอดฝีมือระดับแก่นทองคำที่รุมล้อมหลินเฮ่าอยู่กระเด็นออกไป จากนั้นเขาก็กระโจนเข้าไปหาภรรยาของตนทันที!

ผู้บ่มเพาะแดนแก่นทองคำทั้งสองต่างก็ตกตะลึงและขุ่นเคือง พวกมันนับว่าเป็นยอดฝีมือที่เหยียบย่างระดับแก่นทองคำมานับร้อยปี บัดนี้ กลับโดนสวะจากอาณาจักรฉีซานทุบตี พวกมันจะทนรับสิ่งได้เช่นไร!

“ไม่จำเป็นต้องยั้งมืออีกต่อไป พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตกตายลงในวันนี้และกลายเป็นเครื่องสังเวยให้กับหม้อสามขาทมิฬ!” ผู้บ่มเพาะแดนอาณาเขตม่วงที่อยู่ด้านหลังกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา

หม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้านั้นมีอีกชื่อหนึ่งคือหม้อสามขาสวรรค์อมตะ ตำนานกล่าวเอาไว้ว่าหม้อสามขานั้นแฝงอำนาจล้ำลึกบางประการที่สามารถทำให้ผู้เป็นนายของมันกลายเป็นอมตะได้ ราชวงศ์อมตะได้รับข่าวสารเรื่องนี้มาหลังจากใช้เวลาและความพยายามในการตามหาอย่างยากเข็ญมาเนิ่นนาน มันเป็นสมบัติทรงพลังที่ถูกนำออกมาจากส่วนลึกของภูเขาซากศพในแดนลึกลับโบราณ!

หลังจากเวลานับพันปีที่ราชวงศ์อมตะค้นคว้าและตามหาตามจริงของหม้อสามขาใบนี้ ในท้ายที่สุดราชวงศ์ก็ได้รับรู้ว่าหากพวกเขาทำการชำระล้างหม้อสามขาทมิฬดับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าด้วยการสังเวยโลหิตของอัจฉริยะรุ่นเยาว์จำนวนมาก จะทำให้หม้อสามขาทมิฬปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาและกลายเป็นหม้อสามขาสวรรค์อมตะ!

“ราชวงศ์ของเขาเตรียมพิธีกรรมชำระล้างหม้อทมิฬมาเป็นเวลาเนิ่นนาน อาศัยเจ้าเพียงสามคนจะสามารถหยุดมันลงได้หรือ?”

“ตาย!”

หลินเฮ่ากวาดง้าวในมือราวกับจะผ่าท้องฟ้าให้แยกเป็นสองส่วน อักขระมากมายครอบคลุมไปทั่วผืนนภาคล้ายมหาสมุทรอันแสนบ้าคลั่งที่ต้องการจะพังทลายฟ้าดิน!

ในเวลาเดียวกันก็เกิดวังวนขึ้นนับไม่ถ้วนจากความว่างเปล่า พลังดูดกลืนทะลักทลายออกมาเพื่อหยุดยั้งทักษะและลมปราณที่ต้องการจะโจมตีซวนยู่ จากนั้นหลินเฮ่าก็คำรามออกมาและเหวี่ยงง้าวในมือ แค่ครั้งเดียว ส่งผลให้ศัตรูทั้งหมดกระเด็นกลับไปทันที!

ร่างในชุดดำมากมายต่างก็ตกตะลึงและโกรธแค้น พวกมันต้องการจะหยุดหลินเฮ่าแต่มิอาจจะเทียบกับเขาได้แม้แต่น้อย พวกมันทั้งหมดต่างถูกกระแทกและลอยละลิ่วออกไป ปากกระอักเลือดคำโต แม้กระทั่งขนนกที่ประดับอยู่บนร่างก็ระเบิดออกมา!

โดยเฉพาะชายหนุ่มผมทองคนนั้น เขาถูกแทงทะลุด้วยการโจมตีของหลินเฮ่าเพียงครั้งเดียว โลหิตสาดกระจาย ก่อนจะถูกแสงจากทักษะเนตรสวรรค์เข้าไปจนระเบิดเป็นเศษเนื้อ!

เห็นฉากเบื้องหน้านี้ คนทั้งหมดต่างนิ่งค้างไปทันที!

ชายผู้นี้เป็นใครกัน? นั่นใช่เจ้าเมืองต้าหยาน หลินเฮ่าจริงๆ น่ะหรือ? มิใช่ว่าเป็นตาแก่สกุลหลินที่ปลอมตัวมาใช่หรือไม่? เหตุใดระดับการบ่มเพาะและพลังการต่อสู้ถึงได้สูงส่งเพียงนี้?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด